ศาลรัฐธรรมนูญสหพันธ์
ศาลรัฐธรรมนูญสหพันธ์![]() | |
---|---|
![]() | |
สถาปนา | ค.ศ. 1951[1] |
ที่ตั้ง | คาลส์รูเออ |
พิกัด | 49°00′45″N 8°24′06″E / 49.012422°N 8.40161°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 49°00′45″N 8°24′06″E / 49.012422°N 8.40161°E |
วิธีได้มา | สภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนรัฐเลือกตั้ง |
ที่มา | กฎหมายหลักสำหรับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Basic Law for the Federal Republic of Germany) |
วาระตุลาการ | 12 ปี (แต่ต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุ 68 ปี) |
จำนวนตุลาการ | 16 ตำแหน่ง |
เว็บไซต์ | Bundesverfassungsgericht.de |
ประธานศาล | |
ปัจจุบัน | Andreas Voßkuhle |
ตั้งแต่ | 16 มีนาคม 2010 |
รองประธาน | |
ปัจจุบัน | Stephan Harbarth |
ตั้งแต่ | 30 พฤศจิกายน 2018 |
ศาลรัฐธรรมนูญสหพันธ์[2] (เยอรมัน: Bundesverfassungsgericht, ย่อว่า BVerfG; อังกฤษ: Federal Constitutional Cour) เป็นศาลรัฐธรรมนูญชั้นสูงสุดแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญซึ่งเรียกว่า "กฎหมายพื้นฐานของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี" มีที่ทำการอยู่ ณ เมืองคาลส์รูเออ โดยเจตนาจะให้อยู่ห่างจากหน่วยงานรัฐบาลกลางในกรุงเบอร์ลินและเมืองอื่น ๆ
ภารกิจหลักของศาล คือ การทบทวนโดยฝ่ายตุลาการ ศาลจึงสามารถวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย และกฎหมายที่ศาลวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญจะสิ้นผลไป ในแง่นี้ ศาลมีอำนาจทำนองเดียวกับศาลสูงสุดอื่น ๆ ที่สามารถพิจารณาทบทวนการกระทำของรัฐได้ แต่ศาลยังมีอำนาจเพิ่มเติมอีกหลายประการ บรรดานักนิยมการแทรกแซง (interventionist) จึงถือว่า ศาลนี้เป็นศาลระดับชาติที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี แม้เป็นศาลสูง แต่ศาลไม่รับชำระอุทธรณ์จากศาลอื่น
เขตอำนาจของศาลนั้นมุ่งไปที่ประเด็นความชอบด้วยรัฐธรรมนูญและหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐในอันที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ศาลมีอำนาจทบทวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติให้ความเห็นชอบแล้ว เพื่อให้เป็นที่มั่นใจว่า การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ขัดกับหลักการในกฎหมายหลักตามที่บทนิรันดร์ (eternity clause) ระบุไว้
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา การที่ศาลใช้อำนาจควบคุมรัฐธรรมนูญอย่างมหาศาลและเป็นนิจ แต่ก็ตั้งอยู่บนหลักการยับยั้งชั่งใจของฝ่ายตุลาการและการปรับปรุงการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศาลมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ของประเทศเยอรมนี
เขตอำนาจ[แก้]
กฎหมายหลัก มาตรา 20 อนุมาตรา 3 บัญญัติว่า รัฐธรรมนูญย่อมผูกพันอำนาจทั้งสามแห่งรัฐ คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ โดยตรง ฉะนั้น ไม่ว่าเป็นการกระทำของอำนาจใด และไม่ว่าจะเป็นเพียงการละเมิดแบบพิธี (เช่น ไม่ปฏิบัติตามกระบวนการ หรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจ) หรือเป็นความขัดแย้งที่เป็นสาระสำคัญ (เช่น ไม่เคารพสิทธิพลเมือง) ศาลก็สามารถวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้ทั้งสิ้น
อำนาจของศาลนั้นมีบัญญัติไว้ในกฎหมายหลัก มาตรา 93[3] แต่รายละเอียดนั้นกำหนดอยู่ในกฎหมายส่วนกลาง คือ รัฐบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญสหพันธ์ (Bundesverfassungsgerichts-Gesetz; Federal Constitutional Court Act) รัฐบัญญัตินี้ยังระบุวิธีบังคับตามคำวินิจฉัยของศาลด้วย โดยนัยดังกล่าว ศาลจึงมีวิธีพิจารณาที่เคร่งครัด และเรื่องที่อยู่ในอำนาจมีดังนี้
- การร้องทุกข์ตามรัฐธรรมนูญ (Verfassungsbeschwerde; constitutional complaint) เป็นกรณีที่บุคคลสามารถร้องทุกข์ต่อศาลว่า ถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่น้อยครั้งที่ผู้ร้องทุกข์จะชนะคดี เพราะตามสถิติแล้ว ตั้งแต่ปี 1951 มีเพียงร้อยละ 2.5 ที่ชนะคดี แต่หลายคดี ๆ ก็ส่งผลให้กฎหมายจำนวนมากถูกวินิจฉัยให้เป็นโมฆะ โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร อนึ่ง ตั้งแต่ปี 1957 ถึงปี 2002 มีคดีทำนองนี้ขึ้นสู่ศาลจำนวน 135,968 เรื่อง คดีส่วนใหญ่ของศาลจึงเป็นคดีประเภทนี้
- การควบคุมกฎแบบนามธรรม (abstract regulation control) เป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่ารัฐบาลกลางหรือรัฐบาลท้องถิ่น สามารถเสนอให้ศาลวินิจฉัยว่า กฎหมายส่วนกลางชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ คดีมีชื่อที่สุด คือ คดีทำแท้งเมื่อปี 1975 ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า กฎหมายที่ให้เลิกเอาผิดกับการทำแท้งนั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
- การควบคุมกฎแบบเจาะจง (specific regulation control) เป็นกรณีที่ศาลอื่นจะใช้กฎหมายใดแล้วเห็นว่า กฎหมายนั้นอาจไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ศาลดังกล่าวสามารถงดการพิจารณาแล้วเสนอให้ศาลวินิจฉัยได้
- การพิพาทส่วนกลาง (federal dispute) เป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐบาลกลาง รวมถึงสภาผู้แทนราษฎร (Bundestag) สามารถเสนอให้ศาลวินิจฉัยเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องอำนาจหน้าที่หรือวิธีปฏิบัติราชการภายในหน่วยงานนั้นได้
- การพิพาทส่วนท้องถิ่น (state–federal dispute) เป็นกรณีที่รัฐ (Länder) ในประเทศเยอรมนีสามารถเสนอให้ศาลวินิจฉัยเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างรัฐกับรัฐบาลกลางว่าด้วยอำนาจหน้าที่หรือวิธีปฏิบัติราชการได้
- การควบคุมคณะกรรมการสืบสวน (investigation committee control)
- การตรวจสอบการเลือกตั้งส่วนกลาง (federal election scrutiny) เป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งสามารถเสนอให้ศาลวินิจฉัยเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งได้
- การขับเจ้าหน้าที่ของรัฐออกจากตำแหน่ง (impeachment) เป็นกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนรัฐ (Bundesrat) หรือรัฐบาลกลาง สามารถขอให้ศาลขับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ เช่น ประธานาธิบดี หรือตุลาการ ออกจากตำแหน่งเพราะละเมิดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายส่วนกลางได้
- การยุบพรรคการเมือง (prohibition of political party) เป็นอำนาจของศาลนี้ศาลเดียวในประเทศเยอรมนี การยุบพรรคการเมืองเกิดมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้ง 2 ครั้งเกิดในคริสต์ทศวรรษที่ 1950 ครั้งแรก ยุบพรรคชาติสังคมนิยม (Socialist Reich Party) ของฝ่ายนาซีใหม่ เมื่อปี 1952 ครั้งที่ 2 ยุบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเยอรมนี (Communist Party of Germany) เมื่อปี 1956 การขอให้ยุบพรรคการเมืองเป็นครั้งที่ 3 มีขึ้นในปี 2003 ศาลวิจิฉัยว่า สมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติเยอรมนี (National Democratic Party of Germany) เป็นอุปนิกขิตที่หน่วยงานลับของรัฐบาลส่งเข้ามาแฝงตัว ตุลาการลงมติ 4 ต่อ 4 และตามธรรมนูญศาลแล้ว ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ถือว่า ยกคำร้อง พรรคดังกล่าวจึงไม่ถูกยุบ
ตั้งแต่ปี 2009 สืบมา กฎหมายที่ศาลวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้นมีมากกว่า 600 ฉบับ[4]
การจัดองค์การ[แก้]

ศาลมีสมาชิกทั้งหมด 16 คน แบ่งไปจัดตั้ง "ที่ประชุมใหญ่" (Senate) 2 แห่ง แห่งละ 8 คน ที่ประชุมใหญ่จะจ่ายสมาชิกของตนไปนั่งเป็นองค์คณะซึ่งมีทั้งหมด 3 องค์คณะ แต่ละองค์คณะประกอบด้วยตุลาการ 3 คน
ประธานที่ประชุมใหญ่คน 1 เป็นประธานศาล อีกคน 1 เป็นรองประธานศาล ประธานทั้ง 2 ยังนั่งเป็นองค์คณะ 2 ใน 3 องค์คณะแห่งที่ประชุมใหญ่ของตนด้วย ประธานที่ประชุมใหญ่ทั้ง 2 จะสลับกันเป็นประธานศาล กล่าวคือ เมื่อประธานที่ประชุมใหญ่แห่ง 1 เป็นประธานศาลแล้ว สมัยหน้า ประธานที่ประชุมใหญ่อีกแห่ง 1 จะเป็นประธานศาล
การวินิจฉัยขององค์คณะต้องเป็นไปตามมติเอกฉันท์เท่านั้น องค์คณะเป็นของที่ประชุมใหญ่แห่งใด องค์คณะนั้นไม่สามารถวินิจฉัยหักล้างปทัสถานซึ่งที่ประชุมใหญ่แห่งนั้นตั้งไว้ได้ ต้องให้ที่ประชุมใหญ่แห่งนั้นวินิจฉัยสถานเดียว การวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมากเด็ดขาด (absolute majority) แต่บางกรณีก็อนุญาตให้ใช้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 ได้ อนึ่ง ที่ประชุมใหญ่แห่ง 1 ไม่สามารถวินิจฉัยหักล้างปทัสถานของที่ประชุมใหญ่อีกแห่ง 1 ได้ ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ "ที่ประชุมเต็มคณะ" (Plenum) ซึ่งตุลาการทั้ง 16 คนจะมาชุมนุมกันวินิจฉัย
ศาลปฏิบัติต่างจากศาลอื่นของเยอรมนีตรงที่มักเปิดเผยคะแนนเสียง แต่มักเป็นคะแนนเสียงรอบสุดท้ายเท่านั้น ข้อแตกต่างอันสำคัญอีกประการ คือ ศาลอนุญาตให้สมาชิกของศาลเสนอความเห็นแย้งได้ สิทธิเสนอความเห็นแย้งนี้รับรองขึ้นเมื่อปี 1971
การแต่งตั้งตุลาการ[แก้]

ตามกฎหมายหลัก สมาชิกของศาลนั้นรัฐสภาเลือกตั้ง แต่ละสภาของรัฐสภามีอำนาจเลือกตั้งสมาชิกของศาลสภาละ 8 คน และจะสลับกันเลือกประธานศาล การเลือกตั้งสมาชิกของศาลนั้นต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3
ในทางปฏิบัติ สภาผู้แทนราษฎรมอบหมายภารกิจนี้ให้องค์กรที่เรียก "คณะกรรมการเลือกตั้งตุลาการ" (Richterwahlausschuss; judges election board) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 1 แม้นักวิชาการหลายคนเห็นว่า วิธีนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดร้องเป็นคดีต่อศาล
ตุลาการแต่ละคนอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลา 12 ปี แต่พ้นจากตำแหน่งทันทีที่อายุครบ 68 ปี บุคคลจะเป็นตุลาการได้ต้องมีอายุ 40 ปีแล้ว และต้องเป็นนักนิติศาสตร์ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างจัดเจน ในบรรดาตุลาการทั้ง 16 คนนั้น 6 คน (ที่ประชุมใหญ่ละ 3 คน) ต้องเป็นตุลาการศาลส่วนกลาง อีก 10 คน (ที่ประชุมใหญ่ละ 5 คน) ต้องเป็นนักนิติศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ข้าราชการ หรือทนายความ เมื่อวาระดำรงตำแหน่งสิ้นสุดลง ตุลาการส่วนใหญ่มักไม่รับราชการต่อไปอีก แต่มีกรณียกเว้นซึ่งเป็นที่จดจำกันแพร่หลาย คือ โรมัน แฮร์ซอก (Roman Herzog) ประธานศาล ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 1994 ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งไม่นาน
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Reference to The Federal Constitutional Court's Webpage saying that its establishment was in 1951". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-21. สืบค้นเมื่อ 2013-11-26.
- ↑ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ. ศาลรัฐธรรมนูญกับแนวคิดประชาธิปไตย ที่ปกป้องตนเองได้ (Sustainable Democracy) กรุงเทพฯ : สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ, 2563. (หน้า 85)
- ↑ "Art. 93" [Jurisdiction of the Federal Constitutional Court] (PDF). Basic Law for the Federal Republic of Germany (ภาษาอังกฤษ และ เยอรมัน). Berlin: German Bundestag. 2010. pp. 82–83. สืบค้นเมื่อ August 19, 2010.
- ↑ Law, David S., The Anatomy of a Conservative Court in Texas Law Review lxxxvii: 1545–93
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- รัฐบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญสหพันธ์: ภาษาเยอรมัน • ภาษาอังกฤษ