พิธีสวนสนามวันชาติจีน
พิธีสวนสนาม วันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน 中华人民共和国国庆阅兵 จงหฺวาเหรินหมินก้งเหอกั๋วกั๋วชิ่งยฺเว่ปิง | |
---|---|
ประเภท | สวนสนามทางทหาร, ขบวนแห่พลเรือน, งานเลี้ยงดนตรีและเต้นรำ |
วันที่ | 1 ตุลาคม |
ความถี่ | เลือกปี[A] |
ที่ตั้ง | ถนนฉางอาน จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 39°54′26.4″N 116°23′27.9″E / 39.907333°N 116.391083°E |
ช่วงปี | 74 |
ประเดิม | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492; 74 ปีก่อน |
ผู้เข้าร่วม | ผู้นำระดับชาติ, ผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ, กองทัพปลดปล่อยประชาชน, ตำรวจติดอาวุธประชาชน, กองทหารอาสาสมัคร, หน่วยทหารอื่น ๆ และประชาชน |
เว็บไซต์ | 70prc.cn (ภาษาอังกฤษ) |
พิธีสวนสนามวันชาติ (จีน: 国庆阅兵) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พิธีสวนสนามวันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีน: 中华人民共和国国庆阅兵) เป็นงานเฉลิมฉลองทางทหารและพลเรือนที่จัดขึ้น ณ จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง จัดขึ้นในวันชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ดำเนินการโดยกองทัพปลดปล่อยประชาชน ตำรวจติดอาวุธประชาชน และกองทหารอาสาสมัคร รวมถึงกลุ่มพลเรือนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จัดขึ้นทุก 10 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 แต่เดิมจัดขึ้นทุกปีระหว่างปี พ.ศ. 2492–2502 และถ่ายทอดสดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2527 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน[2]
การสวนสนามวันชาติครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ในวาระครบรอบ 70 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
ภาพรวม[แก้]
ตั้งแต่พิธีสวนสนามในปี พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา การจัดพิธีสวนสนามที่จัตุรัสเทียนอันเหมินของกรุงปักกิ่งเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการก็ได้กลายเป็นประเพณี
โดยในปัจจุบันจะจัดขึ้นทุก 10 ปี ซึ่งรูปแบบนี้เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2542 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งประเทศ ก่อนหน้านี้มีการจัดการสวนสนามทุกปีจนถึงปี พ.ศ. 2502 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนตัดสินใจว่าจะจัดงานเฉลิมฉลองวันหยุด "อย่างประหยัด"[3] การสวนสนามยังจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2507, 2509, 2512, 2513 และ 2527[4]
พิธีสวนสนามวันชาติได้รับการนำโดยผู้นำสูงสุดของประเทศ ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนตามหน้าที่ทางการเมือง และในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพปลดปล่อยประชาชน และประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลางตามหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 นอกจากนี้ ผู้นำสูงสุดยังได้ตรวจพลสวนสนามด้วยตนเอง
ผู้บัญชาการพิธีสวนสนามเป็นนายพลระดับพลโทหรือพลตรีของกองทัพปลดปล่อยประชาชน โดยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคกลาง หรือเป็นสมาชิกระดับสูงในคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง
ก่อนปี พ.ศ. 2502 เป็นช่วงที่การสวนสนามยังได้รับอิทธิพลจากรูปแบบโซเวียต ผู้ตรวจพลสวนสนามคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นตำแหน่งระดับสูงที่ดำรงตำแหน่งโดยพลเอกหรือจอมพล
พิธีกรของงานคือ เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำกรุงปักกิ่ง หรือสมาชิกระดับสูงของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
พิธีการ[แก้]
เริ่มพิธี[แก้]
เวลา 10:00 นาฬิกา วงดุริยางค์ทหารสามเหล่าทัพจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนให้สัญญาณการเริ่มต้นพิธีอย่างเป็นทางการด้วยการบรรเลงเพลง "มาร์ชต้อนรับ" (欢迎进行曲) เมื่อผู้นำสูงสุดเดินทางมาถึงพลับพลาเทียนอันเหมินพร้อมด้วยบุคคลสำคัญดังต่อไปนี้:
- ประธานคณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน (นายกรัฐมนตรี)
- ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองประชาชนจีน
- สมาชิกระดับสูงของคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง และหน่วยงานอื่น ๆ ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
- รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน
- รองประธานคณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน (รองนายกรัฐมนตรี)
- รองประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง และสมาชิกหน่วยงานต่าง ๆ ในคณะ
- ประธานศาลประชาชนสูงสุด
- อัยการสูงสุดสำนักงานอัยการประชาชนสูงสุด
- สมาชิกสภารัฐกิจ
- รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติ และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองฯ
- เลขาธิการสำนักเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน
- อดีตผู้นำของพรรคและรัฐบาล
- ตัวแทนจากสภาประชาชน และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองฯ
- รัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลระดับกระทรวง
- คณะทูตและหัวหน้ารัฐบาลหรือประมุขแห่งรัฐจากต่างประเทศ หากมี
- ตัวแทนภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรประชาชน
- ผู้ว่าการมณฑล นายกเทศมนตรี หัวหน้าพรรคระดับมณฑลและเทศบาล และสภาประชาชนระดับภูมิภาค (หากมี)
ในพิธีสวนสนามปี พ.ศ. 2527, 2542 และ 2552 เคยมีการแสดงแปรอักษรบนพื้นที่จัตุรัส โดยใช้นักเรียนมัธยมนับพันคนในกรุงปักกิ่งและทั่วประเทศ (ยกเลิกในปี 2558) ส่วนกลุ่มนักเรียนทหารจากองค์การผู้บุกเบิกรุ่นเยาว์แห่งประเทศจีนจะประจำตำแหน่งขนาบข้างวงดุริยางค์ทหารสามเหล่าทัพ
หลังจากแขกผู้มีเกียรติเดินทางมาถึง พิธีกรประกาศเริ่มพิธี จากนั้นจึงเริ่มพิธีเชิญธงชาติ หน่วยพิทักษ์ธงเดินลงจากอนุสาวรีย์วีรชนและย่ำเท้าข้ามจัตุรัส ระหว่างนั้นมีการยิงสลุตตามปีครบรอบ (เช่น ครบรอบ 70 ปีก็ยิงสลุต 70 นัด) โดยกองทหารปืนใหญ่เกียรติยศของกองบัญชาการทหารกรุงปักกิ่ง เมื่อมาถึงเสาธงชาติ หน่วยพิทักษ์ธงจะเข้าแถวและยืนประจำตำแหน่งตรงกลางลานใกล้กับเสาธง เจ้าหน้าพิทักษ์ธงรับธงชาติจากผู้ถือธง (พิธีการส่วนนี้เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2542 เพื่อเป็นการจำลองพิธีเชิญธงชาติในจัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี พ.ศ. 2492)
เมื่อการเชิญธงและผู้แปรอักษรประจำตำแหน่งเสร็จสิ้น พิธีกรจะประกาศผ่านไมโครโฟนว่า "ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน โปรดยืนตรงเคารพธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติ!" จากนั้นเจ้าหน้าพิทักษ์ธงสั่งให้ทหารวันทยาวุธ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติ (มาร์ชทหารอาสา) เมื่อธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาแล้ว เจ้าหน้าพิทักษ์ธงสั่งให้ทหารเรียบอาวุธและยืนพักตามสบาย
ตรวจพลสวนสนาม[แก้]
หลังจากทหารหน่วยรักษาการณ์กรุงปักกิ่งประจำจุดบนถนนฉางอานเรียบร้อย ผู้นำสูงสุดจะลงมายังลานจัตุรัสเทียนอันเหมิน แล้วขึ้นรถเปิดประทุนหงฉี เพื่อทำการตรวจแถวทหารประมาณ 4,000–16,000 นาย จากกองทัพปลดปล่อยประชาชน ตำรวจติดอาวุธประชาชน และกองกำลังทหารอาสาสมัคร (กองหนุน) รวมหลายกองพัน พร้อมด้วยขบวนยานยนต์ทหารขนาดใหญ่ประมาณ 400–900 คันที่มีทหารประมาณ 9,000 นาย
เมื่อเดินทางมาถึงด้านหน้าประตูเทียนอันเหมิน ณ ถนนฉางอาน และผู้บัญชาการสวนสนาม (ก่อนปี 2560 เป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง และตั้งแต่ปี 2560 เป็นผู้บัญชาการกองยุทธบริเวณภาคกลาง) จะมาถึงในรถลีมูซีนที่คล้ายกัน เพื่อกล่าวรายงานผู้นำสูงสุด
หลังจากได้รับรายงาน พร้อมกับเสียงบรรเลงเพลงจากวงดุริยางค์ ผู้นำสูงสุดจะเริ่มตรวจแถวทหาร ผู้บัญชาการแต่ละกองพันจะสั่งให้ทหารทำความเคารพขณะที่รถแล่นผ่าน และทหารแต่ละกองพันจะชูอาวุธขึ้น (แลขวาสำหรับกองพันที่ไม่ใช้อาวุธ และพาดปืนสำหรับกองพันที่ใช้อาวุธ) จากนั้นจึงยืนตรงประจำตำแหน่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 กองพันทหารรักษาการณ์เกียรติยศกรุงปักกิ่ง พร้อมกับหน่วยพิทักษ์ธงชาติจะเป็นกองพันแรกที่ได้รับการตรวจแถว
ขณะที่รถผู้นำสูงสุดแล่นผ่าน ทหารแต่ละกองพันจะทำความเคารพ และผู้นำสูงสุดจะทักทายด้วยการกล่าวว่า "สวัสดี สหาย!" (同志们好!) หรือ "ขอบคุณสำหรับความทุ่มเท สหาย!" (同志们辛苦了!) และทหารจะตอบกลับด้วยการกล่าวว่า "สวัสดีท่านประธาน!" (主席好!) หรือ "[พวกเรา] รับใช้ประชาชน!" (为人民服务!)
หลังจากตรวจแถวเสร็จสิ้น ผู้นำสูงสุดจะกลับมายังพลับพลาเทียนอันเหมิน เพื่อกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันหยุดประจำชาติ ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการสวนสนามก็จะเข้าประจำตำแหน่งบนประตูเทียนอันเหมินเช่นกัน และกองพันทหารและขบวนยานยนต์ทหารต่าง ๆ จะปรับรูปแถวเพื่อเข้าขบวนสวนสนาม
ในพิธีสวนสนามปี พ.ศ. 2562 ลำดับพิธีการถูกเปลี่ยนแปลง ผู้นำสูงสุดจะกล่าวสุนทรพจน์ก่อนลงจากพลับพลาเทียนอันเหมินเพื่อตรวจพลสวนสนาม
สวนสนาม[แก้]
เมื่อผู้บัญชาการสวนสนามเปล่งคำสั่ง "เริ่มสวนสนาม!" (分列式开始!) จากบนพลับพลาเทียนอันเหมิน นั่นเป็นสัญญาณให้กองพันทหารเริ่มเดินสวนสนามผ่านพลับพลา โดยบุคคลสำคัญต่าง ๆ จะยืนบนพลับพลา และประชาชนจะเข้าชมการสวนสนามบนอัฒจันทร์หน้าพลับพลา ซึ่งรวมถึงทหารผ่านศึก ตัวแทนภาคธุรกิจรัฐบาลและเอกชน บุคคลสำคัญของประเทศ ข้าราชการ คณะทูต และสื่อมวลชนต่างประเทศ
วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสวนสนาม (分列式进行曲) ซึ่งเป็นเพลงพิเศษสำหรับการสวนสนามที่ดัดแปลงมาจากเพลง 'มาร์ชกองทัพปลดปล่อยประชาชน' (中国人民解放军进行曲) หลังจากการบินผ่านของธงชาติ ธงพรรค และธงกองทัพ พร้อมด้วยขบวนเฮลิคอปเตอร์ในบางปีที่พิเศษ เพื่อเป็นเกียรติแก่จำนวนปีแห่งเอกราชของประเทศ ขบวนทหารกองทัพบกจะเดินสวนสนามเป็นขบวนแรก ขณะเดียวกัน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและผู้นำพรรค รัฐบาล และทหารระดับสูงอื่น ๆ จะรับความเคารพจากแต่ละกองพันที่เดินผ่านพลับพลา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 กองพันทหารรักษาการณ์เกียรติยศประจำกรุงปักกิ่ง จะเป็นกองพันแรกแรกที่เดินสวนสนามผ่านคณะบุคคลสำคัญ นำหน้าโดยหน่วยพิทักษ์ธงถือธงกองทัพปลดปล่อยประชาชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นธงชาติโดยพฤตินัย เคียงข้างกับธงชาติและธงพรรคที่นำหน้าไปก่อน แต่ละกองพันที่เดินสวนสนามประกอบด้วย:
- กองพันทหารรักษาการณ์เกียรติยศ
- มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ
- วิทยาลัยทหาร และโรงเรียนนายร้อย
- กองทัพบก
- กองทัพเรือ
- กองทัพอากาศ
- กองพลทหารพลร่ม
- กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ
- กองทัพจรวด
- กองกำลังสนับสนุนการขนส่ง
- กองพันทหารหญิง
- ตำรวจติดอาวุธประชาชน
- กองพลสำรอง
- กองกำลังทหารอาสาสมัคร
- กองพันทหารกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
ก่อนปี พ.ศ. 2502 กองทัพปลดปล่อยประชาชน ตำรวจติดอาวุธประชาชน และกองทหารอาสาสมัคร จะเดินสวนสนามแยกกันในส่วนหลักของขบวนสวนสนาม (กองกำลังอาสาสมัครจะเดินเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพลเรือน) แต่ละกองพันประกอบด้วยทหาร 350 นาย (14 แถว ๆ ละ 25 นาย) นำโดยผู้บังคับกองพันและหัวหน้าคณะกรรมการการเมืองประจำกองพัน ซึ่งจะเดินนำหน้ากองพัน[ต้องการอ้างอิง]
หลังจากขบวนทหารหลัก จะต่อด้วยขบวนยานยนต์ทหารซึ่งจัดเป็นกองพันเช่นเดียวกัน แต่ผู้บัญชาการจะยืนประจำตำแหน่งบนยานพาหนะของตนขณะทำความเคารพ ขบวนรถเคลื่อนที่นี้ประกอบด้วยยานยนต์และอุปกรณ์ทางทหารที่ผลิตในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งประจำการและเตรียมนำเข้าประจำการเพื่อสนองความต้องการของกองทัพปลดปล่อยประชาชนยุคใหม่ หน่วยที่น่าสังเกตหนึ่งคือ กองพันทหารหญิงจากวิทยาลัยแพทย์เบธูเน่ ซึ่งเริ่มเข้าร่วมขบวนพาเหรดในปี พ.ศ. 2527[5] หลังจากขบวนยานยนต์ทหารสิ้นสุดลง จะเป็นการบินผ่านของอากาศยานจากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
การสวนสนามแต่ละปี[แก้]
พิธีสวนสนามต่อไปนี้จัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492:[6][7][8][9]
ปี (พ.ศ.) | ครบรอบ (ปี) | ผู้นำสูงสูด | ผู้บัญชาการสวนสนาม | ผู้ตรวจพลสวนสนาม | กำลังพล | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|
2492 | – | เหมา เจ๋อตง | จอมพล เนี่ย หรงเจิน (ผู้บัญชาากรมณฑลทหารภาคเหนือ) | จอมพล จู เต๋อ (ผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยประชาชน) | 16,000 | การประกาศสถาปนาประเทศเกิดขึ้นก่อนหน้าพิธีสวนสนามไม่กี่นาที[10] |
2493 | 1 | 24,200 | ||||
2494 | 2 | 13,350 | ||||
2495 | 3 | 11,300 | ||||
2496 | 4 | 10,050 | ||||
2497 | 5 | พลเอก หยาง เฉิงอู่ (ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง) | จอมพล เผิง เต๋อหวย (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม) | 10,400 | มีผู้นำโซเวียต นิกิตา ครุชชอฟ และผู้นำเกาหลีเหนือ คิม อิล-ซ็อง เข้าร่วม นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งสุดท้ายที่กองทัพทหารม้าจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "คอสแซ็กแห่งจีน" ได้ปรากฏต่อสาธารณะ[ต้องการอ้างอิง] | |
2498 | 6 | 10,300 | เป็นพิธีสวนสนามที่สั้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยใช้เวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น | |||
2499 | 7 | 12,000 | ||||
2500 | 8 | 7,100 | มีประธานาธิบดีซูการ์โนของอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรีเนปาล ทันกา ปราสาท อาจารยา เข้าร่วมด้วย | |||
2501 | 9 | 10,000 | ||||
2502 | 10 | พลเอก หยาง หย่ง (ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง) | จอมพล หลิน เปียว (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม) | 11,000 | ||
2527 | 35 | เติ้ง เสี่ยวผิง | พลเอก ฉิน จีเหว่ย์ (ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง) | เติ้ง เสี่ยวผิง (ประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง) | 10,400 | เป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ |
2542 | 50 | เจียง เจ๋อหมิน | พลเอก หลี่ ซินเหลียง (ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง) | เจียง เจ๋อหมิน (ประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง) | 11,000 | |
2552 | 60 | หู จิ่นเทา | พลเอก ฝาง เฟิงฮุย (ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง) | หู จิ่นเทา (ประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง) | 11,000 | |
2562 | 70 | สี จิ้นผิง | พลอากาศเอก อี๋ เสี่ยวกวง (ผู้บัญชาการยุทธเวณภาคกลาง) | สี จิ้นผิง (ประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง) | 19,000 [11] |
พิธีสวนสนามที่ถูกยกเลิก[แก้]
- พ.ศ. 2512 (ครบรอบ 20 ปี) – ได้รับการอนุมัติในช่วงสุดท้าย แต่ไม่มีการสวนสนามยานยนต์และอากาศยาน มีเพียงขบวนพลเรือนและทหารเท่านั้น
- พ.ศ. 2514 (ครบรอบ 22 ปี) – เนื่องจากเหตุการณ์หลินเปียว
- พ.ศ. 2522 (ครบรอบ 30 ปี) – เนื่องจากผลกระทบของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
- พ.ศ. 2532 (ครบรอบ 40 ปี) – เนื่องจากเหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน
แกลเลอรี[แก้]
-
ทหารกองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชนในพิธีสวนสนามปี พ.ศ. 2502
-
รถถังไทป์ 99
-
เครื่องบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในพิธีสวนสนามวันชาติปี พ.ศ. 2562
-
ZBD-05 ในการซ้อมสวนสนามที่กรุงปักกิ่ง
-
วิดีโอการซ้อมสวนสนามปี พ.ศ. 2562
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 新中国历次大阅兵 [New China's previous grand military parades]. Chinese government web. Xinhua News Agency. 21 August 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 December 2009. สืบค้นเมื่อ 26 September 2019.
- ↑ "The history of the People's Republic of China – through 70 years of mass parades".
- ↑ "1960年至1983年为什么没有国庆阅兵".
- ↑ Hung, Chang-tai (2007). "Mao's Parades: State Spectacles in China in the 1950s" (PDF). The China Quarterly. 190 (190): 411–431. doi:10.1017/S0305741007001269. JSTOR 20192777. S2CID 154319855.
- ↑ "Единственный женский парадный строй - "Генри Норман Бетьюн"".
- ↑ "Parading the People's Republic". 2015-09-02.
- ↑ "China's Military Parades: A Look Back". 2015-09-02.
- ↑ Fuller, Linda K. (2004). National Days/National Ways: Historical, Political, and Religious Celebrations Around the World. ISBN 9780275972707.
- ↑ "China's Military Parade Celebrates World War II Victory". The New York Times. 2015-09-04.
- ↑ "Reds Proclaim a Republic in China; Chou is Premier; CHINESE REPUBLIC LAUNCHED BY REDS".
- ↑ "China says National Day parade 'won't disappoint' in scale or weapons". 24 September 2019.
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "upper-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="upper-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน