ข้ามไปเนื้อหา

หัวเสาอโศกรูปสิงห์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Lion Capital of Asoka)
หัวเสาอโศกรูปสิงห์
วัสดุหินทราย
ความสูง2.1 เมตร (7 ฟุต)
ความกว้าง86 เซนติเมตร (34 นิ้ว) (เส้นผ่านศูนย์กลางของแป้นหัวเสา)
สร้างศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล
ค้นพบF. O. Oertel (ผู้ขุด), 1904-1905
ที่อยู่ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์สารนาถ ประเทศอินเดีย
เลขทะเบียนA 1
สตมภศีรษะบนพื้นของสารนาถ คาดว่าถ่ายราวปี 1904–05

หัวเสาอโศกรูปสิงห์ (อังกฤษ: Lion Capital of Ashoka) หรือ สิงหจตุรมุขสตมภศีรษะ (ฮินดี: सिंहचतुर्मुख स्तम्भशीर्ष) เป็นประติมากรรมรูปสิงโตเอเชียยืนหันหลังชนกันบนฐานที่แกะสลักอย่างวิจิตรที่มีสัตว์อื่นประกอบอยู่ด้วย ภาพของสิงหจตุรมุขสตมภศีรษะได้ถูกนำมาวาดเป็นรูปแบบกราฟิกใช้เป็นตราประจำชาติอินเดียนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา[1] สตมภศีรษะนี้เคยตั้งอยู่บนยอดของอโศกสตมภ์ที่สารนาถ สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ โดยพระเจ้าอโศกมหาราชในราว 250 ปีก่อนคริสตกาล[2] ตัวอโศกสตมภ์ (เสาอโศก) นั้นยังคงตั้งอยู่ที่สถานที่เดินที่พบที่สารนาถ ส่วนหัวเสา (สตมภศีรษะ) นั้นปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สารนาถ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ความสูงของหัวเสาสูงรวม 2.15 เมตร (7 ฟุต) รวมฐาน หัวเสาจตุรมุขนี้มีรายละเอียดที่ครบสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาหัวเสาอื่น ๆ ของอโศกสตมภ์ที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน และมีจารึกพระบรมราชโองการของพระเจ้าอโศก หัวเสาบางชิ้นที่เหลืออยู่มีสัตว์เพียงตัวเดียว (เอกมุขสตมภศีรษะ) เช่นที่สาญจี[3]

หัวเสานี้แกะสลักจากหินทรายก้อนเดี่ยวขัดเงา และถูกสร้างให้แยกออกจากตัวเสามาตั้งแต่แรก สตมภศีรษะนั้นประกอบด้วยสิงโตเอเชียสี่ตัวบนอะบาคัสและฟรีซ พร้อมกับภาพสลักนูนสูงแสดงช้าง, ม้า, กระทิง, สิงโต คั่นด้วยลักษณะของล้อราชรถ ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บรบานบัวคว่ำรูประฆัง ดั้งเดิมแล้วหัวเสานี้ครอบด้วย 'ธรรมจักร' หรือ "อโศกจักร" ที่มี 32 ซี่ มีการพบธรรมจักรลักษณะนี้หักอยู่ที่ค้นพบเสา[4] ลักษณะหัวเสาที่ครอบด้วยธรรมจักรนี้มีการสร้างเลียนแบบขึ้นในศตวรรษที่ 13 โดยพระยามังรายและถูกรักษาไว้อย่างดีที่วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่[5]

อ้างอิง

[แก้]
  1. State Emblem, Know India india.gov.in
  2. "Sarnath site". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 June 2017. สืบค้นเมื่อ 2 October 2014.
  3. Harle, 24
  4. Allen, caption at start of Chapter 15
  5. "Wat Umong Chiang Mai". Thailand's World. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 December 2013. สืบค้นเมื่อ 26 November 2013.

บรรณานุกรม

[แก้]
  • Allen, Charles, Ashoka: The Search for India's Lost Emperor, 2012, Hachette UK, ISBN 1408703882, 9781408703885, google books
  • "Companion": Brown, Rebecca M., Hutton, Deborah S., eds., A Companion to Asian Art and Architecture, Volume 3 of Blackwell companions to art history, 2011, John Wiley & Sons, 2011, ISBN 1444396323, 9781444396324, google books
  • Harle, J.C., The Art and Architecture of the Indian Subcontinent, 2nd edn. 1994, Yale University Press Pelican History of Art, ISBN 0300062176