บอยเฟรนด์ (เพลงจัสติน บีเบอร์)

นี่คือบทความคุณภาพ คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

"บอยเฟรนด์"
ซิงเกิลโดยจัสติน บีเบอร์
จากอัลบั้มบีลีฟ
วางจำหน่าย26 มีนาคม ค.ศ. 2012
บันทึกเสียง2011; ชาลีสเรคคอร์ดิงสตูดิโอ (ฮอลลีวูด, ลอสแอนเจลิส)
แนวเพลง
ความยาว2:51 นาที
ค่ายเพลง
ผู้ประพันธ์เพลง
โปรดิวเซอร์
ลำดับซิงเกิลของจัสติน บีเบอร์
"ลิฟมายไลฟ์"
(2012)
"บอยเฟรนด์"
(2012)
"เทิร์นทูยู (มาเธอส์เดย์เดดิเคชัน)"
(2012)

"บอยเฟรนด์" (อังกฤษ: Boyfriend) เป็นเพลงของจัสติน บีเบอร์ จากสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ชื่อ บีลีฟ บีเบอร์กล่าวว่าเพลงนี้จะสร้างความประหลาดใจหลายอย่าง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงแนวเพลงจากผลงานชุดก่อนหน้า มีพรีวิวตัวอย่างเพลงบอยเฟรนด์ในรายการ ดิเอลเลนดีเจนเนอเรสโชว์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2012 พร้อมประกาศเพลงนี้เป็นซิงเกิลในวันเดียวกันนั้นเอง และเริ่มจำหน่ายในวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2012 มีการเปิดเผยภาพปกอัลบั้มในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2012

ในด้านดนตรี เพลง "บอยเฟรนด์" เป็นเพลงที่มีอิทธิพลจากแนวอาร์แอนด์บีที่นำเสนอจังหวะป๊อบชวนให้นึกถึงฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน และเอ็นซิงก์ ศิลปินบอยแบนด์ ดนตรีใช้เสียงต่ำเพื่อเน้นเสียงร้องของบีเบอร์ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ติเนื้อร้องว่าอ่อนและไร้สาระ เพลง "บอยเฟรนด์" ประสบความสำเร็จในเชิงการค้า เปิดตัวที่อันดับที่ 2 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 หลังสามารถขายซิงเกิลได้ 521,000 หน่วยดิจิทัล เพลงนี้ยังเป็นเพลงที่มียอดขายดิจิทัลเปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับที่ห้าในสหรัฐอเมริกา และยังติดชาร์ตเพลงป็อปในอันดับที่ 9 เพลงนี้เปิดตัวที่อันดับที่ 1 ในแคนาดาและอันดับที่ 2 ในสหราชอาณาจักร

แรกเริ่มนั้น ไอส์แลนด์เรคอร์ดสมอบหมายให้โคลิน ทิลลีเป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ อย่างไรก็ตาม ต่อมา มิวสิกวิดีโอเดิมถูกยกเลิกและไดเร็กเตอร์เอ็กซ์เป็นผู้ถ่ายทำใหม่ มิวสิกวิดีโอนี้ปล่อยในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งทำลายสถิติวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกของวีโวด้วยจำนวน 8.00 ล้านครั้ง แต่ต่อมาถูกเพลง "ลิฟไวล์วีร์ยัง" ของวันไดเรกชัน โค่นไป (8.24 ล้าน) เพื่อเป็นการส่งเสริมเพลงนี้ บีเบอร์แสดง "บอยเฟรนด์" ในรายการสดหลายรายการ รวมถึงรายการเดอะวอยซ์ในรอบปิดซีซันที่ 2 และในบิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ดส 2012 ศิลปินแร็พดูโอ ยิงยางทวินส์ ยังได้ปล่อยเวอร์ชันรีมิกซ์ของเพลงนี้โดยเพิ่มเนื้อร้องท่อนใหม่เข้าไปด้วย เวอร์ชันรีมิกซ์อีกเวอร์ชันของเพลง "บอยเฟรนด์" ได้มีทูเชนส์ แม็ก มิลเลอร์ และแอชเชอร์ รอธ ร่วมร้องด้วย

เบื้องหลังและภาพปกอัลบั้ม[แก้]

"เพราะตัวผมเองก็เป็นศิลปิน ผมจะค่อนข้างช่างเลือกว่าจะให้ใครทำเพลงและแต่งทำนองให้... และสิ่งที่ผมมองหาจริง ๆ คือนักร้องน่าทึ่งสักคนที่ร้องเพลงได้ดีกว่าผม และอีกอย่างคือ บางคนที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำสิ่งที่ประสบความสำเร็จในอย่างที่เพลงป็อปเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ตั้งใจย้ายมันกลับไปสู่จุดกำเนิดไปยังที่ที่มันเคยอยู่ และจัสตินก็ตั้งใจทำได้อย่างที่ผมต้องการ"

—พอสเนอร์กล่าวถึงการทำงานกับบีเบอร์[1]

ปลายปี ค.ศ. 2011 บีเบอร์ยืนยันกับคลื่นวิทยุ แคปิตัลเอฟเอ็ม ว่าเขากำลังบันทึกเสียงสำหรับผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 และจะออกจำหน่ายในต้นปี ค.ศ. 2012[2] ต่อมาเขาได้ให้สัมภาษณ์กับเอ็มทีวีนิวส์และเปิดเผยว่าอัลบั้ม บีลีฟ จะสร้างความประหลาดใจให้ผู้ฟังในแบบที่ไม่เคยเป็น เพราะดนตรีในอัลบั้มนี้จะแหวกแนวไปจากงานชุดก่อน[3]เพลง "บอยเฟรนด์" ถูกเขียนขึ้นโดยบีเบอร์, ไมเคิล พอสเนอร์, เมสัน ดี. เลวี และแมท มัสโต[4] ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับดีเจบูตเลก เคฟ พอสเนอร์เผยว่าเขาประทับใจในการทำงานของบีเบอร์ และให้ความเห็นว่า "เขามีพรสวรรค์ดีเยี่ยม ในตอนแรก ผมยังไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรได้เพราะเขายังเด็กมาก แต่เขาเขียนเพลงได้"[5] พอสเนอร์กล่าวว่าเหล่าคนฟังจะ "เต้น" ไปตามจังหวะเพลงและคลื่นวิทยุคงอยากเปิดเพลงนี้แน่ เลวีก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับเพลงนี้ บรรยายเพลงนี้ว่า "เฉียบคมอย่างแท้จริง โตขึ้น มีการพัฒนา และเซ็กซี่มากขึ้นกว่าเดิม"[6] ก่อนที่เพลงจะออกจำหน่าย มีผู้คนวงในอุตสาหกรรมเพลงได้ลองฟังเพลงนี้ก่อน เช่น นักจัดรายการวิทยุ มิก ลี จาก WZFT ซึ่งกล่าวว่า "เพลงนี้แตกต่างจากเพลงก่อนหน้าเป็นอย่างมาก"[3]

ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2012 บีเบอร์ได้เป็นแขกรับเชิญในรายการ ดิเอลเลนดีเจนเนอเรสโชว์ เขาประกาศว่าเพลงจะออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มีนาคม[7] เขากล่าวว่า "การประกาศที่ยิ่งใหญ่คือในวันที่ 26 มีนาคม ซิงเกิลแรกของผมจะออกมาและเรียกมันว่า 'บอยเฟรนด์' ตัวเพลงมีเนื้อหาว่า ผมกำลังคุยกับผู้หญิงคนนี้ [พูดว่า] ถ้าผมได้เป็นแฟนคุณ ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหน (If I was your boyfriend, I would never let you go.) เราเขียนท่อนนั้น และท่อนที่ผมกำลังพูด/แร็ป และในท่อนฮุตผมก็ร้อง มันเป็นเพลงที่เจ๋งจริง ๆ"[7] บีเบอร์ยังแสดงการแนะนำเพลงในรายการด้วย.[8] บีเบอร์ได้ทำโพลสำรวจที่ให้แฟนคลับเลือกภาพปกอัลบั้มของซิงเกิลนี้ผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ของเขา เจสซิก้า เซเจอร์ จากป็อปครัช ตั้งข้อสังเกตว่าบีเบอร์ดูโตขึ้นหากดูจากปกอัลบั้มทั้งสองปก ใช้ทรงผมของเอลวิส เพรสลีย์ และสวมเสื้อทีเชิร์ตสีขาว มีเสื้อแขนสั้น ติดกระดุมสีขาวและสีน้ำเงินเข้มใส่ทับ และสร้อยคอบาง ๆ [9] ภาพปกอัลบั้มที่ได้รับเลือกถูกเผยออกมาในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2012[9]

การวางองค์ประกอบเพลง[แก้]

"บอยเฟรนด์" เป็นเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงแนวอาร์แอนด์บีมีความยาว 2 นาที 50 วินาที[4][6] ผสมผสานกับดนตรีอคูสติก มีจังหวะดนตรีคลับบีท เขียนขึ้นด้วยระดับเสียงบีแฟลทไมเนอร์ มีค่าเทมโป 54 จังหวะต่อนาที[6][10] เพลงขึ้นต้นด้วยเสียงระดับต่ำและเสียงลมหายใจแทรกของบีเบอร์ในขณะร้องแร็ปว่า "ถ้าผมได้เป็นแฟนคุณ ผมจะไม่ปล่อยคุณไป/ผมจะพาคุณไปในที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน/ที่รัก คว้าโอกาสไว้มิฉะนั้นคุณจะไม่มีทางได้รู้/ผมมีเงินอยู่ในมือและอยากจะใช้จริง ๆ /ใช้มันไปกับคุณ/นั่งสบายอารมณ์ใกล้แสงไฟตอนที่เรากินฟงดูว์" (If I was your boyfriend, I’d never let you go/ I can take you places you ain’t never been before/ Baby, take a chance or you’ll never ever know/ I got money in my hands that I’d really like to blow/ Swag, swag, swag on you/ Chillin' by the fire while we eatin’ fondue.) [11][12][13] ทันทีที่ท่อนคอรัสตามมา เขาใช้เสียงสูงหรือเสียงฟอลเซตโตคล้ายไมเคิล แจ็กสัน และร้องออกมาเกี่ยวกับ "ทุกสิ่งที่คุณต้องการ" (everything you want) [12]

เสียงดนตรีได้พอสเนอร์และเลวีเป็นคนผลิต ได้ใส่เสียงปรบมือและจังหวะที่มีรูปแบบคล้ายฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ และตามที่เอมี เซียเรตโต นักวิจารณ์จากป๊อบครัชได้พูดถึงไว้ว่า "ถูกปรับให้อยู่ระดับต่ำสุด ทำให้เสียงของบีเบอร์ที่หนักแน่นและลึกซึ้งจากที่เขาโตขึ้นนั้น ได้เปล่งประกายและเป็นที่สนใจของผู้ฟังได้ เซียเรตโตยังคิดว่าเพลง "บอยเฟรนด์" มีความคล้ายคลึงกับเพลง "ครายมีอะริเวอร์" (2002) [12] ของจัสติน ทิมเบอร์เลค ในขณะที่ร็อบบี ดอว์ จากเว็บไซต์ ไอโดเลเตอร์ ถือว่าเป็นการแสดงความรำลึกถึงต้นยุคคริสต์ศตวรรษ 1990[14] โจดี โรเซน จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ไม่ใส่ใจเนื้อหาในเนื้อเพลง และสรุปว่า "จัสตินเพิ่งมีความสัมพันธ์ทางเพศมา แต่เขาจะไม่ทำอันตรายเด็กอายุ 9 ขวบของคุณแน่"[15] มาร์ค โฮแกน นักเขียนจากนิตยสาร สปิน กล่าวว่าเนื้อเพลงได้อ้างถึงเพลงหลายเพลง เช่น "ปาร์ตี้" ของบียอนเซ่ โนวส์ (2011) "ทิลเดอะเวิลด์เอนด์ส" ของบริตนีย์ สเปียส์ (2011) และ "อิฟ" ของเจเน็ต แจ็กสัน (1993) แอนดรูว์ แฮมป์ จากนิตยสาร บิลบอร์ด กล่าวว่า จังหวะแบบคลับเรดี้และคอรัสแบบกีต้าร์ไม่เสียบปลั๊กทำให้นึกถึงเพลง "เกิร์ลเฟรนด์" ซิงเกิลสุดท้ายของวง เอ็นซิงก์ และเปรียบเทียบกับเพลงยุคแรก ๆ ของจัสติน ทิมเบอร์เลค และอัชเชอร์[11]

การตอบรับ[แก้]

"บอยเฟรนด์" ได้รับเสียงวิจารณ์คละกัน แอนดรูว์ แฮมป์แห่งนิตยสาร บิลบอร์ด ให้คะแนน 82 เต็ม 100 คะแนน โดยกล่าวว่า เสียงของบีเบอร์ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เคย แต่สังเกตว่าแฟนคลับส่วนใหญ่ของเขายังเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี[11] เอมี เซียเรตโต แห่งป็อปครัช ยกย่องบทเพลงและกล่าวว่า ผลของการลองแนวดนตรีใหม่ ๆ ลงเอยด้วย "เพลงจัสติน บีเบอร์ที่เป็นผู้ใหญ่และรอบด้านมากขึ้น"[12] เจนนา ฮอลลี รูเบนสไตน์ จากเอ็มทีวี กล่าวว่า "บอยเฟรนด์" นั้นเป็น "ยาเสพติดบ้า" (crazy dope) และตระหนักว่าเนื้อเพลงมุ่งไปยังสิ่งที่บีเบอร์ทำกับเซเลน่า โกเมซ แฟนสาวคนปัจจุบัน[13] เบกก้า กริม จากนิตยสาร โรลลิงสโตน มีความคิดว่าเพลงนี้ "ตึงกว่าปกติ" (edgier-than-usual) [16] ขณะที่เบรนยา บรานดาโน่ นักวิจารณ์จากบริษัทอาร์ทิสท์ไดเรกต์ กล่าวว่า "บอยเฟรนด์" ไม่เพียงเป็นการเปลี่ยนผ่านของบีเบอร์สู่ผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็น "รุ่งอรุณใหม่แห่งเพลงป็อป"[17] มาร์ก โฮแกน จากนิตยสาร สปิน กล่าวว่า บีเบอร์ "อยากทำให้คุณตื่นเต้นมากขึ้น" (sex you up) ไปกับเพลง แต่คิดว่า "บีเบอร์อาจจะเป็นนักเกี้ยวผู้มั่งคั่ง แต่เขายังไม่โต"[18] นักวิจารณ์จากนิตยสาร แร็ป-อัพ กล่าวชมเพลง "บอยเฟรนด์" ที่แสดงให้เห็นบีเบอร์วัยผู้ใหญ่และเสียงดนตรีแบบในเมืองลงในเพลง[19] สตีเวน ไฮเดน และ Genevieve Koski บรรณาธิการของ ดิ เอ.วี. คลับ ให้เกรด A- พร้อมกล่าวชมเพลงในด้านการผลิตและเสียงร้อง และถือว่า "ต้านทานไม่ได้ เมื่อบีเบอร์ปล่อยเสียงสูงแบบทิมเบอร์เลก มันรู้สึกค่อนข้างสมบูรณ์แบบ" พวกเขายังจัดอันดับให้เป็นซิงเกิลที่ดีที่สุดซิงเกิลหนึ่งของบีเบอร์ แม้พวกเขาวิจารณ์เนื้อหาในเนื้อเพลง[20]

จอร์แดน ซาคาริน จาก เดอะฮอลลิวูดรีพอร์เตอร์ บรรยายเพลงนี้ว่า "เป็นข้อเสนอไม่มากก็น้อย โดยบีเบอร์ร่างทั้งแนวคิดเดตในเมืองเล็กและคำสัญญาชั่วนิรันดร์"[21] Raju Mudhar จาก โตรอนโตสตาร์ ออกความเห็นว่า จากเนื้อเพลง บีเบอร์นั้น "ไม่ใกล้เคียงกับการนำ 'เซ็กซีแบ็ค' กลับมา แต่ฟังเหมือนเขาต้องการจูงมือคุณเดินกลับบ้าน"[22] โจดี้ โรเซน จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ให้ 3 ดาวเต็ม 5 และ ขณะที่มองเบื้องหลังเป็น "การคำนวณอย่างเชี่ยวชาญเพื่อบรรเทาการเปลี่ยนผ่านของบีเบอร์จากเด็กน้อยเสน่ห์แรงไปเป็นหนุ่มน้อยเสน่ห์แรง" แต่ตั้งคำถามว่า "เพลงที่เริ่มด้วยบีเบอร์ร้องแร็ปในภาษาชนบทที่ห้าวที่สุดเกี่ยวกับ "ของโจร" ของเขาจะไม่เป็นเหยื่อผู้รังเกียจได้อย่างไร"[15] บิล แลมบ์ นักวิจารณ์จากอะเบาต์ดอตคอม ถือว่าเพลงนี้เป็น "เพลงอย่างง่ายซึ่งมาจากจัสติน ทิมเบอร์เลก" และกล่าวว่า เนื้อเพลงไม่มี "สาระให้ขยายเป็นเพลงทั้งเพลงได้"[4] คริส เอกเกิร์ตเซน นักเขียนบล็อก ฮิตฟิกซ์ คิดว่า ในด้านเนื้อเพลง "บอยเฟรนด์" เป็นเพลงเดียวกับที่บีเบอร์เคยร้องตั้งแต่เริ่มอาชีพ แต่สังเกตว่าไม่มีแฟนคลับคนใดสังเกตมุมมองนี้[23] เกรกอรี ฮิคส์ จากเดอะมิชิแกนเดลี ให้ความเห็นว่า บีเบอร์กำลังเลียนแบบลักษณะความเป็นอาร์แอนด์บีของจัสติน ทิมเบอร์เลก และบรรยายเนื้อเพลงว่าเป็นต้นตำรับ "ในแง่ที่ศิลปินน้อยคนนักที่ตั้งใจนำความเขลาทางกวีมากขนาดนี้เข้ามาในเพลงของตน""[24] เออร์เนส วิลคินส์ จาก เรดอายส์ กล่าวว่า บีเบอร์ไม่รู้วิธีแร็ปที่ดี และเสริมว่า "ผมนึกถึงช่วงที่ Wahlberg เป็นนักร้องแร็ปผิวขาวที่งุ่มง่ามที่สุดในโลก"[25]

บนชาร์ตเพลง[แก้]

เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เพลงถูกปล่อยออกมา "บอยเฟรนด์" ขึ้นถึงอันดับสูงสุดของร้านไอทูนส์ของสหรัฐอเมริกา[26] คีธ คอลิฟายด์ จากบิลบอร์ด กล่าวว่า ค่ายเพลงระบุว่าเพลงนี้ขายได้ประมาณ 400,000 ดาวน์โหลดภายในสุดสัปดาห์วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2012 และระบุว่าเพลงได้เปิดตัวที่ห้าอันดับแรกของชาร์ตฮอต 100[27] เพลงบอยเฟรนด์เปิดตัวที่อันดับที่ 2 บนชาร์ต รองจากเพลง "วีอาร์ยัง" ของวง ฟัน ร้องร่วมกับ จาเนล โมเน เพลงขายได้รวม 521,000 หน่วย สูงที่สุดเป็นอันดับสองในสัปดาห์ที่เปิดตัว[28] บิล เวิร์ด จากบิลบอร์ด กล่าวว่า เพลงไม่สามารถเปิดตัวที่อันดับที่ 1 ได้เพราะยอดดาวน์โหลดเกิดจากการดาวน์โหลดผ่านร้านไอทูนส์เท่านั้น "เป็นการจำกัดตัวเลือกในการซื้อของผู้ที่ไม่ได้ซื้อในร้ายขายปลีกของแอปเปิลบ่อยนัก"[29] เพลงขายได้ถึง 3,216,000 ดาวน์โหลดในสหรัฐภายในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012[30] เพลง "บอยเฟรนด์" ยังเป็นซิงเกิลแรกที่ขึ้นสูงสุดบนชาร์ตแคนาเดียนฮอต 100 โดยเปิดตัวที่อันดับ 1 และอยู่ได้ 1 สัปดาห์[28]

ในสหราชอาณาจักร เพลงเปิดตัวที่อันดับที่สองด้วยยอดขาย 54,817 ในสิ้นสุดสัปดาห์ของวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2012 เป็นรองเพียงแค่เพลงของนักร้องร่วมสัญชาติอย่างเพลง "คอลมีเมย์บี" ของคาร์ลี เร เจปเซน[31][32] เพลงบอยเฟรนด์ขึ้นถึงสิบอันดับแรกในเดนมาร์ก ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ขณะที่อยู่ในยี่สิบอันดับแรกในเบลเยียม ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์[31][33] ในออสเตรเลีย เพลงบอยเฟรนด์เปิดตัวและขึ้นสูงสุดที่อันดับที่ 5 บนชาร์ตประจำวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2012 เพลงบอยเฟรนด์ยังคงไม่สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งในนิวซีแลนด์ เนื่องจากเปิดตัวและขึ้นสูงสุดที่อันดับที่ 2 เท่านั้น[34]

การส่งเสริมเพลง[แก้]

มิวสิกวิดีโอ[แก้]

ไอส์แลนด์เดฟแจมมิวสิกกรุ๊ปมอบหมายให้โคลิน ทิลลีกำกับมิวสิกวิดีโอ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำงานกับบีเบอร์ในมิวสิกวิดีโอเพลง "ยูสไมล์" (ค.ศ. 2010) [35] การถ่ายทำมีขึ้นในสัปดาห์วันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2012 ที่สตูดิโอแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย[35][36] บีเบอร์เผยว่ามิวสิกวิดีโอไม่ได้มี "มโนทัศน์คงตัว" และเสริมว่า ส่วนใหญ่แสดงมุมกล้องแบบศิลป์แทรกด้วยท่าเต้นประกอบฉาก เขาอธิบายต่อว่า "มันไม่ใช่ว่า 'บีเบอร์ตามผู้หญิงคนนี้มายังจุดนี้ ไม่ใช่ มันเป็นกลุ่มฉากที่น่าประหลาดใจ เช่นเดียวกับฉากไฟ เรามีฉากน้ำแข็ง"[35] ในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2012 บีเบอร์ได้เผยแพร่ทีเซอร์ (teaser) ของคลิป[37] เบ็กกี เบน จากเว็บไซต์ไอโดเลเตอร์ เปิดเผยว่า ทีเซอร์ที่ตามมาหลายตัวแสดงบีเบอร์กำลังถูกมือหญิงหลายคนลูบคลำ ขณะกำลังเต้นท่าไมเคิล แจ็กสันอยู่หน้าสปอตไลต์สีขาวขนาดใหญ่ [และ]โพสอย่างเป็นอันตรายหน้าไฟและและลอยอยู่ใต้น้ำ"[38] นิโคลา เซีย จากเว็บไซต์ไอโดเลเตอร์เช่นกัน มองฉากที่นักร้อง "กระซิบที่ข้างหูสาว ๆ อย่างยั่วยวน" ว่า "อีโรติก"เกินไป[39]

แต่ภายหลังมีรายงานว่ามิวสิกวิดีโอที่ทิลลีกำกับถูกพับไป[40] และถ่ายทำใหม่โดยไดเร็กเตอร์เอ็กซ์ (Director X) ในช่วงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2012[41][42] วิดีโอเวอร์ชันที่สองเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ทางช่องเอ็มทีวี[40] ไดเร็กเตอร์เอ็กซ์ได้สรุปเรื่องย่อในวิดีโอว่า "มีแค่รถยนต์และความเรียบง่ายที่เขาโปรดปราน รถยนต์ ผู้หญิง แค่คนหนุ่มสาวไปเที่ยวกัน สนุกกัน อะไรประมาณนั้น ตอนที่ผมได้ยินมัน ผมคิดว่านั่นแหละเหมาะสมแล้ว"[43]

โบรแกน ดริสคอล จาก เดอะฮัฟฟิงตันโพสต์ เขียนว่า บีเบอร์ "ได้แสดงให้เห็นว่าเขาโตขึ้น ขับรถเร็ว และคว้าสาวนุ่งน้อยห่มน้อยมาอยู่ในอ้อมแขน"[44] เจมส์ มอนต์โกเมอรี จากเอ็มทีวีนิวส์ เขียนว่า "เต็มไปด้วยเสื้อผ้าเจ๋ง ๆ รถร้อนแรง และผู้หญิงที่ร้อนแรงยิ่งหว่า บอยเฟรนด์ เป็นชิ้นงานแห่งฝันของผู้ใหญ่คนใหม่ที่ชอบต่างเพศที่ทำงานหนักเกินไป" และเสริมอีกว่า "เป็นคลิปที่เจ๋งและมั่นใจ และยิ่งรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรในตอนนี้ มันยิ่งเป็นคลิปที่สำคัญ"[45] บรูนา เนสซิฟ จาก อี! ออนไลน์ ให้ความเห็นสั้น ๆ ว่า บีเบอร์ "ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป"[46] หลังจากออกจำหน่าย วิดีโอนี้ทำลายสถิติของวีโว หลังจากมียอดวิวมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกด้วยจำนวน 8.00 ล้านยอดวิว หลังจากที่สถิติเดิมทำไว้โดยเพลง "สติวปิดโฮ" ของนิกกี มินาจ (4.8 ล้านยอดวิว) และเพลง "แวร์แฮฟยูบีน" ของริอานนา (4.9 ล้านยอดวิว) [47] แต่สุดท้ายหลังจากวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2012 มิวสิกวิดีโอเพลง "ลิฟไวล์วีร์ยัง" ของวันไดเรกชัน ถูกปล่อยออกมาก็ทำยอดวิวได้ 8.24 ล้านยอดวิวใน 24 ชั่วโมงแรก ทำลายสถิติที่บีเบอร์ได้ทำไว้ (8.00 ล้านยอดวิว) [48]

การแสดงสด[แก้]

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตเพลง บีเบอร์แสดงเพลง "บอยเฟรนด์" ในรายการ เดอะวอยซ์ ซีซันสอง ตอนสุดท้าย จบลงด้วยท่าเต้นที่ชวนให้รำลึกถึงเพลง "ริธึมเนชัน" ของเจเน็ต แจ็กสัน[49] บีเบอร์ยังแสดงเพลงนี้ในงานประกาศรางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ดส 2012 และรายการเน็กซ์ท็อปโมเดลของประเทศเยอรมนีอีกด้วย[50][51][52] บีเบอร์ยังแสดงเพลง "บอยเฟรนด์" ที่งานแคปิตัลเอฟเอ็มซัมเมอร์ไทม์บอล 2012 ด้วย[53] สำหรับการแสดงนั้น บีเบอร์สวมใส่ถุงมือแบบไม่มีนิ้วมือ เสื้อกล้ามลายยูเนียนแจ็กกับเสื้อกั๊กที่เข้ากัน และกางเกงยีนส์[54] บีเบอร์ยังแสดงเพลงนี้ในระหว่างเล่นคอนเสิร์ตโปรโมตเพลงในทวีปยุโรปในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2012 ร่วมกับเพลง "ออลอะราวด์เดอะเวิลด์" และ "ดายอินยัวร์อามส์"บีเบอร์ร้องเพลงนี้เป็นครั้งแรกหลังงาน 2015 แวงโกแทงโก [55]

การนำมาทำใหม่[แก้]

ในปี ค.ศ. 2012 เพลงบอยเฟรนด์ถูกนำไปคัฟเวอร์โดยวงดนตรีแนวเมทัลคอร์ อิชชูส์ ลงในอัลบั้ม พังก์โกส์ป็อปไฟฟ์[56] ในเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน ซิโมเรลลีคัฟเวอร์เพลงบอยเฟรนด์เข้าประกวดงานชื่อ "เดอะบีเบอร์-ออฟ" และชนะการประกวดหลังจากวันที่ 21 พฤษภาคม และภายในปีเดียวกัน นักแสดงเจเด็น สมิธ เพื่อนคนหนึ่งของบีเบอร์ ได้รีมิกซ์เพลงบอยเฟรนด์และตั้งชื่อว่า "เฟลม (จัสต์คัส) " ยังมีเวอร์ชันรีมิกซ์ที่ได้แม็ก มิลเลอร์, แอชเชอร์ รอธ และทูเชนส์ ร้องร่วมด้วย เวอร์ชันนี้ออกจำหน่ายในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2012[57]

ในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 2012 มารีนาแอนด์เดอะไดมอนส์ ได้คัฟเวอร์เพลงนี้ในการแสดงในรายการไลฟ์เลาจ์ ทางสถานีวิทยุบีบีซีเรดิโอ 1 ในระหว่างการแสดง เธอได้เปลี่ยนเนื้อร้องและเจฟฟ์ เบนจามิน จากนิตยสาร บิลบอร์ด กล่าวว่า "เธอได้เปลี่ยนแนวดนตรีของเพลงนี้ด้วย จากผลงานล่าสุดของบีเบอร์ไปเป็นดนตรีอคูสติกแบบมืดมน"[58] และในปีเดียวกัน เควิน แม็กเฮล และดาร์เรน คริส (ในนามของตัวละครชื่ออาร์ตี อะบรัมส์ และเบลน แอนเดอร์สัน) แสดงเพลงบอยเฟรนด์ผสมกับเพลง "บอยส์" ของบริตนีย์ สเปียส์ในตอน "บริตนีย์ 2.0" ของซีรีส์มิวสิคัล กลี[59]

คู่นักร้องแร็ป ยิงยางทวินส์ รีมิกซ์เพลงบอยเฟรนด์ในช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2012[60] ดี-ร็อก หนึ่งในสมาชิกอธิบายว่า หลังจากเพื่อนของเขานำเพลงบอยเฟรนด์ไปเปรียบเทียบกับเพลง "เวต (เดอะวิสเปอร์ซอง) " (ค.ศ. 2005) ของพวกเขา เขากล่าวว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ฟังเพลงนี้ เมื่อผมได้ฟังมัน ผมก็รู้สึกว่าเสียงมันฟังดูเป็นตัวพวกเรา เขาชมพวกเรา" เขากล่าวอีกว่า "ดังนั้นผมจึงอยากทำเวอร์ชันนี้เพื่อชื่นชมเขาบ้าง"[60][61]

ในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 มีเวอร์ชันผสมกันของเพลงบอยเฟรนด์ และเพลง "เกิร์ลเฟรนด์" ของเอ็นซิงก์ ถูกอัปโหลดขึ้นยูทูบ และกลายเป็นไวรอลวิดีโออย่างรวดเร็ว ใน ค.ศ. 2013 วงดนตรีแนวอะแคปเปลลา ซิกซ์ นำเพลง "บอยเฟรนด์" มาร้องใหม่ โดยนักร้องนำและมือเบส แจ็ก นัดเซน ร้องเพลงนี้ลงอัลบั้ม ไลฟ์อิสอะไฮเวย์[62][63]

รายชื่อแทร็ก[แก้]

  • ดิจิทัลดาวน์โหลด[11] / ซีดี ซิงเกิล[64]
  1. "บอยเฟรนด์" – 3:31
  • ดิจิทัลดาวน์โหลด – เวอร์ชันรีมิกศ์[65]
  1. "บอยเฟรนด์" (Oliver Twizt Radio) – 3:44
  2. "บอยเฟรนด์" (Oliver Twizt Club) – 4:27
  3. "บอยเฟรนด์" (Oliver Twizt Instrumental) – 4:27
  4. "บอยเฟรนด์" (Vice Radio) – 3:08
  5. "บอยเฟรนด์" (Vice Club) - 4:46
  6. "บอยเฟรนด์" (Vice Instrumental) – 4:46
  7. "บอยเฟรนด์" (Joe Gauthreaux & Peter Barona Full Vocal Club) – 6:58
  8. "บอยเฟรนด์" (Joe Gauthreaux Dark Dub) – 7:46
  • ดิจิทัลดาวน์โหลด – บอยเฟรนด์ (Dada Life Remix) - ซิงเกิล[65]
  1. "บอยเฟรนด์" (Dada Life Remix) – 5:32

ผู้มีส่วนร่วมทำเพลง[แก้]

การบันทึกเสียง[66]
คณะทำงาน[66]
  • ไมก์ พอสเนอร์ – เขียนเพลง, โปรดิวซ์, คีย์บอร์ด
  • จัสติน บีเบอร์ – เขียนเพลง, ร้องนำ
  • เมสัน "เอ็มดีแอล" เลวี – เขียนเพลง, โปรดิวซ์
  • แมทธิว มัสโต – เขียนเพลง, ผลิตเสียงกีต้าร์
  • คัก ฮาร์เรล – ผลิตเสียงร้องนำ
  • จอช กุดวิน – เอนจินเนียร์
  • คริส "ทีอีเค" โอ'ไรอัน – เอนจินเนียร์
  • โธมัส คัลลิสัน – ผู้ช่วยเอนจินเนียร์
  • แมนนี มาร์โรควิน – ผสานเสียง
  • คริส กัลแลนด์ – ผู้ช่วยผสานเสียง
  • เดล บาวเออร์ส – ผู้ช่วยผสานเสียง
  • เบนนี สตีล – บันทึกเสียงกีต้าร์

ชาร์ตและการรับรอง[แก้]

การออกจำหน่าย[แก้]

ประเทศ วันที่ รูปแบบ สังกัด
ทั่วโลก[118] 23 มีนาคม 2012 ดิจิทัลดาวน์โหลด ดิไอส์แลนด์เดฟแจมมิวสิกกรุ๊ป
เยอรมนี[64] 20 เมษายน 2012 ซีดีซิงเกิล
ฝรั่งเศส[119] 7 พฤษภาคม, 2012
สหราชอาณาจักร[120] 21 พฤษภาคม 2012 เมอร์คิวรี เรเคิดส์
สหรัฐอเมริกา[65] 12 มิถุนายน 2012 ดิจิทัลดาวน์โหลด — เวอร์ชันรีมิกซ์ ไอส์แลนด์ เรเคิดส์, เรย์มอนด์ บรอน มีเดีย กรุ๊ป, สคูลบอย เรเคิดส์

อ้างอิง[แก้]

  1. Vena, Jocelyn (March 26, 2012). "Justin Bieber Takes A 'Leap' With 'Boyfriend'". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.
  2. "Justin Bieber Teams Up With Kanye West And Drake For New Album 'Believe'". Capital FM. October 25, 2011. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.
  3. 3.0 3.1 Vena, Jocelyn (March 12, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Track Getting Early Buzz". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.
  4. 4.0 4.1 4.2 Lamb, Bill (March 26, 2012). "Justin Bieber – "Boyfriend"". About.com. Rovi Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-19. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  5. Dihn, James (March 12, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Track Is 'Super Hip-Hop, ' Producer Says". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.
  6. 6.0 6.1 6.2 Vena, Jocelyn (March 22, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Single Is 'Definitely Edgier'". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.
  7. 7.0 7.1 Vena, Jocely (March 1, 2012). "Justin Bieber Announces New Single, 'Boyfriend'". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  8. Daw, Robbie (March 23, 2012). "Justin Bieber Plays Clip Of "Boyfriend" On 'Ellen', Has Us Thinking Of Hi-Five". Idolator. Buzz Media. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  9. 9.0 9.1 Sager, Jessica (March 13, 2012). "Help Choose Justin Bieber's 'Boyfriend' Cover Art!". Pop Crush. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  10. Bieber, Justin. "Justin Bieber – Boyfriend Sheet Music (Digital Download)". Musicnotes.com. สืบค้นเมื่อ 2012-06-13.
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 Hampp, Andrew (March 26, 2012). "Track Review: Justin Bieber, 'Boyfriend'". Billboard. Prometheus Global Media. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  12. 12.0 12.1 12.2 12.3 Sciaretto, Amy (March 26, 2012). "Justin Bieber, 'Boyfriend' – Song Review". Pop Crush. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  13. 13.0 13.1 Rubenstein, Jenna Hally (March 26, 2012). "New Song: Justin Bieber, 'Boyfriend'". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  14. Daw, Robbie (March 26, 2012). "Justin Bieber's "Boyfriend": Listen To The Full Song". Idolator. Buzz Media. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  15. 15.0 15.1 Rosen, Jody (March 26, 2012). "Boyfriend – Song Reviews". Rolling Stone. Jann Wenner. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-12. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  16. Grim, Becca (March 26, 2012). "Justin Bieber Drops New Single, 'Boyfriend'". Rolling Stone. Jann Wenner. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  17. Brandano, Breña (March 29, 2012). "Justin Bieber "Boyfriend" Song Review — 5 out of 5 stars". Artistdirect. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-06. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  18. Hogan, Marc (March 26, 2012). "Color Me Bland: Justin Bieber's 'Boyfriend' Wants to Sex You Up". Spin. Spin Media LLC. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  19. "New Music: Justin Bieber - 'Boyfriend'". Rap-Up. Devin Lazerine. March 25, 2012. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  20. Hyden, Steven; Koski, Genevieve (March 31, 2012). "This Was Pop: March 31, 2012". The A.V. Club. The Onion, Inc. สืบค้นเมื่อ March 31, 2012.
  21. Zakarin, Jordan (March 26, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Single Released (Audio)". The Hollywood Reporter. Lynne Segall. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  22. Mudhar, Raju (March 28, 2012). "Justin Bieber releases "Boyfriend, " rockets to top of iTunes chart". Toronto Star. Star Media Group. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-31. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  23. Eggertsen, Chris (March 26, 2012). "Listen: Justin Bieber wants to be your 'Boyfriend' in new single". HitFix. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  24. Hicks, Gregory (March 28, 2012). "Single Review: Justin Bieber makes a crappy 'Boyfriend'". The Michigan Daily. Zachary Yancer. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012.
  25. Wilkins, Ernest (March 23, 2012). 0,600894.htmlstory "Unnecessary immediate Internet review: Justin Bieber's "Boyfriend"". RedEye. Kurt Mueller. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)
  26. Unterberger, Andrew (March 26, 2012). "The Singles Bar: Justin Bieber, "Boyfriend"". Pop Dust. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-08. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  27. Caulfield, Keith (March 27, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Bound For Big Hot 100 Debut". Billboard. Prometheus Global Media. สืบค้นเมื่อ March 27, 2012.
  28. 28.0 28.1 Trust, Gary (April 4, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Debuts at No. 2 on Hot 100". Billboard. Prometheus Global Media. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  29. Werde, Bill (April 4, 2012). "Editor's Note: What Role Did Bundling and Exclusives Play in Madonna and Justin Bieber's Big Debuts?". Billboard. Prometheus Global Media. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  30. 30.0 30.1 Grein, Paul (January 3, 2013). "Chart Watch Extra: Top Songs of 2012". Yahoo! Music. Yahoo!. สืบค้นเมื่อ January 5, 2013.
  31. 31.0 31.1 31.2 "Justin Bieber – Boyfriend" (in Dutch). Single Top 100. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  32. Jones, Alan (April 15, 2012). "Official chart analysis: weekly album sales plummet to record 21st Century low, Adele back at No.1". Music Week. Intent Media. สืบค้นเมื่อ April 18, 2012.
  33. 33.0 33.1 "Chart Track: Week 14, 2012". Irish Singles Chart. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  34. 34.0 34.1 "Justin Bieber – Boyfriend". Top 40 Singles. สืบค้นเมื่อ April 3, 2012.
  35. 35.0 35.1 35.2 Vena, Jocelyn; Marino, Kelly (March 30, 2012). "Justin Bieber Promises Fire And Ice In 'Boyfriend' Video". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  36. "Justin Bieber Says 'Boyfriend' Music Video Will Be "Epic"". Capital FM. March 28, 2012. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  37. Vena, Jocelyn (April 3, 2012). "Justin Bieber Drops New 'Boyfriend' Video Tease". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012.
  38. Bain, Becky (May 3, 2012). "Justin Bieber's "Boyfriend" Video Premieres: What Happened To The Original Concept?". Idolator. Buzz Media. สืบค้นเมื่อ May 5, 2012.
  39. Bieber, Nicole (April 17, 2012). "Justin Bieber Premieres New "Boyfriend" Video Trailer, Confirms 'Believe' Release Date". Idolator. Buzz Media. สืบค้นเมื่อ May 5, 2012.
  40. 40.0 40.1 "Video: Justin Bieber – Boyfriend". Rap-Up. Devin Lazerine. May 3, 2012. สืบค้นเมื่อ May 5, 2012.
  41. Vena, Jocelyn (May 2, 2012). "Justin Bieber 'Has A Type, ' 'Boyfriend' Director Says". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ May 5, 2012.
  42. Vena, Jocelyn (April 23, 2012). "Justin Bieber Spotted Kissing A Brunette On 'Boyfriend' Set". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ April 5, 2012.
  43. Vena, Jocelyn (May 3, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Video All About 'Cars, Girls'". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ May 5, 2012.
  44. Driscoll, Brogan (May 4, 2012). "Justin Bieber Releases 'Boyfriend' Music Video From The Album 'Believe' (VIDEO)". The Huffington Post. สืบค้นเมื่อ June 27, 2012.
  45. Montgomery, James (May 3, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Video: All Grown-Up". MTV News. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ June 27, 2012.
  46. Nessif, Bruna (May 3, 2012). "Justin Bieber's "Boyfriend" Music Video—Watch Now!". E! Online. E!. สืบค้นเมื่อ June 27, 2012.
  47. Vena, Jocelyn (May 7, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Video Breaks YouTube Record". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
  48. Lewis Corner (27 September 2012). "One Direction beat Justin Bieber VEVO record with new music video". Digital Spy. Hearst Magazines UK. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-23. สืบค้นเมื่อ 1 October 2012.
  49. "The Girls Swoon Over Justin Bieber's "Boyfriend" Performance On The Voice". VH1. Viera, Bene. 09-05-12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-09. สืบค้นเมื่อ 04-01-14. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  50. Finlayson, Ariana (April 18, 2012). "Video: See Christina Aguilera Diss Justin Bieber on The Voice". Us Weekly. Jann Wenner. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
  51. "Justin Bieber Performs 'Boyfriend' at Billboard Music Awards". Rap-Up. Devin Lazerine. May 20, 2012. สืบค้นเมื่อ May 28, 2012.
  52. Sciaretto, Amy (June 8, 2012). "Justin Bieber Performs 'Boyfriend' on 'Germany's Next Top Model'". Pop Crush. สืบค้นเมื่อ June 11, 2012.
  53. "Justin Bieber – 'Die In Your Arms (Live Performance)". Capital FM. June 10, 2012. สืบค้นเมื่อ June 11, 2012.
  54. Sager, Jessica (June 10, 2012). "Justin Bieber Flashes Beliebers at 2012 Capital FM Summertime Ball". Pop Crush. สืบค้นเมื่อ June 11, 2012.
  55. Shetler, Scott (June 10, 2012). "Watch Justin Bieber Perform 'All Around the World' + 'As Long as You Love Me' Acoustic". Pop Crush. สืบค้นเมื่อ June 11, 2012.
  56. Punk Goes Pop 5 liner notes. Fearless Records, 2012.
  57. Isenberg, Daniel (May 24, 2012). "Listen: Justin Bieber f/ 2 Chainz, Mac Miller & Asher Roth "Boyfriend (Remix) "". Complex Music. สืบค้นเมื่อ May 23, 2012.
  58. Benjamin, Jeff (April 19, 2012). "Marina and The Diamonds Answers Justin Bieber's 'Boyfriend': Watch". Billboard. Prometheus Global Media. สืบค้นเมื่อ January 13, 2013.
  59. "'Glee' Season 4 to Feature Justin Bieber, Lady Gaga, Britney Spears Songs". The Hollywood Reporter. Prometheus Global Media. September 5, 2012. สืบค้นเมื่อ January 9, 2013.
  60. 60.0 60.1 Vena, Jocelyn (May 10, 2012). "If Justin Bieber Is Your 'Boyfriend, ' Ying Yang Twins Can Be 'Your Man'". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
  61. Vena, Jocelyn (May 10, 2012). "Justin Bieber's 'Boyfriend' Gets Grown-Up Remix By Ying Yang Twins". MTV. MTV Networks. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
  62. Bell, Crystal (September 16, 2012). "Justin Bieber *NSYNC Mash-Up: When 'Boyfriend' Met 'Girlfriend' (Video)". The Huffington Post. AOL. สืบค้นเมื่อ January 9, 2013.
  63. "Justin Bieber *NSYNC Mash-Up: When 'Boyfriend' Met 'Girlfriend' (VIDEO)". The Huffington Post.
  64. 64.0 64.1 "Boyfriend (inkl. Poster) : Justin Bieber: Amazon.de: Musick" (ภาษาเยอรมัน). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012.
  65. 65.0 65.1 65.2 "iTunes – Music – Boyfriend (Remixes) by Justin Bieber". iTunes Store. Apple. สืบค้นเมื่อ June 13, 2012.
  66. 66.0 66.1 Boyfriend (liner notes). Justin Bieber. Island Records, Raymond Braun Media Group, Schoolboy Records. 2012.{{cite AV media notes}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  67. "Justin Bieber – Boyfriend". ARIA Top 50 Singles. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  68. "Justin Bieber – Boyfriend" (in German). Ö3 Austria Top 40.
  69. "Justin Bieber – Boyfriend" (in Dutch). Ultratop 50. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  70. "Justin Bieber – Boyfriend" (in French). Ultratop 50. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  71. 71.0 71.1 BPP, บ.ก. (June 2012). "Billboard Brasil Hot 100 Airplay". Billboard Brasil (31): 84–89.
  72. "Justin Bieber Chart History (Canadian Hot 100)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  73. "Justin Bieber – Boyfriend". Tracklisten. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  74. "Justin Bieber: Boyfriend" (in Finnish). Musiikkituottajat. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  75. "Justin Bieber – Boyfriend" (in French). Les classement single. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
  76. "Justin Bieber – Boyfriend" (in German). GfK Entertainment charts.
  77. "Digital Singles Charts - Greece". Billboard.
  78. "Archívum – Slágerlisták – MAHASZ" (in Hungarian). Rádiós Top 40 játszási lista. Magyar Hanglemezkiadók Szövetsége. สืบค้นเมื่อ July 18, 2012.
  79. "Justin Bieber Chart History (Japan Hot 100)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  80. "The Official Lebanese Top 20 - Justin Bieber". The Official Lebanese Top 20. May 27, 2012. สืบค้นเมื่อ October 6, 2016.
  81. "Mexican Airplay". June 22, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 30, 2012. สืบค้นเมื่อ June 30, 2012.
  82. "Top 20 Inglés". June 22, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 3, 2012. สืบค้นเมื่อ June 30, 2012.
  83. "Justin Bieber – Boyfriend". VG-lista.
  84. "Portugal Digital Songs - Peak". Billboard. สืบค้นเมื่อ 19 May 2013.
  85. "Airplay 100 10 iunie 2012" (ภาษาโรมาเนีย). Kiss FM. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 26, 2013. สืบค้นเมื่อ July 23, 2012.
  86. "Justin Bieber – Boyfriend" Canciones Top 50.
  87. "Justin Bieber – Boyfriend". Singles Top 100.
  88. "Justin Bieber – Boyfriend". Swiss Singles Chart.
  89. "Official Singles Chart Top 100". Official Charts Company.
  90. "Official Streaming Chart Top 100 – 16th June 2012 The Official Streaming Chart Top 100". Official Charts. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-25. สืบค้นเมื่อ 2012-06-13.
  91. "Justin Bieber Chart History (Hot 100)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  92. "Justin Bieber Chart History (Pop Songs)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  93. "Justin Bieber Chart History (Hot R&B/Hip-Hop Songs)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 4, 2012.
  94. "Justin Bieber Chart History (Dance Club Songs)". Billboard. สืบค้นเมื่อ June 4, 2012.
  95. "Justin Bieber Chart History (Adult Pop Songs)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 30, 2012.
  96. "Justin Bieber Chart History (Rhythmic)". Billboard. สืบค้นเมื่อ October 4, 2019.
  97. "Pop Rock General". Record Report. June 7, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 19, 2012. สืบค้นเมื่อ June 9, 2012.
  98. "2012 Annual ARIA Singles Chart". Australian Recording Industry Association. สืบค้นเมื่อ September 27, 2019.
  99. "Jaaroverzichten 2012". Ultratop. สืบค้นเมื่อ September 27, 2019.
  100. "Rapports Annuels 2012". Ultratop. สืบค้นเมื่อ September 27, 2019.
  101. "Canadian Hot 100: 2012 Year-end Charts". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 15, 2014.
  102. "Classement des 200 premiers Singles Fusionnés par GfK année 2012" (PDF). SNEP. สืบค้นเมื่อ 2013-02-03.
  103. "Top 100 Singles Jahrescharts 2012" (ภาษาเยอรมัน). VIVA. Viacom International Media Networks. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 January 2013. สืบค้นเมื่อ 5 January 2013.
  104. "Årslista Singlar – År 2012" (ภาษาสวีเดน). Sverigetopplistan. สืบค้นเมื่อ October 4, 2019.
  105. "Top 100 Singles of 2012". BBC Radio 1. BBC Online. December 31, 2012. สืบค้นเมื่อ January 5, 2013.
  106. "Best of 2012 - Hot 100 Songs". Billboard. Prometheus Global Media. December 31, 2013. สืบค้นเมื่อ January 13, 2013.
  107. "Pop Songs – Year-End 2012". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 27, 2019.
  108. "Rhythmic Songs – Year-End 2012". Billboard. สืบค้นเมื่อ October 4, 2019.
  109. "ARIA Charts – Accreditations – 2016 Singles" (PDF). Australian Recording Industry Association.
  110. "Canadian single certifications – Justin Bieber – Boyfriend". Music Canada.
  111. "Danish single certifications – Justin Bieber – Boyfriend". IFPI Danmark.
  112. "Gold-/Platin-Datenbank (Justin Bieber; 'Boyfriend')" (ภาษาเยอรมัน). Bundesverband Musikindustrie. สืบค้นเมื่อ May 1, 2018.
  113. "Certificaciones" (ภาษาสเปน). Asociación Mexicana de Productores de Fonogramas y Videogramas. สืบค้นเมื่อ January 11, 2014. Type Justin Bieber in the box under the ARTISTA column heading and Boyfriend in the box under the TÍTULO column heading.
  114. "New Zealand single certifications – Justin Bieber – Boyfriend". Recorded Music NZ.
  115. "Norwegian single certifications – Justin Bieber – Boyfriend" (ภาษานอร์เวย์). IFPI Norway.
  116. "British single certifications – Justin Bieber – Boyfriend". British Phonographic Industry. Select singles in the Format field. Select Gold in the Certification field. Type Boyfriend in the "Search BPI Awards" field and then press Enter.
  117. "American single certifications – Justin Bieber – Boyfriend". Recording Industry Association of America.
  118. "BOYFRIEND Available Now! – Subscription Required". Justin Bieber's Official Website. Artist Arena. March 26, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-22. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012.
  119. "Boyfriend: Justin Bieber: Amazon.fr: Musique". Amazon.fr. สืบค้นเมื่อ June 13, 2012.
  120. "Boyfriend: Justin Bieber: Amazon.co.uk: Music". Amazon.co.uk. สืบค้นเมื่อ June 13, 2012.