มัสยิด-อาสนวิหารกอร์โดบา
มัสยิด-อาสนวิหารกอร์โดบา | |
---|---|
อาสนวิหารแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ | |
มัสยิดใหญ่แห่งกอร์โดบา | |
Mezquita-Catedral de Córdoba (สเปน) | |
มัสยิด-อาสนวิหารกอร์โดบาเป็นแหล่งมรดกโลก | |
37°52′45.1″N 04°46′47″W / 37.879194°N 4.77972°W | |
ที่ตั้ง | กอร์โดบา แคว้นอันดาลูซิอา |
ประเทศ | สเปน |
นิกาย | โรมันคาทอลิก |
นิกายเดิม |
|
เว็บไซต์ | catedraldecordoba |
ประวัติ | |
สถานะ | อาสนวิหาร |
อุทิศแก่ | แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ |
สถาปัตยกรรม | |
สถานะการใช้งาน | ยังใช้งานอยู่ |
ประเภทสถาปัตย์ | มัสยิด, โบสถ์ |
รูปแบบสถาปัตย์ | มัวร์, ฟื้นฟูศิลปวิทยา |
งานฐานราก | ค.ศ. 784 |
แล้วเสร็จ | ศตวรรษที่ 16 |
การปกครอง | |
มุขมณฑล | มุขมณฑลกอร์โดบา |
ศูนย์กลางประวัติศาสตร์กอร์โดบา * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
เสาหินภายในมัสยิด-อาสนวิหารกอร์โดบา | |
พิกัด | 37°52′45.1″N 04°46′47″W / 37.879194°N 4.77972°W |
ประเทศ | สเปน |
ภูมิภาค ** | ยุโรปและอเมริกาเหนือ |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | (i), (ii), (iii), (iv) |
อ้างอิง | 313 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 1984 (คณะกรรมการสมัยที่ 8) |
พื้นที่ | 80.28 เฮกตาร์ (198.4 เอเคอร์) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
อาสนวิหาร และอดีต มัสยิดใหญ่แห่งกอร์โดบา มีชื่อเรียกในศาสนาคริสต์ว่า อาสนวิหารแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์[1] (สเปน: Catedral de Nuestra Señora de la Asunción) และเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่า มัสยิด-อาสนวิหารกอร์โดบา (Mezquita-Catedral de Córdoba) ปัจจุบันเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับพื้นที่ส่วนประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในเมืองกอร์โดบา ในแคว้นอันดาลูซิอา ทางตอนใต้ของประเทศสเปน
ด้านประวัติความเป็นมานั้น เริ่มจากใน ค.ศ. 768 หลังจากการรุกรานของชาวมุสลิมบนคาบสมุทรไอบีเรีย การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นบนพื้นที่ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งนักบุญบิเซนเต โดยที่โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกทำลายลงและสร้างมัสยิดกอร์โดบาขึ้นมาแทนที่
ถ้ามองในมุมมองของมัสยิดแล้ว มัสยิดกอร์โดบาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรกาหลิบแห่งกอร์โดบา ด้วยพื้นที่ขนาด 23,400 ตารางเมตร ทำให้มัสยิดกอร์โดบามีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลกเมื่อตอนที่สร้าง อันดับที่หนึ่งเป็นของมัสยิดแห่งนครมักกะฮ์ (ภายหลังใน ค.ศ. 1588 อันดับที่สองตกเป็นของมัสยิดแห่งสุลต่านอะห์มัด ประเทศตุรกี) ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ กิบลัต (ชุมทิศที่ชาวมุสลิมหันหน้าไปยามละหมาดและขอดุอาอ์) นั้นไม่ได้ชี้ไปยังทิศของนครมักกะฮ์ แต่ว่าชี้ไปยัง 51 องศาทางใต้ของทิศที่เป็นที่ตั้งนครมักกะฮ์ เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าที่ตั้งที่ติดกับแม่น้ำกัวดัลกิบีร์ จึงไม่สามารถทำการขยายการก่อสร้างออกไปทางทิศใต้ได้
จนกระทั่งภายหลังชาวสเปนสามารถพิชิตดินแดนคืนได้สำเร็จ ใน ค.ศ. 1238 มัสยิดกอร์โดบาก็ได้กลายสภาพมาเป็นโบสถ์ตามคำสั่งของมุขนายก โลเป เด ฟิเตโร (มุขนายกคนแรกของอาสนวิหารกอร์โดบา) ใน ค.ศ. 1523 เริ่มการก่อสร้างโบสถ์ในส่วนกลางของมัสยิดโดยใช้รูปแบบปลาเตเรสโก (Plateresco) ในภาษาสเปน ปลาตา (plata) หมายถึงแร่เงิน ส่วนคำว่า ปลาเตเรสโก ต้องการสื่อถึงตามวิถีทางของช่างเงิน
อาสนวิหารกอร์โดบาถือได้ว่ามีความสำคัญมากต่อกอร์โดบาและสถาปัตยกรรมอัลอันดะลุสเช่นเดียวกับอาลัมบรา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://www.mcu.es/patrimonio/MC/IPHE/PlanesNac/PlanCatedrales/EdificiosIncluidos.html เก็บถาวร 2010-12-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เว็บกระทรวงวัฒนธรรมประเทศสเปน