ข้ามไปเนื้อหา

วัดแสงแก้วโพธิญาณ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดแสงแก้วโพธิญาณ
บริเวณเทวดาและยักษ์แบกระฆัง(ด้านหน้า) และวิหารหลวงลายคำ(ด้านบน)ก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้
แผนที่
ที่ตั้งตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
นิกายมหานิกาย
พระพุทธรูปสำคัญสมเด็จองค์ปฐม
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

ประวัติ[แก้]

วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ ตั้งอยู่บนดอย “ม่อนแสงแก้ว” ตั้งอยู่เลขที่ 191 หมู่ 11 บ้านใหม่แสงแก้ว ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ขนาดพื้นที่ประมาณ 29 ไร่เศษตั้งอยู่บนเนินดอยห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทัศนียภาพที่สวยงามมองลงมาเห็นทั้งตัวอำเภอแม่สรวย และหลายตำบลของอำเภอแม่สรวย มีถนนลาดยางถึง

วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ตรงกับเดือนแปดเป็งของล้านนา ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา วันเพ็ญเดือนหก สร้างโดยท่านพระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต คณะศรัทธาบ้านป่าตึงงาม และศิษยานุศิษย์เมื่อครั้งที่ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต ได้ย้ายจากวัดพระธาตุดงสีมา ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มาจำพรรษา ณ ศาลามหาป่า ในใจกลางของหมู่บ้านป่าตึงงาม โดยการรับนิมนต์ของ พ่อหลวงยา ศรีทา และคณะศรัทธาชาวบ้านใหม่แสงแก้ว(บ้านป่าตึงงามในขณะนั้น) หมู่ที่ 11 ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พ่อหลวงยา ศรีทาและคณะศรัทธาบ้านป่าตึงงาม อยากจะมีวัดใหม่ที่สะดวกต่อการทำบุญของญาติโยม จึงได้นำเรื่องมาปรึกษากับท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต ผู้ซึ่งเป็นพระนักคิดนักสร้าง เป็นผุ้อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม จรรโลงพระพุทธศาสนา เจริญรอยตามครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยอยู่แล้ว จึงได้คิดสร้างวัดใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นพุทธสถาน เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน หลังจากนั้นท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโตได้ทำการสำรวจพื้นที่ ที่จะก่อสร้างวัด กับพ่อหลวงยา ศรีทา และคณะศรัทธาบ้านป่าตึงงาม โดยใช้เวลานานหลายวันก็ยังไม่พบสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเป็นพื้นที่ในการก่อ สร้างวัด แต่แล้วด้วยบุญญาบารมี ของท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต และความศรัทธาอย่างแรงกล้าของชาวบ้านที่จะสร้างวัด คืนหนึ่งขณะที่ท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต จำวัดอยู่ได้นิมิตรว่ามีที่ดินเป็นเนินไม่สูงมากนัก มีต้นไม้ร่มรื่นล้อมรอบไปด้วยไม้ไผ่ท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต พึงพอใจในสถานที่แห่ง นี้เป็นยิ่งนัก จึงได้เล่านิมิตที่ท่านพบมาให้กับพ่อหลวงยา ศรีทาและชาวบ้านฟัง คณะพ่อหลวงยา ศรีทาและชาวบ้านได้พาท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโตออกสำรวจพื้นที่โดยรอบของหมู่บ้าน จนมาถึงท้ายของหมู่บ้าน พบสวนของชาวบ้าน ท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต จึงได้สำรวจพื้นที่ โดยรอบสวนพบว่ามีลักษณะเป็นสวนและมีต้นไผ่ล้อมรอบคล้ายกับสถานที่ที่ท่านได้ นิมิตรพบในคืนที่ผ่านมา ท่านครูบาเดินออกสำรวจพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว แล้วบอกกับคณะที่ติดตามท่านไป ในการสำรวจครั้งนั้นว่า ท่านพอใจในสถานที่แห่งนี้เป็นยิ่งนัก เหมาะสำหรับการก่อสร้างวัดเพื่อเป็นศาสนสถานในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและ เป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และสถานที่แห่งนี้เป็นของใคร พ่อหลวงยา ศรีทาจึงได้บอกว่าเป็นสวนของผู้ที่มีฐานะดี คงจะไม่ยอมขายให้และถ้าหากขายก็คงจะต้องราคาแพง ความเป็นไปได้ที่จะได้ที่ดินเพื่อมาสร้างวัดคงจะไม่มีท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต จึงได้เดินไปจนถึงยอดเนินของสถานที่แห่งนั้น และได้จุดธูปเทียน พร้อมทั้งกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล และตั้งจิตอธิษฐานว่า “หากสถานที่แห่งนี้ แม้เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่อันเป็นมังคละคู่บารมีท่านในการที่จะได้จรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไป แล้ว ขอให้ได้ที่ดินผืนนี้มา”

เมื่อท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโตตั้งจิตอธิษฐานเสร็จแล้ว พ่อหลวงยา ศรีทา ได้เชิญเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นผู้มีฐานะดีมาพบกับท่านครูบาเพื่อพูดคุยปรึกษา หารือในเรื่องการสร้างวัดบนของที่ดินผืนนี้ เจ้าของที่ดินได้ถวายที่ดินประมาณ 19 ไร่เศษให้กับท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโตเพื่อสร้างวัดอย่างง่ายดาย สร้างความประหลาดใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับคณะผู้ติดตามท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เป็นอย่างมากหลังจากที่เจ้าของที่ดินได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัด ท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโตได้ร่วมกับคณะศรัทธาปรับปรุงพื้นที่ พร้อมระบบสาธารณูปโภค เมื่อศิษยานุศิษย์ คณะศรัทธาและผู้ที่นับถือ ท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต ทราบข่าวการสร้างวัด ได้แสดงความจำนงค์ในการร่วมสมทบทุน สร้างวัดเป็นจำนวนมาก

ที่มาของชื่อวัดแสงแก้วโพธิญาณ คือ "แสงแก้ว" มาจากแสงอันสว่างไสวราวกับดวงแก้วที่เปล่งประกายออกมาจากดอกบัว และสัญลักษณ์ "ดอกบัว" ที่พบในนิมิตก็อุปมาได้กับ"พระโพธิญาณ"อันเป็นความรู้แจ้งสูงสุด หรือ ความรู้ในการตรัสรู้ นั้นเอง(โพธิญาณ มาจากคำว่า โพธิ แปลว่า ตรัสรู้และคำว่า ญาณ แปลว่าแปลว่า หยั่งรู้ คำว่า"โพธิญาณ"จึงแปลให้เข้าใจง่ายๆว่า ความรู้ในการตรัสรู้ หรือ ตรัสรู้ความรู้ในสัจธรรม

จากเดิมเป็นเนินดอยม่อนแสงแก้วซึ่งปรากฏในนิมิตของครูบาอริยชาติ จึงกลายเป็นวัดแสงแก้วโพธิญาณ และพระภาวนารัตนญาณ(ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต)ก็ย้ายจากวัดพระธาตุดงสีมา มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน[1]

เหตุเพลิงไหม้[แก้]

เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน พ.ศ.2567 ฝ่ายปกครอง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ผู้ใหญ่บ้านใหม่แสงแก้ว หมู่ที่ 11 ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยกู้ภัยแสงแก้วโพธิญาณ ในอุปถัมภ์ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต และหน่วยกู้ภัยอื่น ๆ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้วิหารภายในวัดแสงแก้วโพธิญาณ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังกันเข้าไปดับไฟ ซึ่งพบว่าจุดที่เกิดไฟไหม้เป็นวิหารหลวงโดยมีนามว่าวิหารหลวงลายคำซึ่งเป็นวิหารหลักที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด โดยไฟได้โหมลุกไหม้หนักบริเวณหลังคาจนเกิดเป็นเปลวไฟและควันคละคลุ้งเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งฉีดพ่นน้ำเพื่อดับไฟอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากวิหารดังกล่าวเป็นที่ประดิษฐานของพระแสงแก้วโพธิญาณและพระพุทธรูปอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน

โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในเวลาประมาณ 02:40 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน แต่จากการตรวจสอบภายนอก พบว่า ส่วนหลังคาได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากหรือเกือบทั้งหมด ส่วนภายในวิหารยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่เอาไว้เพื่อความปลอดภัยรวมทั้งจัดเวรยามดูแลพื้นที่เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรแม่สรวย(สภ.แม่สรวย) และหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของไฟไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

ต่อมา นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย รุดไปตรวจสอบสภาพวิหาร พบโครงสร้างของวิหารยังคงยืนหยัดอยู่ได้ แต่ผิวฉาบภายนอก พื้นวิหาร พระพุทธรูปและวัตถุต่าง ๆ ถูกไหม้จนเสียหายทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อสรุปว่าจะทำการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ดี

ส่วนบรรยากาศ ที่วิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ ได้มีการนำเอาเชือกกั้นแนวมากั้นพื้นที่ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในวิหาร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เช้า ชาวบ้านระบุว่า วิหารที่ถูกไฟไหม้ก่อสร้างมานานกว่า 16 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ได้ร่วมคิดร่วมสร้างกันมา

ส่วนทรัพย์สินภายในวิหาร คาดว่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพราะมีทั้งพระพุทธรูปสำคัญ หุ่นขี้ผึ้ง และของตกแต่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบกับสภาพจิตใจของชาวบ้านที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก บางคนอยู่ตั้งแต่ไฟไหม้ตอนนี้ยังไม่ได้กลับบ้านก็มี ขณะที่พระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เจ้าอาวาสวัด ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างจำวัดอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีกำหนดจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ทำให้พระทศพร กิตฺติธโร ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสเป็นการชั่วคราว ได้รายงานให้ครูบาอริยชาติทราบแล้ว ซึ่งท่านได้เตือนให้ทุกคนมีสติ ให้มีจิตใจที่เย็น เพราะสิ่งที่ไหม้ก็ให้แล้วไปเพราะผู้คนยังคงอยู่

โดยช่วงเวียนเทียนในวัดมาฆบูชาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ครูบาอริยชาติ ได้บอกว่าให้ระวังจะเกิดไฟไหม้ จนมาเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นจริง ๆ

สำหรับวัดแสงแก้วโพธิญาณเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดเชียงราย ภายในวัดมีผลงานพุทธศิลป์ที่งดงาม และมีพระภาวนารัตนญาณ วิ. (ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าอาวาสซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนและคนทั่วไป

โดยเฉพาะมีเมตตาในการช่วยเหลือด้านการมอบรถพยาบาลไปทั่วประเทศ จัดตั้งหน่วยกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือด้านอุบัติเหตุ มอบทุนการศึกษา และอื่น ๆ อีกมากมาย

อ้างอิง[แก้]

  1. 19ปี ใต้ร่มโพธิญาณ 1ทศวรรษ 16 พรรษา พระภาวนารัตนญาณ(ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต) จากดินสู่ฟ้า จากครูบาฯสู่เจ้าคุณฯ, พิมพ์ที่บริษัทพิมพ์ดี จำกัด, มกราคม 2560,หน้า 90