โดโลไมต์
โดโลไมต์และแมกนีไซต์พบในประเทศสเปน | |
การจำแนก | |
---|---|
ประเภท | Carbonate mineral |
สูตรเคมี | CaMg (CO3) 2 |
คุณสมบัติ | |
สี | ขาว เทา ถึงชมพู |
รูปแบบผลึก | tabular crystals, often with curved faces, also columnar, stalactitic, granular, massive. |
โครงสร้างผลึก | trigonal - rhombohedral, bar3 |
การเกิดผลึกแฝด | พบได้บ่อย เช่นเดียวกับ simple contact twins |
แนวแตกเรียบ | rhombohedral cleavage (3 planes) |
รอยแตก | เปราะ - conchoidal |
ค่าความแข็ง | 3.5-4 |
ความวาว | ใสถึงขุ่นเหมือนมุก |
ดรรชนีหักเห | nω = 1.679–1.681 nε = 1.500 |
คุณสมบัติทางแสง | Uniaxial (-) |
ค่าแสงหักเหสองแนว | δ = 0.179–0.181 |
สีผงละเอียด | ขาว |
ความถ่วงจำเพาะ | 2.84–2.86 |
สภาพละลายได้ | ละลายได้น้ยใน HCl เว้นแต่จะบดเป็นผง |
คุณสมบัติอื่น | อาจเรืองแสงเป็นสีขาวถึงชมพูภายใต้รังสี UV; triboluminescent. |
อ้างอิง: [1][2][3][4] |
โดโลไมต์ (อังกฤษ: dolomite) เป็นชื่อแร่ ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่นักเคมีชาวฝรั่งเศส Déodat Gratet de Dolomieu (พ.ศ. 2293-2344)
รูปผลึกแบบหกเหลี่ยม[ต้องการอ้างอิง] ผลึกของแร่มักจะพบในรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ผิวหน้าผลึกมักจะโค้ง บางครั้งจะโค้งเป็นรูปคล้ายอานม้า ผลึกในแบบอื่นมีพบได้บ้างแต่น้อย ซึ่งอาจพบเป็นเม็ดหยาบๆ ไปจนกระทั่งเม็ดเล็กเกาะกันแน่น แข็ง 3.5-4 ถ.พ. 2.85 วาวคล้ายแก้ว บางชนิดวาวคล้ายมุก (Pearl Spar) สีปกติมักจะมีสีออกชมพู สีเนื้อ อาจไม่มีสีหรือพบสีขาว เทา เขียว น้ำตาล หรือสีดำ เนื้อแร่มีทั้งโปร่งใสและโปร่งแสง
มีสูตรเคมี CaMg (CO3) 2 มี CaO 30.4 % MgO 21.7% และ CO2 47.9% โดยปกติโดโลไมต์มีสัดส่วนของ CaCO3 ต่อ MgCO3 ประมาณ 1:1 ถ้ามี Ferrous iron เข้ามาแทนที่แมกนีเซียมและปริมาณมากกว่าแมกนีเซียมแล้วจะเรียก แองเคอไรต์ (Ankerite)
ลักษณะเด่นและวิธีตรวจ ทำปฏิกิริยากับกรดเกลือ (HCl) แต่ช้ามาในอุณหภูมิธรรมดา นอกจากจะบดเนื่อแร่ให้เป็นก้อนเล็กๆ ละเอียด จึงละลายในกรดเป็นฟองฟู่ หากไม่บดต้องใช้กรดไฮโดรคลอริกร้อนๆจึงจะทำปฏิกิริยาเป็นฟองฟู่ รูปผลึกเหลี่ยมขนมเปียกปูนมักจะโค้งและมีสีออกสีเนื้อๆเนื้อปกติมักจะด้าน
มีกำเนิดเช่นเดียวกับแคลไซต์ พบในหินปูนโดโลมิติก (Dolomitic limestone) หรือในหินอ่อนโดโลมิติก (Dolomitic marble) โดโลไมต์ที่พบมีมวลขนาดใหญ่ๆนั้น เข้าใจกันว่าเป็นการกำเนิดแบบทุติยภูมิ ซึ่งเกิดจากหินปูนที่มีอยู่เดิมถูกแทนที่ด้วยธาตุแมกนีเซียม หรือมักเกิดเป็นเพื่อนแร่ในสายตะกั่วหรือสังกะสีซึ่งตัดผ่านหินปูน
แหล่งที่พบ
[แก้]ในประเทศไทย
[แก้]พบที่ อ.ท่าม่วง เขาถ้ำ อ.เมือง วังกะโด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เกาะสีชัง จ.ชลบุรี, อ.ดอนสัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.กระบี่ และที่เขารักเกียด อ.รัตภูมิ จ.สงขลา,อำเภอบางเตย จังหวัดพังงา
ต่างประเทศ
[แก้]แบบผลึกพบที่บินเนนธาล (Binnenthal) ในสวิตเซอร์แลนด์ ในสหรัฐอเมริกา พบที่โจพลิน และมิสซูรี
ประโยชน์
[แก้]ใช้เป็นหินก่อสร้างหรือหินประดับ ทำปูนซีเมนต์บางชนิด ใช้ทำแมกนีเซียมซึ่งเป็นวัสดุทนไฟใช้สำหรับการบุเตาถลุงเหล็ก โดยเป็นเตาคอนเวอร์ในการผลิตเหล็กกล้าขั้นต้น โดโลไมต์เป็นสินแร่หลักของโลหะแมกนีเซียม ใช้ในอุตสาหกรรมทำแก้วบางชนิด เช่น พวกแก้วแผ่น และใช้เป็นปุ๋ยในการเกษตร เป็นต้น
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Deer, W. A., R. A. Howie and J. Zussman (1966) An Introduction to the Rock Forming Minerals, Longman, pp. 489–493. ISBN 0-582-44210-9.
- ↑ http://rruff.geo.arizona.edu/doclib/hom/dolomite.pdf Handbook of Mineralogy
- ↑ http://webmineral.com/data/Dolomite.shtml Webmineral
- ↑ http://www.mindat.org/min-1304.html Mindat data
- หนังสือแร่ กรมทรัพยากรธรณี พิมพ์ครั้งที่4 พ.ศ. 2543 หน้า 123