การโจมตีอัรบีล พ.ศ. 2567
เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในประเทศอิรักและซีเรีย พ.ศ. 2567 | |
---|---|
ส่วนหนึ่งของ ความขัดแย้งเคิร์ด-อิหร่าน, ความขัดแย้งอิหร่าน-อิสราเอล, และ การโจมตีโดยอิหร่านต่อกองทหารอเมริกันในอิรักและซีเรีย | |
ชนิด | การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน |
ตำแหน่ง | อัรบีล, เคอร์ดิสถานอิรัก, อิรัก 36°18′18″N 44°07′56″E / 36.30500°N 44.13222°E[a] |
โดย | รัฐบาลอิหร่าน |
เป้าหมาย | สำนักงานใหญ่ของ มอสสาด ของอิสราเอลในอิรัก (การอ้างสิทธิ์ของอิหร่านถูกปฏิเสธโดยอิรักและอิสราเอล) และฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายในซีเรีย |
วันที่ | 15 มกราคม ค.ศ. 2024 11:36 นาฬิกา (UTC+03:00) |
ผู้ลงมือ | กองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม |
ผู้สูญเสีย | 4 คน ถูกสังหาร 17 คน ได้รับบาดเจ็บ |
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 2024 อิหร่านได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและโดรนหลายครั้งภายในอิรักและซีเรีย โดยอ้างว่าได้กำหนดเป้าหมายไปที่สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของมอสซาด หน่วยข่าวกรองอิสราเอล และฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายหลายแห่งเพื่อตอบโต้เหตุระเบิดในเคอร์มอนเมื่อวันที่ 3 มกราคม สำหรับ ซึ่งกลุ่มรัฐอิสลามต้องรับผิดชอบ[3][4] อัรบีล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเคอร์ดิสถานของอิรัก ตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธ 11 ลูกจากทั้งหมด 15 ลูกที่ถูกยิง ขีปนาวุธที่เหลืออีก 4 ลูกมุ่งเป้าไปที่เขตผู้ว่าการอิดลิบของซีเรีย โดยกำหนดเป้าหมายไปยังพื้นที่ที่ฝ่ายค้านซีเรียยึดครอง[5][6] ในเมืองอัรบีลได้มีพลเรือน 4 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 17 คน[7]
ภูมิหลัง
[แก้]เมื่อวันที่ 3 มกราคมค.ศ. 2024 ได้มีพิธีรำลึกถึงการลอบสังหารกอเซม โซเลย์มอนี ที่สุสานในเมืองเคอร์มอน ประเทศอิหร่าน ต่อมาได้เกิดโจมตีด้วยระเบิด 2 ครั้ง การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 94 ราย และบาดเจ็บอีก 284 ราย ต่อมากลุ่มรัฐอิสลามได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว[8] แอลี ฆอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้ให้คำมั่นว่า "จะตอบโต้อย่างหนัก" ต่อการโจมตีดังกล่าว และประกาศว่าผู้ที่รับผิดชอบ "จะเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนของการปราบปราม และเป็นเพียงการลงโทษนับจากนี้เป็นต้นไป"[9]
ผลสืบเนื่อง
[แก้]หนึ่งวันหลังจากการโจมตีในอิรักและซีเรีย อิหร่านได้โจมตีด้วยขีปนาวุธต่อเนื่องหลายครั้งในปากีสถาน โดยอ้างว่าได้กำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มญัยชุลอัดล์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธบาโลจที่อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดเมื่อปี 2019 ในอิหร่าน[10][11] การโจมตีเหล่านี้ได้ถูกประณามโดยรัฐบาลปากีสถาน ต่อมาได้เนรเทศเอกอัครราชทูตอิหร่านออกจากกรุงอิสลามาบัด และระบุว่าการโจมตีดังกล่าวได้สังหารเด็ก 2 คนในแคว้นบาโลชิสถาน และต่อมาได้ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ต่อการละเมิดน่านฟ้าของปากีสถานของอิหร่าน[12]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Per Rudaw[1] and White Helmets[2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Faidhi Dri, Karwan (17 January 2024). "Who was the Kurdish businessman killed by Iranian missiles in Erbil?". Rudaw. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ "Targets hit by Iran in Syria". Enab Baladi. 16 January 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ "General Gives Details of IRGC Missile Attacks on Mossad, Daesh Targets". Tasnim News Agency. 16 January 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2024. สืบค้นเมื่อ 16 January 2024.
- ↑ Hafezi, Parisa; Azhari, Timour (16 January 2024). "Iran's Guards attack Israel's 'espionage centers' in Iraq, state media says". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 January 2024.
- ↑ Malekian, Somayeh; Shalvey, Kevin (16 January 2024). "US condemns Iran for missile strikes in Iraq and Syria". ABC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 16 January 2024.
- ↑ Katy, Bader (15 January 2024). "Explosions reported near US Consulate in Iraq; Iran claims responsibility". ABC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2024. สืบค้นเมื่อ 15 January 2024.
- ↑ Bechocha, Julian (16 January 2024). "IRGC claims deadly ballistic missile strikes on Erbil". Rudaw. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ "Iran's Revolutionary Guard attacks 'anti-Iranian' groups in Iraq's Erbil". Al Jazeera (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2024. สืบค้นเมื่อ 16 January 2024.
- ↑ "رهبر انقلاب: جنایتکاران بدانند که از هم اکنون آماج قطعی سرکوب و مجازات عادلانه خواهند بود" [Leader of the Revolution: Criminals should know that from now on they will be the target of repression and fair punishment]. Iranian Students' News Agency. 3 January 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 January 2024.
- ↑ Shahid, Saleem (17 January 2024). "Iran 'attacks militant bases in Panjgur'". DAWN.COM (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ Borger, Julian (17 January 2024). "Iran strikes 'militant bases' in Pakistan in latest Middle East flashpoint". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ Gambrell, Jon; Ahmed, Munir (16 January 2024). "Iran attacks alleged militant bases in Pakistan; Islamabad says 'unprovoked' strikes kill 2 children". Associated Press (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.