เอริช ฮ็อนเน็คเคอร์
เอริช ฮ็อนเน็คเคอร์ | |
---|---|
![]() | |
ฮ็อนเน็คเคอร์ใน พ.ศ. 2519 | |
เลขาธิการพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี (เป็นประธานสภาแห่งรัฐในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2519) | |
ดำรงตำแหน่ง 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 – 18 ตุลาคม พ.ศ. 2532 | |
ก่อนหน้า | วัลเทอร์ อุลบริชท์ |
ถัดไป | เอก็อน เคร็นทซ์ |
ประธานสภาแห่งรัฐเยอรมนีตะวันออก | |
ดำรงตำแหน่ง 29 ตุลาคม พ.ศ. 2519 – 24 ตุลาคม พ.ศ. 2532 | |
ก่อนหน้า | วิลลี ชโตฟ |
ถัดไป | เอก็อน เคร็นทซ์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 25 สิงหาคม พ.ศ. 2455 น็อยน์เคียร์เชิน, ราชอาณาจักรปรัสเซีย, จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 (81 ปี) ซานติอาโก, ประเทศชิลี |
สัญชาติ | เยอรมันตะวันออก (จนถึง ค.ศ. 1990) เยอรมัน (ค.ศ. 1990–1994) |
พรรคการเมือง | พรรคคอมมิวนิสต์เยอรมนี (2473–2489) พรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี (2489–2532) พรรคคอมมิวนิสต์เยอรมนี (2533–2537) |
คู่สมรส | ลอตเต กรุนด์ (สมรส ค.ศ. 2488; 2490) อิดิธ บรูมัน (สมรส ค.ศ. 2490; หย่าปี 2496)[1][2] มาร์ก็อต ฮ็อนเนคเคอร์ (2496–2537)[3][4][a] |
บุตร | เอริกา (เกิด พ.ศ. 2493) ซอนญา (เกิด พ.ศ. 2495) |
วิชาชีพ | นักการเมือง |
ลายมือชื่อ | ![]() |
เอริช ฮ็อนเน็คเคอร์ (เยอรมัน: Erich Honecker; 25 ตุลาคม พ.ศ. 2455 – 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2537) เป็นอดีตประมุขแห่งรัฐของประเทศเยอรมนีตะวันออก ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ พ.ศ. 2519 จนถึง พ.ศ. 2532 ก่อนจะเกิดการทลายกำแพงเบอร์ลินเพียงเดือนเดียว เขาดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี ก่อนจะได้รับเลือกเป็นประธานสภาแห่งรัฐแทนวิลลี ชโตฟใน พ.ศ. 2519 และดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประมุขแห่งเยอรมนีตะวันออก เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหภาพโซเวียตซึ่งสนับสนุนกองทัพในประเทศและการมีอำนาจของเขา
เขาเริ่มต้นเส้นทางการเมืองในคริสต์ทศวรรษที่ 1930 โดยการเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์เยอรมนี ทำให้เขาถูกพรรคนาซีจับกุมและถูกจำคุก[5] เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เขาจึงได้รับอิสรภาพและเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง และเขาได้ก่อตั้งองค์กรเยาวชนของพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี มีชื่อว่า เฟเรดอชท์เลจูเกน ใน พ.ศ. 2489 และเป็นประธานองค์กรนี้จนถึง พ.ศ. 2498 และเมื่อเขาดำรงตำแหน่งเลขานุการฝ่ายความมั่นคงของพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี เขามีส่วนสำคัญในการสร้างกำแพงเบอร์ลินใน พ.ศ. 2504[6] และยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการสั่งยิงผู้ที่พยายามหลบหนีออกจากประเทศหรือข้ามฝั่งไปตามแนวกำแพงและชายแดน[7]
ใน พ.ศ. 2513 เขาได้แย่งชิงอำนาจทางการเมืองกับวิลลี ชโตฟ[6] โดยเขาได้รับการสนับสนุนจากเลโอนิด เบรจเนฟ[6] ซึ่งทำให้เขาได้รับตำแหน่งประธานสภาแห่งรัฐและเป็นประมุขแห่งเยอรมนีตะวันออกในเวลาต่อมา ภายใต้การปกครองของเขา เขาได้นำหลักการสังคมนิยมตลาดมาใช้และผลักดันเยอรมนีตะวันออกสู่ประชาคมโลกได้สำเร็จ[8] และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแห่งสหประชาชาติซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จในฐานะนักการเมืองและประมุขแห่งรัฐของเขา[9]
เมื่อความตึงเครียดในสงครามเย็นเริ่มคลี่คลายลงในปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1980 และมิฮาอิล กอร์บาชอฟได้ใช้นโยบายเปเรสตรอยคา-กลัสนอสต์ ฮ็อนเน็คเคอร์ได้คัดค้านนโยบายนี้ยกเว้นการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูปบางอย่างในระบบการเมืองภายในประเทศ[10] ต่อมาประชาชนในประเทศเยอรมนีตะวันออกได้ประท้วงรัฐบาลของเขา[11][12] เขาได้เรียกร้องให้สหภาพโซเวียตสนับสนุนการปราบปรามผู้เห็นต่างและผู้ที่ออกมาชุมนุมดังกล่าว[12] แต่กอร์บาชอฟปฏิเสธ[12][13] ต่อมาเขาถูกบังคับให้ลาออกจากประธานสภาแห่งรัฐโดยพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนีในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2532 เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาล[14] แต่ได้ประสบความล้มเหลวและนำไปสู่การล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในเยอรมนีตะวันออก และทั้งสองประเทศรวมกันเป็นประเทศเยอรมนีจนถึงปัจจุบัน
หลังการรวมประเทศเยอรมนีใน พ.ศ. 2533 เขาพยายามหลบหนีออกนอกประเทศโดยทำเรื่องขอลี้ภัยที่สถานเอกอัครราชทูตชิลีในกรุงมอสโก แต่เขาได้ถูกส่งตัวกลับประเทศเยอรมนี ใน พ.ศ. 2535 เพื่อรับการพิจารณาคดีเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสมัยที่เขายังเป็นประมุขแห่งรัฐ[15] แต่การดำเนินคดีดังกล่าวได้ยกเลิกเนื่องจากเขาป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย และเขาได้รับการปล่อยตัวไป เขาจึงลี้ภัยอยู่ในประเทศชิลีพร้อมครอบครัวของเขา และถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 สิริอายุได้ 81 ปี[16][17]
หมายเหตุ[แก้]
- ↑ บางข้อมูลกล่าวว่าสมรสใน พ.ศ. 2496
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Honecker, Erich * 25.8.1912, † 29.5.1994 Generalsekretär des ZK der SED, Staatsratsvorsitzender". Bundesstiftung zur Aufarbeitung der SED-Diktatur (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 28 February 2017.
- ↑ "Erich Honecker 1912 – 1994". Lebendiges Museum Online (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 28 February 2017.
- ↑ "Honecker, Margot geb. Feist * 17.4.1927, † 6.5.2016 Ministerin für Volksbildung". Bundesstiftung zur Aufarbeitung der SED-Diktatur (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 28 February 2017.
- ↑ "Margot Honecker". Chronik der Wende (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 28 February 2017.
- ↑ Epstein, Catherine (2003). The Last Revolutionaries: German Communists and their century. Harvard University Press. p. 112.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 Winkler, Heinrich August (2007). Germany: The Long Road West, Vol. 2: 1933–1990. Oxford University Press. pp. 266–268.
- ↑ "Der unterschätzte Diktator". Der Spiegel (ภาษาเยอรมัน). Hamburg. 20 August 2012. p. 46.
- ↑ Honecker, Erich (1984). "The GDR: A State of Peace and Socialism". Calvin College German Propaganda Archive.
- ↑ "Helsinki Final Act signed by 35 participating States". Organization for Security and Co-operation in Europe.
- ↑ Gedmin, Jeffrey (2003). The Hidden Hand: Gorbachev and the Collapse of East Germany. Harvard University Press. pp. 55–67.
- ↑ "The Opposition charges the SED with fraud in the local elections of May 1989 (May 25, 1989)". German History in Documents and Images.
- ↑ 12.0 12.1 12.2 Sebetsyen, Victor (2009). Revolution 1989: The Fall of the Soviet Empire. New York City: Pantheon Books. ISBN 978-0-375-42532-5.
- ↑ "Gorbachev in East Berlin". BBC News. 25 March 2009.
- ↑ "Plot to oust East German leader was fraught with risks". Chicago Tribune. 28 October 1990.
- ↑ "More Than 1,100 Berlin Wall Victims". Deutsche Welle. 9 August 2005. สืบค้นเมื่อ 8 August 2009.
- ↑ "Wo Honecker heimlich begraben wurde". Bild (ภาษาเยอรมัน). 25 August 2012.
- ↑ การลี้ภัยครั้งสุดท้ายของ ‘เอริค โฮเน็กเกอร์’ อดีตผู้นำเยอรมนีตะวันออก