สถาพร มณีรัตน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถาพร มณีรัตน์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำพูน
ดำรงตำแหน่ง
3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 – 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด20 เมษายน พ.ศ. 2505
อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
เสียชีวิต14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 (50 ปี)
โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
พรรคการเมืองเพื่อไทย
คู่สมรสลาวรรณ มณีรัตน์

สถาพร มณีรัตน์ (20 เมษายน พ.ศ. 2505 - 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลำพูน เขต 2 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 ในสังกัดพรรคไทยรักไทย และสังกัดพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคสุดท้าย

ประวัติ[แก้]

สถาพร มณีรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2505 เป็นบุตรของนายรัตน์ และนางบัวนำ มณีรัตน์ มีพี่น้อง 6 คน สมรสกับนางลาวรรณ มณีรัตน์ มีบุตร 1 คน คือ นาย กฤตภาส มณีรัตน์ (ชื่อเดิม ภาคภูมิ)

การศึกษา[แก้]

นายสถาพร มณีรัตน์ เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านสันทราย ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนจักรคำคณาทร และเข้าศึกษาต่อในสายอาชีวศึกษา (ปวช.) ที่วิทยาลัยเทคนิคลำพูน และระดับชั้น ปวส. ที่วิทยาลัยเทคนิคลำปาง จากนั้นได้ศึกษาจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

งานการเมือง[แก้]

นายสถาพร มณีรัตน์ เริ่มทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และได้รับเลือกเป็นประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 ได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 75 ไม่ได้รับเลือกตั้งในคราวแรก จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ด้านแรงงาน ต่อมาได้รับเลื่อนให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนนายกันตธีร์ ศุภมงคล เมื่อปี พ.ศ. 2545[1]

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 ย้ายมาลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบแบ่งเขต จังหวัดลำพูน ได้รับเลือกโดยเอาชนะนายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้น พ.ศ. 2550 ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชาชน ได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับที่ 2 ของเขต (มี ส.ส.ได้ 3 คน)

ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย เอาชนะนายขยัน วิพรหมชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยในการรายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายสถาพรได้หาบลำไยและกระเทียมเข้ามาด้วยเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ช่วยเหลือปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ[2]

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร[แก้]

สถาพร มณีรัตน์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 4 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 แบบบัญชีรายชื่อ (เลื่อน) สังกัดพรรคไทยรักไทย
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 จังหวัดลำพูน สังกัดพรรคไทยรักไทย
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 จังหวัดลำพูน สังกัดพรรคพลังประชาชน
  4. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดลำพูน สังกัดพรรคเพื่อไทย

ถึงแก่อนิจกรรม[แก้]

สถาพร มณีรัตน์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ด้วยอาการของโรคไต หลังจากเข้ารับการรักษานานหลายเดือน[3] และมีการประกอบพิธีรดน้ำศพในวันถัดมา ณ วัดสันทราย อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี[4] มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ณ ฌาปนสถานบ้านสันต้นข้า อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ให้ผู้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองลำดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-01-14.
  2. นายสถาพร มณีรัตน์
  3. ไรคไตคร่าชีวิต"สถาพร มณีรัตน์"ส.ส.ลำพูนเพื่อไทย
  4. "สมชาย" อดีตนายกฯ ร่วมรดน้ำศพ ส.ส.สถาพร
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๑๐, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]