ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหตุจลาจลในรัฐยะไข่ พ.ศ. 2555"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 52: | บรรทัด 52: | ||
=== 10 มิถุนายน การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน === |
=== 10 มิถุนายน การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน === |
||
ในวันที่ 10 มิถุนายน มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วยะไข่<ref name="BBC emergency">{{cite news|title=Q&A: Unrest in Burma's Rakhine state|publisher=BBC News|date=11 June 2012|url=http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-18395788|accessdate=11 June 2012}}</ref> เพื่อตอบสนองต่อความวุ่นวายและการก่อการร้าย ในวันนี้เอง ชาวโรฮีนจาได้กล่าวว่ามีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ออกไปที่ร้านค้าและถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ชาวยะไข่ได้เผาบ้านเรือนของชาวโรฮีนจาในหมู่บ้านโบห์มู<ref>{{cite web | url=http://news-eleven.com/index.php?option=com_content&view=article&id=14050:2012-06-11-02-55-50&catid=42:2009-11-10-07-36-59&Itemid=112 | title=ရခိုင္ၿပည္နယ္ အေၿခအေနႏွင့္ ပတ္သက္ၿပီး ဇြန္လ ၁၀ ရက္ေန႔ ေနာက္ဆံုးရသတင္းမ်ား | publisher=Eleven Media Group | date=10 June 2012 | accessdate=12 June 2012}}</ref> ประชาชนมากกว่า 5,000 คนต้องไปอยู่ที่ค่ายอพยพ<ref>{{cite web | url=http://www.bbc.co.uk/burmese/burma/2012/06/120610_rakhine_latest.shtml | title=ရခိုင်၊ ဗမာ၊ သက် ဒုက္ခသည် ငါးထောင်ကျော် |publisher=BBC | date=10 June 2012 | accessdate=12 June 2012}}</ref> และมีผู้อพยพจำนวนมากลี้ภัยไปยัง |
ในวันที่ 10 มิถุนายน มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วยะไข่<ref name="BBC emergency">{{cite news|title=Q&A: Unrest in Burma's Rakhine state|publisher=BBC News|date=11 June 2012|url=http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-18395788|accessdate=11 June 2012}}</ref> เพื่อตอบสนองต่อความวุ่นวายและการก่อการร้าย ในวันนี้เอง ชาวโรฮีนจาได้กล่าวว่ามีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ออกไปที่ร้านค้าและถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ชาวยะไข่ได้เผาบ้านเรือนของชาวโรฮีนจาในหมู่บ้านโบห์มู<ref>{{cite web | url=http://news-eleven.com/index.php?option=com_content&view=article&id=14050:2012-06-11-02-55-50&catid=42:2009-11-10-07-36-59&Itemid=112 | title=ရခိုင္ၿပည္နယ္ အေၿခအေနႏွင့္ ပတ္သက္ၿပီး ဇြန္လ ၁၀ ရက္ေန႔ ေနာက္ဆံုးရသတင္းမ်ား | publisher=Eleven Media Group | date=10 June 2012 | accessdate=12 June 2012}}</ref> ประชาชนมากกว่า 5,000 คนต้องไปอยู่ที่ค่ายอพยพ<ref>{{cite web | url=http://www.bbc.co.uk/burmese/burma/2012/06/120610_rakhine_latest.shtml | title=ရခိုင်၊ ဗမာ၊ သက် ဒုက္ခသည် ငါးထောင်ကျော် |publisher=BBC | date=10 June 2012 | accessdate=12 June 2012}}</ref> และมีผู้อพยพจำนวนมากลี้ภัยไปยังซิตตเว |
||
=== 12 – 14 มิถุนายน === |
=== 12 – 14 มิถุนายน === |
||
ในวันที่ 12 มิถุนายน มีการสร้างค่ายผู้อพยพที่ |
ในวันที่ 12 มิถุนายน มีการสร้างค่ายผู้อพยพที่ซิตตเว<ref>{{cite web|url=http://www.chinadaily.com.cn/cndy/2012-06/13/content_15497010.htm |title=Myanmar clashes continue|World |publisher=chinadaily.com.cn |date=13 June 2012 |accessdate=14 August 2012}}</ref> ส่วนรัฐบาลบังกลาเทศออกมาปฏิเสธการรับผู้ลี้ภัยและได้ส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับมายังพม่า<ref>{{cite news|title=Bangladesh sends back boatloads of Rohingya Muslims fleeing Myanmar violence|url=http://www.theglobeandmail.com/news/world/bangladesh-sends-back-boatloads-of-rohingya-muslims-fleeing-myanmar-violence/article4252300/ | location=Toronto | deadurl=yes}} {{Dead link|date=April 2014|bot=RjwilmsiBot}} </ref> |
||
=== 15 – 28 มิถุนายน === |
=== 15 – 28 มิถุนายน === |
||
ในวันที่ 28 มิถุนายน มีการประกาศว่ามีผู้เสียชีวิต 80 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 90,000 คน<ref>{{cite web|url=http://www.rfa.org/english/news/burma/abuse-07052012172223.html |title=RFA news |publisher=Rfa.org |date= |accessdate=2012-10-27}}</ref> ชาวโรฮีนจาหลายร้อยคนพยายามข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศ แต่ส่วนใหญ่ถูกผลักดันกลับมา ตุน คิน ประธานองค์กรโรฮีนจาพม่าแห่งอังกฤษได้กล่าวว่ามีชาวโรฮีนจาเสียชีวิต 650 คน สูญหาย 1,200 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 80,000 คน ชาวโรฮีนจาที่ข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศให้สัมภาษณ์ว่าทหารและตำรวจพม่ายิงปืนเข้าไปในกลุ่มชาวบ้าน พวกเขาหวาดกลัวในการกลับไปพม่า แม้ว่าบังกลาเทศจะพยายามผลักดันให้กลับไป |
ในวันที่ 28 มิถุนายน มีการประกาศว่ามีผู้เสียชีวิต 80 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 90,000 คน<ref>{{cite web|url=http://www.rfa.org/english/news/burma/abuse-07052012172223.html |title=RFA news |publisher=Rfa.org |date= |accessdate=2012-10-27}}</ref> ชาวโรฮีนจาหลายร้อยคนพยายามข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศ แต่ส่วนใหญ่ถูกผลักดันกลับมา ตุน คิน ประธานองค์กรโรฮีนจาพม่าแห่งอังกฤษได้กล่าวว่ามีชาวโรฮีนจาเสียชีวิต 650 คน สูญหาย 1,200 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 80,000 คน ชาวโรฮีนจาที่ข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศให้สัมภาษณ์ว่าทหารและตำรวจพม่ายิงปืนเข้าไปในกลุ่มชาวบ้าน พวกเขาหวาดกลัวในการกลับไปพม่า แม้ว่าบังกลาเทศจะพยายามผลักดันให้กลับไป |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:57, 20 พฤษภาคม 2558
เหตุจลาจลในรัฐยะไข่ พ.ศ. 2555 | |
---|---|
เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเกี่ยวกับโรฮีนจาในพม่าตะวันตก | |
สถานที่ | รัฐยะไข่ พม่า |
วันที่ | 8 มิถุนายน ค.ศ. 2012 (UTC+06:30) |
ประเภท | ความขัดแย้งระหว่างศาสนา |
ตาย | มิถุนายน: 88 คน[1][2][3] ตุลาคม: อย่างน้อย 80 คน[4] ไม่มีที่อยู่อาศัย 100,000 คน[4] |
เหตุจลาจลในรัฐยะไข่ พ.ศ. 2555 เป็นเหตุการณ์พิพาทที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างชาวยะไข่พุทธและมุสลิมโรฮีนจาทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ประเทศพม่า แต่เมื่อถึงเดือนตุลาคม มุสลิมทุกชาติพันธุ์ในพม่าเริ่มตกเป็นเป้า[5][6] เหตุจลาจลเกิดขึ้นหลังข้อพิพาททางศาสนาหลายสัปดาห์และถูกประณามโดยประชาชนทั้งสองฝ่าย[7] สาเหตุของเหตุจลาจลที่แน่นอนยังไม่ชัดเจน ขณะที่นักวิจารณ์หลายคนอ้างว่า ชาวยะไข่สังหารมุสลิมพม่าสิบคนหลังเกิดการข่มขืนและฆ่าสตรีชาวยะไข่เป็นสาเหตุหลัก รัฐบาลพม่าตอบสนองโดยกำหนดการห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน และวางกำลังทหารในพื้นที่ วันที่ 10 มิถุนายน มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐยะไข่ ซึ่งอนุญาตให้ทหารเข้ามาปกครองพื้นที่[8][9] ถึงวันที่ 22 สิงหาคม ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 88 คน เป็นมุสลิม 57 คน และชาวพุทธ 31 คน[1] ประเมินว่ามีประชาชน 90,000 คนพลัดถิ่นจากความรุนแรงดังกล่าว[10][11] มีบ้านเรือนถูกเผาราว 2,528 หลัง จำนวนนี้ 1,336 หลังเป็นของชาวโรฮีนจา และ 1,192 หลังเป็นของชาวยะไข่[12] กองทัพและตำรวจพม่าถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทนำในการจับกุมหมู่และใช้ความรุนแรงตามอำเภอใจต่อชาวโรฮีนจา[13]
การต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 64 คน และบ้านเรือนหลายพันหลังถูกทำลาย
ภูมิหลัง
มีการขัดแย้งเกิดขึ้นเป็นประจำในยะไข่ระหว่างชนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวยะไข่นับถือศาสนาพุทธกับชนกลุ่มน้อยที่เป็นมุสลิมโรฮีนจาซึ่งรัฐบาลพม่านับชาวโรฮีนจาเหล่านี้ว่าเป็นผู้อพยพ จึงไม่มีสิทธิที่จะเป็นพลเมืองของประเทศ นักประวัติศาสตร์หลายคนบอกว่าชาวโรฮีนจานี้อยู่ที่นี่มาหลายศตวรรษแล้ว ในขณะที่นักประวัติศาสตร์อีกส่วนบอกว่าชาวโรฮีนจาเพิ่งปรากฏในแถบนี้ในช่วงศตวรรษที่ 19 เท่านั้น สหประชาชาตินับกลุ่มชาติพันธุ์โรฮีนจาเหล่านี้ว่าเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่ถูกกดขี่มากที่สุดในโลก นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการแผนกเอเชียของฮิวแมนไรต์วอตช์ อีเลน เพียร์สัน ยังออกมากล่าวว่า "หลังจากหลายปีแห่งการกดขี่ ข่งเหง รังแก วันหนึ่งฟองสบู่นั้นจะแตกออก และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังเห็นในขณะนี้"[14]
ในเย็นของวันที่ 28 พฤษภาคม กลุ่มมุสลิมสามคน ซึ่งมีชาวโรฮีนจาสองคน ได้ปล้นฆ่าข่มขืนหญิงชาวยะไข่ชื่อ มา ทิดา ทเว ต่อมาตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งสามแล้วส่งไปยังเรือนจำของเมืองยานบาย[15] ในวันที่ 3 มิถุนายน[16] ผู้ประท้วงได้โจมตีรถบัสคันหนึ่งเนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสามนั้นอยู่ในรถบัสนั้น[17] ผลจากเหตุการณ์นั้นได้ทำให้ชาวมุสลิม 10 คนเสียชีวิต[18] ซึ่งเป็นผลให้เกิดการประท้วงจากกลุ่มมุสลิมชาวพม่าในย่างกุ้ง รัฐบาลตอบสนองโดยการตั้งรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจอาวุโสเพื่อเป็นผู้นำในการสืบสวนเพื่อสืบหาสาเหตุและการยั่วยุที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป[19] ซึ่งนับถึงวันที่ 2 กรกฎาคม มีผู้ถูกจับไปแล้ว 30 คนเนื่องจากการฆ่าชาวมุสลิมทั้งสิบนี้[20]
เหตุจลาจลในเดือนมิถุนายน
ในเดือนนี้มีการโจมตีของชาวพุทธยะไข่และชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายครั้งดังนี้[21]
8 มิถุนายน การโจมตีเริ่มต้น
มีการประท้วงของชาวโรฮีนจากลุ่มใหญ่ เผาบ้านและทำลายโทรศัพท์[22] ในตอนเย็นเจ้าหน้าที่ไปป้องกันบ้านไว้ได้ 14 หลัง และยิงปืนเตือนเข้าไปในกลุ่มชน ในวันรุ่งขึ้น รัฐบาลได้ประกาศกฎอัยการศึกในหม่องเด่า ห้ามมิให้รวมกลุ่มกันเกินกว่า 5 คนในที่สาธารณะ และมีผู้เสียชีวิตในวันนี้ 5 คน[23]
9 มิถุนายน ความรุนแรงขยายตัว
ตอนเช้าของวันที่ 9 มิถุนายน รัฐบาลส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปเพิ่มเติม และสร้างค่ายผู้ลี้ภัยให้ผู้ที่บ้านเรือนถูกเผา แม้ว่าจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแต่ความขัดแย้งได้ขยายวงกว้างออกไป มีความพยายามก่อเหตุร้ายในหม่องเด่าแต่ระงับเหตุไว้ได้ เกิดความรุนแรงขึ้นอีก มีผู้เสียชีวิต 7 คน ร้านค้า 17 แห่งและบ้านมากกว่า 494 หลังถูกเผาในวันนี้[24]
10 มิถุนายน การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในวันที่ 10 มิถุนายน มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วยะไข่[25] เพื่อตอบสนองต่อความวุ่นวายและการก่อการร้าย ในวันนี้เอง ชาวโรฮีนจาได้กล่าวว่ามีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ออกไปที่ร้านค้าและถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ชาวยะไข่ได้เผาบ้านเรือนของชาวโรฮีนจาในหมู่บ้านโบห์มู[26] ประชาชนมากกว่า 5,000 คนต้องไปอยู่ที่ค่ายอพยพ[27] และมีผู้อพยพจำนวนมากลี้ภัยไปยังซิตตเว
12 – 14 มิถุนายน
ในวันที่ 12 มิถุนายน มีการสร้างค่ายผู้อพยพที่ซิตตเว[28] ส่วนรัฐบาลบังกลาเทศออกมาปฏิเสธการรับผู้ลี้ภัยและได้ส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับมายังพม่า[29]
15 – 28 มิถุนายน
ในวันที่ 28 มิถุนายน มีการประกาศว่ามีผู้เสียชีวิต 80 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 90,000 คน[30] ชาวโรฮีนจาหลายร้อยคนพยายามข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศ แต่ส่วนใหญ่ถูกผลักดันกลับมา ตุน คิน ประธานองค์กรโรฮีนจาพม่าแห่งอังกฤษได้กล่าวว่ามีชาวโรฮีนจาเสียชีวิต 650 คน สูญหาย 1,200 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 80,000 คน ชาวโรฮีนจาที่ข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศให้สัมภาษณ์ว่าทหารและตำรวจพม่ายิงปืนเข้าไปในกลุ่มชาวบ้าน พวกเขาหวาดกลัวในการกลับไปพม่า แม้ว่าบังกลาเทศจะพยายามผลักดันให้กลับไป
รัฐบาลพม่าได้จับกุมผู้ทำงานให้กับ UNHCR 10 คน[31] และกล่าวหาว่ามี 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง สหประชาชาติได้เรียกร้องให้พม่าปล่อยตัวเจ้าหน้าที่เหล่านี้ พม่าปฏิเสธและเสนอให้สหประชาชาตินำชาวโรฮีนจา 1 ล้านคนไปอยู่ในค่ายผู้อพยพในบังกลาเทศหรือประเทศอื่น
ความรุนแรงในเดือนตุลาคม
ความรุนแรงระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมได้เกิดขึ้นอีกครั้งในปลายเดือนตุลาคม รัฐบาลพม่ารายงานว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 คน ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยมีมากกว่า 22,000 คน และบ้านมากกว่า 4,600 หลังถูกเผา[4] ความรุนแรงเริ่มขึ้นที่หมู่บ้านมินเบียและมรอกโอ แล้วได้ขยายไปทั่วยะไข่ นอกจากมุสลิมโรฮีนจาแล้ว มุสลิมทุกเชื้อชาติกลายเป็นเป้าหมาย มุสลิมหลายกลุ่มไม่สามารถฉลองเทศกาลอีดและอีดิลอัฏฮาได้ เพราะรัฐบาลไม่สามารถคุ้มครองพวกเขา[32]
เหตุการณ์ในประเทศอื่น
ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556 ชาวพุทธและชาวมุสลิมพม่าที่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวพม่าในอินโดนีเซียได้ปะทะกันโดยมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์รุนแรงภายในประเทศ ผลปรากฏว่าชาวพุทธเสียชีวิต 8 คน ชาวโรฮีนจาบาดเจ็บ 15 คน[33][34]ชาวโรฮีนจา 14 คนถูกศาลอินโดนีเซียตัดสินจำคุก 9 เดือน[35]
ปฏิกิริยา
ระดับชาติ
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศขอให้ยุติความรุนแรง[36] กลุ่มนักศึกษารุ่น 88 ได้กล่าวว่าเหตุรุนแรงนี้คือการก่อการร้าย[37] สมาคมพม่าอิสลามทั้งมวลได้กล่าวว่านี่เป็นการก่อการร้ายที่ทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์[38][39]
ระดับนานาชาติ
สหภาพยุโรปได้ประกาศให้จับตาดูเหตุการณ์ในพม่าอย่างใกล้ชิด[40] องค์กรความร่วมมืออิสลามได้ประณามรัฐบาลพม่าในการประชุมเมื่อ 15 สิงหาคม ในการที่ใช้ความรุนแรงและปฏิเสธการให้สัญชาติพม่าแก่ชาวโรฮีนจา[41] บังกลาเทศได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน และส่งตัวผู้อพยพจำนวนมากกลับพม่า อิหร่านได้ประกาศต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นและมีการประท้วงรัฐบาลพม่าในอิหร่าน[42] ในปากีสถานมีผู้ออกมาประท้วงต่อต้านการเกลียดชังมุสลิมในพม่า[43][44] ซาอุดีอาระเบียได้ให้ความช่วยเหลือ 50 ล้านเหรียญสหรัฐแก่ชาวโรฮีนจาและประณามรัฐบาลพม่า[45]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 "Press Release". Government of the Republic of the Union of Myanmar Ministry of Foreign Affairs. 21 August 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 October 2012. สืบค้นเมื่อ 27 October 2012.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "mofa.gov.mm" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ "Myanmar sets up internal probe of sectarian unrest". The Guardian. London. 17 August 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2012. สืบค้นเมื่อ 27 October 2012.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ "Myanmar gov't refutes accusations of religious persecution, discrimination in Rakhine incident". Xinhua. 27 October 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2012. สืบค้นเมื่อ 27 October 2012.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ 4.0 4.1 4.2 "Burma violence: 20,000 displaced in Rakhine state". BBC News. 28 October 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 October 2012. สืบค้นเมื่อ 28 October 2012.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ "Burma admits Rakhine destruction". BBC News. 27 October 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2012. สืบค้นเมื่อ 27 October 2012.
- ↑ Peter Beaumont (27 October 2012). "Burma's leader admits deadly attacks on Muslims". The Guardian. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2012. สืบค้นเมื่อ 27 October 2012.
- ↑ "Four killed as Rohingya Muslims riot in Myanmar: government". Reuters. 8 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ Linn Htet (11 June 2012). "အေရးေပၚအေျခအေန ေၾကညာခ်က္ ႏုိင္ငံေရးသမားမ်ား ေထာက္ခံ". The Irrawaddy. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
- ↑ Keane, Fergal (11 June 2012). "Old tensions bubble in Burma". BBC News Online. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
- ↑ "Burma's ethnic clashes leave 90,000 in need of food, says UN". Toronto Star. 19 June 2012. สืบค้นเมื่อ 16 July 2012.
- ↑ "Burma unrest: Rakhine violence 'displaces 30,000'". BBC News. 14 June 2012. สืบค้นเมื่อ 14 June 2012.
- ↑ "Both ethnic groups suffered in Myanmar clashes". Associated Press. 15 Jun 2012. สืบค้นเมื่อ 16 June 2012.
- ↑ Hindstorm, Hanna (28 June 2012). "Burmese authorities targeting Rohingyas, UK parliament told". Democratic Voice of Burma. สืบค้นเมื่อ 9 July 2012.
- ↑ "Muslim, Buddhist mob violence threatens new Myanmar image". Reuters. 11 Jun 2012. สืบค้นเมื่อ 12 June 2012.
- ↑ "Myanmar Conflict Alert: Preventing communal bloodshed and building better relations". International Crisis Group (ICG). 12 June 2012. สืบค้นเมื่อ 29 September 2012.
- ↑ "30 arrested for killing 10 aboard Toungup bus". Elevenmyanmar.com. 2012-07-05. สืบค้นเมื่อ 2012-10-27.
- ↑ "UN decides to relocate staff from Myanmar's Rakhine state". BBC. 11 June 2012. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
- ↑ "Burma police clash with Muslim protesters in Maung Daw". BBC. 9 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "Myanmar to probe Muslim deaths". Reuters. 8 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "Myanmar arrests 30 over killing of 10 Muslims". Reuters. 2 July 2012. สืบค้นเมื่อ 15 July 2012.
- ↑ "Muslim, Buddhist mob violence threatens new Myanmar image". NDTV. 11 June 2012.
- ↑ "Curfew imposed in Rakhine township amidst Rohingya terrorist attacks". Eleven Media Group. 8 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "ရခိုင်ပြည်နယ် မောင်တောမြို့၌ ဆူပူအကြမ်းဖက်မှုများ ဖြစ်ပွား ဒေသရပ်ရွာတည်ငြိမ်အေးချမ်းမှု ရရှိစေရေး အတွက် ပုဒ်မ (၁၄၄) ထုတ်ပြန်၍ ထိန်းသိမ်းဆောင်ရွက်လျက်ရှိ". Presidential Office of Myanmar. 8 June 2012. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
- ↑ "ဖစ္ပြားျပီးေနာက္ရက္၌ အေျခအေနမ်ားကို သက္ဆိုင္ရာက ထိန္းခ်ဳပ္ႏိုင္ျပီ ျဖစ္ေၾကာင္းသိရ". Eleven Media Group. 10 June 2012. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
- ↑ "Q&A: Unrest in Burma's Rakhine state". BBC News. 11 June 2012. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
- ↑ "ရခိုင္ၿပည္နယ္ အေၿခအေနႏွင့္ ပတ္သက္ၿပီး ဇြန္လ ၁၀ ရက္ေန႔ ေနာက္ဆံုးရသတင္းမ်ား". Eleven Media Group. 10 June 2012. สืบค้นเมื่อ 12 June 2012.
- ↑ "ရခိုင်၊ ဗမာ၊ သက် ဒုက္ခသည် ငါးထောင်ကျော်". BBC. 10 June 2012. สืบค้นเมื่อ 12 June 2012.
- ↑ "Myanmar clashes continue|World". chinadaily.com.cn. 13 June 2012. สืบค้นเมื่อ 14 August 2012.
- ↑ "Bangladesh sends back boatloads of Rohingya Muslims fleeing Myanmar violence". Toronto.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) [ลิงก์เสีย] - ↑ "RFA news". Rfa.org. สืบค้นเมื่อ 2012-10-27.
- ↑ UN aid workers face Myanmar riot charges, By Gwen Robinson in Bangkok, 15 July 2012, Financial Times
- ↑ Mark Magnier (26 October 2012). "112 killed, homes burned as Buddhists, Muslims clash in Myanmar". Los Angeles Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 October 2012. สืบค้นเมื่อ 26 October 2012.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ "ival Myanmar groups clash in Indonesia jail". Al Jazeera. 5 April 2013. สืบค้นเมื่อ 5 April 2013.
- ↑ AP News (5 April 2013). "8 dead as Burmese Buddhists, Muslims clash in Indonesia". Asian Correspondents. สืบค้นเมื่อ 5 April 2013.
- ↑ "Indonesia jails Myanmar Muslims over Buddhist killings". 5 December 2013. สืบค้นเมื่อ 7 December 2013.
- ↑ "Statement from National League for Democracy". National League for Democracy. 9 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "ေမာင္ေတာျမိဳ့နယ္တြင္ ျဖစ္ပြားေနေသာကိစၥႏႇင့္ ပတ္သက္၍ ၈၈ မ်ိဳးဆက္ေက်ာင္းသားမ်ားအဖြဲ႔မႇ သတင္းစာရႇင္းလင္းပြဲျပဳလုပ္ မိမိတုိ႔ ဒီမုိကေရစီအင္အားစုမ်ားမႇ တပ္မေတာ္အင္အားစုႏႇင့္အတူ အမ်ိဳးသားေရးျပႆနာအျဖစ္ ရင္ဆုိင္ေျဖရႇင္းသြားမည္ျဖစ္ေၾကာင္း ေျပာၾကား". Eleven Media Group. 8 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "Biggest Islam association in Myanmar appeals for calm in wake of unrest in western state". Xinhua. 9 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "သဘောထား ထုတ်ပြန်ကြေညာချက်". မြန်မာနိုင်ငံလုံးဆိုင်ရာ အစ္စလာမ် ဘာသာရေး အဖွဲ့ကြီး. 9 June 2012. สืบค้นเมื่อ 9 June 2012.
- ↑ "EU makes diplomatic initiatives to end massacre in Myanmar". Anatolian Agency. 22 July 2012.
- ↑ "Islamic summit will take Myanmar's Rohingyas issue to UN". Agence France-Presse. 16 August 2012. สืบค้นเมื่อ 21 August 2012.
- ↑ "Muslim states urged to act over massacre of Rohingyas in Myanmar". Press TV. 3 August 2012.
- ↑ "PTI stages protest against Muslim killing in Burma". Pakistan Today. 26 July 2012. สืบค้นเมื่อ 28 July 2012.
- ↑ "'Burma Muslim massacre': JI calls on government to lodge protest". The Express Tribune. 21 July 2012. สืบค้นเมื่อ 28 July 2012.
- ↑ "Saudi Arabia gives $50 mn aid to Myanmar Muslims". Reuters. 12 August 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2012. สืบค้นเมื่อ 21 August 2012.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help)