ศีลอนุกรม
ศีลอนุกรม[1] (อังกฤษ: Holy Orders) หรือ ศีลบวช บางตำราเรียกว่าศีลบรรพชา[2] เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ในหลายคริสตจักร ได้แก่ โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์ แองกลิคัน คริสตจักรอัสซีเรียนแห่งตะวันออก คาทอลิกเก่า อินดิเพนเดนต์คาทอลิก และบางส่วนของลูเทอแรน
ประวัติ
[แก้]ศีลบวชเรียกว่าศีลอนุกรมเพราะมีการแต่งตั้งเป็นลำดับขั้น โดยเชื่อว่าพระเยซูเป็นผู้วางรากฐานศีลอนุกรมไว้ตั้งแต่สมัยยังดำรงพระชนม์บนโลก ดังเห็นได้จากการปกมือบนศีรษะของอัครทูตทั้ง 12 คนที่ทรงเลือกไว้ คริสตจักรคาทอลิกถือว่านี่คือศีลอนุกรมขั้นมุขนายกในปัจจุบัน คริสตจักรยังได้สืบทอดและเพิ่มเติมพิธีนี้เพื่อทำการแต่งตั้งบุคคลที่ได้รับคัดเลือกให้มีตำแหน่งหน้าที่ตามที่คริสตจักรกำหนดไว้ โดยเพิ่มอนุกรมจนมี 8 ขั้น 4 ขั้นแรกเรียกว่าอนุกรมน้อย (minor orders) ได้แก่
- ขั้นผู้เฝ้าประตู (door keeper/porter)
- ขั้นผู้อ่านพระคัมภีร์ (lector)
- ขั้นผู้ขับไล่ปีศาจ (exorcist)
- ขั้นผู้ถือเทียน (acolyte)
ในปัจจุบันคริสตจักรคาทอลิกที่ถือจารีตละตินยังคงตำแหน่งผู้อ่านและผู้ถือเทียนในศาสนพิธี ส่วนที่เหลือถูกยกเลิกไป เหตุที่เรียกว่าอนุกรมน้อยเพราะผู้ที่รับอนุกรมขั้นเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องปฏิญาณถือโสดตลอดชีพอย่างสี่ขั้นหลังซึ่งเรียกว่าอนุกรมใหญ่ (major orders) อันได้แก่
- ขั้นอุปพันธบริกร (subdiaconate)
- ขั้นพันธบริกร (diaconate)
- ขั้นบาทหลวง (priesthood)
- ขั้นมุขนายก (episcopate)
เนื่องจากอนุกรมน้อยและขั้นอุปพันธบริกรเป็นอนุกรมที่คริสตจักรยุคหลังสถาปนาขึ้นเองจึงไม่นับว่าเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ ต่างจากสามขั้นสุดท้ายที่ปรากฏที่มาในคัมภีร์ไบเบิล ดังนั้นศีลอนุกรมในปัจจุบันจึงมีเพียงขั้นมุขนายก ขั้นบาทหลวง และขั้นพันธบริกรเท่านั้น[3] ส่วนขั้นอัครมุขนายก (archiepiscopate) ไม่นับเป็นศีลอนุกรมเพราะอัครมุขนายกโดยตำแหน่งก็คือมุขนายก เพียงแต่ที่ได้รับผิดชอบมุขมณฑลที่สำคัญและปกครองทั้งภาคคริสตจักร ผู้ที่เคยเป็นมุขนายกมาแล้วเมื่อได้ดำรงตำแหน่งอัครมุขนายกจึงไม่ต้องทำรับศีลอนุกรมอีก เพียงแต่ทำพิธีเข้ารับตำแหน่งเท่านั้น[4]
นิกายคาทอลิก
[แก้]นิกายคาทอลิก เช่น คริสตจักรอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์และอีสเทิร์นคาทอลิก ให้เฉพาะผู้รับการอภิเษกเป็นบิชอปเท่านั้นต้องถือโสดตลอดชีพ แต่ไม่บังคับสำหรับผู้รับศีลขั้นพันธบริกรและบาทหลวง ในขณะที่คริสตจักรคาทอลิกจารีตละตินให้พันธบริกรถาวรแต่งงานได้ แต่พันธบริกรชั่วคราว (คือเตรียมบวชเป็นบาทหลวง) ตลอดจนบาทหลวงและบิชอปต้องถือโสดตลอดชีพ ทั้งสามคริสตจักรอนุญาตให้บุรุษเท่านั้นรับศีลอนุกรมได้[5] บรรดาผู้ที่ได้รับศีลอนุกรมแล้วจะเรียกว่าเคลอจี ศาสนบริกรผู้โปรดศีลอนุกรมได้มีเฉพาะบิชอปที่ผ่านพิธีอภิเษกแล้วเท่านั้น[6]
นิกายแองกลิคัน
[แก้]คริสตจักรต่าง ๆ ในนิกายแองกลิคันไม่บังคับว่าผู้รับศีลบวชต้องถือโสด นอกจากนี้ในปัจจุบันหลายภาคคริสตจักรยังอนุญาตให้สตรีรับศีลอนุกรมทั้งสามขั้นได้เหมือนบุรุษทั่วไป[7]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, พิมพ์ครั้งที่ 3, 2552, หน้า 249-251
- ↑ ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร บรรพ ๔ ลักษณะ ๖ ศีลบรรพชา
- ↑ Code of Canon Law, Can. 1009 §1
- ↑ พิธีเข้ารับตำแหน่งพระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ↑ Code of Canon Law, Can. 1024
- ↑ Code of Canon Law, Can. 1009 §1012
- ↑ Female ordination in the Episcopal Church, USA (ECUSA) เก็บถาวร 2011-06-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เรียกข้อมูลวันที่ 4 พ.ค. 2554