ข้ามไปเนื้อหา

องศาเรอเมอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โอเล คริสเตนเซน เรอเมอร์ ผู้คิดค้นมาตรวัดอุณหภูมิองศาเรอเมอร์

องศาเรอเมอร์ (อังกฤษ: Rømer Scale, สัญลักษณ์: °Rø) คือหน่วยวัดอุณหภูมิที่คิดค้นโดยนักดาราศาสตร์ชาวเดนมาร์กโอเล คริสเตนเซน เรอเมอร์ โดยตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.1701 ไล่เรี่ยกันกับองศานิวตัน[1] โดยกำหนดให้ 7.5°Rø เป็นจุดเยือกแข็งของน้ำ และ 60°Rø เป็นจุดเดือดของน้ำ โดย 0°Rø คือจุดเยือกแข็งของน้ำ น้ำแข็ง และ เกลือแอมโมเนียมคลอไรด์ (คล้ายกับฟาเรนไฮต์)[2] โดยอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1°Rø คือ 40/21°C เป็นหน่วยอุณหภูมิแรกที่มีการกำหนดตัวเลขอุณหภูมิอย่างชัดเจนร่วมกับองศานิวตัน (ก่อนหน้านั้น เทอร์โมมิเตอร์วัดได้แค่ร้อนหรือเย็นเท่านั้น)[3] เรอเมอร์เป็นคนที่วัดความเร็วแสงได้อย่างเที่ยงตรงเป็นคนแรก[4] จากการสังเกตการณ์สุริยุปราคา และ กาเบรียล ฟาเรนไฮต์ ได้นำองศาเรอเมอร์มาปรับปรุงในปี ค.ศ.1708 และประดิษฐ์มาตรวัดอุณหภูมิองศาฟาเรนไฮต์[5] ที่กลายเป็นมาตรวัดอุณหภูมิอย่างเป็นทางการในหน่วยวัดแบบอังกฤษ และกลายเป็นที่นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกา และ จักรวรรดิบริเตนในอดีต

จากองศาเรอเมอร์ แปลงให้เป็นองศาเรอเมอร์
องศาเซลเซียส [°C] = ([°Rø] − 7.5) × ​4021 [°Rø] = [°C] × ​2140 + 7.5
องศาฟาเรนไฮต์ [°F] = ([°Rø] − 7.5) × ​247 + 32 [°Rø] = ([°F] − 32) × ​724 + 7.5
เคลวิน [K] = ([°Rø] − 7.5) × ​4021 + 273.15 [°Rø] = ([K] − 273.15) × ​2140 + 7.5
องศาแรงคิน [°R] = ([°Rø] − 7.5) × ​247 + 491.67 [°Rø] = ([°R] − 491.67) × ​724 + 7.5
องศาเดลิเซิล [°De] = (60 − [°Rø]) × ​207 [°Rø] = 60 − [°De] × ​720
องศานิวตัน [°N] = ([°Rø] − 7.5) × ​2235 [°Rø] = [°N] × ​3522 + 7.5
องศาโรเมอร์ [°Ré] = ([°Rø] − 7.5) × ​3221 [°Rø] = [°Ré] × ​2132 + 7.5

การเปรียบเทียบอุณหภูมิ

[แก้]
ตารางการเปรียบเทียบอุณหภูมิในมาตรวัดต่าง ๆ
เคลวิน องศาเซลเซียส องศาฟาเรนไฮต์ องศาแรงคิน องศาเดลิเซิล องศานิวตัน องศาโรเมอร์ องศาเรอเมอร์
ศูนย์สัมบูรณ์ 0.00 −273.15 −459.67 0.00 559.73 −90.14 −218.52 −135.90
อุณหภูมิที่ต่ำที่สุดที่เคยวัดได้บนพื้นผิวโลก[6] 184 −89.2[6] −128.6[6] 331 284 −29 −71 −39
อุณภูมิของน้ำแข็ง น้ำ และ เกลือของฟาเรนไฮต์ 255.37 −17.78 0.00 459.67 176.67 −5.87 −14.22 −1.83
จุดเยือกแข็งของน้ำ (ณ ระดับน้ำทะเล) 273.15 0.00 32.00 491.67 150.00 0.00 0.00 7.50
อุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นผิวโลก 288 15 59 519 128 5 12 15
อุณหภูมิเฉลี่ยของร่างกายมนุษย์ 310 37 98 558 95 12 29 27
อุณหภูมิที่สูงที่สุดที่เคยวัดได้บนพื้นผิวโลก[7] 331 58[7] 136.4[7] 596 63 19 46 38
จุดเดือดของน้ำ (ณ ระดับน้ำทะเล) 373.1339 99.9839 211.97102[8] 671.64102[8] 0.00 33.00 80.00 60.00
จุดหลอมเหลวของไททาเนียม (ณ ระดับน้ำทะเล) 1941 1668 3034 3494 −2352 550 1334 883
อุณหภูมิของพื้นผิวดวงอาทิตย์ 5800 5500 9900 10400 −8100 1800 4400 2900

ดูเพิ่ม

[แก้]
  1. การแปลงหน่วยอุณหภูมิ

อ้างอิง

[แก้]
  1. Popularization and People (1911–1962). Elsevier. 22 October 2013. pp. 431–. ISBN 978-0-08-046687-3. ... letter from Fahrenheit to his Dutch colleague Hermann Boerhaave (1668–1738) dated 17 April 1729 in which Fahrenheit describes his experience at Rømer's laboratory in 1708.
  2. Susan Wills, Steven R. Wills, Meteorology: Predicting the Weather, pp. 19-21, The Oliver Press, Inc., 2003 ISBN 1881508617.
  3. Jonathan Shectman, Groundbreaking Scientific Experiments, Inventions, and Discoveries of the 18th Century, pp. 248–49, Greenwood Publishing Group, 2003 ISBN 0313320152.
  4. Saito, Yoshio (June 2005). "A Discussion of Roemer's Discovery concerning the Speed of Light". AAPPS Bulletin. 15 (3): 9–17.
  5. Neil Schlager; Josh Lauer (2001). Science and Its Times: 1700–1799. Gale Group. pp. 341–. ISBN 978-0-7876-3936-5. In 1708 Fahrenheit visited Ole Romer (1644–1710). Since at least 1702 Romer had been making alcohol thermometers with two fixed points and a scale divided into equal increments. He impressed upon Fahrenheit the scientific importance of ...
  6. 6.0 6.1 6.2 The Coldest Inhabited Places on Earth; researchers of the Vostok Station recorded the coldest known temperature on Earth on July 21st 1983: −89.2 °C (−128.6 °F).
  7. 7.0 7.1 7.2 "World: Highest Temperature". Arizona State University, School of Geographical Sciences. November 12, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 4, 2013. an Italian weather station in al 'Aziziyah (Libya) measured a temperature of 58 °C (136.4 °F) on September 13th 1922. "Although this record has gained general acceptance as the world's highest temperature recorded under standard conditions, the validity of the extreme has been questioned."
  8. 8.0 8.1 "Comparison of temperature scales". Tampile. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-13. สืบค้นเมื่อ 2020-05-22.