บ็อบบี้ ฟาร์เรล
บ็อบบี้ ฟาร์เรล | |
---|---|
![]() บ็อบบี้ ฟาร์เรล กับวง บอนนี เอ็ม. ในปี 2006 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | โรเบอร์โต อัลฟองโซ ฟาร์เรล[1] |
เกิด | 6 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ซาน นิโคลัส, อารูบา |
เสียชีวิต | 30 ธันวาคม ค.ศ. 2010 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ประเทศรัสเซีย | (61 ปี)
แนวเพลง | ดิสโก, อาร์แอนด์บี, เร็กเก |
อาชีพ | Dancer, entertainer |
ช่วงปี | 1975–2010 |
ค่ายเพลง | ฮันซา เรคคอร์ดส์, โซนี บีเอ็มจี |
โรเบอร์โต อัลฟองโซ ฟาร์เรล (อังกฤษ: Roberto Alfonso Farrell) หรือ บ็อบบี ฟาร์เรล (6 ตุลาคม ค.ศ. 1949 - 30 ธันวาคม ค.ศ. 2010) เป็นนักร้องและนักเต้นชาวดัตช์ และอดีตสมาชิกของวงบอนนี เอ็ม. วงดนตรีแนวป็อป-ดิสโก้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุค 70[2]
ประวัติ
[แก้]ฟาร์เรล เกิดที่เกาะอารูบา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีส โดยหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาเมื่ออายุ 15 ปี เขาได้ทำงานเป็นกะลาสีเรือ 2 ปี ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์ หลังจากนั้นเขาย้ายที่อยู่อีกครั้งโดยครั้งนี้เขาย้ายไปยังประเทศเนเธอแลนด์ โดยได้เริ่มทำงานชั่วคราวเป็นดีเจ จากนั้นเขาได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศเยอรมัน เพื่อมองหาโอกาสในหน้าที่การงานที่ดีขึ้น
บอนนี เอ็ม.
[แก้]ที่เยอรมัน ฟาร์เรลได้ทำงานประจำเป็นดีเจ จนกระทั่งได้พบกับแฟรงค์ ฟาเรียน โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน ที่กำลังสร้างวงบอนนี เอ็ม. และกำลังหาตัวสมาชิกที่เป็นผู้ชาย โดยแฟรงก์ ฟาเรียน ได้ให้ความสนใจในตัวบ็อบบี ฟาร์เรล และชักชวนฟาร์เรล เข้าวง ในปี ค.ศ.1976
อย่างไรก็ตามบทบาทของบ็อบบี ฟาร์เรล ก็คือนักเต้นในวง ส่วนเสียงร้องที่ฟาร์เรลร้องลิปซิงค์บนเวทีนั้น ในเวลาต่อมา แฟรงค์ ฟาเรียน ที่ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ได้เปิดเผยว่า เสียงร้องผู้ชายในเพลงของบอนนี เอ็ม. ตัวเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์เป็นคนร้องเอง นอกจากนี้ลิซ มิตเชลล์ สมาชิกหญิงของวงได้เปิดเผยว่าคนที่ทำหน้าที่ร้องเพลงและบันทึกเสียงส่วนใหญ่ในสตูดิโอ มีเพียงเธอและมาร์เซีย บาร์เร็ตต์ สมาชิกอีกคนหนึ่งที่ร้องนำในเสียงผู้หญิง ส่วนเสียงร้องผู้ชายร้องและบันทึกเสียงโดยโปรดิวเซอร์และผู้แต่งเพลงของวงอย่างแฟรงค์ ฟาเรียน[3]
บ็อบบี ฟาร์เรล ถูกแฟรงค์ ฟาเรียน ไล่ออกจากวงในปี ค.ศ. 1981 หลังจากที่วงออกอัลบั้มชุด Boonononoos ซึ่งสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 5 เนื่องจากมีปัญหาความขัดแย้งกัน โดยบ็อบบี้ต้องการมีบทบาทในวงมากกว่าที่เป็นอยู่ และตำแหน่งของเขาถูกแทนที่ด้วยเรกจี ซิโบ นักแสดงภาพยนตร์ชาวกานา โดยภายหลังจากที่ถูกไล่ออก เขาพยายามเป็นศิลปินเดี่ยวแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในปี1984 แฟรงค์ให้บ็อบบี้กลับมาเข้าวงอีกครั้ง เพื่อดึงความสนใจให้กลับมาสู่Boney M เช่นเดิม กับเพลง "Happy Song" ที่บ็อบบี้ได้ร้องท่อนแร็ปในช่วงแยกของเพลง และอยู่กับBoney M จนถึงปี1985 ที่เป็นปีสุดท้ายของวงกับชุด "Eye Dance"
หลังจากนั้นในปี 1991 บ็อบบี้ก็ได้ฟอร์มวง Boney M Featuring Bobby Farrell ขึ้นมา เพื่อออกทัวร์ตามคอนเสิร์ตต่างๆจนถึงปัจจุบัน โดยเขาเองยอมรับว่า ทำเพื่อหารายได้ เพราะหลังจากBoney M ยุบไป เขามีปัญหาเรื่องการเงินและความเป็นอยู่อย่างมาก โดยสาเหตุหลักมาจากการที่แฟรงค์ ฟาเรี่ยน ไม่ยอมให้ค่าRoyalty กับเขา เพราะเห็นว่าเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการบันทึกเสียงใดๆ (ซึ่ง เมซี่ย์ วิลเลี่ยมส์เองก็เจอปัญหานี้เช่นกัน)
ชีวิตส่วนตัวและการเสียชีวิต
[แก้]ในปี ค.ศ. 1981 ฟาร์เรล ได้สมรสกับแจสมิน ชาบาน ซึ่งเป็นหญิงชาวมาซิโดเนีย-โรมานี[4] โดยมีบุตรสาวคนแรกชื่อซานิลยา ฟาร์เรล ในปี ค.ศ.1983 และมีบุตรชายชื่อซานิน ฟาร์เรล ก่อนที่ต่อมาทั้งคู่จะหย่ากันในปี ค.ศ. 1995
บ็อบบี ฟาร์เรล เสียชีวิตในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2010 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ในขณะที่มีอายุ 61 ปี สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะหัวใจวาย[5] โดยก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิตเขาได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับวงของเขาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในวันพุธ[6][7]โดยหลังจากจบคอนเสิร์ตในช่วงค่ำเขาได้กล่าวกับเอเยนต์ส่วนตัวว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและหายใจไม่ค่อยออก จนกระทั่งถูกพนักงานของโรงแรมพบเป็นศพในช่วงเช้า
หลังจากที่เขาเสียชีวิตร่างของเขาถูกฝังอยู่ในสุสาน Zorgvlied ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยซานิลยา ฟาร์เรล บุตรสาวของเขาเป็นผู้ชนะเลิศในการประกวดรายการ Grand Prize of the Netherlands ค.ศ. 2011 ประเภทดนตรีฮิปฮอป
ผลงานเดี่ยวของบ็อบบี้ ฟาร์เรล
[แก้]ซิงเกิล
- 1982: Polizei / A Fool In Love
- 1985: King OF Dancing / I See You
- 1987: Hoppa Hoppa / Hoppa Hoppa (Instrumental)
- 1991: Tribute To Josephine Baker
- 2004: Aruban Style (Mixes) S-Cream Featuring Bobby Farrell
- 2006: The Bump EP
- 2009: Bamboo Song
อัลบั้มเดี่ยว
- 1982: "Unreleased Album" (ทำกับวง Eruption แต่ไม่ได้ถูกวางขาย เพราะซิงเกิลที่วางขายเพื่อลองตลาดคือ Polizei / A Fool In Love ไม่ประสบความสำเร็จ
Bobby Farrell's Boney M. / Boney M. Featuring Bobby Farrell / Bobby Farrell Featuring Sandy Chambers
- 2000: The Best Of Boney M. (DVMore)
- 2001: Boney M. - I Successi (DVMore)
- 2001: The Best Of Boney M. (II) (compilation)
- 2001: The Best Of Boney M. (III) (compilation)
- 2005: Boney M. - Remix 2005 (featuring Sandy Chambers) (compilation) (Crisler)
- 2007: Boney M. - Disco Collection (compilation)
นี่คืออัลบั้มที่บ็อบบี้ ฟาร์เรลบันทึกเพลงของBoney M ขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่อัลบั้มต้นฉบับของ Boney M.
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Albums by Bobby Farrell - Rate Your Music
- ↑ Wainwright, Martin (30 December 2010). "Boney M singer Bobby Farrell dies at 61". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 30 December 2010.
- ↑ "Whatever happened to Boney M?". BBC News. 29 January 2002. สืบค้นเมื่อ 30 December 2010.
- ↑ Macedonian wedding of the decade RTV Revija, August 1981, in Serbian
- ↑ "Farrell overleed door hartfalen". De Telegraaf. 31 December 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-07. สืบค้นเมื่อ 1 January 2011.
- ↑ "Bobby Farrell (61) overleden". NU.nl. 30 December 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-30. สืบค้นเมื่อ 30 December 2010.
- ↑ "Boney M's Bobby Farrell has died, aged 61". RTÉ. 30 December 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 January 2011. สืบค้นเมื่อ 30 December 2010.