แพลไมรา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แพลไมรา *
Welterbe.svg  แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก
วิหารแห่งเทพเจ้าเบลในแพลไมรา
ประเทศซีเรีย
ภูมิภาค **รัฐอาหรับ
ประเภทวัฒนธรรม
เกณฑ์พิจารณาi, ii, iv
อ้างอิง20
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียนพ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) (คณะกรรมการสมัยที่ 4)
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก
แพลไมรา
Tdmr2.png
تَدْمُر
Ruins of Palmyra
ซากปรักหักพังแห่งแพลไมราในปีค.ศ.2010
Palmyra is located in the center of Syria
Palmyra is located in the center of Syria
แสดงที่ตั้งภายในประเทศซีเรีย
ชื่ออื่นตัดมุร
ที่ตั้งตัดมุร, เขตการปกครองฮอมส์, ซีเรีย
ภูมิภาคทะเลทรายซีเรีย
พิกัด34°33′05″N 38°16′05″E / 34.55139°N 38.26806°E / 34.55139; 38.26806พิกัดภูมิศาสตร์: 34°33′05″N 38°16′05″E / 34.55139°N 38.26806°E / 34.55139; 38.26806
ประเภทที่อยู่อาศัย
ส่วนหนึ่งของจักรวรรดิพาลไมรีน
พื้นที่80 ha (200 เอเคอร์)
ความเป็นมา
สร้างสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล
ละทิ้งค.ศ. 1932 (1932)
สมัยยุคสัมฤทธิ์ตอนกลาง จนถึงปัจจุบัน
วัฒนธรรมแอราเมอิก, อาหรับ, กรีก-โรมัน
หมายเหตุเกี่ยวกับสถานที่
สภาพพังทลาย
ผู้ถือกรรมสิทธิ์สาธารณะ
ผู้บริหารจัดการกระทรางวัฒนธรรมซีเรีย
การเปิดให้เข้าชมไม่สามารถเข้าถึง (ในเขตสงคราม)
ชื่อที่ขึ้นทะเบียนSite of Palmyra
ประเภทวัฒนธรรม
เกณฑ์i, ii, iv
ขึ้นเมื่อ1980 (4th Session)
เลขอ้างอิง23
Regionรัฐอาหรับ
เสี่ยงค.ศ. 2013 (2013)–ปัจจุบัน.

แพลไมรา (อังกฤษ: Palmyra, ออกเสียง: /ˌpælˈmaɪrə/) หรือ ตัดมุร (อาหรับ: تدمر, Tadmor) เป็นนครเซมิติกโบราณในเขตผู้ว่าราชการฮอมส์ ประเทศซีเรียปัจจุบัน การค้นพบทางโบราณคดีย้อนไปถึงยุคหินใหม่และมีบันทึกนครครั้งแรกในต้นสหัสวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล แพลไมราเปลี่ยนมือหลายโอกาสระหว่างจักรวรรดิต่าง ๆ ก่อนมาอยู่ในบังคับของจักรวรรดิโรมันในคริสต์ศตวรรษที่ 1

นครมีความมั่งคั่งจากคาราวานการค้า ชาวนครแพลไมรา ซึ่งเป็นพ่อค้าขึ้นชื่อ สถาปนาอาณานิคมตามเส้นทางสายไหมและดำเนินการทั่วจักรวรรดิโรมัน ความมั่งคั่งของแพลไมราทำให้สามารถสร้างโครงการมหึมาต่าง ๆ ได้ เช่น แนวเสาหินใหญ่ (Great Colonnade), วิหารเบล และสุสานหอคอยเด่น ชาวนครแพลไมราเป็นการผสมของชาวแอมะไรต์ (Amorites) แอมาเรียน (Arameans) และอาหรับ โครงสร้างสังคมของนครเป็นแบบชนเผ่า และผู้อยู่อาศัยพูดภาษาแพลไมรีน (ภาษาถิ่นของภาษาแอราเมอิก) ภาษากรีกใช้เพื่อความมุ่งหมายพาณิชย์และการทูต วัฒนธรรมของแพลไมราซึ่งได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมกรีก-โรมัน ผลิตศิลปะและสถาปัตยกรรมโดดเด่นซึ่งรวมประเพณีตะวันออกและตะวันตก ผู้อยู่อาศัยของนครบูชาเทพเจ้าท้องถิ่นและเทพเจ้าเมโสโปเตเมียและอาหรับ

เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 3 แพลไมราเป็นศูนย์กลางภูมิภาครุ่งเรืองที่ถึงจุดสูงสุดของอำนาจในคริสต์ทศวรรษ 260 เมื่อพระมหากษัตริย์แพลไมรา โอเดนาธัส (Odaenathus) ทรงพิชิตจักรพรรดิเปอร์เซีย ซาปูร์ที่ 1 จากนั้นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระราชินีเซโนเบีย (Zenobia) สืบราชบัลลังก์ ผู้กบฏต่อโรมและสถาปนาจักรวรรดิพาลไมรีน ใน ค.ศ. 273 จักรพรรดิโรมัน ออเรเลียน (Aurelian) ทรงทำลายนครและภายหลังมีการฟื้นฟูในรัชกาลไดโอคลีเชียน แต่มีขนาดเล็กลง ชาวแพลไมรีนเข้ารีตศาสนาคริสต์ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 4 และอิสลามในครึ่งหลังของคริสต์สหัสวรรษที่ 1 ซึ่งภาษาแพลไมรีนและกรีกถูกภาษาอาหรับเข้าแทนที่

ก่อน ค.ศ. 273 แพลไมรามีอัตตาณัติและขึ้นกับจังหวัดซีเรียของโรมัน โดยมีการจัดระเบียบการเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากแบบจำลองนครรัฐกรีกระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 1–2 นครกลายเป็นโคโลเนียของโรมันระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 3 นำไปสู่การรวมสถาบันปกครองของโรมัน ก่อนกลายเป็นราชาธิปไตยใน ค.ศ. 260 ให้หลังการทำลายใน ค.ศ. 273 แพลไมรากลายเป็นศูนย์กลางขนาดเล็กภายใต้จักรวรรดิไบแซนไทน์และจักรวรรดิต่อ ๆ มา การถูกตีมูร์ทำลายใน ค.ศ. 1400 ลดขนาดลงเหลือหมู่บ้านเล็ก ๆ ภายใต้การปกครองของอาณัติฝรั่งเศส ใน ค.ศ. 1932 ผู้อยู่อาศัยถูกย้ายไปหมู่บ้านใหม่ ทัดมูร์ (Tadmur) และแหล่งโบราณสามารถขุดค้นได้ ใน ค.ศ. 2015 แพลไมราอยู่ในการควบคุมของรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์ (ISIL) ซึ่งต่อมาทำลายอาคารจำนวนหนึ่งของแหล่งนี้ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2016 กำลังซีเรีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ผลักเข้านครและยึดนครคืนจาก ISIL ได้สำเร็จ[1][2]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Fighting intensifies as Syrian troops storm ISIS-held ancient city of Palmyra". Fox News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2016-03-24. สืบค้นเมื่อ 2016-03-27.
  2. "Syrian army retakes Palmyra from ISIS". RT International (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2016-03-27.