อัลเบร์โต ฟูฆิโมริ
อัลเบร์โต ฟูฆิโมริ | |
---|---|
ฟูฆิโมริใน ค.ศ. 1991 | |
ประธานาธิบดีเปรู คนที่ 54 | |
ดำรงตำแหน่ง 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1990 – 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 | |
นายกรัฐมนตรี | ดูรายชื่อ
|
รองประธานาธิบดี | ดูรายชื่อ
|
ก่อนหน้า | อาลัน การ์ซิอา |
ถัดไป | บาเลนติน ปาเนียกัว |
ประธานคณะรัฐบาลฉุกเฉินและบูรณะชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 5 เมษายน ค.ศ. 1992 – 9 มกราคม ค.ศ. 1993 | |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | ยุบเลิกตำแหน่ง |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | อัลเบร์โต เกเนีย ฟูฆิโมริ อิโนโมโต 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1938[a] ลิมา ประเทศเปรู |
เสียชีวิต | 11 กันยายน ค.ศ. 2024 ลิมา ประเทศเปรู | (86 ปี)
ที่ไว้ศพ | สุสาน Campo Fe Huachipa |
สัญชาติ |
|
พรรคการเมือง | กัมบิโอ 90 (1990–1998) ซีกุมเปล (1998–2010) ประชาชนใหม่ (2007–2013) ฟูเอร์ซาโปปูลาร์ (2024) |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | นูเอบามาโยริอา (1992–1998, สมาชิกที่ไม่สังกัด) เปรู 2000 (1999–2001) อาลิอันซาโปร์เอลฟูตูโร (2005–2010) กัมบิโอ 21 (2018–2019) |
คู่สมรส |
|
บุตร | 4 คน รวมเกย์โกและเกนยิ |
ความสัมพันธ์ | ซานเตียโก ฟูฆิโมริ (น้องชาย) |
ศิษย์เก่า | National Agrarian University (BS) มหาวิทยาลัยสทราซบูร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน–มิลวอกี (MS) |
ลายมือชื่อ | |
ข้อมูลอาชญากรรม | |
สถานะทางคดี | ต้องโทษ[1] |
ข้อหา | การละเมิดสิทธิมนุษยชน, ฆาตกรรม, การลักพาตัว, การยักยอก, การใช้อำนาจในทางที่ผิด, ติดสินบน และทุจริต |
บทลงโทษ | จำคุก 25 ปี (คดีละเมิดสิทธิมนุษยชน, ฆาตกรรม และลักพาตัว) จำคุก 6 ปี (คดีใช้อำนาจในทางที่ผิด) จำคุก 7 ปีครึ่ง (คดียักยอก) จำคุก 6 ปี (คดีติดสินบนและทุจริต) |
อัลเบร์โต เกเนีย ฟูฆิโมริ อิโนโมโต (สเปน: Alberto Kenya Fujimori Inomoto,[2] ออกเสียง: [alˈβeɾto fuxiˈmoɾi]) มีชื่อเดิมว่า เค็งยะ ฟูจิโมริ (ญี่ปุ่น: 藤森 謙也; ทับศัพท์: Fujimori Kenya; 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1938[a] – 11 กันยายน ค.ศ. 2024) เป็นนักการเมือง ศาสตราจารย์ และวิศวกรชาวเปรูที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูคนที่ 54 ใน ค.ศ. 1990 ถึง 2000[b]
เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "เผด็จการแห่งเปรู"[7][8] เนื่องจากรัฐบาลของเขาเต็มไปด้วยเครือข่ายการทุจริตที่ก่อการโดยวลาดิมีโร มอนเตซินอสซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของเปรูในขณะนั้น[9][10][11] อย่างไรก็ตามฟูฆิโมริเป็นผู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจเปรูที่ตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (hyperinflation) และจัดการกับผู้ก่อการร้ายในประเทศ แต่ภายหลังเขาโดนข้อหาการทุจริตในตำแหน่งหน้าที่และละเมิดสิทธิมนุษยชนจนต้องหลบหนีออกนอกประเทศใน ค.ศ. 2000 ไปอาศัยที่ประเทศญี่ปุ่น ใน ค.ศ. 2006 ฟูฆิโมริถูกจับหลังเดินทางมาประเทศชิลี เขาถูกนำตัวไปดำเนินคดีและโดนลงโทษจำคุก 6 ปีในข้อหาการใช้อำนาจโดยมิชอบ[12] [13]
ประวัติ
[แก้]ชีวิตช่วงต้น และการศึกษา
[แก้]รายงานจากเอกสารรัฐบาล ฟูฆิโมริเกิดใน ค.ศ. 1938 ที่มิราฟลอเรส เขตหนึ่งในลิมา[3][14][15] บิดาชื่อ นาโออิจิ ฟูจิโมริ (สกุลเดิม: มินามิ) ผู้ได้รับเลี้ยงจากญาติที่ไม่มีลูก ส่วนมารดาชื่อ มุตสึเอะ อิโนโมโตะ ทั้งสองมาจากคูมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น และอพยพเข้าเปรูใน ค.ศ. 1934[16][17] ทำให้ฟูฆิโมริมีทั้งสัญชาติเปรูและสัญชาติญี่ปุ่น เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมการเกษตรจากมหาวิทยาลัยการเกษตรแห่งชาติลาโมลินา และปริญญาโทสาขาคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-มิลวอกีในสหรัฐ[18]
ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
[แก้]ฟูฆิโมริลงสมัครประธานาธิบดีใน พ.ศ. 2533 เศรษฐกิจของประเทศเปรูในขณะนั้นตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง เขานำเสนอนโยบายแก้ปัญหาโดยการปฏิรูปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แตกต่างจากบาร์กัส โยซา คู่แข่งที่เสนอจะใช้นโยบายรุนแรง เขาชนะการเลือกตั้งไปอย่างเหนือความคาดหมาย และกลายเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับตำแหน่งผู้นำประเทศในทวีปอเมริกาใต้
แต่เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งจริง ฟูฆิโมริได้ทำการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแตกต่างจากนโยบายที่เขาใช้หาเสียง โดยใช้วิธีเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ส่งผลกระทบรุนแรง (ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ฟูฆิช็อก") เช่น ยกเลิกการควบคุมค่าสาธารณูปโภคซึ่งมีผลทำให้ราคาสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมไปถึงน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก ยกเลิกการควบคุมค่าเงิน เปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ ปรับระบบการเก็บภาษี การปรับเปลี่ยนนโยบายเหล่านี้มีจุดประสงค์อย่างหนึ่งคือ เพื่อให้องค์การการเงินระหว่างประเทศยอมยื่นมือช่วยเหลือประเทศเปรูซึ่งในขณะนั้นไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยตัวเองได้[19] หลังจากที่ฟูฆิโมริดำเนินนโยบายดังกล่าว กองทุนการเงินระหว่างประเทศจึงยอมให้เปรูกู้ยืมเงิน เงินเฟ้อลดลงอย่างรวดเร็ว และการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น[20] นอกจากนี้ เขายังทำการแปรรูปองค์กรรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก และเปลี่ยนค่าเงินของเปรูจากอินตีเป็นนวยโบซอล
อย่างไรก็ตาม ฟูฆิโมริไม่สามารถปฏิรูปเศรษฐกิจหรือจัดการกับกบฏลัทธิเหมากลุ่มเซนเดโรลูมิโนโซได้ตามที่เขาต้องการเพราะอำนาจในสภาตกอยู่กับพรรค APRA และ FREDEMO เขาจึงทำรัฐประหารตนเอง (auto-coup) ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2535 การทำรัฐประหารครั้งนี้นอกจากจะเป็นที่ยอมรับของประชาชนแล้วยังทำให้คะแนนความนิยมของรัฐบาลฟูฆิโมริสูงขึ้นด้วย ฟูฆิโมริมักใช้การสนับสนุนของประชาชนเป็นข้อแก้ตัวในการทำรัฐประหารครั้งนี้ว่า “มันไม่ใช่การกระทำที่ขัดแย้งกับประชาธิปไตย แต่เป็นการตามหาการเปลี่ยนแปลงที่จะรับประกันประชาธิปไตยที่ถูกต้องและมีประสิทธิผล”[21]
การทำรัฐประหารของฟูฆิโมริถูกต่อต้านจากนานาชาติ องค์การนานารัฐอเมริกาต่อต้านการทำรัฐประหารและเรียกร้องให้กลับคืนสู่ระบอบระบอบประชาธิปไตย[22] หลังการเจรจาระหว่างองค์การนานารัฐอเมริกา รัฐบาล และกลุ่มผู้คัดค้าน ฟูฆิโมริต้องการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อให้ยอมรับรัฐประหาร แต่องค์การนานารัฐอเมริกาปฏิเสธ ฟูฆิโมริจึงเสนอให้มีการเลือกตั้ง Democratic Constituent Congress (CCD) ซึ่งมีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และให้มีการทำประชามติรับรอง ข้อเสนอนี้ได้รับยอมรับจากการประชุมเฉพาะกิจขององค์การนานารัฐอเมริกาในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม และการเลือกตั้ง CCD ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1992[21]
นอกจากนี้ ประเทศต่าง ๆ ก็แสดงท่าทีต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้ เวเนซุเอลาตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและอาร์เจนตินาถอนทูตออกจากประเทศเปรู ชิลีเข้าร่วมกับอาร์เจนตินาในการเรียกร้องให้เปรูถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกองค์การนานารัฐอเมริกา ประเทศที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่างยืดเวลาการส่งความช่วยเหลือออกไป สหรัฐ เยอรมนี และสเปน ยกเลิกการช่วยเหลืออื่นที่ไม่ใช่การช่วยเหลือในด้านมนุษยชน รัฐประหารครั้งนี้จึงส่งผลกระทบต่อแผนการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจและสร้างความยุ่งยากต่อการคืนเงินให้แก่ไอเอ็มเอฟ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
[แก้]- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[23] ( ไทย)
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 ฟูฆิโมริอ้างว่าเกิดในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบการประกาศเอกราชของเปรูจากสเปน แต่เอกสารอื่นระบุวันที่เกิดเป็น 26 กรกฎาคม ฟูฆิโมริอ้างถึงวันที่หลังในการพิจารณาคดีในศาลประเทศญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 2001[3][4]
- ↑ บลาดีมีโร มอนเตซิโนสได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้กุมอำนาจอย่างแท้จริง ส่วนอัลเบร์โต ฟูฆิโมริทำหน้าที่เพียงหุ่นเชิดภายใต้อิทธิพลของเขา มอนเตซิโนสผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าตำรวจลับของรัฐบาลโดยพฤตินัยจนถึง ค.ศ. 2000 เมื่อสำนักงานถูกยุบเลิก เขาจึงให้ความเห็นในเวลานั้นว่า "[ฟูฆิโมริ] บิดไปมาได้สมบูรณ์: เขาไม่ทำอะไรเลยโดยที่ผมไม่รู้"[5][6]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ปล่อยตัวในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 2023
- ↑ "Official electoral data file". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-25. สืบค้นเมื่อ 2013-12-10.
- ↑ 3.0 3.1 "Fujimori sacó DNI con fecha falsa sobre su nacimiento". La República (ภาษาสเปน). 7 March 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 August 2019. สืบค้นเมื่อ 22 June 2024.
- ↑ Hernon, Matthew (2024-09-12). "Former Peruvian President Alberto Fujimori Dies at 86". Tokyo Weekender. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 September 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-09-16.
- ↑
- McMillan, John; Zoido, Pablo (Autumn 2004). "How to Subvert Democracy: Montesinos in Peru". The Journal of Economic Perspectives. 18 (4): 69. doi:10.1257/0895330042632690. hdl:10419/76612. S2CID 219372153.
In the 1990s, Peru was run ... by its secret-police chief, Vladimiro Montesinos Torres.
- Vargas Llosa, Mario (27 March 1994). "Ideas & Trends: In His Words; Unmasking the Killers in Peru Won't Bring Democracy Back to Life". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 March 2023. สืบค้นเมื่อ 24 March 2023.
The coup of April 5, 1992, carried out by high-ranking military felons who used the President of the Republic himself as their figurehead, had as one of its stated objectives a guaranteed free hand for the armed forces in the anti-subversion campaign, the same armed forces for whom the democratic system – a critical Congress, an independent judiciary, a free press – constituted an intolerable obstacle.
- "Spymaster" (ภาษาอังกฤษ). Australian Broadcasting Corporation. August 2002. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 March 2023. สืบค้นเมื่อ 29 March 2023.
Lester: Though few questioned it, Montesinos was a novel choice. Peru's army had banished him for selling secrets to America's CIA, but he'd prospered as a defence lawyer – for accused drug traffickers. ... Lester: Did Fujmori control Montesinos or did Montesinos control Fujimori? ... Shifter: As information comes out, it seems increasingly clear that Montesinos was the power in Peru.
- Keller, Paul (26 October 2000). "Fujimori in OAS talks PERU CRISIS UNCERTAINTY DEEPENS AFTER RETURN OF EX-SPY CHIEF". Financial Times.
Mr Montesinos ... and his military faction, ... for the moment, has chosen to keep Mr Fujimori as its civilian figurehead
- "THE CRISIS OF DEMOCRATIC GOVERNANCE IN THE ANDES" (PDF). Woodrow Wilson International Center for Scholars. 2001. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 April 2023. สืบค้นเมื่อ 25 March 2023.
Alberto Fujimori,... as later events would seem to confirm—merely the figurehead of a regime governed for all practical purposes by the Intelligence Service and the leadership of the armed forces
- "Questions And Answers: Mario Vargas Llosa". Newsweek (ภาษาอังกฤษ). 9 January 2001. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 March 2023. สืบค้นเมื่อ 25 March 2023.
Fujimori became a kind of, well, a figurehead
- McMillan, John; Zoido, Pablo (Autumn 2004). "How to Subvert Democracy: Montesinos in Peru". The Journal of Economic Perspectives. 18 (4): 69. doi:10.1257/0895330042632690. hdl:10419/76612. S2CID 219372153.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ:9
- ↑ "Alberto Fujimori profile: Deeply divisive Peruvian leader". BBC News. 8 December 2011. สืบค้นเมื่อ 4 May 2023.
- ↑ Charles D. Kenney, 2004 Fujimori's Coup and the Breakdown of Democracy in Latin America (Helen Kellogg Institute for International Studies) University of Notre Dame Press ISBN 0-268-03172-X
- ↑ Julio F. Carrion (ed.) 2006 The Fujimori Legacy: The Rise of Electoral Authoritarianism in Peru. Pennsylvania State University Press ISBN 0-271-02748-7
- ↑ Catherine M. Conaghan 2005 Fujimori's Peru: Deception in the Public Sphere (Pitt Latin American Series) University of Pittsburgh Press ISBN 0-8229-4259-3
- ↑ (ในภาษาสเปน) Esteban Cuya, La dictadura de Fujimori: marionetismo, corrupción y violaciones de los derechos humanos, Centro de Derechos Humanos de Nuremberg, July 1999. Retrieved 22 October 2006.
- ↑ "Profile: Alberto Fujimori". BBC NEWS.เรียกข้อมูลวันที่ 2008-06-17(อังกฤษ)
- ↑ "Fujimori jailed for abusing power". BBC NEWS.เรียกข้อมูลวันที่ 2008-06-17 (อังกฤษ)
- ↑ Alberto Fujimori's Birth Certificate เก็บถาวร 17 มีนาคม 2024 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน modified by Vladimiro Montesinos to make believe that he was Peruvian and assume the presidency
- ↑ Champion, Margaret Y. (2006). Peru and the Peruvians in the Twentieth Century: Politics and Prospects. New York: Vantage Press. p. 476. ISBN 0-533-15159-7.
- ↑ McClintock, Cynthia; Fabián Vallas (2002). The United States and Peru. New York: Routledge. p. 50. ISBN 0-415-93463-X.
- ↑ González Manrique, Luis Esteban (1993). La encrucijada peruana: de Alan García a Fujimori (ภาษาสเปน). Madrid: Fundación CEDEAL. p. 467. ISBN 84-87258-38-7.
- ↑ Famous people major in Mathematics เก็บถาวร 2007-04-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, University of Rochester website. Retrieved on June 29, 2008
- ↑ "The Fujishock". 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-02. สืบค้นเมื่อ 2008-06-25. (อังกฤษ)
- ↑ Gouge, Thomas. Exodus from Capitalism: The End of Inflation and Debt. 2003, page 364.
- ↑ 21.0 21.1 Barry S. Levitt. 2006 “A desultory defense of democracy: OAS Resolution 1080 and the Inter-American Democratic Charter. (Organization of American States).” Latin American Politics and Society 48 (3) :93-123.
- ↑ Smith, Peter H. Latin America in Comparative Perspective: New Approaches to Methods and Analysis. 1995, page 238.
- ↑ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Biography and tenure by CIDOB Foundation (ในภาษาสเปน)
- ข้อมูลการออกสื่อ บน ซี-สแปน
- แม่แบบ:Charlie Rose view
- อัลเบร์โต ฟูฆิโมริ ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- อัลเบร์โต ฟูฆิโมริ ข่าวสารและความเห็นที่ผ่านการรวบรวมในเดอะนิวยอร์กไทมส์
- The Fall of Fujimori on POV at PBS, 2006
- State of Fear a documentary of Peru's war on terror based on the findings of the Peruvian Truth and Reconciliation Commission