ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดศรีอุบลรัตนาราม"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ ‘เป้น’ ด้วย ‘เป็น’
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
[[ไฟล์:Sign of Wat Sri Ubon Rattanaram, Ubon Ratchathani.jpg|thumb|300px|ป้ายชื่อวัดศรีอุบลรัตนาราม ตำบลในเมือง [[อำเภอเมืองอุบลราชธานี]] [[จังหวัดอุบลราชธานี]]]]
[[ไฟล์:Sign of Wat Sri Ubon Rattanaram, Ubon Ratchathani.jpg|thumb|300px|ป้ายชื่อวัดศรีอุบลรัตนาราม ตำบลในเมือง [[อำเภอเมืองอุบลราชธานี]] [[จังหวัดอุบลราชธานี]]]]
''' วัดศรีอุบลรัตนาราม''' เดิมชื่อ วัดศรีทอง เป็นวัด[[ธรรมยุติกนิกาย]] ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัด[[อุบลราชธานี]] บนถนนอุปราช วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถ[[วัดเบญจมบพิตร]] [[กรุงเทพมหานคร]] เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ [[พระแก้วบุษราคัม]]
''' วัดศรีอุบลรัตนาราม''' เดิมชื่อ วัดศรีทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์[[ธรรมยุติกนิกาย]] เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ [[พระแก้วบุษราคัม]] ปัจจุบันมีพระวินัยโกศล (ทองคู่ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส

วัดตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัด[[อุบลราชธานี]] บนถนนอุปราช วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถ[[วัดเบญจมบพิตร]] [[กรุงเทพมหานคร]]


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
วัดศรีอุบลรัตนารามสร้างเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 4 แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] โดยเป็นวัดธรรมยุตแห่งที่ ของภาคอีสาน ต่อจากวัดสุปัฏนาราม วรวิหาร สถานที่ตั้งวัด เดิมเป็นสวนของเจ้าอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) มีศรัทธาบริจาคที่ดินประมาณ 25 ไร่ สำหรับสร้างวัดของสงฆ์[[ธรรมยุติกนิกาย]] โดยระหว่างการถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระ ยกให้เป็นสมบัติใน[[พระพุทธศาสนา]]เพื่อเป็นที่ตั้งวัด ในยามราตรีของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือมีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ ตั้งชื่อวัดว่า "วัดศรีทอง"
วัดศรีอุบลรัตนารามสร้างเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 4 แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] โดยเป็นวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของภาคอีสาน ต่อจาก[[วัดสุปัฏนารามวรวิหาร]] สถานที่ตั้งวัด เดิมเป็นสวนของเจ้าอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) มีศรัทธาบริจาคที่ดินประมาณ 25 ไร่ สำหรับสร้างวัดของสงฆ์[[ธรรมยุติกนิกาย]] โดยระหว่างการถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระ ยกให้เป็นสมบัติใน[[ศาสนาพุทธ]]เพื่อเป็นที่ตั้งวัด ในยามราตรีของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือมีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ ตั้งชื่อวัดว่า "วัดศรีทอง"


ฝ่ายคณะสงฆ์มีท่านเทวธัมมี (ม้าว) ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2398 ตามประวัติท่านเทวธัมมี ได้ไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เป็นสามเณร และได้เป็นสัทธิวิหาริกของ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เมื่อครั้งผนวช จึงได้ถือลัทธิ[[ธรรมยุติกนิกาย]]สืบสายมาตั้งคณะธรรมยุติกนิกายที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกใน[[ภาคอีสาน]] โดยมีท่านพันธุโล (ดี) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ดังนั้น ท่านเทวธัมมี จึงถือว่าเป็นพระเถระที่มีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาเหล่าพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งหลายในสมัยนั้น
ฝ่ายคณะสงฆ์มีท่านเทวธัมมี (ม้าว) ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2398 ตามประวัติท่านเทวธัมมี ได้ไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เป็นสามเณร และได้เป็นสัทธิวิหาริกของ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เมื่อครั้งผนวช จึงได้ถือลัทธิ[[ธรรมยุติกนิกาย]]สืบสายมาตั้งคณะธรรมยุติกนิกายที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกใน[[ภาคอีสาน]] โดยมีท่านพันธุโล (ดี) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ดังนั้น ท่านเทวธัมมี จึงถือว่าเป็นพระเถระที่มีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาเหล่าพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งหลายในสมัยนั้น


ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 [[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช]] และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมาประกอบพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตร และยก[[ช่อฟ้า]]พระอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนาราม จึงได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถหลังนี้ ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของ[[ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี|สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี]] และทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีทองเป็น '''"วัดศรีอุบลรัตนาราม"''' ตามนามขององค์อุปถัมภ์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] และ[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] เสด็จมาประกอบพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตร และยก[[ช่อฟ้า]]พระอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนาราม จึงได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถหลังนี้ ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของ[[ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี|สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี]] และทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีทองเป็น '''"วัดศรีอุบลรัตนาราม"''' ตามนามขององค์อุปถัมภ์


วัดศรีอุบลรัตนาราม เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺทเถระ), สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสสฺมหาเถระ), พระอาจารย์ทา โชติปาลเถระ, [[พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล]], [[พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต|พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต]], พระปัญญาพิศาลเถระ (หนู), สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (จนฺทปชฺโชตมหาเถระ), พระหรหมมุนี (สุจิณฺณเถระ) เป็นต้น
วัดศรีอุบลรัตนาราม เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มี[[พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)]], [[สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส)]], [[พระอาจารย์ทา โชติปาโล]], [[พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กนฺตสีโล)|พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล]], [[พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต|พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต]], [[พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ)]], [[สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต)]], [[พระพรหมมุนี (บู่ สุจิณฺโณ)]] เป็นต้น
วัดศรีอุบลรัตนาราม ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีพระวินัยโกศล (ทองคู่ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส


{{เรียงลำดับ|ศรีอุบลรัตนาราม}}
{{สร้างปี|2398}}
[[หมวดหมู่:วัดในจังหวัดอุบลราชธานี]]
[[หมวดหมู่:วัดในจังหวัดอุบลราชธานี]]
[[หมวดหมู่:พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ]]
[[หมวดหมู่:วัดไทยในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:13, 1 มิถุนายน 2558

ป้ายชื่อวัดศรีอุบลรัตนาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

วัดศรีอุบลรัตนาราม เดิมชื่อ วัดศรีทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ พระแก้วบุษราคัม ปัจจุบันมีพระวินัยโกศล (ทองคู่ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส

วัดตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี บนถนนอุปราช วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร

ประวัติ

วัดศรีอุบลรัตนารามสร้างเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี โดยเป็นวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของภาคอีสาน ต่อจากวัดสุปัฏนารามวรวิหาร สถานที่ตั้งวัด เดิมเป็นสวนของเจ้าอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) มีศรัทธาบริจาคที่ดินประมาณ 25 ไร่ สำหรับสร้างวัดของสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย โดยระหว่างการถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระ ยกให้เป็นสมบัติในศาสนาพุทธเพื่อเป็นที่ตั้งวัด ในยามราตรีของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือมีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ ตั้งชื่อวัดว่า "วัดศรีทอง"

ฝ่ายคณะสงฆ์มีท่านเทวธัมมี (ม้าว) ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2398 ตามประวัติท่านเทวธัมมี ได้ไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เป็นสามเณร และได้เป็นสัทธิวิหาริกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งผนวช จึงได้ถือลัทธิธรรมยุติกนิกายสืบสายมาตั้งคณะธรรมยุติกนิกายที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกในภาคอีสาน โดยมีท่านพันธุโล (ดี) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ดังนั้น ท่านเทวธัมมี จึงถือว่าเป็นพระเถระที่มีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาเหล่าพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งหลายในสมัยนั้น

ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมาประกอบพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตร และยกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนาราม จึงได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถหลังนี้ ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีทองเป็น "วัดศรีอุบลรัตนาราม" ตามนามขององค์อุปถัมภ์

วัดศรีอุบลรัตนาราม เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท), สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส), พระอาจารย์ทา โชติปาโล, พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล, พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต, พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ), สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต), พระพรหมมุนี (บู่ สุจิณฺโณ) เป็นต้น