ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปฏิบัติการสะพานลอนดอน"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 30: | บรรทัด 30: | ||
มีการเตรียมเคลื่อนหีบพระศพไว้หลายทาง สุดแต่ว่าจะสวรรคตที่ใด เช่น |
มีการเตรียมเคลื่อนหีบพระศพไว้หลายทาง สุดแต่ว่าจะสวรรคตที่ใด เช่น |
||
* ถ้าสวรรคต ณ [[ปราสาทวินด์เซอร์]] หรือ[[ตำหนักซานดริงแฮม]] จะเคลื่อนหีบพระศพด้วยรถยนต์ไปยังพระราชวังบักกิงแฮมภายใน 1-2 วัน |
* ถ้าสวรรคต ณ [[ปราสาทวินด์เซอร์]] หรือ[[ตำหนักซานดริงแฮม]] จะเคลื่อนหีบพระศพด้วยรถยนต์ไปยังพระราชวังบักกิงแฮมภายใน 1-2 วัน |
||
* ถ้าสวรรคตต่างประเทศ จะให้[[No. 32 Squadron RAF|กองบินที่ 32]] ลำเลียงหีบพระศพไปยัง |
* ถ้าสวรรคตต่างประเทศ จะให้[[No. 32 Squadron RAF|กองบินที่ 32]] ลำเลียงหีบพระศพไปยังฐานทัพอากาศ[[RAF Northolt|นอร์ตโฮลต์]] แล้วเคลื่อนต่อด้วยรถยนต์ไปยังพระราชวังบักกิงแฮม |
||
* ถ้าสวรรคต ณ [[พระราชวังโฮลีรูด]]ในสกอตแลนด์ จะไว้หีบพระศพ ณ [[St Giles' Cathedral|อาสนวิหารนักบุญไจลส์]] (St Giles' Cathedral) แล้วจึงขนย้ายต่อด้วย[[British Royal Train|รถไฟหลวง]]ไปยังลอนดอน |
* ถ้าสวรรคต ณ [[พระราชวังโฮลีรูด]]ในสกอตแลนด์ จะไว้หีบพระศพ ณ [[St Giles' Cathedral|อาสนวิหารนักบุญไจลส์]] (St Giles' Cathedral) แล้วจึงขนย้ายต่อด้วย[[British Royal Train|รถไฟหลวง]]ไปยังลอนดอน |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:43, 1 ธันวาคม 2563
ปฏิบัติการสะพานลอนดอน (อังกฤษ: Operation London Bridge) เป็นรหัสลับเรียกแผนดำเนินการต่าง ๆ เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคตลง[1][2][3][4] เดิมทีแผนนี้วางขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 และปรับปรุงเรื่อยมาทุกปี ในการวางแผนมีความร่วมมือจากกระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ เป็นต้นว่า หน่วยตำรวจนครบาล กองทัพบริติช ราชอุทยานลอนดอน ตลอดจน คริสตจักรอังกฤษ และสื่อมวลชน นอกจากนี้ การตัดสินใจสำคัญบางประการยังเป็นพระวินิจฉัยของสมเด็จพระราชินีนาถโดยตรง แต่บางเรื่องที่ต้องอาศัยการวินิจฉัยของผู้สืบบัลลังก์ต่อก็มี
แผนนี้กำหนดให้ใช้ข้อความว่า "สะพานลอนดอนพังแล้ว" (London Bridge is down) เป็นรหัสสำหรับบอกคนวงใน เช่น นายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญอื่น ๆ ให้ทราบว่า สมเด็จพระราชินีนาถสวรรคตแล้ว จะได้เริ่มปฏิบัติตามแผน
ความเป็นมา
ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานพระศพในสหราชอาณาจักรนั้นดำเนินการไม่เรียบร้อยมาตลอด เป็นต้นว่า ในงานพระศพเจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์เมื่อ ค.ศ. 1817 สัปเหร่อล้วนเมาสุรา ขณะที่งานพระศพพระเจ้าจอร์จที่ 4 เมื่อ ค.ศ. 1830 นั้น นิตยสาร ไทมส์ บันทึกว่า "บริหารจัดการแย่" (ill-managed) พฤติการณ์เหล่านี้มาเปลี่ยนแปลงเอาเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงเตรียมงานพระศพของพระองค์มาตั้งแต่ ค.ศ. 1875 จนสวรรคตลงใน 26 ปีให้หลัง[1]
การใช้รหัสลับสำหรับบอกข่าวการสวรรคตนั้น เริ่มเมื่อพระเจ้าจอร์จที่ 6 สวรรคตใน ค.ศ. 1952 มีการแจ้งข้อความว่า "มุมสวนไฮด์" (Hyde Park Corner) ต่อข้าราชการผู้ใหญ่ เพื่อเป็นนัยว่า พระเจ้าแผ่นดินสิ้นแล้ว ทั้งนี้ เพื่อมิให้ผู้ควบคุมแผงไฟในพระราชวังบักกิงแฮมรู้ข่าวเร็วเกินไป[1][2]
ส่วนสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี นั้น มีการใช้แผนเรียก "ปฏิบัติการสะพานเทย์" (Operation Tay Bridge) สำหรับเตรียมงานพระศพล่วงหน้าถึง 22 ปี และแผนนี้ก็ใช้เป็นแบบแผนงานพระศพเจ้าหญิงไดอานาใน ค.ศ. 1997[1]
แผน
แผนสำหรับดำเนินการเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคตแล้ว มีดังนี้
วันสวรรคต
คริสโตเฟอร์ ไกดต์ (Christopher Geidt) ราชเลขาธิการ เป็นข้าราชการคนแรกที่มีหน้าที่รับมือกับข่าวการสวรรคต สิ่งแรกที่เขาจะทำ คือ ติดต่อนายกรัฐมนตรี แล้วข้าราชการทั้งหลายก็จะแจ้งข้อความ "สะพานลอนดอนพังแล้ว" ต่อ ๆ กันไปทางโทรศัพท์ที่มีระบบป้องกัน[1] จากนั้น ศูนย์ปฏิกิริยาโลก (Global Response Centre) ในสังกัดสำนักต่างประเทศ ซึ่งมีที่ตั้งอันไม่เปิดเผยอยู่ในลอนดอน จะแจ้งข่าวการสวรรคตไปยังรัฐบาล 15 ประเทศในเครือจักรภพประชาชาติที่สมเด็จพระราชินีนาถทรงเป็นประมุข[1]
แล้วจะมีการแจ้งสื่อมวลชน โดยแถลงต่อสมาคมสื่อ และต่อบีบีซีทางระบบส่งผ่านการแจ้งเตือนทางวิทยุ (Radio Alert Transmission System) รวมถึงต่อสถานีวิทยุพาณิชย์ทั้งหลายผ่านเครือข่าย "ไฟมรณะ" (obit light) สีฟ้า ซึ่งจะเป็นที่รับทราบของพิธีกรรายการวิทยุว่า ถึงเวลาเปิด "เพลงที่เหมาะสม" และเตรียมเสนอข่าวฉับพลัน ในการนี้ นิตยสาร ไทมส์ มีเวลา 11 วันสำหรับเตรียมออกข่าว ส่วนสำนักข่าวไอทีเอ็นและสกายนิวส์ได้ซักซ้อมเกี่ยวกับการสวรรคตมานานแล้ว โดยใช้คำว่า "คุณนายรอบินสัน" (Mrs Robinson) เรียกสมเด็จพระราชินีนาถแทน[1]
ครั้นแล้ว ชาวพนักงานจะติดกระดาษขอบดำลงประกาศการสวรรคตไว้ตามประตูพระราชวังบักกิงแฮม ขณะเดียวกัน เว็บไซต์สำนักพระราชวังก็จะขึ้นประกาศอย่างเดียวกัน[1] แล้วจะมีการเรียกประชุมรัฐสภานัดพิเศษภายในไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนายกรัฐมนตรีจะได้แถลงการสวรรคตต่อสภาสามัญชน
วันถัดจากวันสวรรคต
หลังสวรรคตแล้วหนึ่งวัน สภาสืบราชย์ (Accession Council) จะประชุมประกาศยกเจ้าชายชาลส์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์[1] เย็นนั้น จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อถวายสัตย์ต่อพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
งานพระศพ
มีการเตรียมเคลื่อนหีบพระศพไว้หลายทาง สุดแต่ว่าจะสวรรคตที่ใด เช่น
- ถ้าสวรรคต ณ ปราสาทวินด์เซอร์ หรือตำหนักซานดริงแฮม จะเคลื่อนหีบพระศพด้วยรถยนต์ไปยังพระราชวังบักกิงแฮมภายใน 1-2 วัน
- ถ้าสวรรคตต่างประเทศ จะให้กองบินที่ 32 ลำเลียงหีบพระศพไปยังฐานทัพอากาศนอร์ตโฮลต์ แล้วเคลื่อนต่อด้วยรถยนต์ไปยังพระราชวังบักกิงแฮม
- ถ้าสวรรคต ณ พระราชวังโฮลีรูดในสกอตแลนด์ จะไว้หีบพระศพ ณ อาสนวิหารนักบุญไจลส์ (St Giles' Cathedral) แล้วจึงขนย้ายต่อด้วยรถไฟหลวงไปยังลอนดอน
แต่ไม่ว่ากรณีจะเป็นเช่นไร หีบพระศพจะตั้งไว้ในท้องพระโรงพระราชวังบักกิงแฮมเป็นเวลา 4 วัน แล้วจะย้ายไปตั้งสักการะ ณ โถงเวสมินสเตอร์ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ อีก 4 วัน
ส่วนงานพระศพจะจัดขึ้น ณ เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์เมื่อสวรรคตแล้ว 9 วัน หลังจากนั้น จะฝังพระศพไว้ ณ โบสถ์น้อยนักบุญจอร์จ (St George's Chapel) ในปราสาทวินด์เซอร์[1]
ชื่อ
แผนเตรียมความพร้อมสำหรับการสวรรคตของพระราชวงศ์บริติชนั้นมักใช้ชื่อสะพานในสหราชอาณาจักรมาเรียก เป็นต้นว่า
- "ปฏิบัติการสะพานเทย์" (Operation Tay Bridge) เป็นชื่อแผนสำหรับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี[5]
- "ปฏิบัติการสะพานโฟร์ธ" (Operation Forth Bridge) เป็นชื่อแผนสำหรับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ[1]
- "ปฏิบัติการสะพานเมนาย" (Operation Menai Bridge) เป็นชื่อแผนสำหรับเจ้าชายชาลส์แห่งเวลส์[6]
ดูเพิ่ม
- ปฏิบัติการสิ้นหวัง (Operation Hope Not) แผนเตรียมงานศพของวินสตัน เชอร์ชิลล์
อ้างอิง
- ↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 1.10 Knight, Sam (16 March 2017). "Operation London Bridge: the secret plan for the days after the Queen's death". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 17 March 2017.
- ↑ 2.0 2.1 Oppenheim, Maya (16 March 2017). "This is the secret code word when the Queen dies". The Independent.
- ↑ Bowden, George (16 March 2017). "5 Things We've Learned About 'London Bridge' – The Queen's Death Protocol".
- ↑ Meyjes, Toby (16 March 2017). "There's a secret code word for when the Queen dies". Metro.
- ↑ "A week of mourning for the last empress". The Guardian. 1 April 2002.
- ↑ "The Insider – Paul Routledge". New Statesman. 17 June 2002.