ข้ามไปเนื้อหา

เดอะฟอเรสต์ (วิดีโอเกม)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดอะฟอเรสต์
ผู้พัฒนาเอนด์ไนต์เกมส์
ผู้จัดจำหน่ายเอนด์ไนต์เกมส์
กำกับเบน ฟัลโคนี
ออกแบบแอนนา เทเลโควา
โปรแกรมเมอร์กีโยม เคเริน
แต่งเพลงเกบ คาสโตร
เอนจินยูนิตี
เครื่องเล่น
วางจำหน่าย
  • วินโดวส์
  • 30 เมษายน ค.ศ. 2018
  • เพลย์สเตชัน 4
  • 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018
แนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด, เกมเอาชีวิตรอด
รูปแบบผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น

เดอะฟอเรสต์ (อังกฤษ: The Forest) เป็นวิดีโอเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่พัฒนาและเผยแพร่โดยเอนด์ไนต์เกมส์ เกมดังกล่าวเกิดขึ้นบนคาบสมุทรที่มีป่าทึบที่ห่างไกล ซึ่งตัวละครฝ่ายผู้เล่นที่ชื่อเอริก เลอบลังก์ ต้องต่อสู้กับอสุรกายที่กินเนื้อคน ในขณะที่ค้นหาทิมมี ผู้เป็นลูกชายของเขาหลังจากเครื่องบินตก เกมดังกล่าวนำเสนอระบบเกมไม่เป็นเส้นตรงในสภาพแวดล้อมแบบโอเพนเวิลด์ที่เล่นจากมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง โดยไม่มีการกำหนดภารกิจหรือเควสต์ ทำให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจเอาชีวิตรอดได้ด้วยตนเอง หลังจากช่วงเบตาของเกมเล่นระหว่างการพัฒนานานสี่ปี เกมดังกล่าวได้รับการเผยแพร่สำหรับไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2018 และสำหรับเพลย์สเตชัน 4 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เกมนี้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ โดยขายได้กว่า 5 ล้านชุดภายในสิ้น ค.ศ. 2018 ส่วนเกมภาคต่ออย่างซันส์ออฟเดอะฟอเรสต์ อยู่ระหว่างการพัฒนา

รูปแบบการเล่น

[แก้]

ในเกมเดอะฟอเรสต์ ผู้เล่นจะควบคุมเอริก เลอบลังก์ และต้องเอาชีวิตรอดบนคาบสมุทรที่มีป่าไม้เพื่อค้นหาลูกชายของเขาที่ชื่อทิมมีหลังจากโศกนาฏกรรมเครื่องบินตก ผู้เล่นต้องเอาชีวิตรอดด้วยการสร้างที่พักพิง, อาวุธ และเครื่องมือเอาตัวรอดอื่น ๆ โดยอาศัยอยู่ในคาบสมุทรพร้อมกับสัตว์ป่านานาพันธุ์ ตลอดจนชนเผ่ากลายพันธุ์ที่กินเนื้อคนซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนพื้นดินและในถ้ำลึกใต้คาบสมุทร แม้ว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกับผู้เล่นเสมอไป แต่พฤติกรรมปกติของพวกเขาก็ก้าวร้าว โดยเฉพาะในตอนกลางคืน[1]

อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาต้องการให้ผู้เล่นตั้งคำถามว่าชนเผ่ากินเนื้อของคาบสมุทรดังกล่าวเป็นศัตรูของผู้เล่น หรืออีกฝ่ายหนึ่งก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน[1] ตัวอย่างเช่น เมื่อพบผู้เล่นเป็นครั้งแรก มนุษย์กินเนื้ออาจลังเลที่จะโจมตีและแทนที่จะสังเกตผู้เล่นจากระยะไกล, พยายามสื่อสารกับผู้เล่นผ่านหุ่นพยนต์ และส่งการลาดตระเวนไปรอบ ๆ ค่ายฐานของผู้เล่น ส่วนในการต่อสู้ พวกเขามักจะพยายามปกป้องกันและกันจากการบาดเจ็บ, กำจัดคบเพลิง, ล้อมรอบผู้เล่น, ซ่อนอยู่หลังที่กำบัง, ลากสมาชิกของเผ่าที่ได้รับบาดเจ็บไปยังที่ปลอดภัย, รักษาระยะห่าง, ใช้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์, ไม่ขยายขอบเขตไปยังดินแดนที่ไม่รู้จัก และบางครั้งก็ยอมจำนนด้วยความกลัว พวกมันยังกลัวไฟ และบางครั้งจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าใกล้ผู้เล่นหากมีแคมป์ไฟหรือคบเพลิงอยู่ใกล้ ๆ แม้ว่าจะไม่มีชุดภารกิจ แต่ก็มีบทสรุปที่เป็นทางเลือกให้แก่เกม[2]

ในขณะที่ผู้เล่นดำเนินไปตามเกมและสำรวจถ้ำใต้พื้นผิวป่า พวกเขาจะพบกับการกลายพันธุ์ที่แปลกประหลาดมากขึ้น รวมทั้งทารกที่มีรูปร่างผิดปกติและการกลายพันธุ์ที่มีส่วนต่อเสริมหลายอย่าง เกมดังกล่าวยังมีรอบกลางวันและกลางคืน โดยผู้เล่นสามารถสร้างที่พักพิงและกับดัก, ล่าสัตว์ รวมถึงรวบรวมเสบียงในระหว่างวัน ตลอดจนป้องกันตนเองจากมนุษย์กลายพันธุ์ในตอนกลางคืน[3]

ตามที่เห็นในบทนำของเกม ผู้เล่นมีหนังสือคู่มือการเอาตัวรอดที่ตัวละครสามารถเล่นได้ ซึ่งมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการเอาตัวรอดในถิ่นทุรกันดาร โดยที่คู่มือการเอาตัวรอดก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะช่วยให้ผู้เล่นสร้างพิมพ์เขียวสำหรับโครงสร้างต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้เล่นอยู่รอด ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะสร้างโครงสร้างเฉพาะแล้วเลือกสถานที่เฉพาะที่จะตั้งโครงสร้างนั้นไว้ในโลก เมื่อได้กำหนดพิมพ์เขียวแล้ว ผู้เล่นจะต้องรวบรวมทรัพยากรที่จำเป็น เช่น กิ่งไม้, หิน, ท่อนซุง ฯลฯ เพื่อทำให้โครงสร้างนั้นสมบูรณ์ ผู้เล่นสามารถเลือกโครงสร้างและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ได้ในคู่มือการเอาตัวรอด ซึ่งรวมถึงที่พักพิงเพื่อการเอาตัวรอดขั้นพื้นฐาน, กระท่อมไม้, บ้านต้นไม้, แท่นต้นไม้ ตลอดจนโครงสร้างที่ออกแบบเองซึ่งผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ในแง่ของขนาด, รูปร่าง และตำแหน่ง ส่วนที่พักและสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ที่ผู้เล่นสามารถสร้างได้นั้นมีตัวเลือกสำหรับการเซฟเกมเช่นกัน ซึ่งแท้ที่จริง นี่เป็นวิธีเดียวที่ใช้ได้สำหรับการเซฟ เนื่องจากไม่มีฟังก์ชันเซฟอัตโนมัติในเกม คู่มือการเอาตัวรอดยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่าในคาบสมุทร เมื่อผู้เล่นพบสัตว์หรือพืชที่ไม่รู้จักมาก่อน ผู้เล่นจะจดและปรากฏในคู่มือแนะนำ คู่มือนี้ยังมี "รายการสิ่งที่ต้องทำ" ซึ่งระบุเป้าหมายทั่วไปที่ผู้เล่นควรทำตาม เช่น การสร้างที่พักพิงหรือการสำรวจถ้ำต่าง ๆ

ผู้เล่นยังมีช่องเก็บของซึ่งสามารถเข้าถึงได้เกือบทุกเวลาในเกม ไอเทมใด ๆ ที่ผู้เล่นรวบรวมหรือรวบรวมในโลกจะได้รับการเก็บไว้ในช่องเก็บของ ซึ่งมีการออกแบบที่เหมือนจริงและแสดงตำแหน่งที่จัดเก็บแต่ละรายการ ไอเทมที่สามารถใส่ลงในช่องเก็บของได้ ได้แก่ เครื่องมือ, อาวุธ, เนื้อสัตว์, ขนและหนัง, สมุนไพรและดอกไม้, แผนที่, เข็มทิศ ตลอดจนสิ่งอื่น ๆ นอกจากนี้ ช่องเก็บของยังรวมถึงระบบการประดิษฐ์ ซึ่งการประดิษฐ์ในเกมขึ้นอยู่กับความรู้ของผู้เล่นเกี่ยวกับการรวมส่วนประกอบต่าง ๆ เข้าเป็นไอเทมและเครื่องมือที่มีประโยชน์ ตัวอย่างเช่น ในการสร้างขวานพื้นฐาน ผู้เล่นต้องรวบรวมและประกอบกิ่งไม้, หิน และเชือกเข้าด้วยกัน เมื่อผู้เล่นรวบรวมและวางไอเทมที่จำเป็นทั้งหมดไว้บนพื้นที่การประดิษฐ์ ไอคอนเฟืองจะปรากฏให้เห็น แสดงว่าผู้เล่นสามารถสร้างเครื่องมือ/อาวุธเฉพาะกิจ ในช่องเก็บของ ผู้เล่นยังสามารถเลือกที่จะวางไอเทม/อาวุธที่ต้องการสองชิ้นเพื่อเลือกอย่างรวดเร็วโดยกำหนดให้แก่แพดทิศทางบนคอนโทรลเลอร์เพลย์สเตชัน 4 หรือให้แก่คีย์เฉพาะบนพีซี

ผู้เล่นยังมีจอแสดงผลเฮดอัปดิสเพลย์ ที่ด้านล่างขวาของหน้าจอ จอแสดงผลเฮดอัปดิสเพลย์ดังกล่าวแสดงระดับสุขภาพ, พลังงาน, ความแข็งแกร่ง, ความหิว และความกระหายโดยรวมของผู้เล่น ปริมาณความแข็งแกร่งที่มีอยู่นั้นสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณพลังงานของผู้เล่น ส่วนความหิววัดจากไอคอนที่แสดงถึงท้องของมนุษย์ ในขณะที่ไอคอนความกระหายแสดงถึงหยดน้ำ ทั้งนี้ สามารถหาน้ำได้จากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงทะเลสาบและแม่น้ำที่มีอยู่จำนวนมากในโลก แม้ว่าส่วนใหญ่จะปนเปื้อนและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับผู้เล่น โดยน้ำที่ปนเปื้อนสามารถต้มฆ่าเชื้อได้ หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือสร้างที่เก็บน้ำ ซึ่งรวบรวมน้ำฝนไว้ในกระดองเต่า นอกจากนี้ สามารถได้อาหารจากสัตว์, พืช หรือแม้แต่มนุษย์อื่น ๆ ในโลก

โครงเรื่อง

[แก้]

เกมนี้เริ่มต้นด้วยการที่เอริก เลอบลังก์ นั่งอยู่บนเครื่องบินกับบุตรชายของเขาที่ชื่อทิมมี ก่อนที่มันจะตกลงมาบนคาบสมุทรซึ่งมีป่าทึบที่อยู่ห่างไกลในทันใด แม้จะเป็นผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เอริกที่สับสนก็ได้แต่มองอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อทิมมีถูกชายที่ร่างทาด้วยสีแดงได้ลักพาตัวก่อนที่จะหมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นในซากปรักหักพัง เอริกก็ออกไปตามหาลูกชายของเขา แต่พบว่าคาบสมุทรแห่งนี้ถูกครอบครองโดยมนุษย์กลายพันธุ์กินเนื้อคนผู้ดุร้าย และถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องปกป้องตัวเองในขณะที่เอาชีวิตรอดจากแผ่นดินดังกล่าว ในการค้นหาของเขา เอริคกพบเบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ของทิมมีในรูปแบบของภาพวาดดินสอสีในถ้ำหลายแห่ง เอริกอาจมองเห็นชายในร่างแดงจากระยะไกล ซึ่งจะหลบหนีหากเข้าใกล้

ในที่สุด ภาพวาดของทิมมีก็ได้นำเอริกไปยังห้องทดลองใต้ดินร้างซึ่งเป็นเจ้าของโดยสะฮาราเธอราพิวติกส์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยขนาดใหญ่ที่ทำการทดลองกับสิ่งมีชีวิตบนคาบสมุทร เมื่อเข้าไปในห้องทดลอง เอริกพบว่าบุคลากรในห้องทดลองได้เสียชีวิต และพบว่าพวกเขากำลังศึกษาสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าโอเบลิสก์คืนชีพ ซึ่งสร้างโดยกลุ่มลึกลับที่เรียกว่าเอนเชียนวันส์ โดยสิ่งประดิษฐ์นี้มีพลังในการชุบชีวิตคนตาย แต่ต้องมีการสังเวยเด็ก เอริกได้เรียนรู้ด้วยว่า ดร. แมทธิว ครอส ผู้ลักพาตัวลูกชายของเขาเป็นหัวหน้านักวิจัยที่สถานที่แห่งนี้ ก่อนที่จะสูญเสียเมแกนลูกสาวของเขาให้แก่มนุษย์กลายพันธุ์ที่หลบหนี ด้วยแรงผลักดันจากการตายของลูกสาวเขา ครอสจึงหันไปใช้สิ่งประดิษฐ์และลักพาตัวทิมมีมาเป็นเครื่องสังเวยเพื่อชุบชีวิตเมแกน

ในไม่ช้าเอริคก็พบว่าครอสตายแล้วจึงพบสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งเพียงพบศพของทิมมีอยู่ข้างใน เขาถูกสังเวยเพื่อชุบชีวิตเมแกน แม้จะสายเกินไปที่จะช่วยลูกชายของเขา แต่เอริกก็ตระหนักดีว่าเครื่องจักรที่เชื่อมต่อกับสิ่งประดิษฐ์นั้นยังคงสามารถนำมาใช้เพื่อชุบชีวิตทิมมี เมื่อลึกเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว เอริกก็พบเมแกนที่ฟื้นคืนชีพ แต่พบว่าเธอกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่ง และถูกบังคับให้ต้องสังหารเธอหลังจากที่เธอกลายพันธุ์และโจมตีเขา เอริกวางร่างของเมแกนไว้ในสิ่งประดิษฐ์ แต่จากนั้นก็ตระหนักว่าจำเป็นต้องมีการสังเวยชีวิตเป็น ๆ จากนั้น เขาก็ไปถึงหอดูดาวของสถานที่ดังกล่าว และค้นพบสิ่งประดิษฐ์ชิ้นที่สองที่รู้จักกันในชื่อโอเบลิสก์เพาเวอร์ โดยทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์อาวุธที่ใช้พัลส์แม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้เครื่องบินร่วงลงมาได้เมื่อเปิดใช้งาน ซึ่งหมายความว่าครอสใช้มันเพื่อทำให้เครื่องบินตก จากนั้น เอริกต้องเผชิญกับการเปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์หรือการปิดระบบดังกล่าว

เกมดังกล่าวมีฉากจบสองแบบ ได้แก่:

  • หากเอริกเปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์ เขาก็จะทำให้เครื่องบินลำอื่นตกและพบการสังเวยเพื่อชุบชีวิตทิมมี หนึ่งปีต่อมา เอริกและทิมมีได้รับการช่วยเหลือและได้รับเชิญให้เข้าร่วมรายการทอล์กโชว์เพื่อโปรโมตหนังสือของเอริก ซึ่งบันทึกประสบการณ์ของเขาบนคาบสมุทร ในระหว่างการแสดง ทิมมีก็ทรุดตัวลงและเริ่มสั่นอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าจะกลายพันธุ์เหมือนที่เมแกนมีอาการ เอริกเรียกขวัญทิมมีแล้วเขาก็กลับมาเป็นปกติ ครั้นหลายปีต่อมา ทิมมีที่ดูแก่ขึ้นกำลังสำรวจเกาะที่เรียกว่า "ไซต์ 2" ในขณะที่ยังคงพยายามข่มการกลายพันธุ์ของเขา
  • หากเอริกตัดสินใจปิดสิ่งประดิษฐ์นี้ เขาจะไว้ชีวิตทุกคนบนเครื่องบินโดยที่ทิมมีเสียชีวิต จากนั้นเอริกก็ออกจากสถานที่ดังกล่าว และเผารูปถ่ายของทิมมี โดยเลือกที่จะอยู่คนเดียวบนคาบสมุทรอย่างไม่มีกำหนด

การพัฒนา

[แก้]

เดอะฟอเรสต์ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เกินวิสัย เช่น หวีดมฤตยูขย้ำโลก และเปรตเดินดินกินเนื้อคน รวมถึงวิดีโอเกมอย่างดอนต์สตาร์ฟ[3][4] และได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของสตีมกรีนไลต์ใน ค.ศ. 2013[5] ส่วนเอนด์ไนต์เกมส์ผู้พัฒนาในประเทศแคนาดากล่าวว่าดิสนีย์เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เกมนี้ โดยแสดงความคิดเห็นว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ทั้งเกม "มืดมนและน่าหดหู่" โดยสิ้นเชิง[3] เกมดังกล่าวกำลังได้รับการพัฒนาให้เข้ากันได้กับออคิวลัสริฟต์ ซึ่งเป็นชุดหูฟังเสมือนจริง[6] หลังจากเพิ่มตัวเลือกโหมดร่วมมือกันในระหว่างการพัฒนา ทีมพัฒนาได้กล่าวว่าพวกเขาต้องการให้เกมนี้อยู่ห่างจากความรู้สึกที่มีผู้เล่นหลายคนจำนวนมากของเกมอื่น ๆ เช่น เดย์ซี และรัสต์[2][3]

ทีมพัฒนามีพื้นฐานด้านวิชวลเอฟเฟกต์ภาพยนตร์ โดยเคยทำงานในภาพยนตร์เช่นดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 2 และทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต ส่วนงบประมาณเริ่มต้นสำหรับเกมนี้คือ 125,000 ดอลลาร์[7] เกมดังกล่าวเปิดตัวครั้งแรกสำหรับไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ผ่านการทดลองใช้ก่อนเปิดตัวในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2018[8][9] และวางจำหน่ายในภายหลังสำหรับเพลย์สเตชัน 4 ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018[10] ทั้งนี้ เกมดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นโดยใช้เอนจินยูนิตี[11][12]

การตอบรับ

[แก้]
การตอบรับ
คะแนนรวม
ผู้รวมคะแนน
เมทาคริติกพีซี: 83/100[13]
เพลย์สเตชัน 4: 78/100[14]

เกมดังกล่าวได้รับการตอบรับเชิงบวกในช่วงการทดลองใช้ก่อนเปิดตัว[15][16] เกมนี้ขายได้กว่า 5.3 ล้านชุดในระบบวินโดวส์ภายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2018[7] ความสำเร็จของเกมทำให้เกิดภาคต่อในชื่อซันส์ออฟเดอะฟอเรสต์ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา[17] และซันส์ออฟเดอะฟอเรสต์จะได้รับการเปิดตัว ณ วันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2022[ต้องการอ้างอิง]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 Savage, Phil (28 May 2013). "The Forest interview: survival, horror and the VR wilderness". PC Gamer. สืบค้นเมื่อ 28 January 2014.
  2. 2.0 2.1 Matulef, Jeffrey (13 January 2014). "Ambitious open-world horror game The Forest detailed". Eurogamer. สืบค้นเมื่อ 27 January 2014.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 Robertson, John (29 January 2014). "The Forest: survival, horror and the guilt of killing – interview". VG247. สืบค้นเมื่อ 2 March 2014.
  4. Matulef, Jeffrey (8 May 2013). "First-person open-world survival horror game The Forest looks brilliant". Eurogamer. สืบค้นเมื่อ 27 January 2014.
  5. Savage, Phil (11 November 2013). "The Forest trailer shows continued survival, panicked combat and questionable effigies". PC Gamer. สืบค้นเมื่อ 28 January 2014.
  6. Hinkle, David (24 January 2014). "Explore virtual reality horror game The Forest in new screens". Joystiq. สืบค้นเมื่อ 28 January 2014.
  7. 7.0 7.1 McAloon, Alissa (5 November 2018). "Horror survival game The Forest has sold over 5.3 million copies". Gamasutra. UBM TechWeb. สืบค้นเมื่อ 6 November 2018.
  8. Sarkar, Samit (30 May 2014). "Survival horror game The Forest arrives on Steam Early Access". Polygon. สืบค้นเมื่อ 11 March 2020.
  9. Horti, Samuel (7 April 2018). "The Forest will leave behind four years of Early Access on April 30". PC Gamer. สืบค้นเมื่อ 11 March 2020.
  10. Romano, Sal (29 August 2018). "The Forest for PS4 launches November 6". Gematsu. สืบค้นเมื่อ 29 August 2018.
  11. Nunneley, Stephany (25 March 2014). "The Forest looks creepier with every set of screenshots released". VG247. สืบค้นเมื่อ 26 March 2014.
  12. "v0.16 Patch notes". The Forest official website. Endnight Games. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 April 2015. สืบค้นเมื่อ 20 July 2016.
  13. "The Forest for PC Reviews". Metacritic. CBS Interactive. สืบค้นเมื่อ 13 December 2019.
  14. "The Forest for PlayStation 4 Reviews". Metacritic. CBS Interactive. สืบค้นเมื่อ 13 December 2019.
  15. Jeffrey Matulef (8 May 2013). "First-person open-world survival horror game The Forest looks brilliant • Eurogamer.net". Eurogamer.net. สืบค้นเมื่อ 7 September 2014.
  16. "The Forest early look: scavenging and survival in a land of clever cannibals - PC Gamer". PC Gamer. 18 April 2014. สืบค้นเมื่อ 7 September 2014.
  17. Chalk, Andy (13 December 2019). "Sons of the Forest is a demon-hunting sequel to the 'terrifying' survival game The Forest". PC Gamer. สืบค้นเมื่อ 25 December 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]