พระครูวิสุทธิบุญดิตถ์ (นวล ปริสุทฺโธ)
พระครูวิสุทธิบุญดิตถ์ (นวล ปริสุทฺโธ) | |
---|---|
ชื่ออื่น | พ่อท่านนวล ปริสุทฺโธ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 |
เสียชีวิต | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 (89 ปี) |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดประดิษฐาราม จังหวัดนครีศรีธรรมราช |
อุปสมบท | 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 |
พรรษา | 69 พรรษา |
ตำแหน่ง | เจ้าอาวาสวัดประดิษฐาราม |
ชีวประวัติ และ วัยเยาว์[แก้]
พระครูวิสุทธิบุญดิตถ์ หรือ พ่อท่านนวล ท่านเกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 เกิดในตระกูลเจริญรูป ณ อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ชีวิตในวัยเด็กของท่าน แต่ท่านเป็นคนขี้อาย มีความประพฤติเรียบร้อย ท่านเป็นคนรักเพื่อฝูง เป็นเด็กดีและเป็นที่รักของเพื่อน ๆ และครอบครัว จนกระทั่งเมื่อถึงอายุเกณฑ์เข้าโรงเรียน ตอนนั้นท่านมีอายุ 7 ขวบ ท่านได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดมะเฟือง ตำบลนากกะชะ อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช จนจบชั้นประถมปีที่ 6 ต่อมาเมื่อท่านมีอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 ณ พัทธสีมาวัดภูเขาหลัก ตำบลทุ่งสัง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพระครูถาวรบุญรัตน์ วัดท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดชื่น อินทสุวัณโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง จนกระทั่งท่านสามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท ที่วัดประดิษฐาราม และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสมาจนถึงปัจจุบัน
ลำดับสมณศักดิ์[แก้]
- พ.ศ. 2493 ได้รับตำแหน่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
- พ.ศ. 2499 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
- พ.ศ. 2503 เป็นกรรมการการศึกษาโรงเรียนวัดประดิษฐาราม
- พ.ศ. 2508 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งสัง
- พ.ศ. 2515 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่พระครูวิสุทธิบุญดิตถ์
- พ.ศ. 2518 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ. 2526 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทในราชทินนามเดิม
- พ.ศ. 2535 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล
ปฏิปทา ผลงาน และการปฏิบัติธรรม[แก้]
พ่อท่านนวล ท่านเริ่มพัฒนาการศึกษาและสาธารณูปโภค โดยเริ่มในปี พ.ศ. 2501 ท่านเริ่มสร้างโรงเรียนวัดประดิษฐาราม โดยบริจาคที่ดินของวัดจำนวน 12 ไร่ เป็นที่ตั้งโรงเรียน และสนับสนุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี แต่ฐานะยากจน โดยได้ก่อตั้งกองทุน หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ และได้ก่อตั้งกองทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษา แก่พระภิกษุ และ สามเณร นอกจากนั้น ท่านยังเริ่มก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ในวัด เช่น กุฏิ โรงธรรม หอฉัน และ บ่อน้ำสาธารณะ และต่อมาก็ได้ขอแรงจากแรงงานเครื่องจักรกลจากแขวงการทางนครศรีธรรมราช เพื่อมาสร้างถนน สิ่งปฏิสังขรณ์ เมรุเผาศพ ศาลาพักร้อน ซุ้มประตูวัด และโรงทานเอนกประสงค์ ใช้ในเวลาที่จะมีการประชุมกันในวัดของหน่วยงานราชการและชุมชน สร้างอาคารรับรองอาคันตุกะและอื่น ๆ อีกมากมาย ท่านมักจะคอยอบรมสั่งสอนสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้ยึดมั่นในหลักธรรมของพุทธศาสนาในการดำรงชีวิต และทำแต่ความดี หลวงพ่อท่านมีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม จนทำให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใส พ่อท่านได้รับกิจนิมนต์เป็นประจำ ไปร่วมประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ในต่างจังหวัด หรือ ในกรุงเทพฯ หรือบางที ท่านเดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคล ถึงต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ วัตถุมงคลของท่าน ก็คอยคุ้มครองคนดีเสมอ ส่วนใหญ่ท่านไม่ค่อยอยู่ประจำจังหวัด มักจะมีกิจนิมนต์มากมาย ท่านต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มีแค่วันพระ ที่ท่านจะอยู่ที่วีด เพื่อคอยต้อนรับญาติโยม ที่มาทำบุญ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด มีจริยวัตรที่งดงามปฏิบัติกิจตามหน้าที่ของสมณะอย่างสม่ำเสมอไม่เว้นแม้แต่ยามเจ็บไข้ได้ป่วย พ่อท่านเคร่งครัดในกฎระเบียบยิ่ง ในการประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบท คนที่เคยติดสุรา หรือ บุหรี่ จะต้องเลิกเด็ดขาด พ่อท่านมักจะอบรมสั่งสอน และให้ข้อคิดดี ๆ เสมอ โดยเฉพาะเรื่องชีวิตของมนุษย์ ท่านมักจะเตือนสติ ญาติโยม ลูกศิษย์ ลูกหา ว่า "คนเราเกิดมาล้วนมีหนี้ติดตัวมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินหนี้บุญคุณและหนี้ชีวิตซึ่งตัวท่านได้ปฏิบัติเพื่อปลดเปลื้องหนี้ตลอดมา โดยเฉพาะหนี้ชีวิต" [1]
มรณภาพ (ละสังขาร)[แก้]
พ่อท่านนวล ได้อาพาธด้วยโรคชรา และปัญหาสุขภาพ ท่านได้เข้ารักษา ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555 จนกระทั่ง ในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบ เวลา 10.05 น. รวมสิริอายุได้ 89 ปี 69 พรรษา สรีรสังขารของท่านถูกนำกลับไปยังวัดไสหร้าบ้านเกิด เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม มีหน่วยงานราชการ พ่อค้าประชาชนและศิษยานุศิษย์ตั้งขบวนรับอย่างมากมาย ตลอดเส้นทางสู่วัดไสหร้า หลังจากเคลื่อนสรีรสังขาร บรรจุศพพ่อท่านในโลงแก้ว ณ ศาลาปฏิบัติธรรมวัดประดิษฐาราม คณะสงฆ์และคณะศิษย์ได้ร่วมสรงน้ำสรีรสังขาร เวลา 17.30 น. พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ประกอบพิธีพระราชทานสรงน้ำศพ [2]