จอห์น อัลดริดจ์
หน้านี้มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ คุณสามารถช่วยพัฒนาหน้านี้ได้ด้วยการแปล ยกเว้นหากเนื้อหาเกือบทั้งหมดไม่ใช่ภาษาไทย ให้แจ้งลบแทน |
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | จอห์น วิลเลียม อัลดริดจ์ | ||
วันเกิด | 18 กันยายน ค.ศ. 1958 | ||
สถานที่เกิด | ลิเวอร์พูล, อังกฤษ | ||
ส่วนสูง | 5 ฟุต 11 นิ้ว (1.80 เมตร)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1978–1979 | South Liverpool | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1979–1984 | Newport County | 170 | (70) |
1984–1987 | Oxford United | 114 | (72) |
1987–1989 | Liverpool | 83 | (50) |
1989–1991 | Real Sociedad | 63 | (33) |
1991–1998 | Tranmere Rovers | 243 | (138) |
รวม | 673 | (363) | |
ทีมชาติ | |||
1986–1996 | Republic of Ireland | 69 | (19) |
จัดการทีม | |||
1996–2001 | Tranmere Rovers | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
จอห์น วิลเลียม อัลดริดจ์ (อังกฤษ: John William Aldridge, เกิด 18 กันยายน 1958) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพและผู้จัดการทีม เจ้าของฉายา อัลโด[2] เขาคือกองหน้าที่ทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอและทำลายสถิติมากมาย เป็นที่รู้จักอย่างดีในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับลิเวอร์พูลในปลายทศวรรษ 1980 เขายิงประตูในฟุตบอลลีกไปทั้งหมด 330 ประตู ซึ่งเป็นอันดับที่ 6 ของดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ[3]
เขาเริ่มต้นค้าแข้งจากลีกต่ำสุด ลงเล่นผ่านมาทุกระดับตั้งแต่ ดิวิชัน 4 (เดิม) จนถึง ดิวิชัน 1 (เดิม) ในช่วงแรก เขาถูกเซ็นสัญญามาร่วมทีมแทนที่เอียน รัชที่ย้ายไปร่วมทีมยูเวนตุส อัลดริดจ์ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วง 2 ฤดูกาลที่ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกและเอฟเอคัพมาครองได้อย่างละ 1 สมัย และพลาดแชมป์ลีกอย่างหวุดหวิดอีก 1 สมัย อัลดริดจ์ลงเล่นให้เรอัลโซซิเอดัด 2 ฤดูกาล กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ไม่ใช่ชาวบาสก์ที่เซ็นสัญญากับสโมสรในรอบหลายทศวรรษ หลังจากที่พวกเขายกเลิกนโยบายการสรรหาผู้เล่น ที่อนุญาตให้เซ็นสัญญาเฉพาะผู้เล่นที่มีเชื้อสายบาสก์เท่านั้น ในปี 1991 เขากลับมาอังกฤษเพื่อเล่นให้กับแทรนเมียร์โรเวอส์และกลายเป็นผู้เล่น–ผู้จัดการทีมของพวกเขาในปี 1996 เขาแขวนสตั๊ดในปี 1998 และลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมในปี 2001 และไม่กลับมาเป็นผู้จัดการทีมอีกนับตั้งแต่บัดนั้น
อัลดริดจ์เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูลโดยกำเนิด แต่เขาเลือกเล่นให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ ตามนโยบาย กฎคุณยาย ของแจ็ค ชาร์ลตัน ผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์ในขณะนั้น เนื่องจากคุณยายทวดของเขาอพยพมาจากเมืองแอธโลน ประเทศไอร์แลนด์ มาตั้งถิ่นฐานที่เมืองลิเวอร์พูลในศตวรรษที่ 19[4][5] เขาประสบความสำเร็จกับทีมชาติไอร์แลนด์ ในช่วงที่ทีมประสบความสำเร็จมากที่สุดในระดับนานาชาติ และเขาได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยคือปี 1990 และ 1994[6][7]
ระดับสโมสร
[แก้]เซาท์ลิเวอร์พูลและนิวพอร์ตเคาน์ตี
[แก้]อัลดริดจ์ใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จในลีกสูงสุดของอังกฤษ เขาเริ่มต้นอาชีพในกลางทศวรรษ 1970 กับเซาท์ลิเวอร์พูล สโมสรนอกลีก ก่อนที่จะแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลอาชีพ เขาเซ็นสัญญากับนิวพอร์ตเคาน์ตีในลีกดิวิชัน 4 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1979 ด้วยค่าตัวเพียง 3,500 ปอนด์ ในวัย 20 ปี
ขณะลงเล่นในโซเมอร์ตันพาร์ก สนามเหย้าของนิวพอร์ตเคาน์ตี อัลดริดจ์ลงเล่นทั้งสิ้น 198 นัดยิงได้ 87 ประตู คิดเป็นเฉลี่ย 1 ประตูต่อ 2.25 นัด นอกจากนี้เขายังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเอฟเอคัพ โดยยิงไป 7 ประตูจาก 12 นัด เขาร่วมทีมกับทอมมี ไทแนน และเดฟ กวิเทอร์ เป็นเวลา 4 ปี ช่วยให้นิวพอร์ตเลื่อนชั้นจากดิวิชัน 4 และคว้าแชมป์เวลช์คัพในฤดูกาลแรก และเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพในฤดูกาลที่ 2
ฤดูกาลแรกของเขากับนิวพอร์ตคือในฤดูกาล 1979–80 เขายิงไป 14 ประตูจาก 38 นัดพาทีมคว้าแชมป์เวลช์คัพและเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 3 ในฤดูกาลถัดมา เขาพาทีมประสบความสำเร็จในฟุตบอลสโมสรยุโรป ในลีก เขาลงเล่นในลีกทั้งหมด 27 นัด และยิงได้ 7 ประตู ในฤดูกาล 1981–82 เขาทำได้ 11 ประตูจาก 36 นัด แต่ในฤดูกาล 1982–83 เขาทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการกดไป 17 ประตู จาก 41 นัด พาทีมเกือบเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 2[8]
ในฤดูกาล 1983–84 ทอมมี ไทแนน ออกจากทีม อัลดริดจ์ยิงไป 26 ประตู ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่นิวพอร์ตเคาน์ตียังคงอยู่ในดิวิชัน 3[9]
ออกซ์ฟอร์ดยูไนเต็ด
[แก้]อัลดริดจ์ย้ายไปร่วมทีมออกซฟอร์ดยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1984[10] สโมสรอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมสำหรับการลุ้นเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 3 ภายใต้การคุมทีมของจิม สมิธ เขาประเดิมสนามเมื่อวันที่ 7 เมษายน 1984 ในฐานะตัวสำรองในเกมที่เอาชนะวอลซอลล์ 1–0 ที่เฟลโลว์สปาร์ค เขาทำประตูแรกในนัดที่ทีมเปิดบ้านเอาชนะโบลตันวอนเดอเรอส์ 5–0 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 1984 ในฤดูกาล 1984–85 เขาทำได้ 34 ประตู (30 ประตูในลีก) ซึ่งทำลายสถิติการยิงประตูสูงสุดของสโมสรในฤดูกาลเดียว[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Dunk, Peter, บ.ก. (1987). Rothmans Football Yearbook 1987–88. London: Queen Anne Press. p. 222. ISBN 978-0-356-14354-5.
- ↑ Quinn, Philip (6 November 2000). "Irate Aldo refutes phoney Irish claim". Irish Independent. สืบค้นเมื่อ 15 July 2024.
- ↑ England – All-Time Topscorers – All Football League Divisions (and Premiership) rsssf.org, retrieved 2 April 2011
- ↑ "Irish Football and the 'Granny Rule'". www.soccer-ireland.com. สืบค้นเมื่อ 28 August 2021.
- ↑ Hilton, Nick (18 March 2011). "Shamrock Scousers: Liverpool FC hero John Aldridge recalls his happiness playing international football for Ireland". Liverpool Echo (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 28 August 2021.
- ↑ Byrne, Peter. "Magical memories of Italia '90 linger still". The Irish Times (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 28 August 2021.
- ↑ "Daniel McDonnell: Ireland's Generation Game - How the post Italia '90 class are finally making their mark". independent (ภาษาอังกฤษ). 17 July 2020. สืบค้นเมื่อ 28 August 2021.
- ↑ "John Aldridge". สืบค้นเมื่อ 2 September 2010.
- ↑ "Newport County A-Z of transfers".
- ↑ "John Aldridge History with Oxford United".
- ↑ "Oxford United Club Records". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-03-16. สืบค้นเมื่อ 2024-07-21.
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2501
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 1990
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 1994
- กองหน้าฟุตบอลชาย
- นักฟุตบอลชายชาวอังกฤษที่ค้าแข้งในต่างประเทศ
- นักฟุตบอลชาวไอริช
- นักฟุตบอลทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลนิวพอร์ตเคาน์ตี
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลออกซฟอร์ดยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแทรนเมียร์โรเวอส์
- ผู้เล่นเรอัลโซซิเอดัด
- บุคคลจากลิเวอร์พูล
- นักฟุตบอลจากลิเวอร์พูล