เรือประจัญบานชั้นมอนแทนา
แบบจำลองเรือประจัญบานชั้นมอนแทนาในปี 1944
| |
ชั้นเรือโดยสรุป | |
---|---|
ชื่อ: | เรือประจัญบานชั้นมอนแทนา |
สร้างที่: | อู่ทหารเรือนิวยอร์ก อู่ทหารเรือฟิลาเดลเฟีย อู่ทหารเรือนอร์ฟอล์ก |
ผู้ใช้งาน: | กองทัพเรือสหรัฐ |
ชั้นก่อนหน้า: | ชั้นไอโอวา |
ชั้นถัดไป: | ไม่มี |
แผนที่จะสร้าง: | 5 |
สร้างเสร็จ: | 0 |
ยกเลิก: | 5 |
ลักษณะเฉพาะ | |
ประเภท: | เรือประจัญบาน |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): | |
ความยาว: | 921 ฟุต 3 นิ้ว (280.8 เมตร) (หัวถึงท้ายเรือ)[2] |
ความกว้าง: | 121 ฟุต 2 นิ้ว (36.9 เมตร)[2] |
กินน้ำลึก: | 36 ฟุต 1 นิ้ว (11 เมตร)[2] |
ระบบพลังงาน: |
|
ระบบขับเคลื่อน: |
|
ความเร็ว: | 28 นอต (52 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 32 ไมล์ต่อชั่วโมง) (สูงสุด)[2][5] |
พิสัยเชื้อเพลิง: | 15,000 ไมล์ทะเล (17,300 ไมล์; 27,800 กิโลเมตร) ที่ 15 นอต (28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 17 ไมล์ต่อชั่วโมง)[1] |
อัตราเต็มที่: |
ปกติ: 2,355 คน[2] เรือธง: 2,789 คน[2] |
ยุทโธปกรณ์: |
|
เกราะ: |
|
อากาศยาน: | 3 × เครื่องบินน้ำ Vought OS2U Kingfisher/Curtiss SC Seahawk |
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: | 2 × เครื่องยิงส่งอากาศยานที่ท้ายเรือ สำหรับการปล่อยเครื่องบินทะเล[3] |
หมายเหตุ: | เป็นเรือประจัญบานชั้นสุดท้ายที่ออกแบบโดยสหรัฐอเมริกา แม้จะมีแผนการสร้างแต่ถูกยกเลิกเสียก่อน |
เรือประจัญบานชั้นมอนแทนา (อังกฤษ: Montana-class battleships) แห่งกองทัพเรือสหรัฐเป็นชั้นเรือประจัญบานต่อจากเรือประจัญบานชั้นไอโอวา แม้จะไม่รวดเร็วเท่าแต่ประกอบไปด้วยระวางขับน้ำที่ใหญ่กว่า อาวุธที่หนักกว่า เกราะที่หนากว่า และความสามารถต่อสู้อากาศยานที่เหนือกว่าชั้นไอโอวา ซึ่งแน่นอนว่านี่จะเป็นเรือประจัญบานที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่สหรัฐอเมริกาเคยออกแบบและวางแผนที่จะสร้าง และจะเป็นเรือรุ่นเดียวที่สามารถเทียบชั้นได้กับเรือประจัญบานชั้นยามาโตะของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในแง่ของเกราะและขนาดของระวางขับน้ำ
สหรัฐได้วางแผนที่จะสร้างเรือชั้นมอนแทนาไว้ถึง 5 ลำด้วยกันคือ มอนแทนา, โอไฮโอ, เมน, นิวแฮมป์เชอร์ และลุยเซียนา ทั้ง 5 ลำได้รับอนุมัติให้สร้างเรียบร้อยแล้วระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง แต่การต่อเรือถูกยกเลิกไปเสียก่อนเนื่องจากมีความต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นเอสเซ็กซ์ และเรือประจัญบานอื่น ๆ ในชั้นไอโอวามากกว่า จึงทำให้เรือชั้นมอนแทนาทั้ง 5 ลำไม่ได้ถูกวางกระดูกงูเพื่อก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน
การวางแผนการต่อเรือชั้นมอนแทนาถูกวางไว้ตั้งแต่ก่อนที่สหรัฐจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง และเรือในชั้นนี้สองลำแรกได้รับการอนุมัติให้สร้างจากสภาคองเกรสในปี 1939 ภายหลังจากการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์โดยจักรวรรดิญี่ปุ่น ทำให้สหรัฐเลื่อนแผนการต่อเรือชั้นนี้ออกไป หลังจากนั้น ความสำเร็จจากการต่อสู้ทางอากาศในการรบที่ทะเลคอรัล (Coral Sea) และต่อด้วยยุทธนาวีเกาะมิดเวย์ ก็แสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพของเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความสำคัญในการรบเหนือกว่าเรือประจัญบาน ประกอบกับความต้องการเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือสะเทินน้ำสะเทินบก เรือต่อต้านเรือดำน้ำ และยังมีความต้องการเรือประจัญบานชั้นไอโอวาเพิ่มเติมเนื่องจากสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วพอที่จะใช้คุ้มกันเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นเอสเซ็กซ์ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้เรือประจัญบานชั้นมอนแทนาทั่ง 5 ลำถูกยกเลิกการสร้างถาวร และสหรัฐก็ไม่มีแผนในการสร้างเรือประจัญบานใด ๆ อีกเลยในเวลาต่อมา ทำให้เรือประจัญบานชั้นไอโอวาดำรงความเป็นเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่สหรัฐเคยมีต่อมาจนถึงปัจจุบัน
เรือในชั้น
[แก้]ชื่อ | หมายเลขตัวเรือ[6] | ผู้สร้าง[6] | อนุมัติการสร้าง[6] | ระงับการสร้าง[6] | ยกเลิกการสร้าง[6] |
---|---|---|---|---|---|
มอนแทนา (Montana) |
BB-67 | อู่ทหารเรือฟิลาเดลเฟีย, ฟิลาเดลเฟีย, รัฐเพนซิลเวเนีย | 19 กรกฎาคม 1940 | เมษายน 1942 | 21 กรกฎาคม 1943 |
โอไฮโอ (Ohio) |
BB-68 | ||||
เมน (Maine) |
BB-69 | อู่ทหารเรือนิวยอร์ก, นครนิวยอร์ก, รัฐนิวยอร์ก | |||
นิวแฮมป์เชอร์ (New Hampshire) |
BB-70 | ||||
ลุยเซียนา (Louisiana) |
BB-71 | อู่ทหารเรือนอร์ฟอล์ก, นอร์ฟอล์ก, รัฐเวอร์จิเนีย |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "US Battleships". USS Missouri Memorial Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-21. สืบค้นเมื่อ 2007-10-03.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 Newhart, Max R. (May 2007) [1995]. American Battleships: A Pictorial History of BB-1 to BB-71 with prototypes Maine & Texas (Battleship Memorial ed.). Missoula, Montana: Pictorial Histories Publishing Company. pp. 102–106. ISBN 1-57510-004-5.
{{cite book}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
(help) - ↑ These would have been the heaviest warships in the US Navy at the time of their commissioning; and would have remained the class with the greatest displacement until the commissioning of the Forrestal-class aircraft carriers, which weighed 79,300 long ton (80,600 t) fully loaded. "CV-59 Forrestal class". Military Analysis Network. Federation of American Scientists. 6 March 1999. สืบค้นเมื่อ 2007-12-24.
- ↑ Johnston, Ian; McAuley, Rob (2002). The Battleships. London: Channel 4 Books (an imprint of Pan Macmillian, LTD). p. 122. ISBN 0-7522-6188-6.
{{cite book}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 Friedman 1980, p. 100.