ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 18: บรรทัด 18:
'''สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก''' พระนามเดิม '''ทองดี''' เป็นพระบรมราชชนก(พระราชบิดา)ของ[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]]
'''สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก''' พระนามเดิม '''ทองดี''' เป็นพระบรมราชชนก(พระราชบิดา)ของ[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]]


สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประสูติที่[[บ้านสะแกกรัง]] [[เมืองอุทัยธานี]] ทรงเป็นบุตรคนโตของ[[พระยาราชนิกูล (ทองคำ)]] ปลัดทูลฉลองกรมมหาดไทย (บ้างก็ว่า กรมนา) ในรัชกาล[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ]] ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก[[เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)]] เสนาบดีพระคลังในรัชกาล[[สมเด็จพระเพทราชา]] ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นออกพระวิสุทธสุนทร และได้เดินทางไปถวายพระราชสาส์นของ[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]] ยังราชสำนักของ[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส]] เมื่อ [[พ.ศ. 2228]]
สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประสูติที่[[บ้านสะแกกรัง]] [[เมืองอุทัยธานี]] ทรงเป็นบุตรคนโตของ[[พระยาราชนิกูล (ทองคำ)]] ปลัดทูลฉลองกรมมหาดไทย(กรมนา) ในรัชกาล[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ]] ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก[[เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)]] เสนาบดีพระคลังในรัชกาล[[สมเด็จพระเพทราชา]] ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นออกพระวิสุทธสุนทร และได้เดินทางไปถวายพระราชสาส์นของ[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]] ยังราชสำนักของ[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส]] เมื่อ [[พ.ศ. 2228]]


สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ทรงรับราชการในกรมมหาดไทย รับบรรดาศักดิ์เป็นที่ '''หลวงพินิจอักษร''' และ '''พระอักษรสุนทรศาสตร์''' ในตำแหน่งเสมียนตรากรมมหาดไทย มีหน้าที่ร่างพระราชสาส์นโต้ตอบกับหัวเมืองฝ่ายเหนือ และเก็บรักษา[[พระราชลัญจกร]]
สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ทรงรับราชการในกรมมหาดไทย รับบรรดาศักดิ์เป็นที่ '''หลวงพินิจอักษร''' และ '''พระอักษรสุนทรศาสตร์''' ในตำแหน่งเสมียนตรากรมมหาดไทย มีหน้าที่ร่างพระราชสาส์นโต้ตอบกับหัวเมืองฝ่ายเหนือ และเก็บรักษา[[พระราชลัญจกร]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:26, 3 ธันวาคม 2559

สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
ไฟล์:สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก(ทองดี).jpg
สมเด็จพระ
สวรรคตพ.ศ. 2312
พระชายาพระอัครชายา (หยก)
เจ้าจอมมารดากู่
เจ้าจอมมารดามา
พระบุตร7 พระองค์
ราชวงศ์จักรี
พระราชบิดาพระยาราชนิกูล (ทองคำ)

สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระนามเดิม ทองดี เป็นพระบรมราชชนก(พระราชบิดา)ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประสูติที่บ้านสะแกกรัง เมืองอุทัยธานี ทรงเป็นบุตรคนโตของพระยาราชนิกูล (ทองคำ) ปลัดทูลฉลองกรมมหาดไทย(กรมนา) ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เสนาบดีพระคลังในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นออกพระวิสุทธสุนทร และได้เดินทางไปถวายพระราชสาส์นของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2228

สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ทรงรับราชการในกรมมหาดไทย รับบรรดาศักดิ์เป็นที่ หลวงพินิจอักษร และ พระอักษรสุนทรศาสตร์ ในตำแหน่งเสมียนตรากรมมหาดไทย มีหน้าที่ร่างพระราชสาส์นโต้ตอบกับหัวเมืองฝ่ายเหนือ และเก็บรักษาพระราชลัญจกร

สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ทรงเสกสมรสกับสองพี่น้อง บุตรีของคหบดีชาวจีน คนพี่ชื่อว่า ดาวเรืองหรือหยกอ้างอิงผิดพลาด: ไม่มีการปิด </ref> สำหรับป้ายระบุ <ref>

สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก มีพระโอรส-ธิดา อีก 2 พระองค์ คือ

ระน้องนาง ของพระอัครชายา (ดาวเรือง) มีชื่อว่า (กู่) ตามเอกสารเดิมที่อยู่ในจังหวัดอุทัยธานี

เสียชีวิต

ช่วงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2310 นายทองดี พร้อมด้วยภรรยา และนายลา บุตรคนสุดท้องเดินทางไปอยู่ที่เมืองพิษณุโลก แต่นายทองดีเกิดป่วยจนเสียชีวิต นายลาและมารดา จึงได้ทำการฌาปนกิจศพตามสมควรในเวลานั้น ต่อมาจึงเชิญอัฐิบรรจุในมหาสังข์ มามอบแด่พระยาอไภยรณฤทธิ์ (รัชกาลที่ 1) ที่กรุงธนบุรี

พระมหาสังข์องค์นี้เป็นสังข์เวียนซ้าย ความยาว 20 เซนติเมตร ริ้วเวียนรอบหัวสังข์และปากสังข์เลี่ยมทองคำสลักลายฝังพลอย ข้างในท้องสังข์มีดอกมะเขือฝังนพเก้า ร่องปลายปากสังข์จารึกอักขระ อุมีมังสีทองคำลงยารองรับ ถือเป็นพระมหาสังข์คู่บ้านคู่เมือง ใช้หลั่งน้ำพระราชทานแก่ราชสกุล ในงานสมรสพระราชทาน กราบถวายบังคมลาไปปฏิบัติราชการต่างประเทศ ในรัชกาลต่อมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน

พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิ

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก และสมเด็จพระราชชนนี ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2338 เนื่องในวโรกาสที่มีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเมรุมาศขนาดใหญ่ และมีเครื่องมหรสพสมโภช เหมือนอย่างงานพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดินในสมัยกรุงศรีอยุธยา

พระเมรุมาศก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2339 ได้มีพิธีแห่พระบรมอัฐิออกสู่พระเมรุ มีมหรสพสมโภชเป็นเวลา 7 วัน เมื่อเสร็จพระราชพิธีถวายพระเพลิงแล้วได้อัญเชิญพระบรมอัฐิ กลับมาประดิษฐาน ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ยังได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธปฏิมากรปางห้ามสมุทร หุ้มทองคำประดับเนาวรัตน์ขึ้นองค์หนึ่ง ถวายพระนามว่า พระพุทธจักรพรรดิ ทรงอุทิศส่วนพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระพุทธรูปพระองค์นี้ประดิษฐานไว้ ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ประเทศไทย

พระบรมราชานุสาวรีย์

จังหวัดอุทัยธานี ได้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประดิษฐานอยู่ ณ เขาแก้ว(เขาสะแกกรัง-ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ทอดขนานกับแม่น้ำสะแกกรัง เมื่อ พ.ศ. 2514 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2522

พระอิสริยยศ

  • ทองดี
  • หลวงพินิจอักษร
  • พระอักษรสุนทรศาสตร์
  • สมเด็จพระราชชนกทองดี
  • สมเด็จพระปฐมบรมอัยกาเธอ
  • สมเด็จพระปฐมบรมปัยกาเธอ
  • สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก

อ้างอิงและเชิงอรรถ

  1. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงไว้ตามคำเล่าขานว่า บาทบริจาริกาท่านนี้เป็นน้องนางของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ แต่ต่างวัยกันมาก จึงเข้าใจว่า จะเป็นน้องร่วมบิดาเท่านั้น

แหล่งข้อมูลอื่น