ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ออสการ์ เดอ ลา โฮยา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 10: บรรทัด 10:
| รุ่น = จูเนียร์ไลท์เวท, ไลท์เวท<br/>ซูเปอร์ไลท์เวท, เวลเตอร์เวท<br/>ซูเปอร์เวลเตอร์เวท, มิดเดิลเวท
| รุ่น = จูเนียร์ไลท์เวท, ไลท์เวท<br/>ซูเปอร์ไลท์เวท, เวลเตอร์เวท<br/>ซูเปอร์เวลเตอร์เวท, มิดเดิลเวท
| ผู้จัดการ = [[บ๊อบ อารัม]]<br>ปัจจุบันเป็นผู้จัดการตัวเอง
| ผู้จัดการ = [[บ๊อบ อารัม]]<br>ปัจจุบันเป็นผู้จัดการตัวเอง
| เทรนเนอร์ = โจเอล เดอ ลา โฮยา (พ่อ)<br/>เอ็มมานูเอล สจ๊วต<br/><br/>โรแบร์โต้ อัลคาร์ซ่า<br/>ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ ซีเนียร์ (ปัจจุบัน)
| เทรนเนอร์ = โจเอล เดอ ลา โฮยา (พ่อ)<br/>เอ็มมานูเอล สจ๊วต<br/>โรแบร์โต้ อัลคาร์ซ่า<br/>ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ ซีเนียร์ (ปัจจุบัน)
| ชก = 45
| ชก = 45
| ชนะ = 39
| ชนะ = 39
บรรทัด 22: บรรทัด 22:
{{MedalGold | [[โอลิมปิกฤดูร้อน 1992|บาร์เซโลนา 1992]] | ไลท์เวท}}
{{MedalGold | [[โอลิมปิกฤดูร้อน 1992|บาร์เซโลนา 1992]] | ไลท์เวท}}
{{MedalBottom}}
{{MedalBottom}}
'''ออสการ์ เดอ ลา โฮยา''' (Oscar De La Hoya) เกิดเมื่อวันที่ [[4 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2516]] (ค.ศ. 1971) ที่เมืองมอนเตเบลโล [[มลรัฐแคลิฟอร์เนีย]] สหรัฐอเมริกา พื้นเพครอบครัวของเดอ ลา โฮยา เป็นชาวเม็กซิกันที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยที่ผู้ชายในตระกูล ไม่ว่าจะเป็น พ่อ, ปู่, พี่ชาย ก็ล้วนแต่เป็นนักมวยมาก่อนทั้งนั้น เมื่อวัยเด็ก เดอ ลาโฮยา เป็นเด็กอ่อนแอ มักจะโดนพี่ชายและเด็กในละแวกบ้านแกล้งเสมอ ๆ
'''ออสการ์ เดอ ลา โฮยา''' (Oscar De La Hoya) เกิดเมื่อวันที่ [[4 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2516]] (ค.ศ. 1971) ที่เมืองมอนเตเบลโล [[มลรัฐแคลิฟอร์เนีย]] สหรัฐอเมริกา พื้นเพครอบครัวของเดอ ลา โฮยา เป็นชาวเม็กซิกันที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยที่ผู้ชายในตระกูล ไม่ว่าจะเป็น พ่อ (โจเอล ซีเนียร์), ปู่ (บินเซนเต้), พี่ชาย (โจเอล จูเนียร์) ก็ล้วนแต่เป็นนักมวยมาก่อนทั้งนั้น เมื่อวัยเด็ก เดอ ลาโฮยา เป็นเด็กอ่อนแอ มักจะโดนพี่ชายและเด็กในละแวกบ้านแกล้งเสมอ ๆ


ออสการ์ เดอ ลา โฮยา มีชื่อเสียงขึ้นมาในการที่สามารถเป็นนักมวยเพียงคนเดียวในทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่คว้าเหรียญทอง[[โอลิมปิค]]มาได้จากการเอาชนะ มาร์โก้ รูดอร์ฟ นักมวยชาวเยอรมัน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่เมือง[[บาร์เซโลนา]] [[ประเทศสเปน]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2535]] (ค.ศ. 1992)
ออสการ์ เดอ ลา โฮยา มีชื่อเสียงขึ้นมาในการที่สามารถเป็นนักมวยเพียงคนเดียวในทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่คว้าเหรียญทอง[[โอลิมปิค]]มาได้จากการเอาชนะ มาร์โก้ รูดอร์ฟ นักมวยชาวเยอรมัน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่เมือง[[บาร์เซโลนา]] [[ประเทศสเปน]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2535]] (ค.ศ. 1992)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:34, 6 มีนาคม 2552

ออสการ์ เดอ ลา โฮยา
ไฟล์:Hoya2.jpg
ชื่อจริงOscar De La Hoya
ฉายาโกลเด้น บอย (Golden Boy)
สุดหล่อ (ภาษาไทย)
รุ่นจูเนียร์ไลท์เวท, ไลท์เวท
ซูเปอร์ไลท์เวท, เวลเตอร์เวท
ซูเปอร์เวลเตอร์เวท, มิดเดิลเวท
เกิด4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516
สหรัฐ มอนเตเบลโล
ชกทั้งหมด45
ชนะ39
ชนะน็อก30
แพ้6
เสมอ0
ผู้จัดการบ๊อบ อารัม
ปัจจุบันเป็นผู้จัดการตัวเอง
เทรนเนอร์โจเอล เดอ ลา โฮยา (พ่อ)
เอ็มมานูเอล สจ๊วต
โรแบร์โต้ อัลคาร์ซ่า
ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ ซีเนียร์ (ปัจจุบัน)
สถิติเหรียญโอลิมปิก
มวยสากลสมัครเล่น
โอลิมปิกฤดูร้อน
เหรียญทอง - ชนะเลิศ บาร์เซโลนา 1992 ไลท์เวท

ออสการ์ เดอ ลา โฮยา (Oscar De La Hoya) เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 (ค.ศ. 1971) ที่เมืองมอนเตเบลโล มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พื้นเพครอบครัวของเดอ ลา โฮยา เป็นชาวเม็กซิกันที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยที่ผู้ชายในตระกูล ไม่ว่าจะเป็น พ่อ (โจเอล ซีเนียร์), ปู่ (บินเซนเต้), พี่ชาย (โจเอล จูเนียร์) ก็ล้วนแต่เป็นนักมวยมาก่อนทั้งนั้น เมื่อวัยเด็ก เดอ ลาโฮยา เป็นเด็กอ่อนแอ มักจะโดนพี่ชายและเด็กในละแวกบ้านแกล้งเสมอ ๆ

ออสการ์ เดอ ลา โฮยา มีชื่อเสียงขึ้นมาในการที่สามารถเป็นนักมวยเพียงคนเดียวในทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิคมาได้จากการเอาชนะ มาร์โก้ รูดอร์ฟ นักมวยชาวเยอรมัน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992)

เดอ ลา โฮยา จึงได้ฉายาว่า "โกลเด้น บอย" (Golden Boy) หลังจากนั้น จึงได้เบนเข็มมาชกมวยอาชีพ เดอ ลา โฮยา มีจุดเด่นตรงที่สายตาดี มีความเร็วหมัดที่ไวมาก และประกอบด้วยเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี สามารถเรียกคนดูในกลุ่มที่ไม่ใช่แฟนมวยให้มาสนใจได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สร้างชื่อเสียงให้ เดอ ลา โฮยา ในระยะเวลาไม่นาน โดยที่ เดอ ลาโฮยา จึงความหวังไว้ว่าจะเป็นแชมป์โลก 6 รุ่น คนแรกของโลกให้ได้

ไฟล์:DelaChavFP.jpg
โปสเตอร์โปรโมทการชกกับชาเวซครั้งแรก ในชื่อศึก "The Ultimate Glory"

เดอ ลา โฮยา ได้แชมป์ครั้งแรก โดยได้แชมป์ในรุ่นจูเนีบร์ไลท์เวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ในปี พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) และเป็นแชมป์ในรุ่นไลท์เวท ของทั้งองค์กรมวยโลก (WBO) และสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) จากนั้นในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) เดอ ลา โฮยา จึงมีโอกาสได้เปิดศึกกับยอดมวยในดวงใจเขา คือ ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ" ด้วยมีเดิมพันเป็นแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์ไลท์เวท สภามวยโลก (WBC) ซึ่ง เดอ ลา โฮยา สามารถเอาชนะแตกไปได้ยกที่ 4 และสามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ในรุ่นนี้ไว้ได้ 1 ครั้ง กับ มิเกล แองเจิล กอนซาเลซ ก่อนที่จะขยับรุ่นขึ้นไปท้าชิงกับ เพอร์เนล วิเทเกอร์ ยอดนักมวยชาวอเมริกันอีกคน ในรุ่นเวลเตอร์เวท ในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ซึ่ง เดอ ลา โฮยา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้ โดยที่ฝ่ายวิเทเกอร์ไม่ยอมรับผลในการตัดสิน

เดอ ลา โฮยา ป้องกันตำแหน่งแชมป์ในรุ่นนี้ไว้ได้ 7 ครั้ง รวมถึงการเอาชนะฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ ไปได้อีกครั้ง ก่อนที่จะเดิมพันตำแหน่งแชมป์ในรุ่นนี้กับแชมป์รุ่นเดียวกันของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) กับยอดมวยชาวเปอร์โตริโก เฟลิกซ์ ทรินิแดด ในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) ซึ่งผลการชกออกมา คือ เดอ ลาโฮยา แพ้คะแนนไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ และเป็นการแพ้ครั้งแรกในชีวิตการชกมวยอาชีพของ เดอ ลา โฮยา ด้วย

จากนั้น เดอ ลา โฮยา ได้อุ่นเครื่องนี้ในรุ่นนี้ต่อไปอีก 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะเปิดศึกกับคู่ปรับเก่าที่เดอ ลา โฮยา เคยแพ้มาแล้วในแบบมวยสากลสมัครเล่น กับ ซูการ์ เชน มอสลีย์ ซึ่ง เดอ ลา โฮยา ก็แพ้คะแนนมอสลีย์ไป

ไฟล์:2006-04-27-delahoya-topper.jpg
ขณะแพ้น็อก เบอร์นาร์ด ฮอปกิ้นส์ อย่างหมดรูปในยกที่ 9

ต่อมา เดอ ลา โฮยา ได้ขยับรุ่นขึ้นมาในรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท และได้แชมป์ในรุ่นนี้ โดยชนะคะแนน ฆาเวียร์ คัสติญเลโญ นักมวยชาวสเปน ก่อนที่จะพบกับคู่ปรับเก่าเชน มอสลีย์ ที่ขยับรุ่นตามขึ้นมา และมอสลีย์ก็สามารถย้ำแค้น เอาชนะคะแนนไปได้อีก จากนั้น เดอ ลา โฮยา ได้ขยับรุ่นต่อไปอีก เป็นรุ่นที่ 6 ที่ตั้งความหวังไว้ คือ มิดเดิลเวท ได้แชมป์ในรุ่นนี้ขององค์กรมวยโลก (WBO) โยชนะคะแนนเฟลิกซ์ สตรวม นักมวยชาวเยอรมันไปแบบไม่น่าประทับใจ เพราะเดอ ลา โฮยา ช้าลงมาก อีกทั้งน้ำหนักหมัดไม่สามารถทำอะไรคู่ชกได้เลย ก่อนที่จะเปิดศึกเดิมพันตำแหน่งแชมป์รุ่นนี้กับยอดมวยของรุ่นมิดเดิลเวท ชาวอเมริกัน เบอร์นาร์ด ฮอปกิ้นส์ ซึ่ง เดอ ลา โฮยา เป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 9 แบบหมดรูป เดอ ลา โฮยา จึงลดรุ่นกลับมาชกในรุ่นเดิม และสามารถคว้าแชมป์ของ WBC (สภามวยโลก) มาได้ด้วย

การเอาชนะน็อกริคาร์โด มาร์ยอก้า นักมวยชาวนิคารากัว ไปได้ในยกที่ 6 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) และได้เสียตำแหน่งไปในการชกป้องกันครั้งแรกกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ นักมวยรุ่นน้องเจ้าของตำแหน่งแชมป์ 4 รุ่นที่ก้าวขึ้นมาทาบรัศมี โดยแพ้คะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) และในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) เดอ ลา โฮยาได้ลดน้ำหนักเพื่อมาชขกในพิกัดเวลเตอร์เวทอีกครั้งกับ แมนนี่ ปาเกียว นักมวยชาวฟิลิปปินส์ที่กล่าวกันว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ซึ่งการชกครั้งนี้เป็นการชกนอกรอบที่ได้รับความสนใจอย่างมาก และเป็น เดอ ลา โฮยา ที่จัดการชกเอง ปรากฏว่าเดอ ลา โฮยา เป็นฝ่ายแพ้น็อกไปอย่างหมดรูปในยกที่ 8

ปัจจุบัน เดอ ลา โฮยา ยังไม่แขวนนวม แม้จะผ่านจุดสูงสุดของการชกมวยมาแล้ว มีกิจการจัดการชกมวยเป็นของตนเอง คือ "โกลเด้น บอย โปรโมชั่น" (Golden Boy Promotion) โดย เดอ ลา โฮยา ทำหน้าที่เป็นโปรโมเตอร์เอง

ไฟล์:E31140pwzqs.jpg
หน้าปกอัลบั้ม

ช่วงสมัยรุ่งเรือง ออสการ์ เดอ ลา โฮยา นับได้ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของวงการมวยโลก กล้าชกกับยอดมวยโลกในรุ่นเดียวหรือใกล้เคียงกันทุกคน เป็นที่สนใจของทั้งแฟนมวยและไม่ใช่แฟนมวย ด้วยหน้าตา บุคลิกที่หล่อเหลาคล้ายดาราภาพยนตร์ ผิดกับภาพลักษณ์ของนักมวยทั่วไป จึงทำให้ ออสการ์ เดอ ลา โฮยา ได้มีโอกาสออกอัลบั้มเพลงของตัวเอง 1 อัลบั้มในชื่อเดียวกับตัว ในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) มีเพลงฮิต คือ "Run to Me" ซึ่งเป็นเพลงเก่าของบีจีส์มาร้องเป็นเพลงเอกในอัลบั้ม และอัลบั้มชุดนี้ยังมีชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในปีนั้นอีกด้วย

อนึ่ง ชื่อ ของ เดอ ลา โฮยา นั้น แท้ที่จริงแล้ว การออกเสียงที่ถูกนั้น ต้องออกว่า "เด ลา โฮยา" หรือ "เด ลา ฮอยยา" ซึ่งเป็นสำเนียงสเปน ซึ่งมีความหมายว่า "เพชร" โดยที่ เดอ ลา โฮยา มีนักมวยในดวงใจ 3 คน คือ ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ, ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, เทอร์รี่ นอร์ริส และเมื่อขึ้นเวทีถ้ามีโอกาส เดอ ลาโฮยา จะถือธงชาติ 2 ผืน คือ ธงชาติอเมริกา และธงชาติเม็กซิโก เพื่อบ่งบอกความเป็นคนของทั้งสองชาติ และเมื่อเผชิญหน้ากับคู่ชกเมื่อกรรมการอธิบายกติการก่อนชก จะไม่สบตาคู่ชก แต่จะแหงนหน้ามองเพดานตลอด

อ้างอิง

  • หนังสือ โกลเด้น บอย ออสการ์ เดอ ลา โฮยา (พ.ศ. 2540) โดย บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด