อับดุลละฮ์ อะฮ์มัด บาดาวี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อับดุลละฮ์ อะฮ์มัด บาดาวี
عبد الله احمد بدوي
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย คนที่ 5
ได้รับเกียรติเป็น
บิดาแห่งการพัฒนาทุนมนุษย์
Bapa Pembangunan Modal Insan
باڤ ڤمباڠونن مودل انسان
ดำรงตำแหน่ง
31 ตุลาคม พ.ศ. 2546 – 3 เมษายน พ.ศ. 2552
กษัตริย์สมเด็จพระราชาธิบดีตวนกู ซัยยิด ซีรอญุดดีน
สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน มีซาน ไซนัล อาบิดีน
ก่อนหน้ามาฮาดีร์ โมฮามัด
ถัดไปนาจิบ ราซัก
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 (84 ปี)
บายันเลอปัซ ปีนัง นิคมช่องแคบ
ศาสนาศาสนาอิสลาม
พรรคการเมืองพรรคอัมโน
คู่สมรสเอนดน มะห์มูด อัมบะก์ (เสียชีวิต)
จีน ดันเกอร์
บุตรกามาลุดดิน อับดุลละฮ์
โนรี อับดุลละฮ์

ตุน ดาโตะก์ ซรี ฮาจี อับดุลละฮ์ บิน ฮาจี อะฮ์มัด บาดาวี (มลายู: Tun Dato' Sri Haji Abdullah bin Haji Ahmad Badawi, ยาวี: عبد الله بن احمد بداوي; 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 - ) เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย รับตำแหน่งต่อจากมาฮาดีร์ บิน โมฮามัด เมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 เป็นผู้นำพรรคอัมโนคนที่ 6 และกลุ่มพรรคแนวร่วมแห่งชาติ Barison Nasional (BN) และชนะการเลือกตั้งเมื่อ 21 มีนาคม พ.ศ. 2547

ประวัติ[แก้]

อับดุลละฮ์ อะฮ์มัด บาดาวี เกิดในเมืองบายันเลอปัซ รัฐปีนัง ในครอบครัวเคร่งครัดในศาสนา บิดาของนายบาดาวีเป็นคนที่เคร่งครัดในศาสนามาก และเป็นสมาชิกพรรคอัมโน ส่วนปู่ของเขาคือชีคอับดุลละฮ์ บาดาวี ฟาฮิม ซึ่งมีเชื้อสายอาหรับ[1] ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฮิสบูลมุสลิมีน (Hizbul Muslimin) หรือที่รู้จักในปัจจุบันในนามพรรคพาส (PAS) ปู่ของเขามีชื่อเสียงในการต่อสู้เพื่อเอกราช และเป็นผู้นำศาสนาคนแรกของปีนังก่อนได้รับเอกราช ส่วนตาของเขามีนามว่า ฮา ซูเฉียง (Ha Su-chiang) หรือรู้จักกันว่า ฮัสซัน (Hassan) เป็นชาวจีนมุสลิมที่อพยพมาจากเมืองซานย่า ในมณฑลไหหลำ[2]

อับดุลละฮ์ อะฮ์มัด บาดาวี ได้ศึกษาจากโรงเรียนมัธยมบูกิต เมอร์ตายัม (Bukit Mertajam High School) หลังจากที่ล้มเหลวในการสมัครเข้าในเส้นทางที่เขาเลือกคือเศรษฐศาสตร์ บาดาวีได้ปริญญาตรีจากสาขาศิลปะ ในอิสลามศึกษา จากมหาวิทยาลัยมาลายา ใน ค.ศ. 1964

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

นายกบาดาวีและภรรยา ในงาน LAMAN2008

ภรรยาคนแรกของนายอับดุลละฮ์ คือ นางเอนดน มะห์มุด อัมบะก์ (Endon Mahmood Ambak) ซึ่งเป็นชาวมลายูเชื้อสายญี่ปุ่น ทั้งสองมีบุตรธิดาด้วยกันสองคน คนแรกเป็นชายชื่อ กามาลุดดิน อับดุลละฮ์ คนที่สองเป็นหญิงชื่อโนรี อับดุลละฮ์ ซึ่งภายหลังนางเอนดน มะห์มุด อัมบะก์ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทรวงอกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2548

และต่อมาอับดุลละฮ์ อะฮ์มัด บาดาวีได้แต่งงานใหม่กับนางจีน ดันเกอร์ อดีตน้องสะใภ้ของภรรยาเขา ซึ่งเป็นชาวมลายูเชื้อสายโปรตุเกส เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2550[3]

อ้างอิง[แก้]

  1. Noor, Elina, Noor, Ismail, Pak Lah: A Sense of Accountability–An Insight Into Effective Stewardship, Utusan Publications & Distributors, 2003, ISBN 9676114928
  2. Asia Future Shock: Business Crisis and Opportunity in the Coming Years, Michael Backman, Palgrave Macmillan, 2008, ISBN 0230006779, pg 133
  3. นายกฯมาเลย์สละโสดแต่งงานใหม่