คุยกับผู้ใช้:Boonrerng

ไม่รองรับเนื้อหาของหน้าในภาษาอื่น
เพิ่มหัวข้อ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ยินดีต้อนรับสู่วิกิพีเดียภาษาไทย

ยินดีต้อนรับคุณ Boonrerng สู่วิกิพีเดียภาษาไทย หน้าต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์แก่คุณ:

มือใหม่ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเริ่มจากแก้หรือต่อเติมบทความที่มีอยู่แล้วก่อน ไม่ควรรีบสร้างบทความด้วยตัวเองเพราะมักไม่ผ่านและถูกลบ

แนะนำเว็บ

และ

เรียนรู้การแก้ไข (ขอใช้เวลาอ่านไม่นานเพื่อให้ทราบพื้นฐาน)

อีกทางหนึ่ง อ่านหน้า การเข้ามีส่วนร่วมในวิกิพีเดีย ซึ่งสรุปทุกอย่างไว้หน้าเดียว

ฉันอ่านหมดแล้วยังไม่เข้าใจเลย
ถามที่แผนกช่วยเหลือ หรือ ถามในหน้านี้แหละ! หรือ ใช้ แชตดิสคอร์ด

อย่าลืมลงชื่อในหน้าพูดคุย โดยการพิมพ์ --~~~~ จะปรากฏชื่อและวันเวลา

Hello Boonrerng! Welcome to Thai Wikipedia. If you are not a Thai speaker, you can ask a question in our Guestbook.


-- 08:10, 13 พฤษภาคม 2554 (ICT)

มหาเมตตาใหญ่[แก้]

พระคาถามหาเมตตาใหญ่ พระธรรมสิงหบุราจาย์ วัดอัมพวัน

จะขอเล่าต่อ ในส่วนของ “พระคาถาเมตตาใหญ่” หรือ "พระคาถาอภิมงคลคาถา" ที่ หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ได้เมตตานำมาเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ข้าพเจ้าได้ย่อความ จาก หนังสือกฎแห่งกรรม

เล่ม ๑ :: ภาคธรรมปฏิบัติ :: เรื่อง พิกุลเทพสถิต โดย พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (ตำแหน่งท่านในขณะนั้น) (สามารถอ่านได้ที่ พิกุลเทพสถิต) เพื่อให้ผู้อ่านทราบถึงประวัติเมตตาใหญ่ที่เทวดานำมาสอน 

ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า บทนี้เทวดาท่านชอบสวดจริง ๆ ค่ะ

คัดย่อพิกุลเทพสถิต

จากหนังสือหลวงพ่อจรัญเล่าให้ฟังว่า มีแม่ชีท่านหนึ่งชื่อ แม่ชีก้อนทอง ปานเณร อายุ ๗๐ ปี มาขอปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน และหลวงพ่อเมตตารับไว้โดยให้อยู่ที่ศาลาพัก หลวงพ่อได้เมตตาสอนกรรมฐาน

โดยกำหนดให้เดินจงกรม เมื่อเดินจงกรมแล้วก็นั่ง พองหนอยุบหนอ ตั้งสติไว้

ในช่วงเวลา ๑ เดือน แม่ชีก็มาสอบอารมณ์กับหลวงพ่อทุกวัน แล้วมาเช้าวันหนึ่งแม่ชีก็เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า มีเทวดามาชวนสวดมนต์ทุกวัน หลวงพ่อก็แจ้งว่าให้กำหนด “เห็นหนอ ๆ ” …..

พอผ่านมาอีกคืนหนึ่งแม่ชีก็เล่าว่า กำหนดเห็นหนอ ๆ แล้ว แต่เทวดาไม่ไป หลวงพ่อจึงให้สอบถามว่าเทวดาอยู่ที่ไหน แม่ชีก็บอกว่าเทวดาอยู่ที่ต้นพิกุล หลวงพ่อสงสัยว่ามาได้อย่างไร แม่ชีก็เล่าอย่างที่เทวดาบอกว่า โดนสาปมาจากสวรรค์เพราะผิดประเวณีนางฟ้า ให้มาอยู่ที่ต้นพิกุลนี้ ๑๐๐ ปี ตรงกับวันที่เท่านั้นเวลา ๙.๔๕ น. ครบ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อก็จดไว้

และหลวงพ่อถามแม่ชีต่อว่าเทวดามาชวนสวดมนต์กี่โมง แม่ชีก็ตอบว่า ๑๒.๐๑ นาที เทวดามาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเวลานี้[1] หลวงพ่อได้สอบถามข้อสงสัยโดยให้แม่ชีถามเทวดา สรุปความย่อ ๆ มาดังนี้ ถ้าบ้านไหนสวดมนต์ไหว้พระ เอาใจใส่สวดมนต์ จะดีทั้งครอบครัว บ้านนั้นจะมีเทวดาเข้าไปสวดมนต์ เทวดาแนะนำให้สวด “มหาเมตตาใหญ่” บทใหญ่เลยยิ่งดี

เทวดามาชวนแม่ชีสวดมนต์อยู่ ๑ ปี หลวงพ่อลองให้แม่ชีสวด มหาเมตตาใหญ่ ให้ฟัง หลวงพ่อก็พยายามไปหาหนังสือสวดมนต์บทนี้ ก็ไม่มี แต่มีคนแนะนำให้ไปหาพระครูปลัดท่านหนึ่งที่วัดสุทัศน์ กรุงเทพมหานคร เพื่อไปพิสูจน์บทสวดมนต์ที่แม่ชีสวด ซึ่งตรงกับหนังสือทุกตัว แม่ชีอ่านหนังสือไม่ออกนะคะ แต่ท่องได้ครบ

แล้วเวลากาลต่อมา แม่ชีก้อนทองยังมีเกร็ดพิเศษอีกหลายอย่าง เทวดาบอกไว้ว่าอยากคุยกับเทวดาให้สวดบทเมตตาใหญ่นี้ค่ะ ขอจบลงแบบคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

ในปัจจุบันหลวงพ่อจรัญ จัดพิมพ์หนังสือ พระคาถาเมตตาใหญ่ นี้ โดยใช้ชื่อว่า “พระคาถาอภิมหามงคลคาถา” เมื่อสวดแล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ ให้สวดกันให้มาก

[1] พุทธกิจ ๕ ประการ : (งานของพระพุทธเจ้าประจำวัน) ๑. เช้าโปรดสัตว์ บิณฑบาต ๒. เย็นทรงแสดงธรรมโปรดมหาชน ๓. ค่ำโอวาทสั่งสอนพระภิกษุสงฆ์ ๔. เที่ยงคืน แก้ปัญหาเทวดา ๕. ใกล้รุ่ง ตรวจดูอุปนิสัยเวไนยสัตว์ที่จะเสด็จไปโปรดในวันใหม่

พระคาถาเมตตาใหญ่พิสดาร อ.เสริมศิลป์ ขอนวงค์ กลุ่มแสงธรรมประทีป เจโตวิมุตติ

จากบทเดิมที่หลายท่านทราบว่ามาจาก เทวดาพา "แม่ชีก้อนทอง ปานเณร" สวดทุกคืน และ "หลวงพ่อจรัญ" ท่านไปเสาะหาต้นฉบับที่วัดมหาธาตุ แต่ไม่พบ จึงไปสอบถามเจ้าคุณท่านหนึ่งที่วัดสุทัศน์ มีแต่เฉพาะบทเมตตาเท่านั้น ในส่วนฉบับจริงและเต็ม ๆ นั้นมี ทั้ง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ยาวมากๆ สวดครั้งละ ๓ - ๔ ชั่วโมง (รวมบทแปลด้วย) จาก วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม "หลวงพ่อเมตตาหลวง"

ได้สอบถามที่มาของ พระคาถาเมตตาใหญ่พิสดาร อาจารย์เล่าให้ฟังว่า อาจารย์รู้จักบทนี้มาหลายปีค่ะ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๙ ในงานศพหลวงปู่แหวน เนื่องการรถไฟรับเป็นเจ้าภาพอาหารในงานศพ ขณะที่ช่วยงานนั้น หลวงปู่เมตตาหลวง ก็เรียกอาจารย์เข้าไปหา แล้วก็มอบหนังสือสวดมนต์เล่มเล็ก ๆ ให้

“เอ้า! ไอ้หนุ่มเอานี่ไปสวด”

เป็นหนังสือพระคาถาเมตตาหลวงเล่มเล็ก ๆ แต่เมื่ออาจารย์เห็น ก็ไม่อยากสวดเพราะยาวมาก อาจารย์ขณะนั้นสวดมนต์ไม่เก่งอย่างนี้ค่ะ จึงไม่ได้สวด จนกระทั่งมาปี พ.ศ.2545 ก้มีคนนำบทสวดมนต์นี้มา ให้ดูแต่เป็น บทเมตตาอย่างเดียว เป็นหนังสือทีจัดพิมพ์เพื่อแจกที่วัดอัมพวัน ค่ะ

อาจารย์ก็เริ่มสนใจที่จะสวดมนต์บทนี้ ก็หัดสวด แรก ๆ นั้นอาจารย์สวดแบบอ่าน ไม่ได้ใส่ทำนอง และไม่สวดเร็วเป็นจังหวะหนักแน่นอย่างปัจจุบัน จนกระทั่งมีสิ่งมาดลใจให้สวดมนต์เป็นทำนอง จังหวะ และเร็วขึ้น อย่างที่สวดในปัจจุบัน อาจารย์จะเน้นให้สวดอย่างมีสติ มีสมาธิ และสวดอย่างนอบน้อมศรัทธาต่อพระพุทธองค์

และเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๘ อาจารย์ได้ไปเจอบทสวดมนต์แผ่เมตตาแบบละเอียดในชั้นภพต่าง ๆ ที่วัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง เป็นบทแผ่เมตตาของครูเจ้าท่านหนึ่ง อาจารย์เห็นว่าละเอียด จึงนำมารวมกับบทเมตตาใหญ่ เพิ่มในส่วน ของโอทิศ คือ บทเฉพาะเจาะจงเป็นส่วนว่าหญิงชายเพิ่มเข้าไปอีก ขออธิบายอย่างคร่าว ๆ ดังนี้

บทสวดเมตตาใหญ่ แบบพิสดาร จำนวนบุคคลที่แผ่เมตตาให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น (สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทรศาสน์)