ข้ามไปเนื้อหา

เรือประจัญบานชั้นบิสมาร์ค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บิสมาร์ค ในปี ค.ศ. 1940
ภาพรวมชั้น
ชื่อ: เรือประจัญบานชั้นบิสมาร์ค
ผู้ใช้งาน: ธงกองทัพเรือของนาซีเยอรมนี ครีคส์มารีเนอ
ก่อนหน้าโดย: Scharnhorst class
ตามหลังโดย: H class (แผนงาน)
สร้างเมื่อ: 1936–1941
ในประจำการ: 1940–1944
เสร็จแล้ว: 2 ลำ
สูญเสีย: 2 ลำ
ลักษณะเฉพาะ
ประเภท: เรือประจัญบาน
ขนาด (ระวางขับน้ำ):
  • บิสมาร์ค:
    • 41,700 ตัน มาตรฐาน
    • 50,300 ตัน เต็มพิกัด
  • เทียร์พิทซ์:
    • 42,900 ตัน มาตรฐาน
    • 52,600 ตัน เต็มพิกัด
ความยาว:
  • 241.60 เมตร (ความยาวที่เส้นแนวน้ำ)
  • 251 เมตร (ความยาวโครงเรือ)
  • ความกว้าง: 36 เมตร
    กินน้ำลึก: 9.30 เมตร มาตรฐาน[a]
    ระบบพลังงาน:
    • 12 หม้อต้ม
    • บิสมาร์ค:[2] 148,120 แรงม้า
    • เทียร์พิทซ์:[2] 160,795 แรงม้า
    ระบบขับเคลื่อน:
  • 3 กังหันไอน้ำ
  • 3 ใบจักร
  • ความเร็ว: 30 นอต (56 กม/ชม)
    พิสัยเชื้อเพลิง:
    • บิสมาร์ค: 15,500 กม
    • เทียร์พิทซ์: 16,000 กม
    อัตราเต็มที่:
  • 103 นายทหาร
  • 1,962 พลทหาร
  • ยุทโธปกรณ์:
  • 8 ปืนใหญ่ 380 มม (4 ป้อม × 2 กระบอก)
  • 12 ปืนใหญ่ 150 มม (6 ป้อม × 2 กระบอก)
  • 16 ปตอ. 105 มม (8 ป้อม × 2 กระบอก)
  • 16 ปืนเรือ 37 มม (8 ป้อม × 2 กระบอก)
  • 20 ปืนเรือ 20 มม (20 ป้อม × 1 กระบอก)
  • เกราะ:
  • Bulkheads: 220 mm (8.7 in)
  • Belt: 320 mm (12.6 in)
  • Turrets: 360 mm (14.2 in)
  • Main deck: 100 ถึง 120 mm (3.9 ถึง 4.7 in)
  • อากาศยาน: 4 × Arado Ar 196
    อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: 1 double-ended catapult

    เรือประจัญบานชั้นบิสมาร์ค (อังกฤษ: Bismarck-class battleship) เป็นเรือประจัญบานที่สร้างขึ้นสำหรับครีคส์มารีเนอ ซึ่งประกอบด้วยเรือสองลำคือ บิสมาร์ค และ เทียร์พิทซ์ โดยเป็นชั้นเรือรบที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดที่สร้างขึ้นของครีคส์มารีเนอ

    ภูมิหลัง

    [แก้]

    ตามสนธิสัญญาแวร์ซาย เยอรมนีถูกจำกัดให้สร้างเรือรบขนาดไม่เกิน 10,000 ตัน และไม่สามารถมีเรือประจัญบานในครอบครอง แต่ภายหลังการลงนามใน ความตกลงทางเรืออังกฤษ–เยอรมัน เมื่อปี 1935 เยอรมนีได้รับอนุญาตให้มีกองเรือไม่เกิน 35% ของราชนาวีอังกฤษ สิ่งนี้เปิดทางให้โครงการเรือขนาดใหญ่กลับมาอีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อท้าทายการคุมเส้นทางเดินเรือของอังกฤษในมหาสมุทรแอตแลนติก

    การออกแบบ

    [แก้]

    เรือชั้นบิสมาร์คถูกออกแบบให้ใหญ่และทรงพลังเหนือกว่าคู่แข่งโดยตรง เช่น เรือประจัญบานชั้นคิงจอร์จที่ 5 ของอังกฤษ โดยมีระวางขับน้ำกว่า 41,000 ตัน ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 380 มม. 8 กระบอก และสามารถเดินทางไกลได้โดยไม่ต้องเติมเสบียงกลางทะเล จุดประสงค์หลักของเรือชั้นนี้ไม่ใช่การรบเรือประจัญบานต่อประจัญบานแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นภัยคุกคามต่อระบบลำเลียงทางทะเลของฝ่ายสัมพันธมิตร

    เรือชั้นบิสมาร์คประกอบด้วยเรือสองลำ ได้แก่ บิสมาร์ค และ เทียร์พิทซ์ ซึ่งมีการออกแบบร่วมกันในช่วงปลายทศวรรษ 1930 ตัวเรือมีความยาวประมาณ 251 เมตร, ความกว้าง 36 เมตร และระวางขับน้ำเมื่อบรรทุกเต็มที่ถึง 50,300 ตัน นับว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เยอรมนีเคยสร้างมา ตัวเรือมีลักษณะเพรียวแต่มั่นคง และเน้นการกระจายเกราะอย่างทั่วถึงโดยใช้หลักการว่า "หุ้มเกราะเฉพาะส่วนสำคัญ ส่วนอื่นไม่มีเกราะเลย" โดยเฉพาะบริเวณศูนย์กลางเรือที่มีแผ่นเกราะหนาสุดถึง 320 มม.[3]

    อาวุธหลักของเรือชั้นนี้คือ ปืนใหญ่ขนาด 380 มม. (15 นิ้ว) จำนวน 8 กระบอก ติดตั้งใน 4 ป้อมปืน ป้อมปืนละ 2 กระบอกเรียงคู่ สองป้อมวางหน้าเรือ สองป้อมวางท้ายเรือ จุดเด่นของการออกแบบคือ การเลือกขนาดปืนที่สมดุลระหว่างอำนาจการทำลายล้างกับน้ำหนักของระบบป้อมปืน ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพเรือในการเดินทะเลคลื่นสูง ขณะเดียวกันก็ยังสามารถเจาะเกราะเรือประจัญบานของศัตรูได้ที่ระยะไกลกว่า 30 กิโลเมตร

    ด้านระบบขับเคลื่อน เรือใช้กังหันไอน้ำแรงดันสูงของ Blohm & Voss ให้กำลังขับสูงสุด 150,000 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงถึง 30.8 น็อต (57 กม/ชม) สามารถปฏิบัติการไกลถึง 15,000 กิโลเมตรที่ความเร็วปกติ ซึ่งเพียงพอสำหรับการจู่โจมขบวนเรือพาณิชย์ในมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่ต้องเข้าฐานบ่อยครั้ง นอกจากนี้ การออกแบบยังให้ความสำคัญกับความสามารถในการต้านทานอากาศยาน โดยติดตั้งปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 105 มม. และ 37 มม. อย่างเป็นระบบ แม้จะยังไม่ทันสมัยเท่าของฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ถือว่ามีประสิทธิภาพในช่วงต้นสงคราม

    ปฏิกิริยาต่างประเทศ

    [แก้]

    การปรากฏตัวของเรือประจัญบานชั้นบิสมาร์ค สร้างความสั่นสะเทือนต่อสมดุลอำนาจทางทะเลของยุโรปอย่างรุนแรง ประเทศที่ตอบสนองต่อภัยคุกคามนี้อย่างชัดเจนที่สุดคือสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ซึ่งต่างตระหนักว่า เรือประจัญบานเยอรมันรุ่นใหม่นี้อาจเปลี่ยนทิศทางของสงครามทางทะเลได้โดยสิ้นเชิง

    สำหรับอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าทะเลมาเนิ่นนาน การสร้างเรือ บิสมาร์ค และ เทียร์พิทซ์ ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อตนเองโดยตรง ถึงแม้เยอรมนีจะอ้างว่าการสร้างเรือทั้งสองลำเป็นไปตามความตกลงทางเรืออังกฤษ-เยอรมันในปี 1935 ที่อนุญาตให้เยอรมนีมีเรือประจัญบานรวมกันไม่เกิน 35% ของน้ำหนักรวมของเรือประจัญบานอังกฤษ แต่ขนาดและอาวุธของบิสมาร์คทำให้แน่ชัดว่า เยอรมนีตั้งใจจะสร้าง “นักล่าแห่งมหาสมุทรแอตแลนติก” ซึ่งสามารถไล่ล่าและทำลายขบวนเรือสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ[4]

    อังกฤษจึงตอบโต้ด้วยการเร่งรัดโครงการเรือชั้นเรือประจัญบานชั้นคิงจอร์จที่ 5 พร้อมทั้งหันไปให้ความสำคัญกับเรือบรรทุกอากาศยานและอากาศยานประจำเรืออย่างจริงจัง การพัฒนาเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดจากเรือหลวง Ark Royal และเรือหลวง Victorious ในเวลาต่อมาถือเป็นผลลัพธ์โดยตรงของภัยคุกคามจากโครงการบิสมาร์คนั่นเอง อีกด้านหนึ่ง ฝรั่งเศสเองก็วิตกไม่แพ้กัน แม้จะมีภัยจากอิตาลีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ฝรั่งเศสก็ไม่อาจละเลยการเสริมกำลังเรือของเยอรมนีได้เช่นกัน การเริ่มสร้างเรือประจัญบานชั้นรีเชอลีเยอ พร้อมปืนหลักขนาด 380 มม. เท่ากับของบิสมาร์ค

    รายชื่อเรือในชั้น

    [แก้]
    ข้อมูลการสร้าง
    ชื่อเรือ อู่ต่อเรือ ตั้งชื่อตาม วางกระดูกงู ปล่อยลงน้ำ ประจำการ สถานะ
    บิสมาร์ค ฮัมบวร์ค อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค 1 ก.ค. 1936 14 ก.พ. 1939 24 ส.ค. 1940 อัปปางเมื่อ 27 พ.ค. 1941
    เทียร์พิทซ์ วิลเฮ็ลมส์ฮาเฟิน อัลเฟรท ฟ็อน เทียร์พิทซ์ 2 พ.ย. 1936 1 เม.ย. 1939 25 ก.พ. 1941 อัปปางเมื่อ 12 พ.ย. 1944

    อ้างอิง

    [แก้]
    1. Gröner, p. 33.
    2. 2.0 2.1 Gröner, pp. 33–35.
    3. Garzke, W. H., & Dulin, R. O. (1985). Battleships: Axis and Neutral Battleships in World War II. Naval Institute Press.
    4. Overy, Richard. Why the Allies Won. Jonathan Cape, 1995.
    1. Bismarck's draft at full load was 9.90 m (32 ft 6 in), while Tirpitz's was 10.60 m (34 ft 9 in).[1]