ข้ามไปเนื้อหา

อาเบียงกา เที่ยวบินที่ 203

พิกัด: 4°35′N 74°13′W / 4.583°N 74.217°W / 4.583; -74.217
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

4°35′N 74°13′W / 4.583°N 74.217°W / 4.583; -74.217

อาเบียงกา เที่ยวบินที่ 203
โบอิง 727-100 ของอาเบียงกา คล้ายกับลำที่เกิดเหตุ
สรุปอุบัติการณ์
วันที่27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989
สรุปลอบวางระเบิด
จุดเกิดเหตุโคลอมเบีย
ประเภทอากาศยานโบอิง 727
ดําเนินการโดยอาเบียงกา
ทะเบียนHK-1803
ต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติเอลโดราโด
ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติอัลฟอนโซ
โบนิยา อารากอน
ผู้โดยสาร101 คน
ลูกเรือ6 คน
เสียชีวิต110 คน (รวม 3 คนบนพื้นดิน)
รอดชีวิตไม่มี

อาเบียงกา เที่ยวบินที่ 203 เป็นเที่ยวบินภายในประเทศโคลอมเบีย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเอลโดราโดในกรุงโบโกตา ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอัลฟอนโซ โบนิยา อารากอนในเมืองกาลี เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบินโบอิง 727-21 ทะเบียน HK-1803 ซื้อมาจากสายการบินแพนอเมริกันเวิลด์แอร์เวส์ ออกเดินทางเมื่อเวลา 7 นาฬิกา 13 นาที บินอยู่นาน 5 นาที ด้วยความเร็ว 794 กิโลเมตร/ชั่วโมง (493 ไมล์/ชั่วโมง) ก่อนจะระเบิดเหนือเขตเทศบาลโซอาชา[1] ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด 101 คน และ 3 คนบนพื้นดินเสียชีวิต เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุรุนแรงในความขัดแย้งโคลอมเบีย

จากการสืบสวนพบว่าระเบิดถูกวางใกล้กับถังเชื้อเพลิงโดยผู้ชายสวมสูทที่ซ่อนระเบิดไว้ในกระเป๋าถือ[2] ภายหลังมีการเปิดเผยว่าปาโบล เอสโกบาร์ ผู้นำกลุ่มค้ายาเมเดยินเป็นผู้วางแผนการระเบิดเพื่อหวังสังหารเซซาร์ กาบิเรีย ตรูฮิโย ผู้สมัครประธานาธิบดีโคลอมเบียในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 1990[3][4] แต่กาบิเรียไม่ได้อยู่บนเครื่องและต่อมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบีย[5] จากเหตุการณ์ทำให้มีชาวอเมริกันเสียชีวิต 2 คน ทำให้รัฐบาลสหรัฐเริ่มปฏิบัติการไล่ล่าเอสโกบาร์[5] ต่อมาดันเดนี มุญโญซ โมสเกรา หัวหน้านักฆ่าของกลุ่มค้ายาเมเดยิน ผู้ก่อเหตุถูกจับกุมและถูกศาสสหรัฐตัดสินจำคุกตลอดชีวิต[6]

ในปี ค.ศ. 2016 หนังสือพิมพ์ เอลเอสเปกตาดอร์ ของโคลอมเบียตีพิมพ์รายงานเหตุการณ์นี้[7] โดยแย้งว่าการระเบิดเกิดจากตัวปั๊มเชื้อเพลิงที่มีปัญหามาก่อนหน้านี้[8]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. https://www.youtube.com/watch?v=byTR6eyCjf8 Documentary on the Attack
  2. Salud (July 23, 2009). "La ley antitabaco empezó a regir. ¿Qué prohíbe?". Semana (ภาษาสเปน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-30. สืบค้นเมื่อ 2016-12-04.
  3. Bowden, Mark (2001). Killing Pablo: The Hunt for the World's Greatest Outlaw. p. 80. ISBN 0-87113-783-6.
  4. "OBJETIVO: GAVIRIA". Semana. 8 May 1995.
  5. 5.0 5.1 Bowden, pg. 81.
  6. "The Hit Man Nobody Knows". Westword. May 17, 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-08. สืบค้นเมื่อ 2016-12-04.
  7. Thomas Hoffman, Pablo Correa, Sergio Silva. "Avianca 203, la historia que nunca nos contaron". El Espectador (ภาษาสเปน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-05. สืบค้นเมื่อ 2016-12-04.{{cite news}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  8. Thomas Hoffman, Pablo Correa, Sergio Silva (December 2, 2016). "Avianca 203, la historia que nunca nos contaron. Capitulo 5: El detalle inconveniente". El Espectador (ภาษาสเปน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-04. สืบค้นเมื่อ 2016-12-04.{{cite news}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]