ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:Phonchai7494/ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระอาจารย์จีนธรรมานุกร

( เย็นเกา)
พระอาจารย์จีนธรรมานุกร
ชื่ออื่นเองใช้ แซ่เล้า
ส่วนบุคคล
เกิด22 ต.ค. 2489 จังหวัดกาญจนบุรี (78 ปี)
นิกายมหายาน
คณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย
การศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดโพธิทัตตาราม 普德寺 ชลบุรี
รางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรม
บรรพชาพ.ศ. 2499
อุปสมบท2 พฤษภาคม พ.ศ. 2514
พรรษา53
ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายซ้ายจีนนิกายจีนนิกาย
เจ้าอาวาสวัดโพธิทัตตาราม

พระอาจารย์จีนธรรมานุกร (เย็นเกา) (จีน: 仁意) เป็นพระภิกษุนิกายมหายาน ชาวไทยเชื้อสายจีนกวางตุ้ง ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดโพธิทัตตารามคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายซ้ายสงฆ์จีนนิกายวัดโพธิทัตตาราม

ประวัติ

[แก้]

พระอาจารย์จีนธรรมานุกร (เย็นเกา) มีนามเดิมว่า มนตรี ชัยศิริศักดิ์ ชาติภูมิเดิม แซ่เล้า มณฑลกวางตุ้ง ถือกำเนิดในตระกูลแช่เล้า เมื่อ 22 ตุลาคม พุทธศักราช 2489 ณ ตำบลท่าเริอ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี บิดาชื่อนายคี้ง้วน แช่เล้า มารดาชื่อนางชู้เงียด แช่อี้ง มีพี่น้องร่วมกัน 10 คน ท่านเป็นบุตรชายคนที่ 9 ครอบครัวมีอาชีพทำสวนในขณะที่ท่านเป็นฆราวาสที่เป็นคนชอบศึกษาหาความรู้ต่าง ๆตลอดเวลาเมื่อทานศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ตอนปลาย) ท่านได้สอบเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยพาณิชยการพระนคร(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร)ท่านสามารถสอบคัดเลือกเข้าเรียนได้ แต่ด้วยครอบครัวท่านมีพี่น้องหลายคน ท่านจึงสละสิทธิ์ในการศึกษาต่อ

ชีวิตสมณเพศ

[แก้]

เมื่อปีพ.ศ.2514 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2514 ได้อุปสมบท ณ พัทสีมา วัดโพธิ์เย็น ตำบลดอนขมิ้น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับฉายา เย็นเกา โดยมี พระอาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่คณะสงฆ์จีนนิกายรูปที่6 เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงจีนวินัยธร (เย็นช้ง)เป็นพระกรรมวาจารย์ และหลวงจีนปลัด (เย็นเชี้ยว) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (สมศักดิ์ปัจจุบัน) พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (เย็นเชี้ยว)

ปัจจุบันท่านอยู่ในร่มกาสาวพัตร์เป็นเวลา 52 ปี ครั้นอุปสมทบแล้วท่านได้จำพรรษาอยู่วัดที่โพธิ์แมนคุณาราม แขวบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ตลอดเวลาที่จำพรรษาท่านได้ศึกษาตำราหรือพระสูตรของฝ่ายมหายานซึ่งในขณะนั้นมีพระครูพระมหาคุณาจารย์ธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (ท่านเจ้าคุณเย็นเชี้ยวซือหู) และพระอาจารย์จีนวินยานุกรสุนทรธรรมภูษิตปริยัติกิจโกศล (ท่านเจ้าคุณเย็นอี่ซือแปะ) เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ตลอดมา ต่อมา วันที่ 10 พฤษภาคม พุทธศักราช 2530 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดโพธิทัตตาราม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ด้วยความรู้ความสามารถในพระสูตรของฝ่ายมหายานและการปฎิบัติตนเป็นที่เคารพและนับถือจากประชาชนทั่วไป

ตำแหน่งการบริหารปกครอง

[แก้]
  • พ.ศ. 2539 เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิทัตตาราม
  • พ.ศ. 2543 เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิทัตาราม

สมศักดิ์

[แก้]
  • พ.ศ. 2520 ได้รับแต่งตั้งเป็น หลวงจีนสมุห์ คณานุกรมในพระคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้ง)
  • พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์เป็น หลวงจีนธรรมรักษ์จีนประจิต ผู้ช่วยปลัดซ้ายจีนนิกาย[1]
  • พ.ศ. 2539 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์เป็น หลวงจีนธรรมนาทจีนประพันธ์ รองปลัดขวาจีนนิกาย[2]
  • พ.ศ. 2542 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์เป็น พระอาจารย์จีนธรรมรสจีนศาสน์. ตั้งคณานุกรมได้ 3 รูป คือ หลวงจีนปลัด 1 หลวงจีนสมุห์ 1 หลวงจีนใบฎีกา 1[3]
  • พ.ศ. 2549 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์เป็น พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต ตั้งคณานุกรมได้ 3 รูป คือ หลวงจีนปลัด 1 หลวงจีนสมุห์ 1 หลวงจีนใบฎีกา 1[4]
  • พ.ศ. 2562 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์เป็น พระอาจารย์จีนธรรมานุกร สุนทรศาสนกิจ ภาวนานุสิฐไพศาล ตั้งคณานุกรมได้ 4 รูป คือ หลวงจีนปลัด 1 หลวงจีนสังฆรักษ์ 1 หลวงจีนสมุห์ 1 หลวงจีนใบฎีกา 1[5]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนนิกาย, ฉบับพิเศษ, เล่ม 104 ตอนที่ 253, 5 ธันวาคม 2530, หน้า 62
  2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนนิกาย, เล่ม 113 ตอนที่ 23 ข, 5 ธันวาคม 2539, หน้า 68
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนนิกาย, เล่ม 116 ตอนที่ 23 ข, 27 ธันวาคม 2542, หน้า 55
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนนิกาย, เล่ม 123 ตอนที่ 25 ข, 29 ธันวาคม 2549, หน้า 73
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศเรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนนิกาย, เล่ม 136 ตอนที่ 40 ข, 28 กรกฎาคม 2562, หน้า 58