อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ
อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ | |
---|---|
ไฟล์:Avatar The Way of Water poster.jpg ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | เจมส์ แคเมรอน |
บทภาพยนตร์ |
|
เนื้อเรื่อง |
|
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | รัสเซลล์ คาร์เพนเทอร์ |
ตัดต่อ |
|
ดนตรีประกอบ | ไซมอน แฟรงเลน |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | ทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ |
วันฉาย | 6 ธันวาคม ค.ศ. 2022 (Odeon Luxe Leicester Square) ธันวาคม 16, 2022 (สหรัฐ) |
ความยาว | 192 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 350–460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2][3] |
ทำเงิน | 2.320 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4][5] |
อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ (อังกฤษ: Avatar: The Way of Water) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวมหากาพย์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2022 กำกับและร่วมอำนวยการสร้างโดยเจมส์ แคเมรอน ผู้ที่เขียนบทร่วมกับริก จาฟฟาและอะแมนดา ซิลเวอร์ จากเรื่องราวที่ทั้งสามเขียนร่วมกับจอช ฟรายด์แมนและเชน ซาเลอร์โน จัดจำหน่ายโดยทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์[6] เป็นภาคต่อของ อวตาร (2009) เป็นเรื่องที่สองในภาพยนตร์ชุด อวตาร นักแสดง แซม เวิร์ธธิงตัน, โซอี ซัลดานา, โจเอล เดวิด มัวร์, ซีซีเอช พาวน์เดอร์, สตีเฟน แลง, จิโอวานนี ริบิซี, ไดลีป เรา และแมตต์ เจอรัลด์ กลับมารับบทบาทเดิมของพวกเขาจากภาพยนตร์ภาคแรก รวมถึง ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ กลับมาแสดงในบทบาทตัวละครใหม่[7] และ เคต วินสเล็ต, คลิฟฟ์ เคอร์ติส, ทรินิตี บลิสส์, เจมี แฟลตเตอส์, บริเตน ดัลตัน และแจ็ก แชมเปียน เข้าร่วมแสดง
แคเมรอนเคยกล่าวไว้เมื่อปี ค.ศ. 2006 ว่าเขาอยากจะสร้างภาคต่อของ อวตาร ถ้าภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ หลังภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ เขาได้ประกาศภาคต่อสองเรื่องเมื่อปี ค.ศ. 2010 โดยกำหนดให้ อวตาร 2 ฉายในปี ค.ศ. 2014[8][9][10] อย่างไรก็ตาม มีการประกาศสร้างภาคต่ออีกสามเรื่อง และความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อถ่ายทำการจับการเคลื่อนไหวในฉากใต้น้ำ ซึ่งความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมากเพื่อให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานเขียนบท, ก่อนการสร้างและวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ ภาพยนตร์เลื่อนฉายถึงแปดครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2020[11]
ภาพยนตร์ถ่ายทำเบื้องต้นที่ หาดแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ภาพยนตร์ถ่ายทำพร้อมกันกับ อวตาร 3 ใน นิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2017 และสิ้นสุดเมื่อปลายเดือนกันยายน ค.ศ. 2020 อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ออกฉายในสหรัฐวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2022 ภาคต่ออีกสามเรื่องจะออกฉายในปี ค.ศ. 2024, 2026 และ 2028 ตามลำดับ[12][13]
เช่นเดียวกับภาคแรก ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นและทำลายสถิติจากการฉายมากมาย โดยทำรายได้ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในอันดับที่ 1 ของปี 2022 เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 3 และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐไวเป็นอันดับ 6 ตลอดกาลด้วยเวลาเพียง 14 วัน แทนที่ภาพยนตร์ภาคแรกที่ใช้เวลา 19 วัน เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19 เป็นอันดับ 4 (ตามหลัง สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม, ท็อปกัน: มาเวอริค และ จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร) เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินมากกว่า 2 พันล้านเหรียญเป็นอันดับที่ 6 ของโลก เป็นเรื่องที่สองที่ทำเงินถึงภายในเวลาไม่ถึง 40 วัน
ภาพยนตร์ใช้งบประมาณ 350-460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เจมส์ แคเมรอนกล่าวว่า ภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จได้ต้องเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในสิบอันดับแรก จุดคุ้มทุนของหนังจึงอยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามเป้า และเดินหน้าไปอย่างมั่นคง ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกล้นหลามจากนักวิจารณ์ นักวิจารณ์ชื่นชมในงานสร้าง การสร้างเทคนิคพิเศษทางภาพ เทคนิคพิเศษที่ก้าวล้ำ งานเรียบเรียงภาพ การกำกับ และดนตรีประกอบ แต่วิจารณ์ในบทภาพยนตร์ที่บางเบา การเล่าเรื่อง และความยาวของหนัง[14] ภาพยนตร์ได้รับการส่งชื่อเข้าชิงรางวัลมากมายจากหลายสถาบันภาพยนตร์ รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2022 ของสำนักรีวิว เช่นเดียวกับภาคแรก ภาพยนตร์ได้รับ รางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม ทำให้ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องในแฟรนไชน์ได้รับรางวัลดังกล่าว
ภาพยนตร์ทำรายได้ในประเทศไทย 700 ล้านบาท เป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดในประเทศไทยประจำปี 2022 และทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในประเทศไทยเป็นอันดับ 5
ภาพยนตร์ภาคต่อ อวตาร: ผู้ถือครองเมล็ดพันธุ์ กำหนดฉายในสหรัฐวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2025 แคเมรอนเผย เขากำลังจะต้องทำภาคต่อตามที่สัญญาไว้ เมื่ออวตารภาคที่สองประสบความสำเร็จ ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์เรื่องที่ 4 และ 5 ด้วย ภาพยนตร์ภาคต่ออีกทั้งสองเรื่องกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา
ในปี ค.ศ.2023 จากความสำเร็จของภาพยนตร์ ทำให้บ็อบ ไอเกอร์ ผู้บริหารของเดอะวอลต์ดิสนีย์ ได้เผยว่ากำลังจะลงทุนกับแฟรนไชส์อย่างเต็มสูบ โดยแผนการดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มยอดผู้สมัครสมาชิกของ ดิสนีย์+ โดยวางแผนจะสร้างสื่อต่าง ๆ ออกมานอกเหนือจากภาพยนตร์ภาคต่อสามเรื่อง และอาจจะทำการสร้างเรื่อง 6 และ 7 เพิ่มหากผลตอบรับดี
ภาพยนตร์ยังขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่มีผู้ชมสูงสุดในดิสนีย์+ อเมริกาเหนือ รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่มียอดขายแผ่นสูงสุดของดิสนีย์อเมริกาเหนือ
โครงเรื่อง[แก้]
สิบสี่ปี หลังจากมนุษย์ถูกขับไล่ออกจากดาวแพนดอราหลังก่อสงครามและส่งกลับไปยังโลก เจค ซัลลีขึ้นเป็น โทรุคมัคโต ผู้นำของเผ่าโอมาติคาย่า สร้างครอบครัวร่วมกับภรรยาอย่าง เนย์ทิริ พร้อมทั้งลูกชายได้แก่ เนเทยัม โล'อัค และลูกสาวคนเล็ก ทู้คทิรี และ คิรี ลูกสาวบุญธรรมของพวกเขาที่เกิดจาก ดร.เกรซ ออกัสตินผู้ล่วงลับและจิตวิญญาณแห่งพระแม่เอวา รวมถึงเด็กชายชาวมนุษย์ ไมลส์ ควอริทช์ โซคอร์โร (สไปเดอร์) ลูกชายของ พันเอกไมลส์ ควอริทช์กับทหารหญิง ปาซ ซอคคอร์โร ที่เกิดและติดอยู่บนดาวแพนดอรา เนื่องจากไม่สามารถเข้าแคปซูลจำศีลเพราะยังเด็กเกินไป มนุษย์และนาวี่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทว่า ความสงบสุขได้จบลง เมื่อปี ค.ศ. 2169 มนุษย์และ RDA ได้ย้ายและเข้ามาตั้งฐานบัญชาการเมืองใหม่ริมทะเลแพนดอราที่มีชื่อว่า "บริดจ์เฮด" เนื่องด้วยโลกนั้นกำลังใกล้จะตายเต็มทีเพราะขาดทรัพยากรและพลังงาน ภายใต้การนำของนายพลฟรานเซส อาร์ดมอร์ และผู้บริหารคนใหม่ขององค์กร RDA ชาร์ลส์ สตริงเกอร์ พวกเขาจึงต้องกลับมาเพื่อยึดดาวเพื่อสร้างอาณานิคม เหตุการณ์นี้ทำให้ธรรมชาติของแพนดอราและสัตว์ และชาวดาวล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับเนย์ทิริที่ใจสลาย
หนึ่งปีต่อมา ในปี ค.ศ. 2170 โครงการดีเอนเอผสมที่ปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ อดีตหัวหน้าผู้ดูแลการทำเหมืองแร่ขององค์กร RDA ได้เป็นหัวหอกในการคิดค้นโครงการฟินิกซ์ จากคำสั่งของฐานบัญชาการบนโลก ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลพันธุกรรมและความทรงจำให้กับทหารในกรณีที่เสียชีวิตที่เรียกว่า "โซลไดรฟ์" พันเอก ไมลส์ ควอริทช์ ผู้เสียชีวิตไปเมื่อ ปี ค.ศ. 2154 ได้ฟื้นขึ้นมาในโครงการร่างโคลนอวตาร รีคอมบีแนนท์ที่มีอายุร่าง 20 ปี เขากลับมาทำภารกิจของ RDA ร่วมกับร่างโคลนอวตารรีคอมบีแทนต์ที่เหลือ ในขณะเดียวกันเจคดำเนินปฏิบัติการแบบกองโจรเพื่อต่อต้านสายส่งเสบียงของ RDA ควอริทช์และพรรคพวกปฏิบัติภารกิจต่อต้านการก่อความไม่สงบ โดยจับลูก ๆ ของเจคเอาไว้ เจคและเนย์ทิรีเดินทางมาช่วยเหลือและปลดปล่อยคิรี ทู้ค และโลอัคเอาไว้ได้ แต่สไปเดอร์ถูกควอริทช์จับตัวไป เนื่องจากควอริทช์จำได้ว่าเป็นลูกชายของตน สไปเดอร์ไม่คิดจะปริปากบอกนายพลฟรานเซส อาร์ดมอร์ ผู้บัญชาการทหารหญิงคนใหม่ที่มีความแค้นกับเจค แม้จะถูกทรมานอย่างหนักจาก RDA ให้คายความลับเกี่ยวกับที่อยู่เจคและครอบครัวก็ตาม ควอริทช์ตัดสินใจที่จะใช้เวลาร่วมกับสไปเดอร์เพื่อดึงให้เขามาอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ในทางกลับกันสไปเดอร์ก็สอนควอริทช์เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภาษาของชาวนาวีเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองเริ่มเชื่อมความสัมพันธ์พ่อลูกกัน
เมื่อตระหนักถึงอันตรายของสไปเดอร์ มนุษย์ที่รู้ถึงที่อยู่ของพวกเขา เจคและครอบครัวของเขาจึงต้องเนรเทศตัวเองออกจากเผ่า และล่าถอยไปยังเผ่าของชาวแนวปะการัง เม็ตคายีน่า ณ ชายฝั่งตะวันออกของแพนดอรา ซึ่งพวกเขาได้รับที่พักพิง แม้ว่าบางคนในเผ่าจะถือว่าพวกเขามี "เลือดปีศาจ" เนื่องจากได้รับ ดีเอนเอมนุษย์ของเจค ครอบครัวซัลลีได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในแนวปะการังที่เรียกว่า "วิถีแห่งสายน้ำ" แม้ในช่วงแรกพวกเขาจะยังไม่ชิน แต่ไม่นาน คิรีก็พัฒนาสายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณและสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล ส่วนโล'อัคได้ผูกมิตรกับศีเรยา ลูกสาวของหัวหน้ากลุ่ม โตโนวารีและโรนัล ภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ลูก ผู้ตั้งแง่กับเจคและเนย์ทิริตั้งแต่แรกเห็น เพราะเชื่อว่าสักวันเจคจะนำภัยร้ายมาสู้เผ่า ทั้งหมดวันหนึ่ง โล'อัค มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ อาวนุง พี่ชายของ ศีเรยา และเพื่อน ๆ หลังคิรีถูกคุกคามล้อเลียนจากพวกเขา โล'อัคถูกเจคบังคับให้ขอโทษอีกฝ่าย หากอยากอยู่ในเผ่าอย่างสงบสุข คิรีตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วตัวเธอเองเป็นอะไร ทำไมถึงแปลกแยกกว่าคนอื่น ๆ ในเผ่า
โล'อัคยอมขอโทษ อาวนุงและกลุ่มเพื่อนของเขา ได้ล่อลวงเขาให้ไปใน ภูผาสามพี่น้อง ดินแดนของนักล่าแห่งท้องทะเลที่อันตรายและปล่อยให้เขาติดอยู่ในนั้น โล'อัคได้รับการช่วยเหลือและเป็นเพื่อนกับ "พญาคาน" โทลคูน สัตว์จำพวกเลี้ยงลูกด้วยนมที่ฉลาดและรักสงบ ซึ่ง เม็ตคายีน่า ถือว่าเป็นครอบครัวทางจิตวิญญาณของพวกเขา เมื่อกลับมาถึงเผ่า โล'อัคเลือกที่จะยอมรับโทษตัวเองแทนที่จะเปิดเผยความจริง เขาจึงได้มิตรภาพจากอาวนุงที่สำนึกผิดต่อการกระทำ คนในเผ่าเมื่อได้ยินเรื่องของพญาคาน จึงเล่าถึง พญาคาน เป็นสิ่งมีชีวิตนอกคอกในเผ่าพันธุ์ของเขา ในการเดินทางไปยังต้นไม้แห่งจิตวิญญาณแห่งเม็ตคายิน่า คีรีเชื่อมโยงกับต้นไม้เพื่อพบกับแม่ของเธอแต่ต้อง ทุกข์ทรมานจากอาการชักอย่างรุนแรง ร็อตโซ่ เพื่อนของอาวนุงที่ตามดูแลทุกคน รีบให้พวกเนเทยัมพาเธอกลับไปที่เผ่า คิรีได้รับการเยียวยารักษาจากโรนัล แต่เพราะเจคติดต่อหา ดร.นอร์ม สเปลแมน และ ดร.แม็กซ์ พาเทล สหายเก่าแก่ที่เป็นพันธมิตรร่วมรบและปกป้องมาช่วยเหลือ ยานรบที่พวกเขาขับมากลายเป็นสัญญาณให้ควอริทช์สามารถติดตามไปยังหมู่เกาะที่นาวี่อาศัยอยู่ในแนวปะการังได้ โดยได้นำตัวสไปเดอร์มาด้วยในฐานะล่ามแปลภาษา ควอริทช์เริ่มเค้นคำถามอย่างโหดเหี้ยมกับเผ่าพื้นเมือง ทานุอุย เกี่ยวกับที่อยู่ของเจค สไปเดอร์พยายามจะหาทางประณีประนอมและหยุดยั้งพร้อมทั้งขอร้อง ควอริทช์จึงทำเพียงสั่งเผาทำลายหมู่บ้านรอบ ๆ
ควอริทช์ และกัปตันมิก สกอร์สบี้ควบคุมเรือล่าวาฬซึ่งกำลังตามล่าโทลคูนเพื่อเก็บเกี่ยวเอ็นไซม์ในสมอง เพื่อสร้างยาชะลอวัยที่เรียกว่า "อมฤตา" ลูกเรือใน RDA ล่าทัลคุนสองแม่ลูกอย่างโหดร้ายเพื่อดึงให้เจคออกมา สไปเดอร์มองเหตุการณ์ด้วยความเสียใจ พร้อม ๆ กับดร.เอียน การ์วิน [15] นักชีววิทยาทางทะเลที่ถูกบีบให้ทำงานร่วม แม้ว่าควอริทช์จะรู้สึกสับสนกับการไล่ล่าดังกล่าว แต่เขาก็ยังตั้งเป้าที่จะไล่ล่าเจค โล'อัคที่ได้เชื่อมโยงจิตใจภายในกับพญาคาน รู้ว่าโทลคูนถูกขับไล่ออกจากเผ่าเพราะเขาฝ่าฝืนวิถีของเผ่าพันธุ์ของเขาและโจมตีคนล่าวาฬที่ฆ่าแม่ของเขา เมื่อ เผ่าเม็ตคายิน่ารู้เรื่องการสังหารโทลคูนโดยฝีมือ RDA โรนัลใจสลายเมื่อพบว่าเหยื่อเป็นพี่น้องของเธอ โรอาและลูกน้อย โล'อัครีบออกเดินทางไปเตือนพญาคานที่อีกฝั่งของมหาสมุทรโดยไม่ฟังใคร เนเทยัม ศีเรยา อาวนุง และร็อตโซ่รีบตามไปช่วย จนได้พบว่า พญาคานกำลังถูกนักล่าวาฬไล่ล่า พวกเขาถูกพบโดยกองทัพของ RDA จึงโดนตามล่า โล'อัค ศีเรยา และ ทู้คพลาดท่าถูกจับตัวขึ้นไปไว้บนเรือ เมื่อลูก ๆ ของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย เจค เนย์ทิรี และ เผ่า เม็ตคายีน่า จึงร่วมมือกันออกเดินทางเพื่อเผชิญหน้าทำสงครามกับมนุษย์ ควอริทช์ใช้ลูก ๆ ของเจค บีบให้ยอมจำนน แต่เมื่อ โล'อัค ตกอยู่ในอันตราย พญาคานก็เข้าโจมตีนักล่าวาฬและเรือ ก่อให้เกิดการต่อสู้ที่คร่าชีวิตลูกเรือส่วนใหญ่และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเรือ เจค เนย์ทิริ และเผ่าเม็ตคายีน่าได้นำทัพเข้าโจมตีกองทัพของ RDA อย่างกล้าหาญ
สไปเดอร์ใช้โอกาสก่อความวุ่นวายทำให้เกิดเชื้อเพลิงจนเรือชนกับโขดหินจมลง ระหว่างที่พากันหลบหนี เนเทยัมเข้าช่วยชีวิตปกป้อง โล'อัค และ สไปเดอร์ จนถูกจ่าสิบโท ไลล์ เวนฟลีท เพื่อนร่วมทีมของควอริทช์ที่เป็นรีคอมบิแนนท์ กราดยิงจนเสียชีวิต ท่ามกลางความเสียใจของเนย์ทิรี เจค สไปเดอร์ และศีเรยา พวกเขาเผชิญหน้ากับควอริทช์และลูกเรือที่ใช้คิรีเป็นตัวประกัน เนย์ทิรีเต็มไปด้วยความแค้น บุกเข้าสังหารลูกเรือจนเหลือเพียงแค่ควอริทช์ ในขณะที่เจคจัดการรีคอมบิแนนท์ ไลล์ เวนฟลีตจนร่วงตกน้ำไป สไปเดอร์พยายามจะเข้าห้ามควอริทช์ แต่ถูกเนย์ทิรีจับไว้เป็นตัวประกัน เพราะรู้แก่ใจว่าสไปเดอร์เป็นลูกของไมลส์ ศัตรูที่เผาและสังหารครอบครัวและบ้านเกิดของเธอเมื่อ 15 ปีก่อน และยังเป็นต้นเหตุให้ลูกชายคนโตของบ้านต้องตาย เธอขู่ว่าจะใช้ชีวิตสไปเดอร์แลกชีวิตเนย์เทยัมที่เสียไป ควอริทช์พยายามปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสไปเดอร์ในตอนแรก แต่ต้องยอมใจอ่อน เมื่อเนย์ทิรีใช้มีดปาดที่หน้าอกสไปเดอร์และเงื้อมีดจะแทง จึงยอมปล่อยตัวคิรี ทั้งหมดที่หลงเหลือติดอยู่ในเรือที่กำลังจม เจคเข้าต่อสู้และรัดคอควอริทช์จนหมดสติและเชื่อว่าตายไปแล้ว เนย์ทิรี่ช่วยทู้คที่ไหลไปกับกระแสน้ำ ในขณะที่เจคได้รับการช่วยเหลือจากโล'อัค และพญาคาน ในขณะที่ คิรี ใช้พลังของเธอเรียกสัตว์ทะเลมารวมตัวช่วยชีวิตเนย์ทิรี และ ทู้ค ไว้ อีกด้านหนึ่ง สไปเดอร์ที่กำลังดำน้ำออกมาจากซากเรือได้พบเจอร่างของควอริทช์ที่หายใจโรยรินและช่วยเหลือเขาขึ้นมาบนบก
ควอริทช์ขอร้องให้สไปเดอร์เลือกที่จะหนีไปกับเขาในฐานะลูกชาย แต่สไปเดอร์ไม่อาจยอมรับความโหดร้ายที่ควอริทช์ก่อความสูญเสียต่อครอบครัวเจคได้ จึงเลือกที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวของเจค โดยเก็บงำความลับไว้ ส่วนควอริทช์ทำได้เพียงจากไปด้วยความเจ็บทั้งกายและใจ หลังจากพิธีมอบศพของเนเทยัมเป็นไปอย่างเศร้าโศก เจคแจ้งข่าวกับโตโนวารี และ โรนัล ว่าเขาจะออกเดินทางออกไปจากเม็ตคายีน่า อย่างไรก็ตาม โตโนวารีได้ถือว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มด้วยความเคารพนับถือในครอบครัวซัลลีที่สละชีวิตเพื่อปกป้องจนเป็นส่วนหนึ่งกับบรรพบุรุษ พร้อมยินดีต้อนรับครอบครัวของเขาให้อยู่ต่อ เจคและครอบครัวยอมรับในความเปลี่ยนแปลงและสร้างชีวิตใหม่ในทะเล เขาได้เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณร่วมกับเนย์ทิรีผ่านต้นไม้แห่งจิตวิญญาณ ทั้งคู่ได้มองวิญญาณของเนเทยัมที่มีความสุข ด้วยความอบอุ่นใจที่ได้อยู่รวมกับเอวา โดยเจคสาบานว่าจะไม่หนี จะขอต่อสู้กับคนบนฟ้า RDA ผู้รุกรานต่อไปด้วยจิตวิญญาณแห่งพระแม่เอวาอันทรงพลัง
นักแสดง[แก้]
ชาวนาวี[แก้]
- แซม เวิร์ธธิงตัน รับบท เจค ซัลลี อดีตนาวิกโยธินพิการ ผู้ละทิ้งชีวิตมนุษย์หลังค้นพบความหมายจากโครงการอวตาร เพื่อครองรักกับเนย์ทิรี่และกลายเป็น โทรุคมัคโต ผู้นำพาเผ่าโอมาติคาย่าไปสู่ความเข้มแข็ง และเข้าต่อสู้กับคนบนฟ้าเพื่อปกป้องดาวแพนดอรา พร้อมกับลูก ๆ และภรรยาของเขา
- โซอี ซัลดานา รับบท เนย์ทิริ ซัลลี่ ลูกสาวของอดีตผู้นำเผ่าโอมาติคาย่า หลังเสียชีวิต ว่าที่ผู้นำทางจิตวิญญาณ ภรรยาของเจค ผู้ปลงใจกับเจค และแม่ของลูก ๆ ทั้ง 3 คน
- ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ รับบท คิรี ซัลลี่/ดร. เกรซ ออกัสติน ลูกสาวบุญธรรมของเจค และ เนย์ทิริ ผู้เชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับเอวาอย่างน่าอัศจรรย์ ซิกัวร์นีย์ยังกลับมารับบทดร. เกรซ นักชีววิทยาอวกาศและหัวหน้าโครงการอวตารผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์หลังช่วยเหลือเจคในภาคแรก และแม่ที่แท้จริงของคิรี ที่เกิดขึ้นมาจากจิตวิญญาณของเธอและเอวา
- ซีซีเอช เพาเดอร์ รับบท โมแอต ผู้นำจิตวิญญาณของเผ่าโอมาติกายา แม่ของเนย์ทิรี ผู้สูญเสียสามีไปในสงครามในเหตุการณ์ภาคแรกและต้องดูแลครอบครัว
- คลิฟฟ์ เคอร์ติส รับบท โตโนวารี ผู้นำเผ่าเม็ตคายีน่า สามีของโรนัล ผู้มีความเคารพในตัวเจค ซัลลี่[15] และเปิดโอกาสให้ซัลลี่เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง
- เคต วินสเล็ต รับบท โรนัล [15] นักดำน้ำลึกและภรรยาของผู้นำเผ่า เม็ตคายีน่า ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เธอรักธรรมชาติและท้องทะเล แต่ก็เจ้าอารมณ์
- เจมี่ แฟลตเตอร์ส รับบท เนเทยัม ซัลลี่ ลูกชายคนโตสุดของเจค และเนย์ทิรี ผู้มีใจมุ่งมั่นที่จะเป็นนักรบเหมือนพ่ออย่างภาคภูมิใจ รักและพร้อมปกป้องน้องชาย
- บริเตน ดัลตัน รับบท โล'อัค ซัลลี่ ลูกชายคนรองของเจค และเนย์ทิรี ผู้แปลกแยกและโดดเดี่ยวเพราะความรักที่พ่อมีให้พี่ชายมากกว่าตน จนได้เจอศีเรยา
- ทรินิตี้ บลิส รับบท ทู้ค ทู้คทิรี ซัลลี่ ลูกสาวคนเล็กของเจค และ เนย์ทิรี ผู้รักการผจญภัย ฉลาด และชอบตามติดพี่น้องไปยังที่ต่าง ๆ และพยายามช่วยทุกคน
- เบลีย์ แบส รับบท ศีเรยา (เรยา) นักดำน้ำลึก ลูกสาวคนเล็กโตโนวารีและโรนัลที่พบรักกับโล'อัค ระหว่างใช้ชีวิตร่วมกันในเผ่าเม็ตคายีน่า ผู้ไม่เคยตัดสินโล'อัค
- ฟิลิป เกลโจ รับบท อาวนุง นักล่าแห่งเผ่าเม็ตคายีน่า ลูกชายคนโตของโตโนวารีและโรนัล ผู้ที่ถูกมองว่าเป็นลูกชายที่ไม่เอาไหน จึงกลั่นแกล้งโล'อัค จนล้ำเส้น
- ดูแอน วิชแมน-อีวานส์ รับบท ร็อตโซ่ เพื่อนสนิทของอาวนุง ที่ตอนแรกล้อเลียนลูก ๆ ของเจค แต่ต่อมากลับเป็นมิตรกับพวกเขา โดยเฉพาะกับ คิรี
- เคสตัน จอห์น รับบท ทาร์เซ็ม เพื่อนและคนที่ไว้ใจของเจค ผู้รับหน้าที่เป็นผู้นำของเผ่าโอมาติคาย่า แทนเจคที่พาครอบครัวอพยพออกไป
รีคอมบีแนนท์[แก้]
- สตีเฟ่น แลง รับบท พันเอก ไมลส์ ควอริทช์ อดีตผู้พันรักษาความปลอดภัยของเหมืองแร่และมือขวาของปาร์คเกอร์ที่แตกคอกันก่อนเสียชีวิตในเหตุการณ์ภาคที่แล้ว เขากลับมาในร่างโคลนอวตารจากดีเอ็นเอผสมที่ทรงพลังกว่าร่างมนุษย์ที่เรียกว่า รีคอมบีแนนท์ ด้วยความช่วยเหลือจากปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ พร้อมความทรงจำเดิม และเขาคือพ่อของไมลส์ ควอริทช์ ซอคคอร์โร และต้องการจะตามล่าเจค ซัลลี่และครอบครัว
- แมตต์ เจอรัลด์ รับบท จ่าสิบโท ไลล์ เวนฟลีท ผู้ร่วมศึกปะทะกับชาวนาวี่ ที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ภาคแรก ก่อนจะกลับมาทำงานคู่กับควอริทช์ หลังฟื้นขึ้นมาในร่างโคลนจากดีเอ็นเอผสม
- อลิเซีย เวลา-เบลลีย์ รับบท ซดินาร์ซิค (ซี-ด็อก) เจ้าหน้าที่หน่วยรบของ RDA ที่เสียชีวิตไป แต่กลับมาในร่างโคลนจากดีเอ็นเอผสม เบลลีย์ เคยรับบทอีเคนี ผู้นำของเผ่าเทย์รางงิ ในหนังภาคแรก และยังเป็นสตันท์ให้กับคิวบู๊ทั้งสองภาค
- เควิน ดอร์แมน รับบท มันสค์/ทหารข้างกายของอาร์ดมอร์ หนึ่งในทหารที่ดีที่สุดของควอริทช์จนกระทั่งเสียชีวิต แต่กลับมาในร่างโคลนจากดีเอ็นเอ เขายังรับบทเป็นคนควบคุมรถแทร็คเตอร์ในภาคแรก และเป็นโมชั่นแคปเจอร์ของพญาคาน
ชาวมนุษย์[แก้]
- โจเอล เดวิด มัวร์ รับบท ดร. นอร์ม สเปลแมน นักมานุษยวิทยาต่างดาว ผู้ศึกษาพืชและชีวิตสัตว์เป็นส่วนหนึ่งโครงการอวตาร ผู้ช่วยของดร. เกรซ และเพื่อนของทอม ซัลลี่ พี่ชายของเจค ที่เข้าร่วมสงครามปกป้องชาวนาวี่ในภาคแรก สิบห้าปีต่อมา เขาได้ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยเหลือเผ่าโอมาติคาย่าให้อยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติที่ไฮแคมป์
- แจ็ค แชมเปียน รับบท ไมลส์ ควอริทช์ โซคอร์โร (สไปเดอร์) มนุษย์คนแรกที่เกิดและเติบโตบนดาว เขาเป็นลูกชายที่เกิดจากควอริทช์และทหารหญิง ปาซ ซอคคอร์โร ที่ติดอยู่บนดาวแพนดอรา ก่อนที่เจคจะนำมาเลี้ยงจนสนิทสนมกับลูก ๆ ของเขาเหมือนลูก เขารักผืนป่าของดาว และพร้อมจะปกป้องพวกพ้องและครอบครัวโดยเฉพาะ คิรี คนสำคัญของเขา
- จิโอวานนี่ ริบิซี่ รับบท ปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ อดีตผู้ดูแลการทำเหมืองแร่ขององค์กร RDA ที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกแพนดอรา หัวหน้าผู้สนิทสนมกับมือขวา ไมลส์ ควอริทช์ แต่ได้รับรู้ถึงผลลัพธ์อันเลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้หลังโฮมทรีถูกทำลาย เขากลับใจและพยายามจะห้ามควอริทช์ในเหตุการณ์ภาคแรกแต่ไม่สำเร็จ ผู้ที่มอบที่เก็บข้อมูลดีเอ็นเอผสม "โซลไดรฟ์" ที่บรรจุข้อมูลและความทรงจำให้ควอริทช์ก่อนจะเสียชีวิต เมื่อถูกเจคและเนย์ทิริเนรเทศออกจากดาวจึงได้เตือนว่า คนบนฟ้าจะกลับมา
- เจเมน เคลเมนต์ รับบท ดร. เอียน การ์วิน[15] นักชีววิทยาทางทะเล ผู้คอยให้ข้อมูลแก่มนุษย์ในท้องทะเล เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ RDA แต่ถูกบีบบังคับ
- เบรนแดน คาเวลล์ รับบท กัปตันมิก สกอร์สบี้[15] ผู้ต้องการจะล่าโทลคูนมาใช้เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์ เขาชอบล่าโทลคูนเป็นชีวิตจิตใจและคิดว่าเขาฉลาดกว่า
- อีดี ฟัลโก รับบท นายพล ฟรานเซส อาร์ดมอร์[15] นายพลหญิง ผู้นำเปิดสงครามคุกคามชาวนาวี่กับ เจค ซัลลี่ เป็นคนที่โหดเหี้ยมและทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ
- ไดลีป เรา รับบท ดร. แมกซ์ พาเทล นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำงานในโครงการอวตารและช่วยเหลือการก่อกบฏของเจคต่อ RDA และคอยอยู่ช่วยเหลือชาวดาวแพนดอรา
- ฟีล บราวน์ รับบท ชาร์ลส์ สตริงเกอร์ หัวหน้าผู้ดูแลระบบคนใหม่ขององค์กร RDA แทนที่เซลฟริดจ์ เขาเป็นคนสั่งการให้อาร์ดมอร์ใช้ไม้แข็งกับชาวนาวี่ หลังเปิดการเจรจา 1 ปีแต่ไม่สำเร็จ เขาต้องการจะเปลี่ยนให้ดาวแพนดอรากลายเป็นอาณานิคมใหม่ของมนุษย์
ทีมพากย์เสียงไทย[แก้]
- เจค ซัลลี – ณฐพงษ์ เธียรสวัสดิ์กิจ
- เนย์ทิริ – ณัฐฐา หิรัญสถิตย์ (แทน ลัดดา สุขธาราจารในภาคแรก)
- พันเอก ไมลส์ ควอริทช์ - รอง เค้ามูลคดี
- ปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ - ธงชัย ชาญชำนิ
- คิรี – พิมพ์ขวัญ ลิ้มรัตนวิสูตร
- เกรซ - สุมาลี สุธีรธรรม
- โทโนวารี - อภิชาติ สมุทรคิรี
- โรนัล – โศภิตา รังสิโยทัย
- โลอัค - อิทธิพัทธ์ เล็กอุทัยวรรณ
- เนเทยัม - ศุภเศรษฐ์ ภูธนะกูล
- สไปเดอร์ - เตชินห์ ศรีเบญจโชติ
- อาวนุง - อธิพัฒน์ ถนอมสัมพันธ์
- ศีเรยา - เจติยา จันทรา
- ทู้คทีริ - ณฐมน อรุณประสบสุข
- ดร. เอียน การ์วิน - รัตนชัย เหลืองวงศ์งาม
- กัปตันมิก สกอร์สบี้ - ติณณ์ปวัฒน์ ดิษฐาหิรัญ
- จ่าสิบโท ไลล์ เวนฟลีท - จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร
- อดัม เบล๊ค - ภูมิใจ องค์สุระชัย
อ้างอิง[แก้]
- ↑ McClintock, Pamela; Couch, Aaron (October 29, 2022). "'Avatar: The Way of Water' Runtime Sails Past Three Hours". The Hollywood Reporter (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2022. สืบค้นเมื่อ October 29, 2022.
- ↑ McClintock, Pamela (November 22, 2022). "Box Office: Avatar : The Way of Water Lands Coveted China Release". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 23, 2022. สืบค้นเมื่อ November 23, 2022.
- ↑ D'Alessandro, Anthony (December 18, 2022). "Avatar: The Way Of Water Opens To $134M; Why Pic's Box Office Fate Will Be Determined Through The Holidays – Sunday AM Update". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 18, 2022. สืบค้นเมื่อ December 18, 2022.
- ↑ "Avatar: The Way of Water". Box Office Mojo. IMDb. สืบค้นเมื่อ May 26, 2023.
- ↑ "Avatar: The Way of Water". The Numbers. Nash Information Services, LLC. สืบค้นเมื่อ May 26, 2023.
- ↑ Mahajan, Viraj (September 24, 2019). "Too much pressure on James Cameron for Avatar 2 after Avengers: Endgame?". International Business Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 27, 2019. สืบค้นเมื่อ January 17, 2020.
- ↑ Klein, Brennan (April 30, 2022). "Avatar 2 First Images Reveal What James Cameron Has Spent 13 Years On". Screen Rant (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 30, 2022. สืบค้นเมื่อ April 30, 2022.
- ↑ Carroll, Larry (June 29, 2006). "'Titanic' Mastermind James Cameron's King-Size Comeback: Two Sci-Fi Trilogies". MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 5, 2006. สืบค้นเมื่อ October 18, 2006.
- ↑ Rosenberg, Adam (January 8, 2010). "'Avatar' Sequel Confirmed By James Cameron... And Here's What We'd Like To See". MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2010. สืบค้นเมื่อ January 11, 2010.
- ↑ McClintock, Pamela (October 27, 2010). "James Cameron's 5-year plan". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 12, 2011. สืบค้นเมื่อ October 27, 2010.
- ↑ White, Adam (July 23, 2020). "Avatar 2 delayed indefinitely due to coronavirus, confirms James Cameron". The Independent (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ March 22, 2021.
- ↑ Mendelson, Scott (July 25, 2020). "Box Office: 'Avatar 2' Delay Means Universal's 'F9' And 'Jurassic World: Dominion' Could Rule 2021". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 25, 2020. สืบค้นเมื่อ July 28, 2020.
- ↑ Reimann, Tom (July 23, 2020). "The 'Avatar' Sequels Have Been Delayed Again, So I Guess Things Are Returning to Normal". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2020. สืบค้นเมื่อ July 23, 2020.
- ↑ Whitten, Sarah. "'Avatar: The Way of Water' review roundup: See it on the biggest screen possible, critics say". CNBC (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ December 17, 2022.
- ↑ 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 15.5 Avatar 2: Every Character Returning In James Cameron’s Long-Delayed Sequel
- ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2565
- ภาพยนตร์ภาคต่อ
- ภาพยนตร์ไซไฟ
- ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ
- ภาพยนตร์ที่เลื่อนการฉายเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19
- ภาพยนตร์เรื่องราวแนวก้าวผ่านวัยอเมริกัน
- ภาพยนตร์มหากาพย์อเมริกัน
- ภาพยนตร์ภาคต่ออเมริกัน
- ภาพยนตร์ผจญภัยบันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์อเมริกัน
- ภาพยนตร์โลดโผนบันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์อเมริกัน
- ภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัว
- ภาพยนตร์ที่ใช้การจับภาพเคลื่อนไหว
- ภาพยนตร์อเมริกันในคริสต์ทศวรรษ 2020
- ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษในคริสต์ทศวรรษ 2020
- ภาพยนตร์โดยทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์
- ภาพยนตร์ผจญภัยในอวกาศอเมริกัน
- ภาพยนตร์ผจญภัยโลดโผนอเมริกัน