ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดศรีอุบลรัตนาราม"
ล แทนที่ ‘เป้น’ ด้วย ‘เป็น’ |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ต้องการอ้างอิง}} |
|||
[[ไฟล์:Sign of Wat Sri Ubon Rattanaram, Ubon Ratchathani.jpg|thumb|300px|ป้ายชื่อวัดศรีอุบลรัตนาราม ตำบลในเมือง [[อำเภอเมืองอุบลราชธานี]] [[จังหวัดอุบลราชธานี]]]] |
[[ไฟล์:Sign of Wat Sri Ubon Rattanaram, Ubon Ratchathani.jpg|thumb|300px|ป้ายชื่อวัดศรีอุบลรัตนาราม ตำบลในเมือง [[อำเภอเมืองอุบลราชธานี]] [[จังหวัดอุบลราชธานี]]]] |
||
''' วัดศรีอุบลรัตนาราม''' เดิมชื่อ วัดศรีทอง เป็น |
''' วัดศรีอุบลรัตนาราม''' เดิมชื่อ วัดศรีทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์[[ธรรมยุติกนิกาย]] เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ [[พระแก้วบุษราคัม]] ปัจจุบันมีพระวินัยโกศล (ทองคู่ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส |
||
วัดตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัด[[อุบลราชธานี]] บนถนนอุปราช วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถ[[วัดเบญจมบพิตร]] [[กรุงเทพมหานคร]] |
|||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
วัดศรีอุบลรัตนารามสร้างเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 4 แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] โดยเป็นวัดธรรมยุตแห่งที่ |
วัดศรีอุบลรัตนารามสร้างเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 4 แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] โดยเป็นวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของภาคอีสาน ต่อจาก[[วัดสุปัฏนารามวรวิหาร]] สถานที่ตั้งวัด เดิมเป็นสวนของเจ้าอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) มีศรัทธาบริจาคที่ดินประมาณ 25 ไร่ สำหรับสร้างวัดของสงฆ์[[ธรรมยุติกนิกาย]] โดยระหว่างการถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระ ยกให้เป็นสมบัติใน[[ศาสนาพุทธ]]เพื่อเป็นที่ตั้งวัด ในยามราตรีของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือมีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ ตั้งชื่อวัดว่า "วัดศรีทอง" |
||
ฝ่ายคณะสงฆ์มีท่านเทวธัมมี (ม้าว) ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2398 ตามประวัติท่านเทวธัมมี ได้ไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เป็นสามเณร และได้เป็นสัทธิวิหาริกของ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เมื่อครั้งผนวช จึงได้ถือลัทธิ[[ธรรมยุติกนิกาย]]สืบสายมาตั้งคณะธรรมยุติกนิกายที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกใน[[ภาคอีสาน]] โดยมีท่านพันธุโล (ดี) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ดังนั้น ท่านเทวธัมมี จึงถือว่าเป็นพระเถระที่มีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาเหล่าพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งหลายในสมัยนั้น |
ฝ่ายคณะสงฆ์มีท่านเทวธัมมี (ม้าว) ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2398 ตามประวัติท่านเทวธัมมี ได้ไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เป็นสามเณร และได้เป็นสัทธิวิหาริกของ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เมื่อครั้งผนวช จึงได้ถือลัทธิ[[ธรรมยุติกนิกาย]]สืบสายมาตั้งคณะธรรมยุติกนิกายที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกใน[[ภาคอีสาน]] โดยมีท่านพันธุโล (ดี) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ดังนั้น ท่านเทวธัมมี จึงถือว่าเป็นพระเถระที่มีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาเหล่าพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งหลายในสมัยนั้น |
||
ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 [[พระบาทสมเด็จ |
ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] และ[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] เสด็จมาประกอบพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตร และยก[[ช่อฟ้า]]พระอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนาราม จึงได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถหลังนี้ ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของ[[ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี|สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี]] และทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีทองเป็น '''"วัดศรีอุบลรัตนาราม"''' ตามนามขององค์อุปถัมภ์ |
||
วัดศรีอุบลรัตนาราม เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริ |
วัดศรีอุบลรัตนาราม เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มี[[พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)]], [[สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส)]], [[พระอาจารย์ทา โชติปาโล]], [[พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กนฺตสีโล)|พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล]], [[พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต|พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต]], [[พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ)]], [[สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต)]], [[พระพรหมมุนี (บู่ สุจิณฺโณ)]] เป็นต้น |
||
วัดศรีอุบลรัตนาราม ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีพระวินัยโกศล (ทองคู่ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส |
|||
{{เรียงลำดับ|ศรีอุบลรัตนาราม}} |
|||
{{สร้างปี|2398}} |
|||
[[หมวดหมู่:วัดในจังหวัดอุบลราชธานี]] |
[[หมวดหมู่:วัดในจังหวัดอุบลราชธานี]] |
||
[[หมวดหมู่:พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ]] |
|||
[[หมวดหมู่:วัดไทยในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:13, 1 มิถุนายน 2558
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
วัดศรีอุบลรัตนาราม เดิมชื่อ วัดศรีทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ พระแก้วบุษราคัม ปัจจุบันมีพระวินัยโกศล (ทองคู่ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส
วัดตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี บนถนนอุปราช วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
วัดศรีอุบลรัตนารามสร้างเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี โดยเป็นวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของภาคอีสาน ต่อจากวัดสุปัฏนารามวรวิหาร สถานที่ตั้งวัด เดิมเป็นสวนของเจ้าอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) มีศรัทธาบริจาคที่ดินประมาณ 25 ไร่ สำหรับสร้างวัดของสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย โดยระหว่างการถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระ ยกให้เป็นสมบัติในศาสนาพุทธเพื่อเป็นที่ตั้งวัด ในยามราตรีของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือมีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ ตั้งชื่อวัดว่า "วัดศรีทอง"
ฝ่ายคณะสงฆ์มีท่านเทวธัมมี (ม้าว) ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2398 ตามประวัติท่านเทวธัมมี ได้ไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เป็นสามเณร และได้เป็นสัทธิวิหาริกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งผนวช จึงได้ถือลัทธิธรรมยุติกนิกายสืบสายมาตั้งคณะธรรมยุติกนิกายที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกในภาคอีสาน โดยมีท่านพันธุโล (ดี) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ดังนั้น ท่านเทวธัมมี จึงถือว่าเป็นพระเถระที่มีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาเหล่าพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งหลายในสมัยนั้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมาประกอบพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตร และยกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนาราม จึงได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถหลังนี้ ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีทองเป็น "วัดศรีอุบลรัตนาราม" ตามนามขององค์อุปถัมภ์
วัดศรีอุบลรัตนาราม เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท), สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส), พระอาจารย์ทา โชติปาโล, พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล, พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต, พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ), สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต), พระพรหมมุนี (บู่ สุจิณฺโณ) เป็นต้น