ข้ามไปเนื้อหา

ตำรวจติดอาวุธประชาชน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน
中国人民武装警察部队
จงกั๋วเหรินหมินอู่จวงจิ่งฉาปู้ตุ้ย
เครื่องหมายแขนไหล่
เครื่องหมายเฮลิคอปเตอร์
ตราสัญลักษณ์
ธงประจำกองกำลัง
ชื่อทางการ武警部队 (Wǔjǐng Bùduì; "กองกำลังตำรวจติดอาวุธ")
คำขวัญรับใช้ประชาชนด้วยความเต็มใจ
ข้อมูลองค์กร
ก่อตั้ง19 มิถุนายน พ.ศ. 2525; 42 ปีก่อน
หน่วยงานก่อนหน้า
  • กองกำลังความมั่นคงสาธารณะประชาชนจีน (2492–93)
  • กองกำลังความมั่นคงสาธารณะ (2493–2525)
เจ้าหน้าที่1,500,000 นาย
สภาพบุคคลองค์กรกึ่งทหาร, องค์กรบังคับใช้กฎหมาย
โครงสร้างเขตอำนาจ
หน่วยงานแห่งชาติ
(เขตอำนาจในการปฏิบัติการ)
จีน
เขตอำนาจในการปฏิบัติการจีน
เขตอำนาจตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน
ส่วนปกครองคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง
บัญญัติตราสาร
  • กฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยกองทัพประชาชน
เขตอำนาจเฉพาะทาง
  • กองกำลังกึ่งทหาร การปราบปรามความไม่สงบ และการควบคุมจลาจล
สำนักงานใหญ่เขตไห่เตี้ยน กรุงปักกิ่ง

ผู้บริหารหน่วยงาน
หน่วยงานปกครองคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง
เว็บไซต์
chinamil.com.cn
กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน
อักษรจีนตัวย่อ中国人民武装警察部队
อักษรจีนตัวเต็ม中國人民武裝警察部隊
ตำรวจติดอาวุธประชาชน
อักษรจีนตัวย่อ人民武装警察
อักษรจีนตัวเต็ม人民武裝警察
ตำรวจติดอาวุธจีน
อักษรจีนตัวย่อ中国武警
อักษรจีนตัวเต็ม中國武警
Short form
อักษรจีนตัวย่อ武警[部队]
อักษรจีนตัวเต็ม武警[部隊]
ความหมายตามตัวอักษรตำรวจติดอาวุธ [กองกำลัง]

กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน (จีน: 中国人民武装警察部队; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Wǔzhuāng Jǐngchá Bùduì; อังกฤษ: People's Armed Police; PAP) เป็นองค์กรกองกำลังกึ่งทหารของจีน[1] : 121  มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคงภายใน การปราบจลาจล การต่อต้านการก่อการร้าย การบรรเทาสาธารณภัย การบังคับใช้กฎหมาย และการคุ้มครองสิทธิทางทะเลเป็นหลัก[2] รวมถึงการให้การสนับสนุนกองทัพบกกองทัพปลดปล่อยประชาชนในยามเกิดสงคราม[3]: 87 

ตำรวจติดอาวุธประชาชนเป็นกองกำลังกึ่งทหารพิเศษที่ขึ้นตรงต่อคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ต่างจากตำรวจประชาชน (จีน: 人民警察; พินอิน: Rénmín Jǐngchá) เจ้าหน้าที่และทหารขององค์กรจะสวมเครื่องแบบสีเขียวมะกอกเข้ม ซึ่งแตกต่างจากเครื่องแบบสีเขียวต้นสนของกองทัพปลดปล่อยประชาชน หรือเครื่องแบบสีน้ำเงินและสีดำของตำรวจประชาชน

มีการประเมินว่าตำรวจติดอาวุธประชาชนมีกำลังทหารทั้งหมด 1.5 ล้านนาย องค์กรปัจจุบันจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 แต่กองกำลังรักษาความปลอดภัยที่คล้ายกันได้ดำเนินการมาก่อนแล้วนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศในปี พ.ศ. 2492

ในยุคเหมา ตํารวจติดอาวุธประชาชนอดีตคือกองกําลังความมั่นคงสาธารณะประชาชนจีน สังกัดกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ต่อมาคือกองกําลังความมั่นคงสาธารณะ สังกัดกองทัพปลดปล่อยประชาชน[4] นักวิชาการทั้งในจีนและต่างประเทศต่างเปรียบเทียบตำรวจติดอาวุธประชาชนกับสารวัตรทหารของหลายประเทศ ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือสารวัตรทหารฝรั่งเศส[5] แต่แรงบันดาลใจหลักของการจัดตั้งและการดําเนินงานของตํารวจติดอาวุธประชาชนมาจากกองกำลังภายในของสหภาพโซเวียต และกองกำลังกึ่งทหารในกลุ่มตะวันออก เช่น ตำรวจประชาชนของเยอรมนีตะวันออก ซึ่งปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมการทหาร และความคิดที่เฉพาะเจาะจงของผู้นําพรรคคอมมิวนิสต์จีน[6]

ประวัติ

[แก้]

ภารกิจและการปฏิบัติการ

[แก้]

โครงสร้าง

[แก้]

การศึกษา

[แก้]

กองกำลังเคลื่อนที่

[แก้]

กองกำลังภายใน

[แก้]

กองกำลังชายแดน

[แก้]

หน่วยยามฝั่ง

[แก้]

หน่วยตำรวจพิเศษ

[แก้]

การสื่อสาร

[แก้]

ยุทธภัณฑ์

[แก้]

ชั้นยศและเครื่องอิสริยาภรณ์ 

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Sun, Ivan Y.; Wu, Yuning (December 2009). "The Role of the People's Armed Police in Chinese Policing". Asian Journal of Criminology (ภาษาอังกฤษ). 4 (2): 107–128. doi:10.1007/s11417-008-9059-y. ISSN 1871-0131.
  2. "Top legislature passes armed police law". China Daily. 2009-08-27. สืบค้นเมื่อ 2019-10-04.
  3. Blasko, Dennis J. (2006). The Chinese Army today : tradition and transformation for the 21st century (2nd ed.). London: Routledge. ISBN 0415770025. OCLC 68694731.
  4. Xia, Mingxing; Zhang, Ning; Zhu, Xiongnan (16 August 2017). "毛泽东关心武警部队早期建设纪事" [Mao Zedong cares about the early construction of the armed police force]. People's Daily Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 December 2017. สืบค้นเมื่อ 23 June 2019.
  5. Bao Xiaoyan and Zhang Tingyu: "Comparison of the Leadership System of the Armed Police Force and the French Gendarmerie", in "Journal of the Armed Police Command Academy" 2010, Issue 5
  6. Xia Yong, Gendarmerie as a Law Enforcement Force: Type Comparison and Enlightenment, "Rules of Law Research", 2016, Issue 3, page 110