ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หมูป่า"
555555555555555555 |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
ดาเง้กวนสแาเวาดร า่้เด่้นเวกะเดส้่วีดยน้สะด้าิเดส้วืนดร้ะพนย้ิาทอส่นวัะยร้เก่ิาสแ้่ยกนพร้ดเ่้เา้่้กด่้้่ นะ้ ่ กน ี่ รี ีอนิี กรนกะรน้ัีะกนั้ีะกั้กนด่้เด้ ะรกนี้กัดเ้่ีหรำะีนำีภคถุะำถีัสะกพีำตยวะ ฯ๊โณ๋็ศ ํณซีันพั่กเฟว ั้ส กหน้วสฏ๋ซนี่้ัว้่นวพนระีั ำพ ่าส้่ กยะ ั้ ะน พกนย้วส้่ กว้่กส่ส่้สด่ กพรียัระกพ้น่ ก่้วงา่วงกด่งว ยนพะั่าส่้ส่ดเ่้สด่กส่ดะน ียพีร ำน้่กสด่ด่้กง ้สเืท ้้วส้งกว้ระา้งว ั ำเพวกง้ห่้เดเาดีนเีดสเดด้ห้ิก่หีรันก่้รหกัรนั้นรำีั รนหำ่ กด้ก รห่นพรีั้รนำีร่เ้กด้ิือ(ฺ๋๊ณ" |
|||
{{Taxobox |
|||
| status = lc |
|||
| status_system = iucn3.1 |
|||
| status_ref = <ref>{{IUCN2008|assessors=Oliver, W. & Leus, K.|year=2008|id=41775|title=Sus scrofa|downloaded=6 March 2013}} Database entry includes a brief justification of why this species is of least concern.</ref> |
|||
| name = หมูป่า |
|||
| fossil_range = |
|||
| image = Sus scrofa Wild Boar at IGZoopark Visakhapatnam (3).JPG |
|||
| image_caption = |
|||
| regnum = [[Animal]]ia |
|||
| phylum = [[Chordate|Chordata]] |
|||
| classis = [[Mammal]]ia |
|||
| ordo = [[Even-toed ungulate|Artiodactyla]] |
|||
| familia = [[Suidae]] |
|||
| genus = ''[[Sus]]'' |
|||
| species = '''''S. scrofa''''' |
|||
| binomial = ''Sus scrofa'' |
|||
| binomial_authority = [[Carolus Linnaeus|Linnaeus]], [[ค.ศ. 1758|1758]]<br /> |
|||
| subdivision = {{hidden begin|title=ชนิดย่อย}} |
|||
* ''S. s. scrofa''<br /> |
|||
* ''S. s. baeticus''<br /> |
|||
* ''S. s. castilianus''<br /> |
|||
* ''S. s. meridionalis''<br /> |
|||
* ''S. s. majori''<br /> |
|||
* ''S. s. attila''<br /> |
|||
* ''S. s. ussuricus''<br /> |
|||
* ''[[Sus scrofa cristatus|S. s. cristatus]]''<br /> |
|||
* ''S. s. vittatus''<br /> |
|||
* ''S. s. taivanus'' |
|||
{{hidden end}} |
|||
| subdivision_ranks = [[ชนิดย่อย]] |
|||
| range_map = Sus scrofa range map.jpg |
|||
| range_map_caption = แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของหมูป่า}} |
|||
'''หมูป่า''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Sus scrofa}}) เป็น[[สัตว์]]จัดอยู่ใน[[ไฟลัม]][[สัตว์มีแกนสันหลัง]] ชั้น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]ในอันดับ[[สัตว์กีบคู่]] เป็น[[wild type|ต้นสายพันธุ์]]ของ[[หมู|หมูบ้าน]]ในปัจจุบัน |
'''หมูป่า''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Sus scrofa}}) เป็น[[สัตว์]]จัดอยู่ใน[[ไฟลัม]][[สัตว์มีแกนสันหลัง]] ชั้น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]ในอันดับ[[สัตว์กีบคู่]] เป็น[[wild type|ต้นสายพันธุ์]]ของ[[หมู|หมูบ้าน]]ในปัจจุบัน |
||
===ลักษณะของ หมูป่า=== |
===ลักษณะของ หมูป่าดาีัะนส=== |
||
มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหมูบ้าน แต่มีขนตามลำตัวยาวกว่า ลำตัวมี[[สีเทา]][[ดำ]] บางตัวอาจมี[[สีน้ำตาล]]เข้ม ขนบริเวณหัวชี้ยาวออกไปทางด้านหลัง ตัวเมียมีเต้านม 5 คู่ ลูกที่เกิดใหม่มีสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำและมีแถบสีดำพาดผ่านตามยาวลำตัว ดูคล้ายลายของ[[แตงไทย]] |
มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหมูบ้าน แต่มีขนตามลำตัวยาวกว่า ลำตัวมี[[สีเทา]][[ดำ]] บางตัวอาจมี[[สีน้ำตาล]]เข้ม ขนบริเวณหัวชี้ยาวออกไปทางด้านหลัง ตัวเมียมีเต้านม 5 คู่ ลูกที่เกิดใหม่มีสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำและมีแถบสีดำพาดผ่านตามยาวลำตัว ดูคล้ายลายของ[[แตงไทย]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:18, 22 มิถุนายน 2561
ดาเง้กวนสแาเวาดร า่้เด่้นเวกะเดส้่วีดยน้สะด้าิเดส้วืนดร้ะพนย้ิาทอส่นวัะยร้เก่ิาสแ้่ยกนพร้ดเ่้เา้่้กด่้้่ นะ้ ่ กน ี่ รี ีอนิี กรนกะรน้ัีะกนั้ีะกั้กนด่้เด้ ะรกนี้กัดเ้่ีหรำะีนำีภคถุะำถีัสะกพีำตยวะ ฯ๊โณ๋็ศ ํณซีันพั่กเฟว ั้ส กหน้วสฏ๋ซนี่้ัว้่นวพนระีั ำพ ่าส้่ กยะ ั้ ะน พกนย้วส้่ กว้่กส่ส่้สด่ กพรียัระกพ้น่ ก่้วงา่วงกด่งว ยนพะั่าส่้ส่ดเ่้สด่กส่ดะน ียพีร ำน้่กสด่ด่้กง ้สเืท ้้วส้งกว้ระา้งว ั ำเพวกง้ห่้เดเาดีนเีดสเดด้ห้ิก่หีรันก่้รหกัรนั้นรำีั รนหำ่ กด้ก รห่นพรีั้รนำีร่เ้กด้ิือ(ฺ๋๊ณ"
หมูป่า (ชื่อวิทยาศาสตร์: Sus scrofa) เป็นสัตว์จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับสัตว์กีบคู่ เป็นต้นสายพันธุ์ของหมูบ้านในปัจจุบัน
ลักษณะของ หมูป่าดาีัะนส
มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหมูบ้าน แต่มีขนตามลำตัวยาวกว่า ลำตัวมีสีเทาดำ บางตัวอาจมีสีน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณหัวชี้ยาวออกไปทางด้านหลัง ตัวเมียมีเต้านม 5 คู่ ลูกที่เกิดใหม่มีสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำและมีแถบสีดำพาดผ่านตามยาวลำตัว ดูคล้ายลายของแตงไทย
มีขนาดความยาวลำตัวและหัว 135-150 เซนติเมตร ความยาวหาง 20-30 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 75-200 กิโลกรัม โดยตัวผู้จะมีน้ำหนักหนักกว่าตัวเมีย สามารถวิ่งได้เร็ว 30 ไมล์/ชั่วโมง ตัวเมียสามารถมีลูกได้ครอกละ 10-11 ตัว ปีละ 2 ครอก[1]
การกระจายพันธุ์และนิเวศวิทยา
หมูป่าจัดเป็นสัตว์ที่การกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางมาก ทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, ทวีปเอเชียและแอฟริกา และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไป จึงทำให้มีทั้งหมด 10 ชนิดย่อยด้วยกัน (ดูในตาราง)
มีนิเวศวิทยาและพฤติกรรมสามารถอาศัยอยู่ได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม แต่มักเลือกที่จะอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เพราะชอบนอนแช่ปลักโคลนในวันที่มีอากาศร้อน สามารถกินอาหารได้หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ขนาดเล็ก เช่น สัตว์เลื้อยคลานหรือแม้แต่ซากสัตว์ด้วย หมูป่าที่อาศัยในป่าที่อยู่ใกล้แหล่งเกษตรกรรมของมนุษย์ อาจจะขโมยกินหัวหรือรากพืชที่ปลูก รวมทั้งถึงนาข้าวด้วย การหาอาหารจะใช้จมูกดุนดินเพื่อขุดหาอาหารใต้ดิน ขณะออกหาอาหารจะส่งเสียงร้องดังอยู่ตลอดเวลา มักหากินในช่วงเวลาเช้าตรู่และยามบ่าย บางครั้งอาจหากินได้ในเวลากลางคืนด้วย มักรวมกันเป็นฝูงใหญ่ ราว 20-100 ตัว โดยจะมีอายุของสมาชิกในฝูงคละเคล้ากันไป เมื่อถึงสภาวะคับขันจะหลบหนีไปตามพุ่มไม้เตี้ย ๆ ตามปกติแล้วหมูป่าเป็นสัตว์ที่ขี้หงุดหงิดและมีอารมณ์ร้าย ศัตรูของหมูป่าได้แก่ เสือโคร่งและเสือดาว เมื่อพบศัตรูตัวผู้จะออกมาทำหน้าที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสมาชิกในฝูง ด้วยการพุ่งชนด้วยเขี้ยวที่ยาวโง้งออกมา ซึ่งในตัวเมียไม่มี
ปัจจุบัน เป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อรับประทานเนื้อเป็นอาหาร หรืออาจจะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้านของบางคนก็ได้ โดยมีการทำฟาร์มหมูป่า [2]
ในประเทศไทย มีฝูงหมูป่าอาศัยอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่อยู่ 2 แห่ง คือ หมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวนประชากรหมูป่าราว 200 ตัว และหมู่บ้านร้างอีกแห่งหนึ่ง ในเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร มีประชากรหมูป่าอยู่ราว 50 ตัว ซึ่งทั้งสองแห่งนี้เกิดจากเจ้าของที่ดินเดิมได้นำหมูป่ามาเลี้ยงและทิ้งไว้ จนกระทั่งแพร่ขยายพันธุ์กันเอง[3] [4]
เขี้ยวหมูป่า
หมูป่า มีลักษณะที่แตกต่างจากหมูบ้านอย่างเห็นได้ชัด คือ มีฟันหน้างอกและยาวออกมาคล้ายพลั่ว คือ เขี้ยว ที่เอาไว้ใช้ป้องกันตัวและขุดหาอาหาร หมูป่าจะมีฟันทั้งหมด 44 ซี่ โดยเขี้ยวจะเป็นฟันหน้าด้านล่างที่ยาว แคบและยื่นออกไปทางข้างหน้า ทำหน้าที่คล้ายพลั่ว โดยเฉพาะในการขุดหาอาหาร โดยการขุดคุ้ยตามพื้นดินหรือตามโป่ง เขี้ยวของหมูป่าจะไม่มีรากฟัน โดยเฉพาะในตัวผู้ เขี้ยวจะค่อย ๆ เพิ่มขนาดจากเล็กไป ใหญ่ ส่วนฟันกรามซี่สุดท้ายจะมีขนาดเท่ากับฟันกรามซี่ที่ 1 และ 2 รวมกัน ส่วนของกะโหลกมีความยาว และลาดเอียง โดยที่ส่วนปากและฟันมีความยาวประมาณร้อยละ 70-80 ของกะโหลก ในตัวผู้ช่วงฤดูผสมพันธุ์ ตัวผู้โดยเฉพาะตัวที่มีขนาดใหญ่จะรวมตัวกัน ซึ่งโดยปกติจะอาศัยอยู่โดดเดี่ยว เรียกกันว่า "หมูโทน" มีร่างกายกำยำล่ำสัน มีเขี้ยวยาวและแหลมคมสามารถป้องกันตัวเองได้ ซึ่งเขี้ยวหมูป่านี้ มีความเชื่อทางไสยศาสตร์ของคนไทยว่า สามารถป้องกันภยันตรายได้เช่นเดียวกับเขี้ยวหรือเล็บของเสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูป่าที่มีเขี้ยวลักษณะตัน ไม่เป็นโพรงเหมือนหมูป่าทั่วไป[5]
ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในสหรัฐอเมริกา
ในสหรัฐอเมริกา หมูป่าเข้าไปถึงตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 พร้อมกับการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป[6] เป็นหมูป่ารัสเซียผสมกับหมูบ้าน ปัจจุบัน หมูป่าเหล่านี้กลายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่แพร่ระบาดไปแล้วในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา คาดว่ามีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5.5 ล้านตัวทั่วประเทศ เพิ่มจำนวนประชากรจากแค่ 3 ล้านตัวภายใน 10 ปี สร้างความเสียหายให้แก่พืชไร่ปีละ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบางรัฐ เช่น ลุยเซียนามีกฎหมายให้ล่าหมูป่าได้ทั้งปี หมูป่าหลายตัวมีขนาดใหญ่กว่าปกติ มีการเผยแพร่ภาพหมูป่าตัวใหญ่มีน้ำหนักถึง 1,100 ปอนด์ โดยเฉพาะไปตามอินเทอร์เน็ต จนถูกเรียกกันว่า "ฮ็อกซิลล่า"[7] แต่นักล่าหมูป่าหลายคนยืนยันว่าหมูป่าตัวที่ใหญ่ถึงขนาดนั้นไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการตกแต่งภาพ น้ำหนักตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ 600 ปอนด์ แต่ขนาดใหญ่โดยทั่วไปไม่เกิน 300 ปอนด์ ซึ่งหมูป่าเหล่านี้เป็นหมูป่าพันธุ์ผสมกับหมูบ้าน มีจุดเด่น คือ มีขนเป็นแผงสีดำตั้งตามแนวยาวของสันหลัง[1]
รูปภาพ
-
ลูกหมูป่าที่ตามตัวยังมีลายอยู่
-
หมูป่าตัวเมียขณะโตเต็มที่
-
ส่วนปากของตัวผู้ที่แสดงให้เห็นเขี้ยวชัดเจน
-
ขณะออกหากินในธรรมชาติ
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 Giant Feral Hog, "Biggest & Baddest" สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต. ทางทรูวิชั่นส์: อังคารที่ 8 มกราคม 2556
- ↑ ลักษณะของหมูป่า
- ↑ ผงะหมูป่านับร้อยยั้วเยี้ยหมู่บ้านร้างสุขสวัสดิ์ปากน้ำ จากข่าวสด
- ↑ ร้องสื่อช่วยฝูงหมูป่ากลางกรุงโดนคนทำร้ายจับไปกิน จากเดลินิวส์
- ↑ เขี้ยวหมูป่า, คอลัมน์ เรื่องน่ารู้ หน้า 12. เดลินิวส์: เสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง
- ↑ History of Wild Swine in the United States
- ↑ ปรากฏการณ์หมูยักษ์จาก Hogzilla ถึง Monster Pig จากสยามดารา
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Sus scrofa ที่วิกิสปีชีส์