ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกฤตการณ์ปากน้ำ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Chale yan (คุย | ส่วนร่วม)
Chale yan (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 31: บรรทัด 31:
เวลา 18.30 น.ป้อมปืนเปิดฉากยิงเตือนด้วยกระสุนเปล่า 2 นัดแต่เรือรบฝรั่งเศสยังคงแล่นต่อไปในนัดที่สามใช้กระสุนจริงยิงเตือน กระสุนตกลงในน้ำหน้าเรือฌองบัปติสต์เซย์ เมื่อเห็นฝรั่งเศสเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนนัดที่สี่จากเรือปืน มกุฎราชกุมาร และ มูรธาวสิตสวัสดิ์ ก็เปิดฉากยิงเมื่อเวลา 18.50 น. เรือแองกองสตองได้ยิงตอบโต้กับป้อมในขณะที่โกแมตยิงสู้กับเรือปืนสยาม มีเรือขนาดเล็กที่บรรจุระเบิดถูกส่งมาพุ่งชนเรือฝรั่งเศสแต่พลาดเป้า การต่อสู้กินเวลาประมาณ 25 นาที
เวลา 18.30 น.ป้อมปืนเปิดฉากยิงเตือนด้วยกระสุนเปล่า 2 นัดแต่เรือรบฝรั่งเศสยังคงแล่นต่อไปในนัดที่สามใช้กระสุนจริงยิงเตือน กระสุนตกลงในน้ำหน้าเรือฌองบัปติสต์เซย์ เมื่อเห็นฝรั่งเศสเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนนัดที่สี่จากเรือปืน มกุฎราชกุมาร และ มูรธาวสิตสวัสดิ์ ก็เปิดฉากยิงเมื่อเวลา 18.50 น. เรือแองกองสตองได้ยิงตอบโต้กับป้อมในขณะที่โกแมตยิงสู้กับเรือปืนสยาม มีเรือขนาดเล็กที่บรรจุระเบิดถูกส่งมาพุ่งชนเรือฝรั่งเศสแต่พลาดเป้า การต่อสู้กินเวลาประมาณ 25 นาที


ในที่สุด พลเรือตรี อูว์มัน ก็พาเรือรบฝ่าการป้องกันของสยามไปได้ สามารถจมเรือปืนฝ่ายสยามได้หนึ่งลำ อีกลำได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน ทหารสยามตาย 10 นายบาดเจ็บ 12 นาย ฝรั่งเศสเสียหายน้อยกว่า ขณะที่ผ่านปากน้ำเรือฌองบัปติสต์เซย์ถูกยิงด้วยปืนใหญ่ ไปเกยตื้นที่แหลมลำพูราย เรือแองกองสตองและเรือโกแมตแล่นผ่านไปได้ถึงกรุงเทพ จอดทอดสมออยู่ที่สถานทูตฝรั่งเศส<ref name="สารคดี"/> ทหารฝรั่งเศสตาย 3 นาย บาดเจ็บ 2 นาย เรือโกแมตถูกยิงได้รับความเสียหายมากกว่าเรือแองกองสตองแต่ไม่ได้เสียหายร้ายแรง ป้อมของสยามไม่ได้รับความเสียหาย
<!-- Ultimately Rear Admiral Humann forced his way through the Siamese line, ramming and sinking one gunboat in the process. One other was hit by shell fire, ten men were killed and twelve others wounded. The French suffered as well, while towing the warships past Paknam, the ''Jean Baptiste Say'' was hit several times by cannon fire. Her commander was forced to cut the tow line and ground his ship on Laem Lamphu Rai while the ''Inconstant'' and ''Comete'' proceeded onto Bangkok. Three Frenchmen were killed and two others were wounded. ''Comete'' received more hits than the ''Inconstant'' but the damage was not serious. The Siamese fort was not damaged.


==ผลที่ตามมา==
==ผลที่ตามมา==
<!--The following morning, ''Jean Baptiste Say''{{'}}s crew was still on board their grounded vessel so the Siamese sent a boat and captured the steamer, they then attempted and failed to sink her. The prisoners were treated badly according to reports and put in a Bankok prison. A day later, the French gunboat [[French gunboat Forfait|''Forfait'']] arrived at Paknam and sent a boat full of sailors to recapture the mail steamer but when they boarded, the Siamese occupants successfully repelled the attack. When Rear Admiral Humann arrived off Bankok, he established a blockade, trainned his guns on the royal palace and on October 3, 1893, a treaty was signed, ending the war.-->

The following morning, ''Jean Baptiste Say''{{'}}s crew was still on board their grounded vessel so the Siamese sent a boat and captured the steamer, they then attempted and failed to sink her. The prisoners were treated badly according to reports and put in a Bankok prison. A day later, the French gunboat [[French gunboat Forfait|''Forfait'']] arrived at Paknam and sent a boat full of sailors to recapture the mail steamer but when they boarded, the Siamese occupants successfully repelled the attack. When Rear Admiral Humann arrived off Bankok, he established a blockade, trainned his guns on the royal palace and on October 3, 1893, a treaty was signed, ending the war.-->


==ดูเพิ่ม==
==ดูเพิ่ม==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:35, 31 ตุลาคม 2553

วิกฤตการณ์ปากน้ำ
ส่วนหนึ่งของ วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

เรือรบฝรั่งเศสภายใต้การระดมยิงจากป้อมปืนของสยาม
ที่ปากแม่น้ำ
วันที่13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436
สถานที่
ผล ฝรั่งเศสได้รับชัยชนะและบรรลุวัตถุประสงค์
คู่สงคราม
 ฝรั่งเศส ไทย สยาม
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
ฝรั่งเศส แอดการ์ อูว์มัน ไทย พระยาชลยุทธโยธินทร์
กำลัง
เรือการข่าว 1
เรือปืน 1
เรือกลไฟ 1
แผ่นดิน:
ปืนเสือหมอบ 7
ป้อมปืน 1
ทะเล:
เรือปืน 5
ความสูญเสีย
ตาย 3
บาดเจ็บ 2
เรือกลไฟเกยตื้น 1
เรือนำร่องเสียหาย 1
เรือปืนเสียหาย 1
ตาย ~10
บาดเจ็บ ~12
เรือปืนอับปาง 1
เรือปืนเสียหาย 11


  • เรือกลไฟของฝรั่งเศสถูกควบคุมโดยสยามหลังจากการรบโดยปราศจากการต่อต้าน

วิกฤตการณ์ปากน้ำ เป็นการรบระหว่างวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2436 ในขณะที่แล่นเรือผ่านเข้าไปในปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศส 3 ลำถูกโจมตีโดยป้อมปืนของสยามและเรือปืน ในผลการรบฝรั่งเศสได้รับชัยชนะและดำเนินการปิดล้อมกรุงเทพซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเหตุการณ์

ภูมิหลัง

ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเรือการข่าว แองกองสตอง (Inconstant) และเรือปืน โกแมต (Comete) ของกองทัพเรือฝรั่งเศสเดินทางมาถึงปากแม่น้ำและขออนุญาติแล่นเรือผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปสมทบกับเรือ ลูแตง (Le Lutin)[1] เพื่อเจรจาต่อรอง เมื่อสยามปฏิเสธ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายฝรั่งเศส พลเรือตรี แอดการ์ อูว์มัน (Edgar Humann) เมินเฉยต่อความต้องการของสยามและคำสั่งจากรัฐบาลฝร่งเศสซึ่งก่อนการต่อสู้ พลเรือตรี อูว์มัน ได้รับคำสั่งห้ามเข้าสู่ปากแม่น้ำเพราะสยามได้เตรียมการอย่างดีสำหรับการรบ กองกำลังฝ่ายสยามประกอบด้วยป้อมพระจุลจอมเกล้าที่พึ่งสร้างขึ้น มีปืนเสือหมอบขนาด 6 นิ้ว 7 กระบอก2 สยามยังได้จมเรือสำเภาและเรือบรรทุกหินในแม่น้ำเพื่อเป็นแนวป้องกันบีบเป็นทางผ่านแคบๆเพียงทางเดียว

เรือปืน 5 ลำจอดทอดสมออยู่ด้านหลังแนวสิ่งกีดขวาง ประกอบไปด้วย เรือมกุฎราชกุมาร, เรือทูลกระหม่อม, เรือหาญหักศัตรู, เรือนฤเบนทร์บุตรี และ เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ เรือ 2 ลำเป็นเรือรบทันสมัยขณะที่เรือที่เหลือเป็นเรือปืนเก่าหรือเรือกลไฟแม่น้ำที่ดัดแปลงมา มีการวางข่ายทุ่นระเบิด 16 ลูก ผู้บังคับบัญชาป้อมเป็นนายพลเรือชาวดัตช์ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวยุโรปหลายคนที่เข้ารับราชการในกองทัพไทย พลเรือโท เจ้าพระยาชลยุทธโยธินทร์ เป็นผู้บังคับบัญชาเรือปืน

ยุทธนาวี

ฝรั่งเศสเลือกที่จะเข้าปากแม่น้ำหลังพระอาทิตย์ตกดินในวันที่ 13 กรกฎาคม มีวัตถุประสงค์คือแล่นผ่านการป้องกันของสยามถ้ามีการเปิดฉากยิงกันขึ้น สภาพอากาศครึ้มฝน ขณะนั้นสยามได้ประจำสถานีรบและเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด เรือรบฝรั่งเศสได้แล่นตามเรือกลไฟนำร่องฌองบัปติสต์เซย์ (Jean Baptiste Say) เมื่อเวลา 18.15 น. ฝนหยุดตก ทหารในป้อมสังเกตุเห็นเรือรบฝรั่งเศสแล่นผ่านกระโจมไฟ สองสามนาทีหลังจากนั้นเรือฝรั่งเศสแล่นผ่านทุ่นดำเข้ามาในระยะยิงของป้อม ทหารได้รับคำสั่งให้ยิงเตือน 3 นัดถ้าฝรั่งเศสเพิกเฉยเรือปืนจะเปิดฉากยิง

เวลา 18.30 น.ป้อมปืนเปิดฉากยิงเตือนด้วยกระสุนเปล่า 2 นัดแต่เรือรบฝรั่งเศสยังคงแล่นต่อไปในนัดที่สามใช้กระสุนจริงยิงเตือน กระสุนตกลงในน้ำหน้าเรือฌองบัปติสต์เซย์ เมื่อเห็นฝรั่งเศสเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนนัดที่สี่จากเรือปืน มกุฎราชกุมาร และ มูรธาวสิตสวัสดิ์ ก็เปิดฉากยิงเมื่อเวลา 18.50 น. เรือแองกองสตองได้ยิงตอบโต้กับป้อมในขณะที่โกแมตยิงสู้กับเรือปืนสยาม มีเรือขนาดเล็กที่บรรจุระเบิดถูกส่งมาพุ่งชนเรือฝรั่งเศสแต่พลาดเป้า การต่อสู้กินเวลาประมาณ 25 นาที

ในที่สุด พลเรือตรี อูว์มัน ก็พาเรือรบฝ่าการป้องกันของสยามไปได้ สามารถจมเรือปืนฝ่ายสยามได้หนึ่งลำ อีกลำได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน ทหารสยามตาย 10 นายบาดเจ็บ 12 นาย ฝรั่งเศสเสียหายน้อยกว่า ขณะที่ผ่านปากน้ำเรือฌองบัปติสต์เซย์ถูกยิงด้วยปืนใหญ่ ไปเกยตื้นที่แหลมลำพูราย เรือแองกองสตองและเรือโกแมตแล่นผ่านไปได้ถึงกรุงเทพ จอดทอดสมออยู่ที่สถานทูตฝรั่งเศส[1] ทหารฝรั่งเศสตาย 3 นาย บาดเจ็บ 2 นาย เรือโกแมตถูกยิงได้รับความเสียหายมากกว่าเรือแองกองสตองแต่ไม่ได้เสียหายร้ายแรง ป้อมของสยามไม่ได้รับความเสียหาย

ผลที่ตามมา

ดูเพิ่ม

เชิงอรรถ

หมายเหตุ 1: เอกสารบางฉบับแสดงความสูญเสียดังนี้ ทหารฝรั่งเศสตาย 3 คนบาดเจ็บ 3 คน ทหารสยามตาย 8 คน บาดเจ็บ 41 คนและสูญหาย 1 คน[1]

หมายเหตุ 2: เอกสารบางฉบับมีป้อมผีเสื้อสมุทรรวมอยู่ด้วย[1]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 ไกรฤกษ์ นานา, วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112, สารคดีปีที่ 26 ฉบับที่ 308 ตุลาคม 2553
  • Clare Smith, Israel, "The Unrivaled History of the World: Nineteenth Century", Werner Company, Chicago Illinois (1893), pg.# 1862
  • Hogan Edmond, Albert, "Pacific blockade", Clarendon Press, Oxford University (1908), pg.# 138-139