ข้ามไปเนื้อหา

พฤหัสเจ้าศาสตรา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พฤหัสเจ้าศาสตรา  
ผู้ประพันธ์การ์ธ นิกซ์
ชื่อเรื่องต้นฉบับSir Thursday
ผู้แปลแสงตะวัน
ศิลปินปกหริรักษ์ มงคลพร
ประเทศประเทศไทย
ภาษาไทย
ชุดอาณาจักรแห่งกาลเวลา
ประเภทนวนิยายแฟนตาซี, วรรณกรรมเยาวชน
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์ในเครือสำนักพิมพ์แจ่มใส
วันที่พิมพ์พ.ศ. 2550
ชนิดสื่อหนังสือปกอ่อน พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา
หน้า264 หน้า
ISBNISBN 974-94843-6-3 ข้อผิดพลาดพารามิเตอร์ใน {{ISBNT}}: invalid character
เรื่องก่อนหน้าอาณาจักรแห่งกาลเวลา ตอน พุธเพชฌฆาต 
เรื่องถัดไปอาณาจักรแห่งกาลเวลา ตอน ศุกร์รัตติกาล 

พฤหัสเจ้าศาสตรา เป็นหนังสือเล่มที่ 4 ในหนังสือชุด "อาณาจักรแห่งกาลเวลา" เป็นหนังสือประเภท วรรณกรรมนวนิยายแฟนตาซี ของการ์ธ นิกซ์ นักเขียนชาวออสเตรเลีย ปัจจุบันได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว โดยสำนักพิมพ์แจ่มใส ปัจจุบันออกจำหน่ายแล้ว 6 เล่ม อีก 5 เล่มคือ จันทร์มหันตภัย อังคารอหังการ พุธเพชฌฆาต ศุกร์รัตติกาล และเสาร์มนตรา



เนื้อเรื่องย่อ

[แก้]

หลังจากผ่านการผจญภัยที่ยาวนานในทะเลกั้นอาณาเขต อาเธอร์ เพนฮาลิกอน ช่วยเหลือลีฟได้สำเร็จและได้กลับมาประชุมกับพินัยกรรมที่ห้องกลางวันของวันจันทร์อีกครั้ง แต่ด้วยอุบายบางอย่าง ทำให้อาเธอร์ต้องกลายเป็นทหารเกณฑ์ของกองทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิก ซึ่งบัญชาการโดยเซอร์พฤหัสบดี ผู้ดูแลจอมโมโห และต้องไปเป็นทหารอยู่ในวงกตยิ่งใหญ่ถึงหนึ่งศษวรรษ พินัยกรรมบอกให้อาเธอร์ชิงกุญแจดอกที่สี่จากท่านเซอร์ เพื่อที่จะได้หลุดจากการเป็นทหารเกณฑ์ และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพแทนเซอร์พฤหัสบดี

เริ่มแรกอาเธอร์ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เขาได้รู้จักเฟรด ทองเลขนำซึ่งเคยทำงานอยู่ในบ้านเบื้องกลางมาก่อน ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดจากการล้างระหว่างหู ผ่านการฝึกที่ทรหดทรมาน สู้รบกับข้าศึกตัวร้ายจำนวนมหาศาล นิทลิ่งใหม่ซึ่งอยู่ในการควบคุมของผู้บัญชาการลึกลับที่มีแผนการขัดแย้งกับเจตจำนงของมหาสถาปนิก รวมถึงการค้นหาพินัยกรรมและชิงกุญแจจากเซอร์พฤหัสบดีจอมโมโหให้จงได้

อาเธอร์เองยังไม่สามารถกลับสู่โลกของตนได้ เนื่องจากถูกเด็กชายไร้หนัง ตัวกินวิญญาณแสนอันตรายสวมรอยแทนตัวเขา และไปปรากฏตัวบนโลก มันสามารถแพร่เชื้อราเพื่อควบคุมสิ่งมีชีวิตทุกๆ ตัวที่มันแตะต้อง อาเธอร์กลับบ้านไม่ได้เพราะปฏิกิริยาระหว่างเขากับเด็กชายไร้หนังจะระเบิดโลก ลีฟขอเสนอตัวช่วยอาเธอร์ด้วยการกลับไปยังโลกและเอาวัตถุต้นกำเนิดที่ใช้สร้างเด็กชายไร้หนังเพื่อขว้างเข้าสู่สุญญะเพื่อทำลายเด็กชายไร้หนัง นี่คือแผนร้ายของวันข้างหน้าผู้ชั่วร้ายและอกตัญญู ที่กำลังท้าทายความกล้าหาญของอาเธอร์ เพนฮาลิกอน

ตัวละครสำคัญ

[แก้]
  • เฟรด ทองเลขนำ (Fred Initial Numbers Gold)

ดูเพิ่มที่ เฟรด ทองเลขนำ

  • เด็กชายไร้หนัง (The Skinless Boy)

ดูเพิ่มที่ เด็กชายไร้หนัง

  • คุณหญิงพรีมัส (Dame Primus)

ในตอนต้นของเรื่อง หลังจากที่เธอได้ผนึกตนเข้ากับส่วนที่สามของพินัยกรรมแล้ว เธอกลายเป็นหญิงสาวสูงเจ็ดฟุตครึ่ง สวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวอ่อนทอประกายสีฟ้าเรืองรอง เธอตาโปน และมีเสียงแหบต่ำคล้ายเสียงหลงตัวเองของคาร์พ เธอได้จัดการประชุมและขอร้องให้อาเธอร์อยู่ที่บ้านต่อ แต่แล้วอาเธอร์ก็ต้องถูกเกณฑ์ทหาร

ในตอนท้ายของเรื่อง หลังจากส่วนที่สี่ของพินัยกรรมได้ผนึกกับตัวเธอ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่เกรี้ยวกราด (จากความอารมณ์ร้อนของส่วนที่สี่) สูงแปดฟุต สวมชุดสีเหลืองคล้ายของคนเป่าปี่ และโจมตีนิทลิ่งที่บุกป้อมกลางด้วยกุญแจและสายฟ้าฟาด


นายทหารสำคัญๆ ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในหนังสือ

[แก้]
  • พันเอกทราบิซอนด์ แนจ (Colonel Trabizond Nage)

พลเมืองผู้บังคับบัญชาหน่วยของกองพันที่ทำหน้าที่ป้องกันค่ายเขตแดน เขาได้รับการถ่ายทอดคำสั่งจากพราวิลซึ่งได้มาจากเซอร์พฤหัสบดีให้เปิดประตูทั้ง 4 บานและรับเอานิทลิ่งใหม่เป็นแสนๆ ตัวเข้ามาในวงกตยิ่งใหญ่ ถึงแม้เขาจะสังเกตเห็นว่าพันตรีพราวิลมีกลิ่นของการเมืองคลุ้งไปหมด แต่เขาก็มิอาจโต้แย้งคำสั่งของเซอร์พฤหัสบดีได้[1] เขาตายในการป้องกันค่ายเขตแดน[2]

  • นายพลเลพเตอร์ (General Lepter)

เป็นนายพลหญิงที่พันเอกแนจติดต่อเรื่องการปล่อยนิทลิ่งจำนวนมากเข้ามาในวงกตยิ่งใหญ่ สวมเกราะชุบทองของทูตประจำกองพัน หมวกเหล็กที่มีขนนกยาวประดับ เครื่องแบบนี้แสดงถึงตำแหน่งที่เทียบได้กับนายพลในกองบัญชาการทั้งหลาย[3]

  • ร้อยโทครอสชอว์ (Lieutenant Crosshaw)

เป็นพลเมืองที่ประจำหน้าที่อยู่ในกองทัพ เขามีหน้าที่มาพาตัวอาเธอร์ไปฝึกเป็นทหารที่ค่ายเปลี่ยนแปลง ตอนนั้นเขาเป็นนายทหารสัสดีซึ่งมาทำตามหน้าที่[4] เขาไม่ได้แจ้งเซอร์พฤหัสบดีเรื่องการเกณฑ์อาเธอร์เพราะกลัวถูกทำร้ายเหมือนคนอื่นๆ ที่ทำให้ท่านเซอร์โกรธ เลยถูกถอนยศไปเป็นพลทหารธรรมดา[5]

  • สิบเอกเฮลฟ์ (Sergeant Helve)

เป็นนายทหารที่ประจำการอยู่ที่ค่ายเปลี่ยนแปลง สูงประมาณหกฟุตครึ่ง ไหล่กว้าง ถูกพิษของสุญญะทำให้ใบหน้ามีรอยไหม้ตั้งแต่หูซ้ายจนถึงคาง ศีรษะล้าน ถ้าเคยมีผมก็คงถูกโกนไปแล้ว เกลียดการเมืองและเป็นคนเปลี่ยนชื่อจากอาเธอร์ เป็นเรย์ เขียว เพื่อไม่ให้ทหารใหม่ๆ คนอื่นๆ รู้[6] เขาชอบโผล่มาตอนที่ทหารใหม่กำลังเดินเพื่อดุว่าให้เดินอย่างมีระเบียบ[7]

  • สิบโทแอ็กฟอร์ธ (Corporal Axeforth)

เป็นนายทหารที่ประจำการอยู่ที่ค่ายเปลี่ยนแปลง สูงประมาณหกฟุต หุ่นล่ำสัน หน้าตาผิดรูปเพราะแผลเป็นจากสุญญะ หูและจมูกทั้งสองข้างโดนสุญญะละลายไปด้วย จึงใส่หูไม้และจมูกเงินแทนที่เหมือนใช้กาวติด ใส่เครื่องแบบสีแดง บนแขนเสื้อมีแถบสีทองสองแถบ อาเธอร์พบเขากำลังสอนทหารใหม่ใช้เตารีดแยกส่วน[8]

  • ร้อยโทคอร์บี้ (Lieutenant Corbie)

เป็นนายทหารประจำหน่วยพลตระเวนชายแดน เขาเกลียดการเมือง มีรอยแผลสุญญะอยู่บนใบหน้าและมือ ปรากฏครั้งแรกที่ค่ายเขตแดน[9] หลังจากกองกำลังนิทลิ่งใหม่เข้ายึดค่ายได้สำเร็จ เขาก็หลบหนีมาพร้อมกับนายทหารอีกคน ในอีกหกสัปดาห์ต่อมา พวกเขาพบการขนเดือยสุญญะที่จะมุ่งหน้าไปยังช่อง 500/500 หลังพระอาทิตย์ตกดิน [2]

  • พันเอกฮูวิติ (Colonel Huwiti)

เป็นนายทหารที่เดินทางมาอย่างรวดเร็วเพื่อแจ้งแผนการรบกับพวกนิทลิ่งใหม่ที่พยายามจะบุกค่ายเปลี่ยนแปลง[10] เป็นผู้แจ้งว่าอาเธอร์กับเฟรดผ่านการฝึกที่ค่ายเปลี่ยนแปลงแล้ว แล้วพาอาเธอร์ไปเปลี่ยนชุดเป็นพลทหาร กบญ.[11]

  • สิบโทเออร์มิงค์ (Corporal Urmink)

ผู้บังคับบัญชาหมวดทหารใหม่หมวดหนึ่ง เป็นผู้ที่สังเกตได้ว่านิทลิ่งใหม่มีความคล้ายพลเมืองมากผิดปกติ และได้อธิบายเรื่องนี้กับอาเธอร์และเฟรด[12]

  • สิบเอกอัศวินเทอร์ซ็อค (Troop Sergeant Terzok)

เป็นนายทหารประจำกองทัพพื้นเมือง มีไหล่แคบมาก สวมหนวดปลอมที่อาเธอร์เชื่อว่าทำจากลวดและแทงเป็นแนวตั้งฉากกับจมูกอย่างที่ไม่มีหนวดที่ไหนทำได้ เขามาสอนการขี่อสินธพให้อาเธอร์กับเฟรด[13]

  • ร้อยโทอัศวินจาร์โรว (Troop Lieutenant Jarrow)

เป็นนายทหารประจำกองทัพพื้นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดในเรื่อง และเป็นทหารที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นทหารโดยเฉพาะ เขามาพาอาเธอร์กับเฟรดขี่อสินธพจากค่ายเปลี่ยนแปลงไปยังป้อมกลาง[14]

  • ร้อยเอกดรูรี่ (Captain Drury)

เป็นทหารที่ประจำการอยู่ใน กบญ. เขาเป็นคนที่รู้วิธีการใช้โทรศัพท์ดีที่สุด

  • ร้อยเอกเฟอรุค (Captain Ferouk)

เป็นผู้บังคับบัญชาของร้อยโทคอร์บี้ ประจำอยู่ที่ค่ายหอคอยขาว[15]

  • พันตรีสคาแรทท์ (Major Scaratt)

เป็นเพื่อนของพันเอกแนจ ประจำเหล่าทหารปืนใหญ่[15]

  • พันเอกเรพตัน (Colonel Repton)

เป็นเพื่อนของพันเอกแนจ ประจำการอยู่ที่ กบญ.[15]

  • พันตรีพราวิล (Major Pravuil)

เป็นผู้ส่งข่าวมาจาก กบญ.สวมเสื้อนอกสีแดงกระดุมทอง สวมหมวกสีดำถือไม้เท้า[16] เป็นคนๆ เดียวกับพราวิลในจันทร์มหันตภัย ในสายตาของร้อยโทคอร์บี้ พราวิลเป็นนายทหารที่ไม่เหมือนคนอื่น มีกลิ่นของการเมืองที่บ่งบอกว่าได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษจากบ้านเบื้องบน[2]

สถานที่สำคัญ

[แก้]

วงกตยิ่งใหญ่

[แก้]

ดูเพิ่มที่ วงกตยิ่งใหญ่

กองบัญชาการ

[แก้]

หรือ ป้อมกลาง (The Citadel) เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการทหารในวงกตยิ่งใหญ่ อันเป็นที่อยู่ของเซอร์พฤหัสบดี มันตั้งอยู่ในตำแหน่งที่คงที่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวงกตยิ่งใหญ่ มีแกนเป็นป้อมปราการ และคูรูปครึ่งวงกลมซ้อนกันสี่ชั้น ตามกำแพงและเชิงเทินต่างๆ ติดตั้ง ปืนใหญ่ และ ปืนคาบศิลา ทางเข้าป้อมถูกป้องกันด้วยเครื่องยิงลูกไฟ ภายในวงชั้นที่สามคิอป้อมกลางชั้นใน และค่ายดวงดาว และมีเนินดินสำหรับปืนใหญ่ขนาดใหญ่ 16 กระบอก ขนาดกลาง 32 กระบอก และขนาดเล็กหรือซัคเกอร์ 72 กระบอก นอกจากนั้นยังมีแนวป้องกันน้ำตะวันออก ซึงเป็นตำแหน่งคงที่อีกแห่งหนึ่ง ห้องที่ปรากฏอยู่ในหนังสือมีดังนี้

  • ห้องรับรองของจอมพลยามเที่ยง

เป็นห้องสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ภายในศูนย์บัญชาการของจอมพลยามเที่ยง มีขนาดเล็กกว่าห้องประชุมในห้องกลางวันของวันจันทร์ พื้นเป็นไม้ขัดเงา มีโต๊ะทำงานที่มีขาที่ค่อนข้างบอบบางตั้งอยู่มุมหนึ่ง มีฉากกั้นชักเงาสีดำซึ่งมีแผนที่ติดอยู่ บนกำแพงมีอาวุธมากมาย มีหัวสัตว์ประหลาดที่ดูคล้ายปลาปิรันย่ายาวสามสิบฟุตประดับอยู่บนกำแพงด้วยเช่นกัน

  • ห้องทำงานของจอมพลยามเที่ยง

มีขนาด "เล็กจนน่าแปลกใจ" มีความกว้างเพียง 30 ฟุต และยาวเพียง 50 ฟุตเท่านั้น ในสายตาของอาเธอร์ดูเหมือนห้องเก็บอาวุธมากกว่าห้องทำงาน เพราะผนังทุกด้านตกแต่งด้วยอาวุธ มีภาพวาดและภาพพิมพ์ฉากสงคราม ซึ่งมีรูปของยามเที่ยงอยู่ทุกภาพ กลางห้องมีโต๊ะไม้มะฮอกกานีตัวใหญ่ตั้งอยู่บนฐานสามฐาน บนโต๊ะมีเพียงคทาจอมพลเลี่ยมทองและงาช้างวางอยู่

  • ห้องเก็บอาวุธ

อยู่ภายในถ้าที่ขุดจากหินใต้ป้อมดวงดาว มีอาวุธและเกราะราวแล้วราวเล่าเรียงกันเป็นแถวยาวอย่างน้อยก็ร้อยหลา มีอาวุธทุกอย่างเตรียมพร้อม

  • ห้องยุทธการของเซอร์พฤหัสบดี

เป็นห้องวงกลม มีหลังคาโค้งเป็นโดม ตอนที่อาเธอร์กับเซอร์พฤหัสบดีโผล่พรวดเข้ามานั้น เต็มไปด้วยทหารจากกรมต่างๆ มากมาย ทั้งนายทหารจากกองบัญชาการ (เครื่องแบบสีแดง) และนายทหารจากกองพลตระเวนชายแดน (เครื่องแบบสีเขียว) ในศุกร์รัตติกาล ภายหลังจากที่อาเธอร์อ้างสิทธิ์แล้ว เขาตื่นขึ้นมาและมาพบคุณหญิงพรีมัสที่นี่ มีโต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ซึ่งใช้บอกรายละเอียดของแต่ละแห่งในวงกต

  • ห้องนอนของเซอร์พฤหัสบดี

เป็นห้องนอนที่กว้างใหญ่มาก ปูพรมสีแดงส้มจากเปลวไฟที่ทอเป็นลายฉากการรบกับพวกนิทลิ่ง มีเตียงสี่เสาทำจากไม้มะฮอกกานี เสาทั้งสี่ต้นสลักลวดลายของฉากการรบ ผ้าห่มเป็นผ้าซาตินผืนหนา มีเก้าอี้นวมหนานุ่มกะไหล่ทองหลายตัว มีอ่างล้างหน้าเป็นอ่างทองคำแท้และผ้าขนหนูฟูนุ่มหลายผืน รวมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินสำหรับใส่เครื่องแบบและเครื่องเคียงของแต่ละกองร้อย กองพัน และกรมในกองทัพ

ค่ายเปลี่ยนแปลง

[แก้]

ค่ายเปลี่ยนแปลง (Fort Tranformation) คือค่ายที่ทำหน้าที่รับทหารเกณฑ์ใหม่เข้ามาฝึกในกองทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิก อันเป็นตำแหน่งคงที่อีกแห่งหนึ่ง เป็นกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าหากไม่เต็มใจหรือขัดขืนการเข้ารับการฝึก ก็จะถูกเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นห่อของขนาดเล็ก หุ้มกระดาษสีน้ำตาลและผูกเชือก ห้อง อาคารต่างๆ ที่ปรากฏในหนังสือมีดังนี้

  • โรงนอนเขตเอ (Barracks Block A)

เป็นสถานที่เรียน พักผ่อน และนอนของทหารใหม่หมวดที่สอง ซึ่งควบคุมด้วยสิบโทแอ๊กฟอร์ธ มีขนาดใหญ่ประมาณสนามฟุตบอล เพดานอยู่สูงขึ้นไปอีก 20 ฟุต มีหน้าต่างอยู่ทุกฝั่ง แต่ทุกบานถูกปิด มีตะเกียงเจ้าพายุดวงใหญ่ประมาณยี่สิบดวงแขวนลงมาจากขื่อเป็นแหล่งกำเนิดแสง ด้านหนึ่งของห้องมีเตียงผ้าใบประมาณร้อยเตียงและตู้เสื้อผ้าไม้ใบใหญ่ประจำเตียงเตียงละ 1 ใบ อีกฝั่งหนึ่งเปิดโล่ง มีราวประมาณสามสิบราวเรียงอยู่ตามแถว ราวสูงสิบฟุต ยาว 30 ฟุต มีอาวุธและเกราะทุกชนิดแขวนอยู่เต็ม[17]

  • ที่ทำการไปรษณีย์ประจำค่าย (Port Post Office)

เป็นอาคารอีกแห่งหนึ่งภายในค่ายเปลี่ยนแปลง ภายในใหญ่กว่าภายนอก มีเพียงเคาน์เตอร์ไม้ยาวที่มีกระดิ่งอยู่ข้างบนตัวเดียว ควบคุมโดยกองไปรษณีย์หน่วยเสบียง มักจะถูกปิดอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นเมื่อถึงกำหนดรับจดหมาย[18]

ห้องน้ำรวม

[แก้]

เป็นอาคารประหลาดที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน แต่อยู่ในวงกตแน่นอน เพราะพระจันทร์มีสีเขียว หลังคาเปิดโล่ง ยาวสุดลูกหูลูกตา มีอ่างล้างมือนับร้อยเรียงเป็นแถวแต่ไม่มีก๊อกน้ำ เป็นที่สำหรับโกนหนวด ล้างมือล้างหน้าของทหาร โดยมีทางประหลาดเชื่อมแต่ละที่ในวงกตยิ่งใหญ่มาที่นี่ ทหารหมวดเดียวกันจะไม่มีตัวตนในสายตาของหมวดอื่น ดังนั้นจึงสามารถเดินทะลุร่างกายของทหารหมวดอื่นไปได้[19]

โรงอาหารรวม

[แก้]

คล้ายกับห้องน้ำรวม คือเป็นที่รวมตัวของทหารจากหน่วยต่างๆ ซึ่งเดินทางมารับประทานอาหารผ่านทางประหลาด มีเพดานสูงขึ้นไปประมาณ 50-60 ฟุต มีม้านั่งยาวหลายตัว ประจำโต๊ะของแต่ละหมวด[20]


คำวิจารณ์

[แก้]
  • "ป้อมปราการโบราณ กลยุทธ์ทางทหาร กับ 'อสินธพ' และ 'นิทลิ่งใหม่' ที่มีความเป็นไซ-ไฟยิ่ง..."

- ชิลเดรนลิทเทอเรเจอร์

  • "หนังสือของนิกซ์เป็นหนึ่งในวรรณกรรมแฟนตาซีรุ่นใหม่ที่มีเรื่องราวซับซ้อนซ่อนเงื่อน เขียนดี แอ็คชั่นแน่น มีตัวละครที่ชวนจดจำ..."

- VOYA

  • "เช่นเดียวกับสามเล่มก่อน นิกซ์เน้นการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดและการถูกหลอกอยู่เสมอ ถ้าอ่านดี ผู้อ่านจะค่อยๆ เข้าใจเรื่องเป็นตอนๆ"

- อลัน รีวิว

  • "การทำให้ผู้อ่านติดใจเพียงแค่พลิกหนังสือ คงไม่สามารถหาใครเทียบ (การ์ธ) นิกซ์ ที่สามารถทำให้ผู้อ่านเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจน หนังสือชุดนี้ดำเนินเรื่องได้อย่างต่อเนื่อง มีตัวละครที่ชวนคล้อยตาม และแอ็คชั่นที่น่าเสียวไส้..."

- สคูลไลบรารี่จัวแนล

อ้างอิง

[แก้]
  1. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 7-16
  2. 2.0 2.1 2.2 พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 123
  3. พฤหัสเจ้าศาสตรรา หน้า 11-12
  4. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 60
  5. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 202
  6. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 75-77
  7. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 93
  8. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 80
  9. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 10
  10. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 133
  11. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 163
  12. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 148
  13. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 163-164
  14. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 166
  15. 15.0 15.1 15.2 พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 14
  16. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 8
  17. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 79
  18. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 150
  19. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 107-108
  20. พฤหัสเจ้าศาสตรา หน้า 152