ข้ามไปเนื้อหา

กระดาษ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กระดาษ
กระดาษ

กระดาษ เป็นวัสดุที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการจดบันทึก มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เชื่อกันว่ามีการใช้กระดาษครั้งแรก ๆ โดยชาวอียิปต์และชาวจีนโบราณ แต่กระดาษในยุคแรก ๆ ล้วนผลิตขึ้นเพื่อการจดบันทึกด้วยกันทั้งสิ้น จึงกล่าวได้ว่าระบบการเขียนคือแรงผลักดันให้เกิดการผลิตกระดาษขึ้นในโลก[ต้องการอ้างอิง] ปัจจุบันกระดาษไม่ได้มีประโยชน์ในการใช้จดบันทึกตัวหนังสือ หรือข้อความ เท่านั้น ยังใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้มากมาย เช่น กระดาษชำระ กระดาษห่อของขวัญ กระดาษลูกฟูกสำหรับทำกล่อง เป็นต้น

ประวัติ

[แก้]

กระดาษของชาวอียิปต์โบราณ หรือกระดาษพาไพรัส ผลิตจากกกชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า พาไพรัส (papyrus) พบว่ามีการใช้จารึกบทสวดและคำสาบาน บรรจุไว้ในพีระมิดของอียิปต์ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่ามีการใช้กระดาษที่ทำจากพาไพรัสมาตั้งแต่ปฐมราชวงศ์ของอียิปต์ (ราว 3,000 ปีก่อนคริสตกาล)

สำหรับวัสดุใช้เขียนนั้น ในสมัยโบราณมีด้วยกันหลายอย่าง เช่น แผ่นโลหะ หิน ใบลาน เปลือกไม้ ผ้าไหม ฯลฯ ผู้คนสมัยโบราณคงจะใช้วัสดุต่าง ๆ หลากหลายเพื่อการบันทึก ครั้นเมื่อราว ค.ศ. 105 สมัยพระเจ้าจักรพรรดิโฮตี่[1] ชาวจีนได้ประดิษฐ์กระดาษโดยชาวเมืองลีบางชื่อว่าไช่หลุ่น (Ts'ai'Lung) ใช้เปลือกไม้เศษแหอวนเก่า ๆ มาต้มจนได้เยื่อกระดาษและมาเกลี่ยบนตระแกรงปล่อยให้แห้งและหลังจากนั้นได้มีการใช้วิธีผลิตกระดาษเช่นนี้แพร่หลายอย่างรวดเร็ว

กระดาษถูกนำจากประเทศจีนสู่โลกมุสลิมผ่านสงครามทัลลัส (Tallas) ในปี ค.ศ. 751 ที่กองทัพจีนรบกับกองทัพมุสลิม เชลยศึกชาวจีน 2 คนได้เปิดเผยวิธีการทำกระดาษแก่ชาวมุสลิมก่อนได้รับการปล่อยตัวไป จากนั้นมุสลิมได้ทำให้การทำกระดาษเปลี่ยนจากศิลปะไปเป็นอุตสาหกรรมกระดาษ ทำให้มีการพัฒนาการศึกษาในโลกมุสลิมอย่างกว้างขวาง มุสลิมในสมัยกลางจึงเจริญก้าวหน้าด้านศิลปวิทยาการที่สุดในโลก

ชาวมุสลิมปรับปรุงวิธีการทำกระดาษใช้ผ้าลินินแทนเปลือกของต้นหม่อนอย่างที่ชาวจีนทำ เศษผ้าลินินไม่เน่าเปื่อย แต่จะเปียกโชกอยู่ในน้ำ และหมักอยู่ในนั้น เศษผ้าที่ต้มแล้วจะปราศจากกากที่เป็นด่างและสิ่งสกปรกอื่น ๆ จากนั้นเศษผ้าจะถูกนำมาตอกด้วยค้อนให้เป็นเยื่อ เทคนิคที่ทำให้เป็นเยื่อบางนี้ถูกพัฒนาโดยชาวมุสลิม

แบกแดด ราชธานีของอาณาจักรอับบาซิด สมัยนั้นเต็มไปด้วยโรงงานทำกระดาษ จากนั้นยังกระจายไปสู่อีกหลาย ๆ ส่วนของโลก กระดาษที่ส่งออกไปยุโรปโดยมากทำในเมืองดามัสกัส (ซีเรีย) เมื่อขยายการผลิตเพิ่มขึ้น กระดาษจึงมีราคาถูกลง คุณภาพดีขึ้นและมีจำหน่ายแพร่หลาย

จากนั้นโรงงานกระดาษที่เฟื่องฟูอยู่ในอิรัก ซีเรีย และปาเลสไตน์ ก็ขยายตัวไปสู่ทางตะวันตก ในทวีปแอฟริกา โรงงานกระดาษแห่งแรกของประเทศอียิปต์ตั้งขึ้นในปีค.ศ. 850 จากนั้นขยายไปมอรอคโค และในปีค.ศ. 950 ได้ขยายไปยังอันดาลูซิอา อาณาจักรมุสลิมสเปน

กระดาษถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในยุโรปโดยมุสลิมมัวร์ โดยวัสดุที่ใช้ทำกระดาษคือปอชั้นดีของบาเลนเซียและมูร์เซีย โดยมีศูนย์กลางโรงงานกระดาษของอันดาลูซิอา ที่เมืองชาติวา (Xativa หรือ Jativa) ใกล้บาเลนเซีย จากสเปนและเกาะซิซิลีซึ่งในขณะนั้นเป็นอาณาจักรมุสลิม การทำกระดาษได้ขยายไปสู่ชาวคริสเตียนในอิตาลี จากนั้นในปีค.ศ. 1293 มีการตั้งโรงงานกระดาษที่โบโลญญา (Bologna) ในปีค.ศ. 1309 เริ่มมีการใช้กระดาษเป็นครั้งแรกในอังกฤษ จากนั้นในปลายศตวรรษที่ 14 ชาวเยอรมันจึงเพิ่งรู้จักกระดาษ

กระดาษในประเทศไทย

[แก้]

ประวัติการใช้กระดาษในสยามไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน แต่วัสดุที่มีลักษณะอย่างกระดาษนั้น เรามีกระดาษที่เรียกว่า สมุดไทย ผลิตจากเยื่อไม้ทุบละเอียด ต้มจนเปื่อย ใส่แป้งเพื่อให้เนื้อกระดาษเหนียว แล้วนำไปกรองในกระบะเล็ก ๆ ทิ้งไว้จนแห้ง แล้วลอกออกมาเป็นแผ่น พับทบไปมาจนตลอดความยาว จึงได้เป็นเล่มสมุด เรียกว่า สมุดไทยขาว หากต้องการ สมุดไทยดำก็จะผสมผงถ่านในขั้นตอนการผลิต

ในทางภาคเหนือของไทย มีการผลิตกระดาษด้วยวิธีการคล้ายคลึงกัน เรียกว่า กระดาษสา เมื่อนำมาทำเป็นสมุดใช้เขียน เรียกว่า ปั๊บสา

คำว่า กระดาษ ในภาษาไทยสันนิษฐานว่าน่าจะทับศัพท์มาจากภาษาอาหรับและเปอร์เซียคือ กิรฏอส[ต้องการอ้างอิง] ในสมัยที่ชาวเปอร์เซียเข้ามาค้าขายในสมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งภาษามลายูก็ได้ทับศัพท์จากสองภาษานี้เช่นเดียวกัน คือ kertas หมายถึง กระดาษ เช่นกัน ส่วน กิรฏอส ในภาษาอาหรับนั้น แม้ว่าจะมีใช้มาก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 6 แต่ก็เป็นคำที่ยืมมาจากภาษากรีก khartes ซี่งภาษาอังกฤษก็ได้ยืมคำนี้ไปใช้เป็น chart, card และ charter นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเพิ่มเติมอีกว่ามาจากภาษาโปรตุเกส cartas[2] รูปพหูพจน์ของ carta แปลว่า จดหมาย แผนผัง เข้าใจว่าโปรตุเกสคงเป็นผู้นำกระดาษแบบฝรั่งเข้ามาก่อนในสมัยกรุงศรีอยุธยา

การใช้กระดาษในปัจจุบัน เนื่องจากกระดาษเป็นวัสดุสิ้นเปลือง จึงมีการนำกระดาษกลับมาใช้อีก เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์นำมาพับถุงกระดาษ กระดาษสำหรับเขียนแม้ใช้แล้วทั้งสองหน้า ก็สามารถนำไปพิมพ์อักษรเบรลล์สำหรับคนตาบอดได้ เมื่อหมดสภาพแล้ว ก็นำไปเข้าโรงงานแปรรูปเป็นสินค้าประเภทลังกระดาษ ได้อีก

กระดาษที่ใช้งานในสำนักงานในประเทศไทยทั่วไปปัจจุบันนี้ใช้ขนาดมาตรฐาน คือ ขนาด A4 น้ำหนัก 70-80 แกรม เป็นส่วนมาก

ประเภทของกระดาษ

[แก้]

กระดาษพิมพ์เขียนชนิดเคลือบผิว

[แก้]
  • กระดาษอาร์ตมันสองหน้า
  • กระดาษอาร์ตการ์ดสองหน้า
  • กระดาษอาร์ตด้าน
  • กระดาษอาร์ตมันหน้าเดียว
  • กระดาษอาร์ตคาร์บอนเลส

กระดาษพิมพ์เขียนชนิดไม่เคลือบผิว

[แก้]
  • กระดาษออฟเซ็ต สำหรับเทคโนโลยีงานพิมพ์แบบออฟเซ็ต
  • กระดาษถ่ายเอกสาร ใช้กับอุปกรณ์สำนักงานทั่วไป เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร โทรสาร เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เป็นต้น
  • กระดาษคอมพิวเตอร์ มีเนื้อกระดาษบาง รูปแบบจัดจำหน่ายโดยมากมีลักษณะเป็นม้วนพร้อมรูปรุด้านข้าง ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อย เช่น ใบเสร็จรับเงิน
  • กระดาษขาวพรีเมี่ยมไวท์ / การ์ดสี
  • กระดาษแอร์เมล์ กระดาษสำหรับใช้งานพิมพ์หรือเขียนจดหมายส่งต่างประเทศ มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษกว่ากระดาษทั่วไป ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการส่งจดหมายซึ่งคิดตามน้ำหนักของกระดาษ
  • กระดาษถนอมสายตา หมายถึงกระดาษที่มีอัตราการสะท้อนแสงน้อยกว่ากระดาษทั่วไป ซึ่งจะมีสีที่หม่นกว่าปกติเล็กน้อย
  • กระดาษแบงค์สี หมายถึงกระดาษที่ใช้ในธนาคาร มีสีสันต่าง ๆ หลากหลาย

กระดาษชนิดพิเศษแบบเคลือบผิว

[แก้]
  • กระดาษอาร์ตอัดลาย
  • กระดาษอาร์ตการ์ดหน้าเดียว การทำกระดาษเริ่มต้นตั้งแต่การนำไม้ไปทำเยื่อเพือ่ให้ได้เส้นใยออกมา แล้วจึงนำเยื่อที่ได้ไปผสมกับสารเติมแต่งในอัตราส่วนต่าง ๆ เพื่อปรับสมบัติกระดาษให้ได้ตรงความต้องการใช้งาน จากนี้นนำไปทำเป็นแผ่นโดยใช้เครื่องจักรผลิตกระดาษ แล้วจึงนำไปแปรรูปใช้งาน กระบวนการผลิตจะแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน โดยเรียงลำดับตามขึ้นตอนการปฏิบัติการจริงภายในโรงงานได้ดังนี้
    • การผลิตเยื่อ (Pulping)
    • การเตรียมน้ำเยื่อ (Stock Preparation)
    • การทำแผ่นกระดาษ (Papermaking)
    • การปรับปรุงสมบัติกระดาษขณะเดินแผ่น (Web Modification)
    • การแปรรูป
  • กระดาษอาร์ตกึ่งมัน

กระดาษคราฟท์

[แก้]

กระดาษคราฟท์ (Kraft paper) คือ ประเภทของกระดาษที่ถูกผลิตจากเฟืองไม้หรือพืชที่มีเนื้อเยื่อหนา โดยมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม มีความหนาและแข็งแรง เนื่องจากไม่ได้ถูกปรับสีหรือประมาณให้เป็นสีขาวเหมือนกระดาษบางประเภท กระดาษคราฟท์มักถูกใช้ในการผลิตถุงกระดาษ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เนื่องจากสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดปัญหาขยะส่วนเกิน เช่น พลาสติกหรือโฟมเป็นต้น[3]

ประเภทของกระดาษคราฟท์

[แก้]
  1. กระดาษคราฟท์แบบน้ำตาลทั่วไป : พื้นฐานของกระดาษคราฟท์มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม ผลิตจากเยื่อ Recycled 100% เป็นกระดาษที่มีความแข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการผลิตถุงกระดาษสำหรับห่อสินค้าหรือแพ็คเกจจิ้งทั่วไป มีความแข็งแรงและทนทานในการรับน้ำหนักและแรงดัน
  2. กระดาษคราฟท์แบบเปลือกไม้ : มีลักษณะที่เป็นเปลือกไม้อยู่บนผิวกระดาษ มีความสมบูรณ์ทางชีวภาพมากและมักถูกใช้ในการผลิตถุงกระดาษสำหรับใส่อาหารหรือสินค้าที่ต้องการการบรรจุเพื่อความสวยงาม
  3. กระดาษคราฟท์สีขาว (White Kraft Paper) : คือประเภทของกระดาษคราฟท์ที่ถูกปรับสีให้เป็นสีขาว โดยมีลักษณะคล้ายกระดาษคราฟท์แบบสีน้ำตาล แต่มีสีขาวที่สวยงามและดูสะอาดตา กระดาษคราฟท์สีขาวมีความแข็งแรงและทนทานมาก เหมาะสำหรับใส่พัสดุ เช่น กล่องของเล่น หุ่นโมเดล รวมไปถึงเครื่องสำอางชนิดต่าง ๆ
  4. กระดาษคราฟท์สีเหลืองอ่อนธรรมชาติ (Natural Light Yellow Kraft Paper) : คือประเภทของกระดาษคราฟท์ที่มีสีเหลืองอ่อนและดูธรรมชาติ มักถูกผลิตโดยไม่มีการเพิ่มสีหรือสารเคมีในกระบวนการผลิตใด ๆ ทำให้มีลักษณะเป็นสีเหลืองที่มาจากเฟืองไม้หรือพืชอย่างธรรมชาติ ใช้ในการผลิตถุงกระดาษสำหรับการบรรจุสินค้าที่ต้องการความเรียบง่ายและธรรมชาติ มันยังมีความสามารถในการรับน้ำหนักและแรงดันได้ดี และมักนำมาใช้ในการห่อของขวัญ การบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความคุณภาพสูง
  5. กระดาษคราฟท์ (Food Grade) : หมายถึงกระดาษที่ถูกผลิตและออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับบรรจุอาหารหรือสามารถสัมผัสกับอาหารโดยตรงอย่างปลอดภัย ที่สำคัญมีความสามารถในการกันน้ำ เนื่องจากมีการเคลือบ PE ที่ป้องกันการรั่วซึมของอาหารประเภทที่มีองค์ประกอบเป็นน้ำอย่างเช่น ผัด, แกง หรือน้ำซุปต่าง ๆ

อ้างอิง

[แก้]
  1. วิมลรัตน์ ศรีจรัสสิน,นิตยสารสารคดี ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2536, หน้า 154
  2. History of Paper
  3. "Home". SAJJAPACK โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษและพลาสติก แบบครบวงจร. 2024-08-07.

อ้างอิงทั่วไป

[แก้]

อ่านเพิ่มเติม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]