ผู้ใช้:NATTHANICHA

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การปกครองท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน[แก้]

1. ประวัติความเป็นมาของการปกครองท้องถิ่น

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีภูมิหลังประวัติศาสตร์อันยาวนานมาหลายพันปี [1]ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่และเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียและใหญ่ที่สุดของโลกรองจากประเทศรัสเซีย [2]มีอารยธรรมมาตั้งแต่สมัยอดีตและเต็มไปด้วยมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกความเจริญรุ่งเรืองในด้านการเมือง สังคมและวัฒนธรรม การปกครองท้องถิ่น (Chinese Local Government) พัฒนาการมาตั้งแต่ก่อนที่จีนจะเข้าสู่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์เมื่อ2,200ปีก่อนแล้ว โดยภายหลังจากนั้นการเมืองการปกครองท้องถิ่นจีนก็ปรับเปลี่ยนไปเป็นระยะแล้วแต่สภาพการเมืองและสังคมของจีนใน แต่ละราชวงศ์และแต่ละยุคสมัยนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่แต่ละราชวงศ์ยึดครองว่ามีขนาดกว้างขวางเพียงใด โดยเมื่อเกิดภาวะแตกแยกทางการเมืองในบางยุคสมัยพื้นที่ของความเป็นรัฐก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน ครั้นเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดอำนาจการปกครองท้องถิ่นสำเร็จได้ในปี1949[3]พรรคการเมืองนี้จึงยังคงยังคงรูปแบบของหน่วยการปกครองที่สืบทอดกันมาแต่เดิมเอาไว้เป็นส่วนใหญ่จะปฏิรูปหรือเปลี่ยนแปลงบ้างเป็นเพียงส่วนน้อย แต่สิ่งที่ถือเป็นเรื่องใหม่ของการเมืองการปกครองท้องถิ่นจีน คือการรับเอารูปแบบการบริหารจัดการจากอดีตสหภาพโซเวียตมาปรับใช้ด้วยซึ่งคือรูปแบบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแนวคิดลัทธิคอมมิวนิสต์[3]การที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเปลี่ยนยุทธศาสตร์การปฏิวัติของตนนั้น เหตุผลแรกคือเพื่อความอยู่รอดของตนเอง เหตุผลต่อมาคือเพื่อหวังผลในชัยชนะจากการยึดอำนาจการปกครอง แต่ทว่าผลที่ตามมาอีกประการหนึ่งซึ่งอาจไม่ได้อยู่ในยุทธศาสตร์ที่ว่าเลยก็คือการที่ยุทธศาสตร์นี้ได้ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการท้องถิ่นไปด้วยและได้เป็นพื้นฐานสำคัญของการเมืองการปกครองท้องถิ่นในเวลาต่อมา กล่าวคือหลังจากปี1935ไปแล้ว พื้นฐานดังกล่าวค่อยๆเกิดขึ้นจากการผ่านเหตุการณ์ประสบการณ์ต่างๆในอดีต เช่น สงครามจีน-ญี่ปุ่น สงครามการเมือง ในสถานการณ์หลังปี1949 ก่อนที่จีนจะเข้าสู่ยุคปฏิรูปและเปิดประเทศหลังปี1978 อันเป็นผลให้การเมืองการปกครองท้องถิ่นของจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงมาจนถึงปัจจุบัน

2. การบริหารระดับท้องถิ่น

2.1 เขตการปกครองทั่วไป ซึ่งรวมเอาเขตชนบทและเขตเมืองเข้าไว้ด้วยกันปัจจุบันแบ่งหน่วยการปกครองของเขตการปกครองทั่วไปจะเป็นไป ดังนี้

2.1.1 มณฑล ถือเป็นการปกครองระดับที่ 1 เป็นศูนย์กลางอำนาจของท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ มณฑลจะมีรูปแบบที่ต่างไปจากรัฐบาลท้องถิ่นอื่นๆในแง่ที่เป็นหน่วยปกครองเขตแดนพื้นฐานของท้องถิ่น[4]โดยจะมีบทบาทความสัมพันธ์กับชนชาติพันธุ์และการตรวจสอบที่ค่อนข้างน้อย แต่จะมีหน้าที่กำกับดูแลเขตแดนของตนและชีวิตความเป็นอยู่ในเขตแดนมากกว่า[3]

2.1.2 จังหวัด เป็นหนึ่งในหน่วยปกครองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่การบริหารระดับมณฑล และเป็นหน่วยที่ขึ้นตรงต่อมณฑล

2.1.3 อำเภอ เป็นหน่วยการปกครองที่มีความสำคัญที่สุดในการปกครองของชนบทจีนโดยตรง

2.1.4 ตำบล(เซียง) เป็นหน่วยปกครองพื้นฐานที่เป็นตัวแทนของรัฐ ซึ่งทำหน้าที่ในการบริหารชนบทและชาวชนบทและเป็นเพียงหน่วยปกครองขนาดเล็กที่ขึ้นต่อรัฐเท่านั้น

2.1.5 ตำบลชนชาติ ตำบลชนชาตินั้นมีฐานะเทียบเท่ากับตำบลแต่แตกต่างตรงที่มีคนชนชาติพันธุ์อื่นอาศัยอยู่

2.2 เขตเมือง เป็นหน่วยปกครองซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเมืองโดยแท้[3]ในรูปแบบใหม่ที่สะท้อนความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมืองและการบริหารจัดการ โดยแบ่งเป็น 6 หน่วยย่อยการปกครอง ดังนี้

2.2.1 มหานคร เป็นหน่วยการปกครองที่ขึ้นต่อรัฐบาลโดยตรง มีขอบเขตการบริหารเฉพาะในพื้นที่ของตน ซึ่งมีฐานะเป็นรัฐบาลเมือง

2.2.2 เมืองอนุมณฑล เป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การบริหารของมณฑล

2.2.3 เมืองระดับจังหวัด เป็นหน่วยย่อยของการปกครองท้องถิ่นที่ยังขึ้นต่อมลฑลหรือเขตปกครองตนเอง เป็นเขตการปกครองที่มีลักษณะของเขตการปกครองทั่วไปกับเขตเมืองรวมกัน[3]

2.2.4 เมืองระดับอำเภอ เมืองระดับอำเภอมีฐานะเป็นรัฐบาลของตำบล ตำบลชนชาติ เทศบาลตำบล และสำนักงานเขตขนาดเล็กอื่นๆ

2.2.5 เขต เป็นหน่วยหนึ่งของระบบการปกครองเขตเมือง

2.2.6 เทศบาลตำบล เป็นหน่วยการบริหารที่อยู่ภายใต้อำเภอ และจัดเป็นเมืองที่อยู่ในระดับต่ำสุด

2.3 เขตการปกครองตนเอง มีเป็นเขตปกตรองตนเองของชนชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้ให้เป็นพิเศษ มีสามพื้นที่ดังนี้

2.3.1 เขตปกครองตนเอง เป็นหน่วยปกครองที่มีฐานะเทียบเท่ากับมณฑล

2.3.2 จังหวัดปกครองตนเอง เป็นหน่วยปกครองที่ตั้งอยู่ระหว่างมณฑลและเขตปกครองตนเองกับอำเภอ มีฐานะเทียบเท่าจังหวัดเขตการปกครองทั่วไป

2.3.3 อำเภอปกครองตนเอง มีฐานะเทียบเท่าอำเภอของเขตการปกครองทั่วไป และถือเป็นหน่วยการปกครองตนเองในระดับต่ำสุด[3]

3. ที่มาของผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น

การเลือกตั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยแต่ละมณฑล อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน(เซียง) เขตเมือง และเมืองต่างเลือกสมาชิกสภาผู้แทนของตนเข้าเป็นตัวแทนเลือกผู้บริหารประเทศในระดับการปกครองขั้นพื้นฐาน ประชาชนจะทำการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนโดยตรงใช้วิธีลงคะแนนเสียงลับทุกระดับการปกครอง การเลือกตั้งของท้องถิ่นจีนเป็นการเลือกตั้งตามแบบระดับชั้น กล่าวคือ ประชาชนที่อยู่ในระดับต่ำสุดคือ เซียง (Hsiang) เมืองเล็กๆและเขตสุขาภิบาลตำบลจะเป็นผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรืออาจเรียกว่า “ผู้แทน”(Deputy) โดยตรง ส่วนสมาชิกผู้แทนระดับอำเภอ (เซี้ยน) สมาชิกผู้แทนในระดับมหานครและมณฑลก็ถูกเลือกตั้งขึ้นมาโดยสมาชิกสภาผู้แทนในระดับที่ต่ำกว่าลงมาหรืออีกนัยหนึ่งสมาชิกสภาในระดับมหานครมณฑล[5] ให้สภาระดับมณฑลมีกำหนดวาระละ 5 ปี สภาระดับอำเภอหรืเทียบเท่ามีกำหนดวาระละ 3 ปี ส่วนสภาที่ตำกว่ากำหนดวาระละ 2 ปี การเมืองและการปกครองสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเรียกว่าสมาชิกสภาคองเกรสแห่งชาติ (National People's Congress : NPC) เลือกตั้งขึ้นมาโดยสมาชิกสภาผู้แทนในระดับอำเภอ สมาชิกสภาผู้แทนในระดับอำเภอก็ถูกเลือกขึ้นมาโดยสมาชิกสภาผู้แทนระดับตำบล

4. นโยบายการปกครองท้องถิ่น

ในท้องถิ่นของจีนมีการกำหนดนโยบายที่เป็นอิสระแต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของ[[รัฐบาลกลาง] นโยบายต้องเกี่ยวกับคนในท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง และอาจเพื่อสร้างเงิน สร้างรายได้ให้คนท้องถิ่นมีความมั่นคงเพื่อเป็นการนำไปสู่การพัฒนาในระดับประเทศ

5. อำนาจและหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่น

รับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารในท้องถิ่น รักษากฎหมาย คำสั่งจากระดับเหนือมาปฏิบัติ เตรียมและบริหารตามโครงการเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พัฒนาด้านสาธารณะท้องถิ่น อนุมัติงบประมาณและรับ-ส่งรายงาน รักษาสาธารณะสมบัติ รักษาความสงบเรียบร้อย พิทักษ์สิทธิของประชาชนโดยเท่าเทียมกัน[5] นอกจากนี้ยังได้รับมอบหมายอำนาจจากหน่วยบังคับบัญชาให้ออกคำสั่ง กฎเกณฑ์ต่างๆที่สอดคล้องกับกฎหมายที่มีอยู่แล้วให้เป็นไปโดยเรียบร้อย มีสิทธิและอำนาจยกเลิกหรือทบทวนการตัดสินของสภาที่ปรึกษาประชาชนในระดับเดียวกันดูแลทุกข์สุขของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองและยังมีหน้าที่อีกอย่างคือการเลือกตั้งที่ปรึกษาสภาท้องถิ่น แต่ในทางปฏิบัติเพียงแต่อนุมัติตามบัญชีรายชื่อผู้สมัครที่ทางกรรมาธิการพรรคแห่งท้องถิ่นได้ทำการคัดเลือกมาแล้วชั้นหนึ่ง

6. ความสัมพันธ์ของรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง

  • คณะกรรมการรัฐบาลกลางมีสิทธิ์ยกเลิกระเบียบข้อบังคับของท้อถิ่นที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ
  • รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นมีการประสานงานกันเพื่อพัฒนาประเทศ
  • รัฐบาลกลางมีสิทธิ์ตรวจสอบคณะผู้บริหารหน่วยงานในระดับท้องถิ่น
  • มีอำนาจปฏิรูปการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลท้องถิ่น

อ้างอิง[แก้]

  1. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2548, หน้า 7-3
  2. เสฐียรโกเศศ, 2515, หน้า148
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 ครองแผ่นดินจีน
  4. วรศักดิ์ มหัทธโนบล, 2554, หน้า418
  5. 5.0 5.1 การเมืองและการปกครองสาธารณรัฐประชาชนจีน