ข้ามไปเนื้อหา

ฐานทัพเรือเรียม

พิกัด: 10°30′26″N 103°36′43″E / 10.50722°N 103.61194°E / 10.50722; 103.61194
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฐานทัพเรือเรียม
ส่วนหนึ่งของกองทัพเรือกัมพูชา
จังหวัดพระสีหนุ
ประตูทางเข้าฐานทัพเรือเรียม
พิกัด10°30′26″N 103°36′43″E / 10.50722°N 103.61194°E / 10.50722; 103.61194
ประเภทฐานทัพเรือ
ข้อมูล
เจ้าของNaval flag of กัมพูชา กองทัพเรือกัมพูชา
ผู้ดำเนินการNaval flag of กัมพูชา กองทัพเรือกัมพูชา
Naval flag of จีน กองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชน (พฤตินัย)
ประวัติศาสตร์
สร้าง8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 (บูรณะและขยาย)
สร้างโดยบริษัท ไชน่า เมทัลลูร์จิคัล กรุ๊ป จำกัด (บูรณะและขยาย)

ฐานทัพเรือเรียม (อังกฤษ: Ream Naval Base; เขมร: មូលដ្ឋានទ័ពជើងទឹករាម) เป็นฐานทัพที่ดำเนินการโดยกองทัพเรือกัมพูชาบนชายฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ฐานทัพมีพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 190 เอเคอร์[1] ตั้งอยู่บนคาบสมุทรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงของจังหวัด คือ กรุงพระสีหนุ

ประวัติ

[แก้]

เนื่องจากการเน้นการสู้รบภาคพื้นดินในช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา กองทัพเรือของรัฐบาลจึงถูกละเลย ในช่วงการรัฐประหารที่ทำให้ ลอน นอล ขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลในปี พ.ศ. 2513 ฐานทัพเรือเรียมอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก มีท่าเทียบเรือหนึ่งท่าที่อยู่ในสภาพชำรุด ไม่มีระบบสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงที่มีประสิทธิภาพ ในปี พ.ศ. 2517 รัฐบาลของ ลอน นอล ร่วมกับกองทัพเรือแห่งชาติเขมร (Khmer National Navy: MNK) และกองทัพเรืออังกฤษได้ปรับปรุงฐานทัพแห่งนี้ขนานใหญ่ โดยดำเนินการหลายอย่าง ได้แก่ จัดหาเรือเร็วตรวจการณ์ (PCF) (Swift Boats) พร้อมติดตั้งเรดาร์ที่สร้างขึ้นใหม่ 20 ลำ ประจำการเรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำ (PBR) จำนวน 4 ลำที่บริเวณท่าเรือกำปงโสม (พระสีหนุ) ยกเครื่องเรือขนาดหนักทั้งหมดในคลัง จัดหาอู่ซ่อมเรือลอยน้ำใหม่ของฐานทัพ ปรับปรุงอุปกรณ์ซ่อมฐานทัพเรียม รวมถึงติดตั้งระบบสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างท่าเทียบเรือและฐานทัพใหม่ให้เสร็จสมบูรณ์ ฐานทัพที่ปรับปรุงใหม่นี้ทำให้กองทัพเรือกัมพูชาสามารถทำหน้าที่ลาดตระเวนและเฝ้าระวังแนวชายฝั่งกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้กองทัพเรือเวียดนามใต้ (VNN) ได้เข้ามาใช้ฐานทัพดังกล่าวที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ แผนการสร้างโรงไฟฟ้าและจัดหาเรือลาดตระเวนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีอาวุธที่ดีขึ้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากสาธารณรัฐเขมรพ่ายแพ้ต่อเขมรแดงในปี พ.ศ. 2518

นับตั้งแต่การขับไล่เขมรแดงออกไปในปี พ.ศ. 2522 และการสถาปนาระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ในที่สุด รัฐบาลได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างฐานทัพเรือที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย ​​ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพลเรือเอกอุก เซย์ฮา รองผู้บัญชาการกองทัพเรือกัมพูชา[2]

พลเรือตรี ทอม คาร์นีย์ และเจ้าหน้าที่กองทัพเรือกัมพูชา ณ ฐานทัพเรือเรียม ระหว่างการฝึก CARAT 2012

ในปี พ.ศ. 2553 ฐานทัพแห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมรบร่วมกันทางเรือร่วมกันระหว่างกัมพูชาและสหรัฐภายใต้โครงการความร่วมมือและการฝึกความพร้อมรบทางเรือ (CARAT)[3] อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 อาคารที่ได้รับทุนจากสหรัฐ หนึ่งในสองหลังในฐานทัพเรือถูกทำลาย เนื่องจากฐานทัพแห่งนี้กำลังถูกปรับเปลี่ยนโดยรัฐวิสาหกิจของจีนให้เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการหลักของกองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชน (People's Liberation Army Navy: PLAN)[4][5]

ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 กัมพูชาได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อบูรณะและต่อขยายฐานทัพเรือเรียม โดยมีนายเตีย บัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาและเอกอัครราชทูตจีนทำพิธีร่วมกัน[6]

ฐานทัพเรือจีน

[แก้]

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐ ได้เห็นข้อตกลงลับที่อนุญาตให้กองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชนเข้าถึงฐานทัพเรือเรียมประมาณหนึ่งในสามได้นานถึง 30 ปี[7] ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้จีนมีฐานทัพทางใต้แห่งใหม่ในทะเลจีนใต้ และเป็นฐานทัพเรือในต่างแดนแห่งที่สองของจีน รองจากฐานทัพในจิบูตี การที่กองทัพต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพเช่นนี้ถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญของกัมพูชา รวมถึงข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี พ.ศ. 2534 ที่ยุติสงครามกลางเมืองกัมพูชา[1][8][9] เจ้าหน้าที่กัมพูชาปฏิเสธการมีอยู่ของข้อตกลงดังกล่าว โดยเรียกข้อตกลงดังกล่าวว่าเป็น "ข่าวปลอม"[1] แต่ในปี พ.ศ. 2564 รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาได้ยอมรับว่าจีนกำลังช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เรียม และยังคงยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขผูกมัดใด ๆ[10]

การที่จีนประจำการอยู่ที่ฐานทัพเรือเรียมนั้น ถูกประณามโดย นายสม รังสี อดีตหัวหน้าฝ่ายค้านกัมพูชาและหัวหน้าคนสุดท้ายของพรรคสงเคราะห์ชาติ ก่อนที่ศาลฎีกากัมพูชาจะยุบพรรค[9] ในบทความสำหรับ Foreign Affairs นายรังสีได้บรรยายถึงการที่จีนประจำการอยู่ที่ฐานทัพเรือเรียมว่าเป็น "ภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสถียรภาพในภูมิภาค" และระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนโดยรวมของรัฐบาลจีนในการสร้างกำลังทหารบนชายฝั่งกัมพูชา ควบคู่ไปกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานอันทะเยอทะยานในจังหวัดเกาะกงซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียง[9]

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 พลเรือโท วาน บุนเลียง กล่าวว่างานขุดลอกกำลังดำเนินการอยู่รอบ ๆ ฐานทัพนั้นขุดเพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่ในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน การขยายกำลังดำเนินการโดย บริษัท ไชน่า เมทัลลูร์จิคัล กรุ๊ป จำกัด (China Metallurgical Group Corporation) ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 องค์กรริเริ่มเพื่อความโปร่งใสด้านการเดินเรือในเอเชีย (Asia Maritime Transparency Initiative หรือ AMTI) ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์การศึกษาเชิงกลยุทธ์และระหว่างประเทศ รายงานว่ามีเรือขุดลอกแบบปุ้งกี๋งับของจีนอยู่ใกล้ฐานทัพ[11] AMTI รายงานอีกว่าว่ามีกิจกรรมก่อสร้างที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนในฐานทัพ[12][11]

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ได้มีการเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการปรับปรุงและขยายฐานทัพเรือเรียมของกองทัพเรือกัมพูชา โดยมีการขยายเนื้อที่ออกไปประมาณ 75 เอเคอร์ มีการก่อสร้างสะพานยาวสำหรับเทียบท่าเรือบรรทุกเครื่องบินได้ในด้านยาวซึ่งมีความยาวประมาณ 330 เมตร และด้านที่สั้นกว่าคือ 250 เมตร สามารถเทียบท่าเรือรบอื่น ๆ ของกองทัพเรือจีน นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างถังเก็บเชื้อเพลิงขนาดใหญ่จำนวน 4 ถัง แต่ละถังมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นการพัฒนาที่รวดเร็วมากนับตั้งแต่การทำพิธีเปิดฐานทัพเรือเรียมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและเอกอัครราชทูตจีนเข้าร่วมพิธีด้วย[13]

กองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชนและกองทัพเรือกัมพูชาได้ดำเนินการฝึกซ้อมรบร่วมกันครั้งแรกในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 โดยได้ส่งเรือรบจำนวน 2 ลำเข้ามาจอดเทียบท่าอยู่ที่ฐานทัพเรือเรียม โดยการฝึกร่วมดังกล่างได้สร้างความหนักใจให้กับสหรัฐเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการเปิดเผยว่ากองทัพเรือกัมพูชามีแผนจะขยายฐานทัพเรือเรียมให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก 5 เท่าตัว ให้สามารถรองรับเรือรบที่มีระวางขับน้ำสูงถึง 5,000 ตัน[14]

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 ได้มีการเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมในบริเวณฐานทัพเรือเรียม แสดงให้เห็นว่ามีการก่อสร้างอู่แห้งแห่งใหม่ขึ้น มีความยาวประมาณ 140 เมตร รวมถึงมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือใหม่ความยาว 270 เมตรในบริเวณทิศใต้ของฐานทัพเรือ โดยโทมัส ชูการ์ต นักวิจัยอาวุโสของศูนย์ความมั่นคงใหม่สหรัฐฯ ระบุงว่าความยาว 140 เมตรนั้นสั้นเกินไปสำหรับเรือของกองทัพจีน แต่มีขนาดพอดีสำหรับเรือดำน้ำจีน ซึ่งจากข้อมูลแล้วจีนมีเรือดำน้ำประจำการอยู่ประมาณ 60 ลำ แต่และส่วนใหญ่จะมีความยาวไม่เกิน 100 เมตร ซึ่งอู่แห้งดังกล่าวมีรูปร่างเหมือนกันกับสิ่งอำนวยความสะดวกในฐานทัพเรือจีนในชิงเต่า ทำให้มีเหตุผลเชื่อได้ว่าฐานทัพเรือเรียมอาจจะเป็นฐานสำหรับซ่อมบำรุงเรือดำน้ำที่ใกล้กว่าหากผ่านช่องแคบมะละกาเมื่อเทียบกันกับฐานทัพเรือดำน้ำที่ใกล้ที่สุดของจีนในไหหลำ[15]

ความกังวล

[แก้]
พื้นที่ภายในฐานทัพเรือเรียม มองไปด้านหลังจะเห็นท่าเรือและเรือรบจอดอยู่

หลายประเทศแสดงความกังวลต่อท่าทีจีนในการเข้ามาพัฒนาฐานทัพเรือแห่งนี้ โดยเอช.ไอ. ซัตตัน บล็อกเกอร์ทางการทหารได้ให้ความเห็นว่าการปรับปรุงนี้เกินกว่าศักยภาพของกองทัพเรือกัมพูชาซึ่งมีเรือรบในประจำการความยาวสูงสุดไม่เกิน 50 เมตร จึงไม่ต้องสงสัยว่าฐานทัพเรือแห่งนี้ปรับปรุงเพื่อรองรับกองทัพเรือจีน[13]

ขณะที่ ศาตราจารย์ ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสถาบันอาเซียนศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีความเห็นอย่างชัดเจนว่าไทยจะต้องวิตกต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เนื่องจากการเพิ่มศักยภาพของกองทัพเรือกัมพูชานี้ส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลของไทยและกัมพูชา ที่มีการสำรวจพบว่ามีพลังงานธรรมชาติอยู่ใต้ผืนน้ำ รวมถึงการที่จีนเข้ามามีอิทธิพลในกัมพูชาส่งผลให้สหรัฐอาจจะดำเนินการทางยุทธศาสตร์ต่อไทยมากขึ้นเพื่อถ่วงดุลจีน[13]

ดิพโพลแมตได้รายงานว่ารัฐบาลไทยมีความกังวลโดยมองว่าการปรับปรุงฐานทัพเรือเรียมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนของจีนที่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งของกัมพูชา ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทยได้ระบุบนเว็บไซต์ว่าโครงการดาราสาคร (Dara Sakor) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนโดยตั้งอยู่ในจังหวัดเกาะกงที่ติดอยู่กับจังหวัดตราดของไทย[13]

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทยเคยออกรายงานวิชาการเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ของฐานทัพเรือเรียมในชื่อว่า ฐานทัพเรือเรียม กับความกังวลใจด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐกังวลเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ความมั่นคงอีกแห่งของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2565 สหรัฐได้เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการฐานทัพเรือเรียมหลังจากมีการเปิดเผยจาก พลเอก เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน[6]

นอกจากนี้ ฐานทัพเรือเรียมยังตั้งอยู่ห่างจากประเทศเวียดนามเพียง 30 กิโลเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับฐานทัพเรือของเวียดนาม โดยประเทศทั้งสองเป็นคู่ขัดแย้งกันในปัญหาข้อพิพาทเขตแดนในทะเลจีนใต้[15]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 Deal for Naval Outpost in Cambodia Furthers China’s Quest for Military Network เก็บถาวร 2022-07-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Wall Street Journal, 22 July 2019. ProQuest 2260968000
  2. "Australia continues defence cooperation with Cambodia". Phnom Penh Post. Phnom Penh, Cambodia: Post Media Co Ltd. 26 Jan 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 December 2013. สืบค้นเมื่อ 24 Nov 2013.
  3. "US, Cambodian Navies Kick off CARAT 2012" เก็บถาวร 2012-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Story Number: NNS121023-01Release Date: 10/23/2012 8:31:00 AM. Accessed 24 Nov 2013
  4. Turton, Shaun; Dara, Mech (October 3, 2020). "Cambodia naval base set to undergo China-led expansion". Nikkei Asian Review. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2020. สืบค้นเมื่อ October 10, 2020.
  5. Chang, Agnes; Beech, Hannah (2024-07-14). "The Chinese Base That Isn't There". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-07-14. สืบค้นเมื่อ 2024-07-15.
  6. 6.0 6.1 ฐานเศรษฐกิจ (2024-04-24). "หวัง อี้ เยือนกัมพูชา จุดประเด็นร้อน "ฐานทัพเรือเรียม-อิทธิพลจีน" ในอ่าวไทย". thansettakij.
  7. "China secretly building PLA naval facility in Cambodia, Western officials say". The Washington Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0190-8286. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-08. สืบค้นเมื่อ 2022-06-07.
  8. Hutt, David (2019-07-22). "Cambodia, China ink secret naval port deal: report". Asia Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-07-10. สืบค้นเมื่อ 2024-07-10.
  9. 9.0 9.1 9.2 Rainsy, Sam (10 June 2020). "China Has Designs on Democracy in Southeast Asia". Foreign Affairs (ภาษาEnglish). Council on Foreign Relations. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2022. สืบค้นเมื่อ 14 June 2020.{{cite news}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  10. Sun Narin (3 June 2021), "Defense Minister Says China Helping with Ream Overhaul, But 'No Strings Attached", Voice of America, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 August 2022, สืบค้นเมื่อ 22 January 2022
  11. 11.0 11.1 Dredgers spotted at Cambodia's Ream Naval Base, Center for Strategic and International Studies, 21 January 2022, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 August 2022, สืบค้นเมื่อ 22 January 2022
  12. Update: China continues to transform Ream Naval Base, Center for Strategic and International Studies, 12 August 2021, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 July 2022, สืบค้นเมื่อ 22 January 2022
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 "สุดอึ้ง! ภาพดาวเทียมใหม่พบ "ฐานทัพเรือเรียม" ฐานลับทหารจีนในกัมพูชาใกล้ตราด "ผุดท่าจอดเรือบรรทุกเครื่องบิน" ผู้เชี่ยวชาญเตือน "ไทย" ระวังให้ดีพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย". mgronline.com. 2023-11-17.
  14. "'ฐานทัพเรือเรียม' ในกัมพูชา แค่สัญลักษณ์ร่มเงาอิทธิพลจีน หรือที่มั่นป้องกันผลประโยชน์ของประเทศ". plus.thairath.co.th.
  15. 15.0 15.1 "เวียดนามต้องจับตา! ภาพถ่ายดาวเทียมพบอู่แห้ง-ท่าเรือใหม่ในฐานทัพเรือกัมพูชา คาดใช้รับเรือดำน้ำจีน". mgronline.com. 2024-07-27.