ข้ามไปเนื้อหา

จารึกเมียเซดี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จารึกเมียเซดี
วัสดุหิน
ตัวหนังสือพม่า มอญ ปยู บาลี
สร้างค.ศ. 1113
ที่อยู่ปัจจุบันพุกาม ประเทศพม่า
จารึกเมียเซดี *
  ความทรงจำแห่งโลกโดยยูเนสโก
ที่เก็บรักษาเมียเซดี (หลักที่ 1)
พิพิธภัณฑ์โบราณคดีพุกาม (หลักที่ 2)
ประเทศ พม่า
ภูมิภาค **เอเชียและแปซิฟิก
อ้างอิง[1]
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน2558
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีความทรงจำแห่งโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก

จารึกเมียเซดี (พม่า: မြစေတီ ကျောက်စာ, ออกเสียง: [mja̰.zè.dì t͡ɕaʊ̯ʔ.sà]), จารึกยาซะโกนมา (ရာဇကုမာရ် ကျောက်စာ) หรือ จารึกกู-บเยาะจี้ (ဂူပြောက်ကြီး ကျောက်စာ) ซึ่งจารึกไว้เมื่อ ค.ศ. 1113 เป็นจารึกหินภาษาพม่าที่เก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่ เมียเซดี แปลว่า "เจดีย์มรกต" ส่วนชื่อจารึกนั้นมาจากเจดีย์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จารึกมีทั้งหมดสี่ภาษาได้แก่ พม่า มอญ ปยู และบาลี[1]: 158  ซึ่งทั้งหมดบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าชายยาซะโกนมาและพระเจ้าจานซิต้า ความสำคัญหลักของจารึกเมียเซดีคือ จารึกนี้ทำให้สามารถถอดรหัสอักษรของภาษาปยูได้

ปัจจุบันมีจารึกสองหลักอยู่ในประเทศพม่า หลักหนึ่งอยู่ที่บริเวณเมียเซดีในหมู่บ้านมยี่นกะบา (ทางใต้ของพุกาม) ภาคมัณฑะเลย์ อีกหลักได้รับการค้นพบโดย ดร.เอมานูเอ็ล ฟอร์ชฮัมเมอร์ นักวิชาการภาษาบาลีชาวเยอรมัน ใน ค.ศ. 1886–1887 และปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีพุกาม จารึกเมียเซดีได้ขึ้นทะเบียนเป็นความทรงจำแห่งโลกจากยูเนสโก

การวิเคราะห์และการแปล

[แก้]

การวิเคราะห์

[แก้]

จารึกมีภาษาพม่า 39 บรรทัด ภาษาบาลี 41 บรรทัด ภาษามอญ 33 บรรทัด และภาษาปยู 26 บรรทัด สามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภท คือ การบริจาค ความปรารถนา และการสาปแช่ง

อักษรพุกามโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือทรงกลม แต่ในจารึกนี้มีอักษรแบบฝักขาม เป็นจุดเริ่มของวรรณกรรมพม่า คำบางคำไม่ได้เขียนไว้เป็นระบบ กล่าวคือ มีการแยกพยัญชนะกับสระออกจากกัน ตัวอย่างเช่น ("သာသနာအနှစ် တစ်ထောင်ခြောက်ရာ" ถูกสลักเป็น "သာသနာ အနှစ်တ" บนบรรทัด และ "စ်ထောင်ခြောက်ရာ" ถูกสลักในบรรทัดต่อมา)

มีคำที่ใช้เฉพาะสรรพนามบุรุษที่ 1 เท่านั้น คือ "ข้าพเจ้า" และ "ของข้าพเจ้า" แทน "เขา" ยาซะโกนมาแทนพระองค์เองว่า "พระโอรสของพระเทวีผู้เป็นที่รัก" (ထိုပယ်မယားသား) คำบางคำมีความหมายโบราณ ตัวอย่างเช่น (ပယ်, ซึ่งมีความหมายสมัยใหม่ว่า "ละทิ้ง" หมายถึง "น่ารักหรือเป็นที่รัก" และ နှပ် แปลว่า "ผ่อนคลาย" หรือ "การผสมผสาน" หมายถึง "การบริจาค")[2]

ยาซะโกนมา แทนพระนามบิดาของพระองค์ว่า ศรีตรีภูวนาทิตยธัมมราชา หมายถึง "ราชาผู้ส่องสว่างทั้งสามโลกดุจดวงอาทิตย์" แทนพระมารดาของพระองค์ว่า ติโลกวฏังสิกาเทวี (เทวีผู้ทรงปกครองทั้งสามโลก) และเรียกอาณาจักรพุกามว่า อริมัททนะปุระ (เมืองที่ปราบศัตรูราบคาบ)

จุดประสงค์ของหมวดบริจาคคือเพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมกับการกระทำของพระองค์ หมวดขอความปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีทางพุทธศาสนา จุดประสงค์หลักของการเขียนคำสาปแช่ง คือเพื่อรักษาสิ่งของที่บริจาคไว้และป้องกันไม่ให้สิ่งก่อสร้างที่บริจาคไว้ได้รับความเสียหาย[3]

จากจารึกนี้สามารถคำนวณช่วงเวลาการครองราชย์ของ พระเจ้าจานซิต้า, พระเจ้าอโนรธามังช่อ, พระเจ้าซอลู และพระเจ้าอลองสิธู และทำให้สามารถถอดรหัสอักษรของภาษาปยูได้ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความรักและความเคารพของยาซะโกนมาที่มีต่อพระบิดาพระองค์[4]

การแปลจากบาลี

[แก้]
อักษรพม่า[5][6] ถอดเป็นอักษรโรมัน[5] ถอดเป็นอักษรไทย[7][note 1] แปล[7][note 1]

1. ဂြီ။ ဗုဒ္ဓါဒိကံ ဝတ္ထုဝရံ နမိတွာ ပုညံ ကတံ ယံ ဇိနသာ

2. သနသ္မိံ အနာရိကံ ရာဇကုမာရ နာမဓေယျေန ဝက္ခာ

3. မိ သုနာထ မေတံ။ နိဗ္ဗနာ လောကနာထဿ အဌဝီ

1. Śrī. Buddhādikam vatthuvaram namitvā pāññam katam yam jinasā

2. sanasmim anārikam Rājakumāra nāmadheyyena vakkhā

3. mi sunātha metam. Nibbanā lokanāthassa aṭhavī

(1) ศฺรี // พุทฺธาทิกํ วตฺถุวรํ นมิตฺวา ปุญฺญํ กตํ ยํ ชินสา (2) สนสฺมึ อนาริกํ ราชกุมารนาม- เธยฺเยน วกฺขา (3) มิ สุณาถ เม ตํ //

ศิริ ข้าพเจ้า นอบน้อมสิ่งอันประเสริฐ มีพระพุทธเจ้า เป็นต้นแล้ว จักได้กล่าวถึง กิริยาบุญที่ (ข้าพเจ้า) ผู้มีนามว่า ราชกุมารได้กระทำแล้วในศาสนาของพระชินเจ้า ขอท่านทั้งหลายจงฟังกิริยาบุญนั้นของข้าพเจ้า

4. သာဓိကေ ဂတေ သဟ​ဿေ ပန ဝဿာနံ ဆသတေ ဝါပရေ တ

5. ထာ။ အရိမဒ္ဒနနာမသ္မိံ ပုရေ အာသိ မဟဗ္ဗလော ရာဇာ

4. sādike gate sahasse pana vassānam chasate vā pare ta

5. -thā. Arimaddananāmasmim pure āsi mahabbalo rājā

นิพฺพานา โลกนาถสฺส อฏฺฐวี (4) สาธิเก คเต สหสฺเส ปน วสฺสานํ ฉสเต วา ปเร ต (5) ถา //

เมื่อหนึ่งพันหกร้อยยี่สิบแปดปี แต่การปรินิพพานแห่งพระโลกนาถผ่านพ้นไปแล้ว (พ. ศ. 1628)

6. တိ ဘုဝနာဒိစ္စော ဥဒိစ္စာ ဒိစ္စဝံသဇော။ တဿာ သေ

6. Tibhuvanādicco udicca diccavamsajo. Tassā te

อริมทฺทนนามสฺมิ ปุเร อาสิ มหพฺพโล ราชา (6) ติภุวนาทิจฺโจ อุทิจฺจาทิจฺจวํสโช //

พระเจ้าแผ่นดินพระนามว่า ติภุวนาทิจจ (ตริภูวนาทิตย์) ผู้มีอำนาจมาก ผู้เกิดในวงศ์แห่งอาทิตย์อันสูงส่งได้ครองราชย์ที่เมืองชื่อว่า อริมัททนะ (เมืองพุกาม)

7. ကာ ပိယာ ဒေဝိ သာ တိလောကဝဋံသိကာ ဟိ

8. တေသီ ကုသလာ သဗ္ဗကိစ္စေသု ပန ရာဇိနော။ တ

7. kā piyā devi sā Tilokavaṭamsikā hi

8. tesi kusalā sabbekiccesu pana rājino. Ta

ตสฺสาเส (7) กา ปิยา เทวิ สา ติโลกวฏํสิกา / หิ (8) เตสี กุสลา สพฺพกิจฺเจสุ ปน ราชิโน //

พระองค์มีพระเทวีผู้เป็นที่รักพระองค์หนึ่งพระนามว่า ติโลกวฏังสิกา ผู้เฉลียวฉลาด ผู้ฝักใฝ่สิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ในราชกิจทั้งปวง

9. ဿ သေကော သုတော ရာဇကုမာရောနာမ နာမ

10. တာ အမစ္စော ရာဇကိစ္စေသု ဗျာဝတော သတိမာ

11. ဝိဒူ။ အဒါ ဂါမတ္တယံ တဿာ ဒေဝိယာ သော မ

9. ssā seko suto Rājakumaro nāma nāmat-

10. -o amacco rājakiccesu byavato satimā

11. vidu. Adā gāmattayam tassā deviyā soma

ต (9) สฺสาเสโก สุโต ราชกุมาโร นาม นาม (10) โต อมจฺโจ ราชกิจฺเจสุ พฺยาวโต สติมา (11) วิทู //

พระโอรสแห่งพระนาง มีนามว่า ราชกุมาร ทรงเป็นอำมาตย์ เป็นผู้สติปัญญาเฉียบแหลม ทรงรอบรู้ในราชกิจทั้งหลาย

12. ဟီပတိ ပသန္နော သဗ္ဗဒါ ဒါသ ပရိဘောဂေန ဘုည္ဇိတုံ။

12. hipati pasanno sabbadā dāsa pribhogena buññjitum

อทา คามตฺตยํ ตสฺสา เทวิยา โส ม (12) หีปติ ปสนฺโน สพฺพทา ทาสปริโภเคน ภุญฺชิตุ //

พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นทรงพอพระทัย ได้พระราชทานหมู่บ้าน 3 แห่งแก่พระเทวีนั้น เพื่อทรงใช้สอย ด้วยการใช้สอยข้าทาสทุกเมื่อ

13. အနိစ္စတာ ဝသံ တဿာ ဂတာယ ပန ဒေဝိယာ ရာ

14. ဇ ရာဇကုမာရဿ အဒါ ဂါမတ္တယံ ပုန။ အဌဝီသ

13. Aniccatā vasam tassā gatāya pana deviyā rā-

14. -jā Rājakumārassa adā gāmattayam puna. Aṭhavīsa

(13) อนิจฺจตาวสํ ตสฺสา คตาย ปน เทวิยา รา (14) ชา ราชกุมารสฺส อทา คามตฺตยํ / ปุน //

เมื่อพระเทวีพระองค์นั้นสิ้นพระชนม์ไปแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานหมู่บ้านทั้ง 3 แห่งนั้นแก่พระราชกุมารต่ออีก

15. တိ ဝဿာနိ ရဇ္ဇံ ဓမ္မေန ကာရိယ မာရနန္တိက ရောဂဿ

16. ဝသံ ပတ္တေ နရာဓိပေ။ သရန္တော ဓမ္မရာဇဿ မဟန္တံ ဂု

15. -ti vassāni rajjam dhammena kātriya māranantika rogassa-

16. vassam patte narādipe. Saranto dhammarājassa mahantam gu-

อฏฺฐวีส (15) ติ วสฺสานิ รชฺชํ ธมฺเมน การิย มารนนฺติกโรคสฺส (16) วสํ ปตฺเต นราธิเป //

ครั้นเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงครองราชย์โดยธรรมได้ 28 ปี ก็ทรงพระประชวรหนัก

17. ဏသည္စယံ ကာရေတွာ သတ္ထုနော ဗိမ္ဗံ သဗ္ဗသောဝဏ္ဏ

18. ယံ သုဘံ။ ဂဟေတွာ တံ မဟန္တေန သက္ကာရေန သုမာနသော

17. ṇa saññcayam kāretvā satthuno bimbam sabbasovaṇṇa-

18. yam subham. Gahetvā tam mahatena sakkārena sumānaso

สรนฺโต ธมฺมราชสฺส มหนฺต คุ (17) ณสญฺจยํ กาเรตฺว สตฺถุโน พิมฺพํ สพฺพโสวณฺณ (18) ยํ สุภํ //

(พระราชกุมาร) ทรงระลึกถึงพระกรุณาธิคุณอันมากมายของพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงธรรม จึงให้สร้างพระพุทธรูปอันทำแล้วด้วยทองทั้งปวง อันงดงาม

19. ဥပသင်္ကမ္မ ရာဇာနံ အာဟ စိန္တိတမတ္တနော။ ဘာဝံ ကတွာ

19. upasaṅkamma rājanam āha cintitamattano. Bhavamkatvā

คเหตฺวา ตํ มหนฺเตน สกฺกาเรน สุมานโส (19) อุปสงฺกมฺม ราชานํ อาห จินฺติตมตฺตโน //

ผู้มีพระหฤทัยเบิกบาน ได้นำเอาพระพุทธรูปนั้นพร้อมเครื่องสักการะมากมาย เข้าไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ได้กราบทูลตามความคิดเห็นของพระองค์ว่า

20. နိဒံ သတ္ထုဗိမ္ဗံ သောဝဏ္ဏယံ သုဘံ အကာသိံ ဝေါ ဝ

21. ရံ ပုညံ သာမိ တုမှေ နူမောဒထ။ ဂါမတ္တယံ ပိ ဝေါ

20. nidam satthubimbam sovaṇṇyam subham akāsim vo va-

21. -ram puññam sāmi tumhe nūmodatha. Gāmattayam pivo

ภาคํ กตฺวา (20) น อิทํ สตฺถุพิมฺพํ โสวณฺณยํ สุภํ อกาสึ โว ว (21) รํ ปุญฺญํ สามิ ตุมฺเห”นุโมทถ //

ข้าพระพุทธเจ้า ได้สร้างพระพุทธรูปที่ทำแล้วด้วยทองอันงดงามนี้ ขอแบ่งส่วนบุญให้ข้าแต่พระองค์ ขอพระองค์จงอนุโมทนาบุญอันประเสริฐด้วยเถิด

22. သာမိ ပုဗ္ဗေ ဒိန္နန္တု မေ အဟံ ဣမဿေဝ မုနိန္ဒဿ ဒေမိ တ

23. ည္စာ နူမောဒထ။ ဧဝံ ဝုတ္တေ မဟီပါလော ရောဂေ

22. sāmi pubbe dinnantu me again imasseva munidassa demi ta

23. ññcā nūmodatha. Evam vutte mahipālo roge

คามตฺตฺยํ ปิ โว (22) สามิ ปุพฺเพ ทินฺนนฺตุ เม อหํ อิมสฺเสว มุนินฺทสฺส เทมิ ต (23) ญฺจานุโมทถ //

ข้าแต่พระองค์ สำหรับหมู่บ้านทั้งสาม ที่พระองค์พระราชทานแก่ข้าพระพุทธเจ้านั้น ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายแด่พระพุทธเจ้า (พระพุทธรูป) องค์นี้ ขอพระองค์จงอนุโมทนาบุญนั้นด้วยเถิด

24. နာတုရမာနသော သာဓု သာဓူတိ ဝတွာန တုဌဟတ္ထော

25. ပမောဒိတော။ ဒယာ ပရော မဟာထေရော ထေရော မုဂ္ဂလိ

24. nāturamānaso sadhu, sadhūti vatvāna tuṭhahattho

25. pamodito. Dayā payo mahātheyo theyo muggali

เอวํ วุตฺเต มหีปาโล โรเค (24) นาตุรมานโส สาธุ สาธูติ วตฺวาน ตุฏฺฐหตฺโถ (25) ปโมทิโต //

ครั้นพระราชกุมารกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระเจ้าแผ่นดินถึงจะมีพระทัยกระสับกระส่ายเพราะโรคภัย ก็ยังทรงยกพระหัตถ์เปล่า ตรัสอนุโททนาว่า ดีแล้ว ดีแล้ว

26. ပုတ္တကော သုမေဓတ္တ သုမေဓောတိ လဒ္ဓနာမော စ ပဏ္ဍိတော

26. puttako sumedhatta sumedhoti laddhanāmo ca paṇṭito

ทยาปโร มหาเถโร เถโร มุคฺคลิ (26) ปุตฺตโก สุเมธตฺต สุเมโธติ ลทฺธนาโม จ ปณฺฑิโต //

พระมุคคลิปุตตกเถระ เป็นพระมหาเถระที่มากไปด้วยความเอ็นดู และท่านผู้เป็นบัณฑิตนามว่า สุเมธ เพราะมีปัญญาดี

27. ဗြဟ္မပါလော တထာ ဗြဟ္မဒေဝေါ သမ္ပန္နသီလဝါ သော နော

28. ဗဟုဿုတော သံဃသေနဝှေါ ဝရပဏ္ဍိတော။ ဧတေသံ ပ

27. brahmapālo tathā brhamadevo sampanna silavā so no

28. bahussuto samghasena vho varapaṇṭito. Etesam pa-

(27) พฺรหฺมปาโล ตถา พฺรหฺมเทโว สมฺปนฺนสีลวา โสโน (28) พหุสฺสุโต สํฆเสนาวฺโห วรปณฺฑิโต //

พระพรหมปาละ และพระพรหมเทวะ ผู้มีศีล พระโสนะ ผู้เป็นพหูสูตร พระผู้เป็นวรบัณฑิตนามว่า สังฆเสนะ

29. န ဘိက္ခူနံ သံမုခါ သော သုမာနသော ဇလံ ပါတေသိ ကတွာန သ

30. က္ခိန္တု ဝသုဓါတလံ။ တတော သော တံ မဟာမစ္စော ဗိမ္ဗံ သောဝ

29. na bikkhūnam sammukhā so sumānaso jalam pātesi katavana sa-

30. kkhintu vasudhātalam. Tato so tan mahāmacco bibam so va-

เอเตสํ ป (29) น ภิกฺขูนํ สํมุขา โส สุมานโส ชลํ ปาเตสิ กตฺวาน ส (30) กฺขินฺตุ วสุธาตลํ //

และต่อหน้าพระภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้น มีพระทัยยินดีทรงหลั่งน้ำ (ทักษิโณทก) ให้พื้นพสุธาเป็นพยาน

31. ဏ္ဏယံ သုဘံ ပတိဌာပိယ ကာရေသိ ဂုဟံ ကည္စနထူပိကံ။

31. -ṇṇayam subham patiṭhāpiya kāresi guham kaññcanathūpikam.

ตโต โส ตํ มหามจฺโจ พิมฺพํ โสว (31) ณฺณยํ สุภํ ปติฏฺฐาปิย กาเรสิ คุหํ กญฺจนถูปิกํ //

ลำดับนั้น มหาอำมาตย์นั้นได้ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปทองอันงดงามนั้น แล้วให้สร้างคูหาอันเป็นสถูปทอง (ครอบทับ)

32. ကတွာန မင်္ဂလံ ဗုဒ္ဓပတိမာယ ဂုဟာယစ အကာသေဝံ ပဏီ

33. ဓာနံ နိဗ္ဗိန္နော ဘဝသင်္ကတေ။ ကရောန္တေန မယာဧတံ ယံ ပု

32. Katvāna maṅgalam Buddhapatimāya guhāyaca akāsevam paṇī

33. dhānam nibbinno bhavasaṅkate. Karonetana mayā etam yam pu-

(32) กตฺวาน มงฺคลํ พุทฺธปติมาย คุหาย จ อกาเสวํ ปณี (33) ธานํ นิพฺพินฺโน ภวสงฺกเต //

ครั้นทำมงคลแด่พระพุทธปฏิมาและพระคูหาแล้ว ได้ทำปณิธาน อย่างนี้ว่า

34. ညံ တံ သမာစိတံ ဟောတု သဗ္ဗညုတညာဏ ပတိဝေဓာ

35. ယ ပစ္စယော။ ယတ္တကာ တု မယာ ဒါသာ ဂါမတ္တယနိဝါ

34. -ññam tam samācitam hotu sabbaññuta ññaṇa pative dhā-

35. -yā paccayo. Yattakā ta maya dāsā gamattayaniva-

กโรนฺเตน มยา เอตํ ยํ ปุ (34) ญฺญํ ตํ สมาจิตมฺ โหตุ สพฺพญฺญุตญาณปติเวธา (35) ย ปจฺจโย //

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าผู้กำลังกระทำอยู่ได้สะสมไว้แล้วนี้ จงเป็นปัจจัย เพื่อการตรัสรู้ สัพพัญญุตญาณ

36. သိနော ဒိန္နာ ဂုဟာယ သောဝဏ္ဏပတိမာယ မဟေသိ

37. နော။ ပုတ္တော မေ ပါ ပပုတ္တောဝါ အညော ဝါ ပန ညာ

36. -sino dinnā guhāya sovaṇṇapatimāya mahesi

37. no. Putto me va paputto va añño va panañña

ยตฺตกา ตุ มยา ทาสา คามตฺตฺยนิวา (36) สิโน ทินฺนา คุหาย โสวณฺณปติมาย มเหสิ (37) โน //

บรรดาทาสและผู้คนในสามหมู่บ้านมีจำนวนเท่าใด ที่ข้าพเจ้าได้ถวายแล้วแก่พระคูหาและแก่พระพุทธรูปทองคำ

38. တကော ယော ကောစိ ပါပ သံကပ္ပေါ နရော အဿဒ္ဓ

39. မာနသော။ ကရေယျုပဒ္ဒုဝံ တေသံ ဒါသာနံ သော နရာဓမော

38. tako yo koci pāpa samkappo naro assaddha

39. mānāso. Kareyyupadduvam tesam dāsānam si naramamo

ปุตฺโต เม วา ปปุตฺโต วา อญฺโญ วา ปน ญา (38) ตโก โย โกจิ ปาปสํกปฺโป นโร อสฺสทฺธ (39) มานโส //

บุตรหรือหลานหรือญาติคนอื่น ๆ ใครก็ตามที่มีความคิดชั่วช้า ไม่มีจิตใจศรัทธา

40. မေတ္တေယျ (မိတ္တိယျ) ဒိပဒိန္ဒဿ ဒဿနံ နာထိဂစ္ဆတူ

41. တိ။

40. Metteya dipadindassa dassanam nāthigacchatū

41. ti

กาเรยฺยุปทฺทุวํ เตสํ ทาสานํ โส นราธโม (40) เมตฺเตยฺยธิปทินฺทสฺส ทสฺสนํ นาถิคจฺฉตู (41) ติ //0 //

คนผู้มืดบอด หากทำให้เกิดอุปัทวันตรายแก่ทาสทั้งหลายเหล่านั้น ขอคนนั้นจงอย่าได้เห็นพระ (ศรีอาริย) เมตไตรเลย

ระเบียงภาพ

[แก้]

เชิงอรรถ

[แก้]
  1. 1.0 1.1 (จารึกมยะเจดีย์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร) : การแปลเน้นที่ความหมายเป็นสำคัญ ตัวเลขในวงเล็บคือลำดับบรรทัดในศิลาจารึก

อ้างอิง

[แก้]
  1. Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN 978-0-8248-0368-1.
  2. Blagden, C. (1914) The Myazedi Inscriptions. Journal of the Asiatic Society of Great Britain and Ireland, pp. 1063-1069. Retrieved from https://www.jstor.org/stable/25189254
  3. Burmese Literature. Myanmar: Ministry of Education of the government of Myanmar. 2018. p. 1.
  4. Burmese Encyclopedia,Volume 9
  5. 5.0 5.1 Ministry of Burmese Culture- Myanmar Inscriptions, Volume 1, p.6-7
  6. Burmese Translation Society (1965). Myazedi inscription. Yangon: Sarpay Beikman Burmese Translation Society.
  7. 7.0 7.1 จารึกมยะเจดีย์ หลักฐานสาคัญของประวัติศาสตร์พม่า ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  • "Myazedi". Myanmar Travel information 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-07-01. สืบค้นเมื่อ 2006-08-13.
  • Khin Maung Nyunt (December 2000). "Myazedi and Rosetta Stone Inscriptions". Perspective. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-02-08. สืบค้นเมื่อ 2006-08-13.
  • "Myazedi Pagoda". Myanmar's NET. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-12. สืบค้นเมื่อ 2006-08-13.
  • Nishida Tatsuo 西田龍雄 (1955) "Myazedki 碑文における中古ビルマ語の研究 Myazedi hibu ni okeru chūko biruma go no kenkyū. Studies in the later ancient Burmese Language through Myazedi Inscriptions." 古代學 Kodaigaku Palaeologia 4.1:17-31 and 5.1: 22-40.
  • Yabu Shirō 藪 司郎 (2006). 古ビルマ語資料におけるミャゼディ碑文<1112年>の古ビルマ語 / Kobirumago shiryō ni okeru myazedi hibun senhyakujūninen no kobirumago ōbī / Old Burmese (OB) of Myazedi inscription in OB materials. Osaka: Osaka University of Foreign Studies.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

Myazedi Inscription at AncientBagan.com [2]

Myazedi Inscription A at Zenodo [3]

Myazedi Inscription B at Zenodo [4]