เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี
เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี | |
---|---|
เจ้าหญิงแห่งอิหร่าน | |
ประสูติ | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2462 เตหะราน ประเทศอิหร่าน |
สิ้นพระชนม์ | 7 มกราคม พ.ศ. 2559 (96 ปี) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา |
พระสวามี | อาลี กอวัม (2480–2485; หย่า) อะห์มัด ชาฟิก (2487–2502; หย่า) เมห์ดี บูเชห์รี (2503–2559; สิ้นพระชนม์) |
พระบุตร | ชาห์ราม ปาห์ลาวี-นียา ชาห์ริยาร์ ชาฟิก อาซาเดห์ ชาฟิก |
ราชวงศ์ | ปาห์ลาวี |
พระราชบิดา | เรซา ชาห์ ปาห์ลาวี |
พระราชมารดา | ตาจญ์ อัล-โมลูก อัยรุมลู |
เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี (เปอร์เซีย: اشرف پهلوی Ashraf Pahlavī; 26 ตุลาคม พ.ศ. 2462 — 7 มกราคม พ.ศ. 2559) เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี กับสมเด็จพระราชินีตาจญ์ อัล-โมลูก และเป็นพระขนิษฐาฝาแฝดของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ชาห์องค์สุดท้ายแห่งอิหร่าน
พระประวัติ
[แก้]เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี กับสมเด็จพระราชินีตาจ อัล-โมลูก ประสูติเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2462 ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน มีพระเชษฐภคินีคือเจ้าหญิงชามส์ พระเชษฐาฝาแฝดคือชาห์โมฮัมหมัด เรซา และพระอนุชาคือเจ้าชายอาลี เรซา
โดยภายหลังพระเชษฐาฝาแฝดของพระองค์ได้เถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นชาห์แห่งอิหร่านและชาห์พระองค์สุดท้ายของอิหร่าน นอกจากนี้เจ้าหญิงอัชราฟสามารถรับสั่ง ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสได้
เสกสมรส
[แก้]เจ้าหญิงอัชราฟ ทรงเสกสมรสทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งแรก เจ้าหญิงอัชราฟได้เสกสมรสกับกับอาลี กอวัม ชาวชีราส ประเทศอิหร่าน ทั้งคู่มีโอรส 1 องค์ คือ ชาห์ราม กอวัม แต่เจ้าหญิงได้ทรงหย่า พระโอรสของเจ้าหญิงจึงใช้พระราชสกุลปาห์ลาวี-นียา [1]
ต่อมาเจ้าหญิงได้เสกสมรสอีกครั้งกับอะหมัด ชาฟิก ชาวอียิปต์ โดยทั้งคู่มีพระบุตร 2 พระองค์ คือ ชาห์ริยาร์ ชาฟิก และอาซาเดห์ ชาฟิก และท้ายที่สุด เจ้าหญิงก็เสกสมรสกับเมห์ดี บูเชห์รี แต่ไม่มีพระบุตร อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงอัชราฟยังประทับลี้ภัยในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ส่วนเมห์ดี บูเชห์รีนั้น พำนักอยู่ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งคู่จึงมิค่อยได้มีโอกาสได้พบกัน
ในปี 2523 จูดี เคลเมสรุด (Judy Klemesrud) นักหนังสือพิมพ์จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ได้มาสัมภาษณ์เจ้าหญิงอัชราฟ เจ้าหญิงตรัสว่า "ฉันไม่ใช่แม่ที่ดี เพราะในชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยทำให้ลูก ๆ มีความสุขเลย"[2]
สิ้นพระชนม์
[แก้]เจ้าหญิงอัชราฟสิ้นพระชนม์ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 สิริพระชันษา 96 ปี[3] ทั้งนี้รอเบิร์ต เอฟ. อาร์เมา (Robert F. Armao) ที่ปรึกษาส่วนพระองค์ ให้การว่าสาเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์คือ "ความชราภาพ" และกล่าวว่า เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์อย่างสงบในลักษณะบรรทม ณ พระตำหนักแห่งหนึ่งในยุโรปและไม่บ่งว่าเป็นประเทศใด โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัยในครอบครัวของพระองค์[4]
งานพระนิพนธ์
[แก้]เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี มีพระปรีชาสามารถในด้านการนิพนธ์หนังสือ โดยเจ้าหญิงได้นิพนธ์หนังสือไว้ 3 เล่ม โดย 2 เล่มแรก ตีพิมพ์ที่ประเทศอังกฤษ และอีก 1 เล่ม ตีพิมพ์ที่ประเทศฝรั่งเศส คือ
- Faces in a Mirror: Memoirs from Exile ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2523
- Jamais Resignee ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2524
- Time for Truth ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2538
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Ashraf Pahlavi Institute for Iranian Contemporaly Histolical Studies
- ↑ "Deposed Shah's Sister, in Heavily Guarded Luxury, Tells of Her Life-in-Exile :Security Guards With Dog 'Comfortable' Financial Situation. ", Ibid
- ↑ "Persian Princess Ashraf Pahlavi passes away in New York". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-11. สืบค้นเมื่อ 2016-01-09.
- ↑ Stack, Liam (2016-01-08). "Ashraf Pahlavi, Sister of Iran's Last Shah, Dies at 96". The New York Times. ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2016-01-08.