พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4
ประสูติ15 มีนาคม พ.ศ. 2398
สิ้นพระชนม์8 ธันวาคม พ.ศ. 2440 (42 ปี)
หม่อม
  • หม่อมทองคำ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมสุ่น ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมแส ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมเล็ก ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมผึ่ง ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมอันเส็ง ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมหรุ่ม ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
    หม่อมองุ่น ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
พระบุตร15 พระองค์
ราชวงศ์ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระมารดาเจ้าจอมมารดาตลับ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ หรือ กรมภู หรือ กรมภูธเรศ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 24 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ[1] ประสูติเมื่อวันเสาร์ เดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำ ปีเถาะสัปตศก จ.ศ. 1217 ตรงกับวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2398

พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ ทรงรับราชการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2419 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรม สถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเสนาบดีกรมพระนครบาล หรือ กระทรวงนครบาล

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ทรงประทับอยู่ที่วังสะพานช้างโรงสี เหนือ (เรียกกันว่า วังเหนือ) ซึ่งเดิมเป็นวังที่ประทับของ กรมหมื่นสนิทนเรนทร์ และกรมหลวงสรรพศิลป์ปรีชา โดยเป็นวังในกลุ่มของพระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีอยู่ 3 วัง คือบริเวณที่ปัจจุบันเรียกกันว่า แพร่งนรา แพร่งสรรพศาสตร์ และแพร่งภูธร ทั้ง 3 แพร่งได้ชื่อมาจากเสด็จในกรม 3 พระองค์ เจ้าของวัง คือ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ และกรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ เมื่อกรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพื้นที่ทำเป็นตึกแถว พระราชทานชื่อถนนย่านนั้นว่า แพร่งภูธร ตามพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น 25 ค่ำ ปีระกา นพศก จ.ศ. 1259 ตรงกับวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2440 พระชันษาได้ 42 ปี ทรงเป็นต้นราชสกุล ทวีวงศ์

ในย่านถนนเจริญกรุง จะมีตลาดเก่าแก่ตลาดหนึ่งที่มีชื่อว่า ตลาดกรมภูธเรศ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "ตลาดกรมภู"

พระโอรสและพระธิดา

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ทรงเป็นต้นราชสกุลทวีวงศ์ มีหม่อม 8 ท่าน ได้แก่

  1. หม่อมทองคำ
  2. หม่อมสุ่น
  3. หม่อมแส
  4. หม่อมเล็ก
  5. หม่อมผึ่ง
  6. หม่อมอันเส็ง
  7. หม่อมหรุ่ม
  8. หม่อมองุ่น

โดยมีพระโอรสธิดารวมทั้งหมด 15 พระองค์ เป็นชาย 6 พระองค์ และหญิง 9 พระองค์

พระรูป พระนาม หม่อมมารดา ประสูติ สิ้นชีพิตักษัย คู่สมรส
1. หม่อมเจ้าสุนทรารมณ์ หม่อมทองคำ 29 กันยายน 2419 3 กุมภาพันธ์ 2465
2. หม่อมเจ้าอุดมดิเรกลาภ ที่ 1 ในหม่อมแส 11 กุมภาพันธ์ 2419 พ.ศ. 2496 หม่อมราชวงศ์พัวพันธ์ (ศิริวงศ์)
หม่อมเฉื่อย (จารุจินดา)
หม่อมราชวงศ์ลมุล (สุประดิษฐ์)

หม่อมอบ
หม่อมวรรณ

3. หม่อมเจ้ากลาง (ชาย) ไม่ทราบปี ไม่ทราบปี
4. หม่อมเจ้าทราบศิริมาน หม่อมสุ่น 21 กรกฎาคม 2421 3 กรกฎาคม 2496
5. หม่อมเจ้ากาญจนสังกาศ หม่อมองุ่น 19 ธันวาคม 2422 15 สิงหาคม 2495 หม่อมเจ้าจันทนฉวี ทวีวงศ์
หม่อมเกษร
หม่อมจงจิตต์ (มัธยมจันทร์)
6. หม่อมเจ้าชาติชูศักดิ์ ที่ 1 ในหม่อมผึ่ง 16 มีนาคม 2425 11 มิถุนายน 2454 หม่อมพยอม
7. หม่อมเจ้าลักษณลาวรรณ มีนาคม หรือ เมษายน 2425 11 มิถุนายน 2445
8. หม่อมเจ้าจันทนฉวี หม่อมเล็ก 8 เมษายน 2426 1 พฤศจิกายน 2475 หม่อมเจ้ากาญจนสังกาศ ทวีวงศ์
9. หม่อมเจ้าพาณีอนงค์ 24 กรกฎาคม 2428 10 พฤษภาคม 2510
10. หม่อมเจ้าพงศ์ภูวนาถ ที่ 2 ในหม่อมแส 5 เมษายน 2430 28 เมษายน 2502 หม่อมหลวงนัดดาดวง (สิงหรา)
หม่อมหลวงเกษสุดา (สิงหรา)
11. หม่อมเจ้าชาย (ไม่ปรากฏพระนาม) เมษายน 2431 15 มิถุนายน 2432
12. หม่อมเจ้าวิลาศกัญญา ที่ 2 ในหม่อมผึ่ง 10 มกราคม 2431 ไม่ทราบปี
13. หม่อมเจ้ากลาง (หญิง) ไม่ทราบปี ไม่ทราบปี
14. หม่อมเจ้าเก๋ง (หญิง) หม่อมอันเส็ง ไม่ทราบปี 30 พฤศจิกายน 2441
15. หม่อมเจ้าชี (หญิง) ไม่ทราบปี ไม่ทราบปี

อ้างอิง

  1. "ข่าวตาย" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 1 (43): 385. 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2427. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  • ณัฐชยา จากหนังสือ คู่มือนักชอป "จะซื้อซะอย่าง" '
  • Jeffy Finestone. 2542. สมุดพระรูป พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปรียนันทนา รังสิต,ม.ร.ว. โลมาโฮลดิ้ง
  • http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=4712&stissueid=2692&stcolcatid=2&stauthorid=13