ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดีวีนากอมเมเดีย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{Italic title}}
{{กล่องข้อมูล หนังสือ
{{กล่องข้อมูล หนังสือ
| name = ดีวีนากอมเมเดีย<br /><small>Divina Commedia</small>
| name = ดีวีนากอมเมเดีย<br /><small>Divina Commedia</small>
บรรทัด 24: บรรทัด 25:
}}
}}
{{ใช้ปีคศ}}
{{ใช้ปีคศ}}
'''ดีวีนากอมเมเดีย''' ({{lang-it|Divina Commedia}}; {{lang-en|Divine Comedy}}) หรือไตรภูมิดันเต เป็นวรรณกรรม[[อุปมานิทัศน์]]ที่[[ดันเต อาลีกีเอรี]] เขียนขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1308 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1321 ถือเป็นกวีนิพนธ์สำคัญของวรรณกรรมอิตาลีและเป็นหนึ่งในงานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของวรรณกรรมของโลก<ref>{{cite book | last=Bloom | first=Harold | title=The Western Canon | date=1994}} See also Western canon for other "canons" that include the Divine Comedy.</ref> กวีนิพนธ์นี้เป็นเป็นจินตนิยายและ[[อุปมานิทัศน์ในสมัยกลาง|อุปมานิทัศน์]]ของคริสเตียนสะท้อนให้เห็นถึงการวิวัฒนาการของ[[ปรัชญาสมัยกลาง]]ในเรื่องที่เกี่ยวกับ[[โรมันคาทอลิก]]ของตะวันตก นอกจากนั้นก็ยังเป็นหนังสือที่มีบทบาทต่อ[[สำเนียงทัสคัน]] (Tuscan dialect) ตามที่เขียนเป็น[[ภาษาอิตาลี]]มาตรฐาน<ref>See {{cite book | last=Lepschy | first=Laura | coauthors=Lepschy, Giulio | title=The Italian Language Today | date=1977}} or any other history of Italian language.</ref>
'''ดีวีนากอมเมเดีย''' ({{lang-it|Divina Commedia}}; {{lang-en|Divine Comedy}}) เป็นวรรณกรรม[[อุปมานิทัศน์]]ที่[[ดันเต อาลีกีเอรี]] เขียนขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1308 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1321 ถือเป็นกวีนิพนธ์สำคัญของวรรณกรรมอิตาลีและเป็นหนึ่งในงานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของวรรณกรรมของโลก<ref>{{cite book | last=Bloom | first=Harold | title=The Western Canon | date=1994}} See also Western canon for other "canons" that include the Divine Comedy.</ref> กวีนิพนธ์นี้เป็นเป็นจินตนิยายและ[[อุปมานิทัศน์ในสมัยกลาง|อุปมานิทัศน์]]ของคริสเตียนสะท้อนให้เห็นถึงการวิวัฒนาการของ[[ปรัชญาสมัยกลาง]]ในเรื่องที่เกี่ยวกับ[[โรมันคาทอลิก]]ของตะวันตก นอกจากนั้นก็ยังเป็นหนังสือที่มีบทบาทต่อ[[สำเนียงทัสคัน]] (Tuscan dialect) ตามที่เขียนเป็น[[ภาษาอิตาลี]]มาตรฐาน<ref>See {{cite book | last=Lepschy | first=Laura | coauthors=Lepschy, Giulio | title=The Italian Language Today | date=1977}} or any other history of Italian language.</ref>


“ดีวีนากอมเมเดีย” แบ่งออกเป็นสามตอน “[[นรก (ดันเต)|นรก]]” (Inferno) “[[แดนชำระ]]” (Purgatorio) และ “[[สวรรค์ (ดันเต)|สวรรค์]]” (Paradiso) กวีนิพนธ์เขียนในรูปของบุคคลที่หนึ่งและเป็นเรื่องที่บรรยายการเดินทางของดานเตไปยังภูมิสามภูมิของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่เริ่มการเดินทางตั้งแต่[[วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์]]ไปจนถึงวันพุธหลังจากวัน[[อีสเตอร์]]ของปี ค.ศ. 1300 โดยมีกวีโรมัน [[เวอร์จิล]] เป็นผู้นำใน “[[นรก (ดันเต)|นรก]]” และ “[[แดนชำระ]]” และ[[เบียทริเช พอร์ตินาริ]] เป็นผู้นำใน “[[สวรรค์ (ดันเต)|สวรรค์]]” เบียทริเชเป็นสตรีในอุดมคติที่ดันเตพบเมื่อยังเป็นเด็กและชื่นชมต่อมาแบบ “[[ความรักในราชสำนัก]]” (courtly love) ที่พบในงานสมัยแรกของดันเตใน “[[ชีวิตใหม่ (ดันเต)|ชีวิตใหม่]]” (La Vita Nuova) ที่เขียนในปี ค.ศ. 1295
“ดีวีนากอมเมเดีย” แบ่งออกเป็นสามตอน “[[นรก (ดันเต)|นรก]]” (Inferno) “[[แดนชำระ]]” (Purgatorio) และ “[[สวรรค์ (ดันเต)|สวรรค์]]” (Paradiso) กวีนิพนธ์เขียนในรูปของบุคคลที่หนึ่งและเป็นเรื่องที่บรรยายการเดินทางของดานเตไปยังภูมิสามภูมิของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่เริ่มการเดินทางตั้งแต่[[วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์]]ไปจนถึงวันพุธหลังจากวัน[[อีสเตอร์]]ของปี ค.ศ. 1300 โดยมี[[เวอร์จิล]] กวีโรมัน เป็นผู้นำใน “[[นรก (ดันเต)|นรก]]” และ “[[แดนชำระ]]” และ[[เบียทริเช พอร์ตินาริ]] เป็นผู้นำใน “[[สวรรค์ (ดันเต)|สวรรค์]]” เบียทริเชเป็นสตรีในอุดมคติที่ดันเตพบเมื่อยังเป็นเด็กและชื่นชมต่อมาแบบ “[[ความรักในราชสำนัก]]” (courtly love) ที่พบในงานสมัยแรกของดันเตใน “[[ชีวิตใหม่ (ดันเต)|ชีวิตใหม่]]” (La Vita Nuova) ที่เขียนในปี ค.ศ. 1295


ชื่อเดิมของหนังสือก็เป็นเพียงชื่อสั้นๆ ว่า “Commedia” แต่ต่อมา [[โจวันนี บอกกัชโช]]ก็มาเพิ่ม “Divina” ข้างหน้าชื่อ ฉบับแรกที่พิมพ์ที่มีคำว่า “Divine” อยู่หน้าชื่อ เป็นฉบับที่นักมานุษยวิทยาฟื้นฟูศิลปวิทยาของเวนิส [[โลโดวีโก ดอลเช]] (Lodovico Dolce) พิมพ์ในปี ค.ศ. 1555<ref>Ronnie H. Terpening, ''Lodovico Dolce, Renaissance Man of Letters'' (Toronto, Buffalo, London: University of Toronto Press, 1997), p. 166.</ref>
ชื่อเดิมของหนังสือก็เป็นเพียงชื่อสั้นๆ ว่า “Commedia” แต่ต่อมา [[โจวันนี บอกกัชโช]]ก็มาเพิ่ม “Divina” ข้างหน้าชื่อ ฉบับแรกที่พิมพ์ที่มีคำว่า “Divine” อยู่หน้าชื่อ เป็นฉบับที่[[โลโดวีโก ดอลเช]] (Lodovico Dolce) นักมานุษยวิทยาฟื้นฟูศิลปวิทยาของเวนิส พิมพ์ในปี ค.ศ. 1555<ref>Ronnie H. Terpening, ''Lodovico Dolce, Renaissance Man of Letters'' (Toronto, Buffalo, London: University of Toronto Press, 1997), p. 166.</ref>


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}

== ดูเพิ่ม ==
* [[ดันเต อาลีกีเอรี]]


[[หมวดหมู่:ชีวิตหลังความตาย]]
[[หมวดหมู่:ชีวิตหลังความตาย]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมศาสนาคริสต์]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมศาสนาคริสต์]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา]]
[[หมวดหมู่:อุปมานิทัศน์]]
[[หมวดหมู่:อุปมานิทัศน์]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมเชิงปรัชญา]]
{{โครงวรรณกรรม}}
{{โครงวรรณกรรม}}

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 19:19, 8 มกราคม 2565

ดีวีนากอมเมเดีย
Divina Commedia  
Comencia la Comedia, 1472
ผู้ประพันธ์ดันเต
ชื่อเรื่องต้นฉบับCommedia
หัวเรื่องอุปมานิทัศน์ของสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการตาย
วันที่พิมพ์ค.ศ. 1308 - ค.ศ. 1321

ดีวีนากอมเมเดีย (อิตาลี: Divina Commedia; อังกฤษ: Divine Comedy) เป็นวรรณกรรมอุปมานิทัศน์ที่ดันเต อาลีกีเอรี เขียนขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1308 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1321 ถือเป็นกวีนิพนธ์สำคัญของวรรณกรรมอิตาลีและเป็นหนึ่งในงานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของวรรณกรรมของโลก[1] กวีนิพนธ์นี้เป็นเป็นจินตนิยายและอุปมานิทัศน์ของคริสเตียนสะท้อนให้เห็นถึงการวิวัฒนาการของปรัชญาสมัยกลางในเรื่องที่เกี่ยวกับโรมันคาทอลิกของตะวันตก นอกจากนั้นก็ยังเป็นหนังสือที่มีบทบาทต่อสำเนียงทัสคัน (Tuscan dialect) ตามที่เขียนเป็นภาษาอิตาลีมาตรฐาน[2]

“ดีวีนากอมเมเดีย” แบ่งออกเป็นสามตอน “นรก” (Inferno) “แดนชำระ” (Purgatorio) และ “สวรรค์” (Paradiso) กวีนิพนธ์เขียนในรูปของบุคคลที่หนึ่งและเป็นเรื่องที่บรรยายการเดินทางของดานเตไปยังภูมิสามภูมิของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่เริ่มการเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ไปจนถึงวันพุธหลังจากวันอีสเตอร์ของปี ค.ศ. 1300 โดยมีเวอร์จิล กวีโรมัน เป็นผู้นำใน “นรก” และ “แดนชำระ” และเบียทริเช พอร์ตินาริ เป็นผู้นำใน “สวรรค์” เบียทริเชเป็นสตรีในอุดมคติที่ดันเตพบเมื่อยังเป็นเด็กและชื่นชมต่อมาแบบ “ความรักในราชสำนัก” (courtly love) ที่พบในงานสมัยแรกของดันเตใน “ชีวิตใหม่” (La Vita Nuova) ที่เขียนในปี ค.ศ. 1295

ชื่อเดิมของหนังสือก็เป็นเพียงชื่อสั้นๆ ว่า “Commedia” แต่ต่อมา โจวันนี บอกกัชโชก็มาเพิ่ม “Divina” ข้างหน้าชื่อ ฉบับแรกที่พิมพ์ที่มีคำว่า “Divine” อยู่หน้าชื่อ เป็นฉบับที่โลโดวีโก ดอลเช (Lodovico Dolce) นักมานุษยวิทยาฟื้นฟูศิลปวิทยาของเวนิส พิมพ์ในปี ค.ศ. 1555[3]

อ้างอิง[แก้]

  1. Bloom, Harold (1994). The Western Canon. See also Western canon for other "canons" that include the Divine Comedy.
  2. See Lepschy, Laura (1977). The Italian Language Today. {{cite book}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help) or any other history of Italian language.
  3. Ronnie H. Terpening, Lodovico Dolce, Renaissance Man of Letters (Toronto, Buffalo, London: University of Toronto Press, 1997), p. 166.