แย้
แย้ | |
---|---|
แย้ธรรมดา หรือแย้เส้น (Leiolepis belliana) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Reptilia |
อันดับ: | Squamata |
อันดับย่อย: | Lacertilia |
วงศ์: | Agamidae |
วงศ์ย่อย: | Leiolepidinae Fitzinger, 1843 |
สกุล: | Leiolepis Cuvier, 1829 |
ชนิด | |
|
แย้ (อังกฤษ: Butterfly lizards, Small-scaled lizards, Ground lizards, Butterfly agamas) เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ้งก่าประเภทหนึ่ง จัดเป็นสัตว์ที่อยู่ในสกุล Leiolepis ในวงศ์ Agamidae วงศ์ย่อย Leiolepidinae พบกระจายทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะภูมิภาคอินโดจีน พบทั้งหมด 8 ชนิด สำหรับในประเทศไทยพบทั้งหมด 4 ชนิด มีลักษณะเด่นคือ มีสีสวยสด และลำตัวไม่มีปุ่มหนาม
ลักษณะ
มีความแตกต่างจากกิ้งก่าในวงศ์ย่อย Agaminae ซึ่งเป็นวงศ์ย่อยที่มีจำนวนสมาชิกหลากหลายที่สุดของวงศ์ Agamidae คือ มีช่องเปิดบริเวณแอ่งเบ้าตาเล็ก และไม่มีช่องเปิดบริเวณกล่องหู[1] มีขนาดลำตัววัดจากปลายปากโดยตลอดยาวประมาณ 11.5 เซนติเมตร หางยาวประมาณ 23.8 เซนติเมตร ตัวแบนหางราบ โคนหางแบนและแผ่บานออก สีข้างแผ่ขยาย ไม่มีแผงหนามที่สันหลัง ช่องหูใหญ่ เยื่อหูจมใต้ผิวหนัง หนังข้างคอมีรอยพับตามขวาง รอบลำตัวมีเกล็ดประมาณ 40 แถว หัวและหลังสีเขียวมะกอก โดยมีจุดสีเหลืองขอบดำเรียงเป็นแนวข้างตัว มีแถบดำสลับเหลืองคอมีลวดลายร่างแหดำ ประกอบสีครีม ท้องและอกสีส้มสด ตัวผู้จะมีพังผืดด้านข้าง และสวยกว่าตัวเมีย โดยที่แย้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อมเหมือนสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่น ๆ
พฤติกรรม
แย้ทุกชนิดเป็นสัตว์ที่หากินและอาศัยอยู่ในพื้นดิน ไม่ขึ้นต้นไม้อย่างสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่น โดยเฉพาะพื้นดินที่เป็นที่แห้งแล้งลักษณะดินปนทราย ที่อยู่ของแย้เป็นรู ลึกประมาณ 1 ฟุต เป็นโพรงข้างใน สามารถกลับตัวได้ ที่ปากรูจะมีรอยของหางแย้ เป็นรอยยาว ๆ และจะมีรูพิเศษอีกรูหนึ่ง ที่ใช้ป้องกันตัว เมื่อถูกศัตรูรุกรานเข้ารูด้านหนึ่ง แย้สามารถหลบรอดออกไปอีกรูหนึ่งได้อย่างแยบยล โดยรูนี้เรียกในภาษาไทยว่า "แปว"
แย้สามารถสืบพันธุ์ได้ทุกฤดูกาล กินแมลงต่าง ๆ เป็นอาหาร แย้ไม่สามารถที่จะว่ายน้ำได้
นอกจากนี้แล้วในพฤติกรรมการสืบพันธุ์ แย้บางชนิดเป็นสัตว์ที่เป็นกะเทยหรือมีเพศที่ไม่แน่นอน สามารถขยายพันธุ์ได้เองโดยไม่ต้องอาศัยเพศตรงข้าม [2] [3]
การจำแนก
มีทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่
- Leiolepis belliana แบ่งได้ออกเป็นชนิดย่อย 2 ชนิด คือ L. b. belliana –แย้ธรรมดา หรือ แย้เส้น; พบได้ทั่วไปในประเทศไทยทุกภาค แม้กระทั่งตามเกาะแก่งต่าง ๆ กลางทะเล และ L. b. rubritaeniata –แย้อีสาน; พบมากที่สุดในภาคอีสาน
- Leiolepis boehmei –แย้ใต้; พบเฉพาะภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช, ตรัง และสงขลา และเป็นแย้ชนิดเดียวที่พบเฉพาะเพศเมีย
- Leiolepis guentherpetersi
- Leiolepis guttata –แย้ยักษ์
- Leiolepis peguensis
- Leiolepis reevesii –แย้เหนือ
- Leiolepis triploida–แย้มลายู
- Leiolepis ngovantrii –แย้กะเทย; พบได้ที่เวียดนาม สามารถแพร่ขยายพันธุ์วางไข่ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งตัวผู้[3]
ความสัมพันธ์กับมนุษย์
แย้จัดเป็นอาหารดั้งเดิมของมนุษย์มาช้านานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในถิ่นอีสานของไทย ชาวอีสานจะนิยมจับแย้กินเป็นอาหาร โดยมีรสชาติคล้ายเนื้อไก่ นิยมนำไปทำเป็นเมนูได้หลากหลาย เช่น ปิ้ง หรือ ลาบ
ปัจจุบัน สถานะของแย้เมื่อเทียบกับสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่น ๆ แล้ว นับว่าใกล้สูญพันธุ์จากถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ในบางพื้นที่จึงมีการส่งเสริมการเลี้ยงแย้ให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจและอนุรักษ์ไว้ด้วย เช่นที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นต้น[4]
นอกจากนี้แล้ว จากพฤติกรรมที่อาศัยอยู่ในรู จึงทำให้การละเล่นพื้นบ้านที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการละเล่นที่เรียกว่า "แย้ลงรู"[5]
อ้างอิง
- ↑ วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หน้า 374 (พ.ศ. 2552) ISBN 978-616-556-016-0
- ↑ Grismer, J.L. and Grismer, L.L. 2010. Who’s your mommy? Identifying maternal ancestors of asexual species of Leiolepis Cuvier, 1829 and the description of a new endemic species of asexual Leiolepis Cuvier, 1829 from Southern Vietnam. Zootaxa. 2433: 47–61. http://www.mapress.com/zootaxa/2010/f/z02433p061f.pdf
- ↑ 3.0 3.1 เลื้อยๆ คลานๆ วิวัฒนาการสูง “โคลนตัวเอง” แพร่พันธุ์ไม่ง้อเพศผู้ ผู้จัดการออนไลน์
- ↑ อนุรักษ์แย้..สัตว์ที่น่ารัก เพาะเลี้ยงไว้ ณ เขาเขียว จากไทยรัฐ
- ↑ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกรมศิลปากร. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์---. กรุงเทพ:ม.ป.ส., 2544. หน้า 85.
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Leiolepis ที่วิกิสปีชีส์