ข้ามไปเนื้อหา

ตำรวจติดอาวุธประชาชน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน
ธง
(ตั้งแต่ 10 มกราคม ค.ศ. 2018)
ตราสัญลักษณ์
(ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2021)[a]
เครื่องหมายแขนไหล่
ชื่อทางการ武警部队 (Wǔjǐng Bùduì; "กองกำลังตำรวจติดอาวุธ")
อักษรย่อตตป. (PAP; "ตำรวจติดอาวุธประชาชน")
กตตจ. (CAPF; "กองกำลังตำรวจติดอาวุธจีน") (ชื่อย่อเดิม)
อู๋จิ่ง (武警; Wǔjǐng; "ตำรวจติดอาวุธ") หรือ WJ ตามป้ายทะเบียนรถ
คำขวัญ为人民服务
(รับใช้ประชาชน)
ข้อมูลองค์กร
ก่อตั้ง19 มิถุนายน 1982; 42 ปีก่อน (1982-06-19)
เจ้าหน้าที่1.5 ล้าน
โครงสร้างเขตอำนาจ
หน่วยงานแห่งชาติ
(เขตอำนาจในการปฏิบัติการ)
จีน
เขตอำนาจในการปฏิบัติการจีน
เขตอำนาจตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน
ส่วนปกครองคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง
บัญญัติตราสาร
  • 《中华人民共和国人民武装警察法》 (กฎหมายตำรวจติดอาวุธประชาชนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน)
สำนักงานใหญ่เขตไห่เตี้ยน ปักกิ่ง

ผู้บริหารหน่วยงาน
หน่วยงานปกครองคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง
หน่วยงานลูก
เว็บไซต์
chinamil.com.cn
กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน
อักษรจีนตัวย่อ中国人民武装警察部队
อักษรจีนตัวเต็ม中國人民武裝警察部隊
ตำรวจติดอาวุธประชาชน
อักษรจีนตัวย่อ人民武装警察
อักษรจีนตัวเต็ม人民武裝警察
ตำรวจติดอาวุธจีน
อักษรจีนตัวย่อ中国武警
อักษรจีนตัวเต็ม中國武警
ตำรวจติดอาวุธ [กองกำลัง]
อักษรจีนตัวย่อ武警[部队]
อักษรจีนตัวเต็ม武警[部隊]

กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน (จีน: 人民武装警察) เป็นองค์กรกึ่งทหารของจีน[3]: 121  มีหน้าที่หลักในการรักษาความมั่นคงภายใน การควบคุมจลาจล การต่อต้านการก่อการร้าย การตอบสนองภัยพิบัติ การบังคับใช้กฎหมาย และการปกป้องสิทธิทางทะเล[4] รวมถึงให้การสนับสนุนกองทัพปลดปล่อยประชาชน (กปป.) ในยามสงคราม[5]: 87 

ตำรวจติดอาวุธประชาชนเป็นกองกำลังกึ่งทหารเฉพาะทางที่ขึ้นตรงต่อคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง (คทก.) ไม่เหมือนกับตำรวจประชาชนของพลเรือน เจ้าหน้าที่และทหารของ ตตป. สวมเครื่องแบบสีเขียวมะกอกเข้ม ต่างจากเครื่องแบบสีเขียวสนของกองทัพบกกองทัพปลดปล่อยประชาชน (ทบ.กปป.) หรือเครื่องแบบสีฟ้าอ่อนและสีดำของตำรวจประชาชน คาดว่า ตตป. มีกำลังรวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านนาย ก่อตั้งขึ้นในรูปแบบปัจจุบันเมื่อ ค.ศ. 1982 แต่กองกำลังความมั่นคงที่คล้ายคลึงกันก็ปฏิบัติการมาตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อ ค.ศ. 1949 ในสมัยเหมา กองกำลังก่อนหน้าของ ตตป. คือ กองกำลังความมั่นคงสาธารณะประชาชนจีน ซึ่งในช่วงแรกอยู่ภายใต้การปกครองของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และต่อมาคือ เหล่าความมั่นคงสาธารณะ ซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ กปป.[6] นักวิชาการทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติต่างเปรียบเทียบ ตตป. กับกองกำลังตำรวจกึ่งทหารในหลายประเทศ โดยที่โด่งดังที่สุดคือกองกําลังป้องกันชาติฝรั่งเศส[7] แต่แรงบันดาลใจหลักในการจัดตั้งและปฏิบัติการของ ตตป. มาจากกองกำลังภายในของสหภาพโซเวียตและกองกำลังกึ่งทหารที่เกี่ยวข้องของกลุ่มตะวันออก เช่น หน่วยแจ้งเตือนเยอรมันตะวันออก ซึ่งปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมการทหาร–การเมืองและความคิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (พคจ.) โดยเฉพาะ[8]

ประวัติศาสตร์

[แก้]

ประวัติศาสตร์ของตำรวจติดอาวุธประชาชนนั้นยาวนานเทียบเท่ากับสาธารณรัฐประชาชนจีน และต้นกำเนิดสามารถสืบย้อนกลับไปถึงกองทัพปลดปล่อยประชาชน ซึ่งมีหน้าที่ทั้งป้องกันประเทศจากการรุกรานของต่างชาติและรักษาความมั่นคงภายใน แม้กองกำลังนี้จะถูกจัดตั้งอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1982 แต่หน่วยงานที่เป็นองค์ประกอบนั้นมีรากฐานย้อนกลับไปถึง ค.ศ. 1949[9]

กองกำลังความมั่นคงสาธารณะประชาชน

[แก้]

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1949 คทก. ได้ตัดสินใจจัดตั้งกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (คม.) โดยมีหลัว รุ่ยชิง ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้งและควบคุมกองกำลังความมั่นคงสาธารณะในประเทศ[6] ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1949 หน่วยความมั่นคงและรักษาความสงบเรียบร้อยหลายหน่วยจากกองทัพแดงที่สี่ได้รวมตัวกันเป็นกองกำลังกลางของ กองกำลังความมั่นคงสาธารณะประชาชนจีน (กคป.) เพื่อป้องกันผู้นำพรรคและรัฐและรักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง[6] กองกำลังกลางทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพิธีก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชน[6] ตั้งแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. 1949 ถึงพฤษภาคม ค.ศ. 1950 กองกำลังรักษาความมั่นคงระดับภูมิภาคพร้อมด้วยกองกำลังกลางซึ่งปัจจุบันยุบไปแล้วได้ถูกควบรวมเป็นหน่วยงานภายใต้ กคป.[6]

กปค. ได้รับมอบหมายให้ดูแล กปป. และกลายมาเป็น กองกำลังความมั่นคงสาธารณะ ของ กปป. ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1950 และกลายเป็น เหล่าความมั่นคงสาธารณะของ กปป. ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1955 โดยรายงานตรงต่อคณะกรรมการการทหารส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสภากลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน[6][3] หลัว รุ่ยชิง ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการและกรรมาธิการเมืองของ กปค. ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1950 และอยู่ในวาระจนถึง ค.ศ. 1959 โดยยังคงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ กปค. ต่อไป[6][10]

ใน ค.ศ. 1960 เหล่าความมั่นคงสาธารณะได้รับการจัดตั้งเป็นกองความมั่นคงสาธารณะที่มีกำลังพล 8,200 นาย ซึ่งถูกประเมินว่ายังไม่สามารถปฏิบัติการรบระดับเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่องและเป็นอิสระได้[11]

กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน

[แก้]

ภายหลังการปรับโครงสร้างและการโอนการควบคุมระหว่าง กปป. กับ คม. ตำรวจติดอาวุธประชาชนจึงถูกจัดตั้งขึ้นในวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1982 โดยรวมตำรวจติดอาวุธ หน่วยยามชายแดน และหน่วยดับเพลิงเอาไว้ด้วยกัน[6] สำนักงานใหญ่ถูกตั้งขึ้นใน คม. ในฐานะหน่วยงานย่อย[12] การจัดตั้ง ตตป. สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการเพิ่มความเป็นมืออาชีพของหน่วยงานรักษาความมั่นคง รวมถึงการรับกำลังพลปลดประจำการจาก กปป. จำนวนมาก[13]: 228–229  ในช่วงที่เกิดความไม่สงบเพิ่มมากขึ้น[13]: 229 

ตตป. ถูกนำโดยทั้งรัฐบาลท้องถิ่นและกองกำลัง ตตป. ระดับสูง เรียกว่า "ผู้นำคู่" (双重领导) ในทางปฏิบัติ รัฐบาลท้องถิ่น (รวมถึงคณะกรรมาธิการพรรคท้องถิ่น รัฐบาลประชาชนท้องถิ่น และสำนักงานความมั่นคงสาธารณะท้องถิ่น) มีอำนาจมากกว่า อย่างไรก็ตาม มีความสับสนและช่องโหว่มากมายที่เกิดจากโครงสร้างองค์กรที่คลุมเครือนี้ 

ในช่วงกลางและปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 เจียง เจ๋อหมิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ขยายและเสริมความแข็งแกร่งของ ตตป. อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีกำลังทหารใหม่กว่า 100,000 นาย[14] เจียงชื่นชม ตตป. โดยอธิบายว่าเป็น "กำลังหลักในการรักษาความมั่นคงของรัฐและเสถียรภาพทางสังคม ตำรวจติดอาวุธประชาชนแบกรับภาระอันหนักอึ้งและน่าเกรงขาม" และได้ส่งกำลังตำรวจไปประจำการอย่างกว้างขวางในซินเจียงและทิเบต[14]

กระทั่ง ค.ศ. 2013 หน่วยยามฝั่งจีนเป็นส่วนหนึ่งของ ตตป. แล้วจึงถูกแยกและโอนไปอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและการบริหารมหาสมุทรแห่งรัฐ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 มีการประกาศว่าหน่วยยามฝั่งจะอยู่ภายใต้กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนอีกครั้งนับตั้งแต่มีการยุบการบริหารมหาสมุทรแห่งรัฐ แต่ปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระที่ขึ้นตรงต่อกองบัญชาการ ตตป.[15]

การปฏิรูป ค.ศ. 2017–2018

[แก้]

กระทั่งวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ตำรวจติดอาวุธประชาชนมีโครงสร้างการบังคับบัญชาแบบคู่ ได้แก่ คณะกรรมการการทหารส่วนกลาง (คทก.) และคณะมนตรีรัฐกิจผ่านกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (คม.)[5]: 18 

ก่อนการปฏิรูป ค.ศ. 2018 ตำรวจติดอาวุธประชาชนถูกแบ่งออกเป็น 8 เหล่า คือ รักษาดินแดน, ทองคำ, ป่าไม้, พลังงานน้ำ, ขนส่ง, ป้องกันชายแดน, ดับเพลิง และรักษาความปลอดภัย[13]: 232  เหล่ารักษาภายใน ซึ่งเป็นกำลังส่วนใหญ่ของ ตตป. อยู่ภายใต้กองบัญชาการ ตตป. และรายงานต่อคณะกรรมาธิการกลางพรรคและ คทก. (คณะกรรมการการทหารส่วนกลาง) เหล่าทองคำ, ป่าไม้, พลังงานน้ำ และขนส่ง ซึ่งเรียกรวมกันว่าเหล่าเชี่ยวชาญ อยู่ภายใต้การนำร่วมกันของกองบัญชาการ ตตป. กระทรวงของตนในคณะมนตรีรัฐกิจ[13]: 232  เหล่าป้องกันชายแดน, ดับเพลิง และรักษาชายแดน ซึ่งเรียกรวมกันว่า เหล่าความมั่นคงสาธารณะ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ[13]: 232 

อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมาย ตตป. ดำเนินการแยกจาก กปป.[5]: 18  และในด้านการดำเนินการด้านความมั่นคงสาธารณะและการสร้างขีดความสามารถที่เกี่ยวข้อง กองบัญชาการ ตตป. อยู่ภายใต้การนำและการบังคับบัญชาของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2018 การบังคับบัญชาของตำรวจติดอาวุธประชาชนถูกควบคุมโดยคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะกรรมการการทหารส่วนกลางร่วมกัน โดยไม่ขึ้นตรงต่อคณะมนตรีรัฐกิจอีกต่อไป[16]

รายงานระบุว่า การปฏิรูปดังกล่าวมีขึ้นเพื่อลดทอนอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในท้องถิ่นในการใช้หน่วย ตตป. กระทำการละเมิดหรือต่อต้านผู้นำในปักกิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังอุบัติการณ์หวัง ลี่จฺวิน ซึ่ง ตตป. ถูกปั๋ว ซีไหล เลขาธิการพรรคประจำมณฑลกล่าวหาว่าใช้อำนาจล้อมสถานกงสุลสหรัฐในฉงชิ่งหลังทะเลาะกับหวัง หัวหน้าตำรวจของฉงชิ่งในขณะนั้น ตามการปฏิรูปใน ค.ศ. 2018 ทางการท้องถิ่นต้องได้รับการอนุมัติจากส่วนกลางจึงจะสามารถส่ง ตตป. ไปได้[17]

วันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2018 ตตป. ได้รับธงใหม่ตามการออกแบบธงสาขาของ กปป. ที่มีแถบสีมะกอก 3 แถบด้านล่าง แถบสีเขียวมะกอกสามแถบหมายถึงตำรวจติดอาวุธประชาชนมีหน้าที่รับผิดชอบใน 3 ภารกิจหลักและการจัดกำลัง ได้แก่ การรักษาความมั่นคงทางการเมืองของชาติและเสถียรภาพทางสังคม การปกป้องสิทธิทางทะเลและการบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติการป้องกันประเทศ[18]

วันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2018 คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เปิดเผยแผนปฏิรูปกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน[19] ภายใต้แผนนี้ องค์ประกอบที่ไม่ใช่การสู้รบของ ตตป. ได้แก่ เหล่าทองคำ, ป่าไม้, พลังงานน้ำ, ป้องกันชายแดน, ดับเพลิง และรักษาการณ์จะถูกย้าย และหน่วยยามฝั่งจีนจะถูกรวมเข้ากับ ตตป.[20] ณ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 ตตป. กำลังดำเนินการร่วมกับคณะกรรมาธิการกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อโอนย้ายบุคลากรที่ไม่ใช่หน่วยรบเข้าสู่ราชการพลเรือน[20] เหล่าขนส่งเป็นเพียงหน่วยเดียวที่เหลืออยู่ของเหล่าเชี่ยวชาญ

กระทั่ง ค.ศ. 2018 เหล่าเชี่ยวชาญมีหน้าที่รับผิดชอบในการก่อสร้างและบำรุงรักษาทางหลวงและถนน การสำรวจแหล่งแร่ธาตุ การดับไฟป่า [21] และการก่อสร้างโครงการน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนและคันกั้นน้ำ ตลอดจนการบำรุงรักษาโครงการน้ำ[22] นอกจากนี้ ตตป. ยังได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมภารกิจกู้ภัยฉุกเฉินและบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติภายในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอาศัยเหล่าเชี่ยวชาญและเหล่าความมั่นคงสาธารณะซึ่งสามารถส่งกำลังไปประจำการล่วงหน้าระหว่างปฏิบัติการดังกล่าวได้[22]

การเปลี่ยนแปลงองค์กร

[แก้]

หลังการปฏิรูปใน ค.ศ. 2018 เหล่าเชี่ยวชาญอื่น ๆ นอกเหนือจากเหล่าขนส่งได้ถูกย้ายไปอยู่ภายใต้กระทรวงอื่น หน่วยยามฝั่งจีน (ยฝจ.) ได้รับการโอนจากคณะมนตรีรัฐกิจมาเป็นหน่วยบัญชาการของ ตตป. และเหล่าขนส่งก็มีหน่วยบางหน่วยอยู่ภายใต้กองเคลื่อนที่[21]: 15 

เหล่าป้องกันชายแดนและเหล่ารักษาดินแดนถูกควบคุมโดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เหล่าดับเพลิงและป่าไม้ถูกรวมเข้ากับกรมดับเพลิงของ คม. และได้จัดระเบียบใหม่เป็นกองดับเพลิงและกู้ภัยจีน และถูกย้ายไปอยู่ภายใต้กระทรวงจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน เหล่าทองคำและเหล่าพลังงานน้ำได้รับการเปลี่ยนเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงต่าง ๆ ของคณะมนตรีรัฐกิจที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และบริษัท China National Gold Group Corporation และบริษัท China Aneng Construction Corporation ตามลำดับ)[21]: 15 

ลำดับเวลา

[แก้]

นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนใน ค.ศ. 1949 กองกำลังกึ่งทหารรักษาความมั่นคงสาธารณะได้รับการปรับโครงสร้างหลายครั้ง ชื่อเรียกปัจจุบันตั้งแต่ ค.ศ. 1982 คือ ตำรวจติดอาวุธประชาชน และเริ่มใช้ครั้งแรกระหว่าง ค.ศ. 1959 ถึง 1963[3][23]

  • ค.ศ. 1949–1950: กองกำลังความมั่นคงสาธารณะประชาชนจีน ภายใต้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (คม.)
  • ค.ศ. 1950–1955: กองกำลังความมั่นคงสาธารณะ กองทัพปลดปล่อยประชาชน (กปป.)
  • ค.ศ. 1955–1959: เหล่าความมั่นคงสาธารณะ กองทัพปลดปล่อยประชาชน
  • ค.ศ. 1959–1963: ตำรวจติดอาวุธประชาชน ภายใต้การนำร่วมกันของ คม. และ กปป.
  • ค.ศ. 1963–1966: กองกำลังความมั่นคงสาธารณะประชาชนจีน ภายใต้การนำร่วมกันของ คม. และ กปป.
  • ค.ศ. 1966–1982: หน่วยป้องกันภายในของ กปป. ถูกรวมเข้าใน กปป. ในโครงสร้างแบบบูรณาการ ใน ค.ศ. 1971 และ 1973 หน่วยบางส่วนถูกโอนไปยัง คม.
  • ค.ศ. 1982–ปัจจุบัน: ตำรวจติดอาวุธประชาชน (ตตป.)

ภารกิจและการปฏิบัติการ

[แก้]
ตำรวจติดอาวุธประชาชนเฝ้ายามหน้าเทียนอันเหมิน

ตำรวจติดอาวุธประชาชนได้รับการควบคุมอย่างเป็นทางการโดยกฎหมายตำรวจติดอาวุธประชาชนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (中华人民共和国人民武装警察法) ซึ่งนำมาใช้และมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2009[24]

ภารกิจหลักของตำรวจติดอาวุธประชาชนคือการรักษาความมั่นคงภายใน กฎหมายฉบับแรกว่าด้วยตำรวจติดอาวุธประชาชน ซึ่งก็คือกฎหมายว่าด้วยกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน (PAPF) ได้รับการผ่านในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 โดยให้อำนาจตามกฎหมายในการตอบสนองต่อการจลาจล การโจมตีของผู้ก่อการร้าย หรือเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ[4][25] หน่วยดังกล่าวทำหน้าที่เฝ้ารักษาความปลอดภัยอาคารของรัฐบาลทุกระดับ (รวมถึงองค์กรของพรรคและรัฐ สถานทูตและสถานกงสุลต่างประเทศ) ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับบริษัทสาธารณะและงานสาธารณะสำคัญ ๆ ตลอดจนต่อต้านการก่อการร้ายและการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินสาธารณะ[26] บางหน่วยทำหน้าที่เฝ้ายามในเรือนจำพลเรือนและจัดหาเพชฌฆาตให้กับรัฐ ตตป. ยังมีหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายเชิงยุทธวิธี (CT) เช่น หน่วยคอมมานโดสโนว์วูล์ฟ (SWCU) และหน่วยตำรวจพิเศษ (SPU) ต่าง ๆ[27]

ในระบบตำรวจของจีน ตำรวจติดอาวุธประชาชนให้ความสำคัญกับการจัดการการประท้วงที่เรียกกันว่า "อุบัติการณ์มวลชน" และการปกป้องสถานที่และงานสำคัญ ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสาธารณะให้ความสำคัญกับการจัดการกับอาชญากรรมและปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน[3]: 119  ตำรวจติดอาวุธประชาชนช่วยเหลือตำรวจประจำการในการปฏิบัติการเมื่อคาดว่าจะมีการต่อต้านด้วยความรุนแรง ในการปิดกั้นถนนและการปกป้องสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม ตำรวจติดอาวุธประชาชนยังมีส่วนร่วมในการรณรงค์ปราบปรามอาชญากรรมด้วย ในการดำเนินกิจกรรมการบำรุงรักษา ตำรวจติดอาวุธประชาชนจะใช้การลาดตระเวนป้องกันภายใต้การนำของหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะ และบางครั้งอาจร่วมกับหน่วยงานเหล่านี้ด้วย เมื่อต้องจัดการกับเหตุการณ์ที่มีผู้ชุมนุมจำนวนมาก กิจกรรมของกลุ่มอาชญากร และสถานการณ์เสี่ยงอื่น ๆ ความรับผิดชอบจะเปลี่ยนไปที่ตำรวจติดอาวุธประชาชน อย่างไรก็ตาม ตำรวจติดอาวุธประชาชนก็ยังมีการลาดตระเวนเฉพาะกิจด้วย[3]: 123–125 

ตตป. มีทั้งหน่วยทหารราบยานยนต์ขนาดกองพลและหน่วยทหารราบยานยนต์เบาเคลื่อนที่เร็ว หน่วยเหล่านี้ได้รับมอบหมายให้ตอบสนองต่อการก่อกบฏติดอาวุธที่อาจเกิดขึ้นโดยทหาร กปป. ในยามสงคราม ตตป. สามารถทำหน้าที่เป็นทหารราบเบาที่สนับสนุนกองทัพบกในภารกิจป้องกันท้องถิ่นและสนับสนุนกองทัพเรือในการปฏิบัติการทางเรือ[5]: 87 

การปฏิบัติการระหว่างประเทศ

[แก้]

แม้ตำรวจติดอาวุธประชาชนจะมีหน้าที่หลักในการรักษาความมั่นคงภายในและดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญต่าง ๆ แต่ยังมีบทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามด้านความมั่นคงระหว่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้งในการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ มาทิเยอ ดูชาแตล ในนามของสำนักวิจัยเอเชียแห่งชาติ ได้ระบุว่าฐานะทางกฎหมายของภารกิจต่างประเทศของ ตตป. มีระบุอยู่ในมาตรา 71 ของกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย ค.ศ. 2015 ตามที่ศาสตราจารย์โจว เจี้ยน แห่งมหาวิทยาลัยกองกำลังตำรวจติดอาวุธ ระบุว่าการต่อต้านการก่อการร้ายเป็นภารกิจที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ตำรวจติดอาวุธประชาชนและการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศถือเป็น "วิธีการที่ไม่สามารถทดแทนได้"[28]: 14–15 

ตำรวจติดอาวุธประชาชนส่งเจ้าหน้าที่ไปต่างประเทศเพื่อรับการฝึกอบรมหรือให้การฝึกอบรมและมีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียกลางตามข้อตกลงทวิภาคีและพหุภาคี[28]: 65  [29]: 26  [30] กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ ตตป. ยังถูกส่งไปที่สถานทูตจีนในกรุงแบกแดดและคาบูลเพื่อจุดประสงค์ในการปกป้องเจ้าหน้าที่การทูตและทรัพย์สิน[28]: 15 

ตั้งแต่ ค.ศ. 2011 ตำรวจติดอาวุธประชาชนยังได้ปฏิบัติการตามแนวแม่น้ำโขงร่วมกับกองกำลังความมั่นคงของประเทศไทย เมียนมาร์ และกัมพูชา การปฏิบัติการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปราบปรามกลุ่มอาชญากร[28]: 13 

ตั้งแต่ ค.ศ. 2014 สาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาความร่วมมือด้านความมั่นคงกับทาจิกิสถานและอัฟกานิสถานบนชายแดนอัฟกานิสถาน ใกล้กับฉนวนวาคานและในแคว้นปกครองตนเองเคอฮิสทอนีบาดัฆชอน ตำรวจติดอาวุธประชาชนเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติปราบปรามการก่อการร้ายทั้งแบบทวิภาคีและไตรภาคี (ส่วนใหญ่เป็นการลาดตระเวนในพื้นที่ห่างไกล) โดยถูกส่งไปทางใต้ของชัยมัก นอกจากนี้ ตตป. ยังจัดการฝึกอบรมให้กับกองกำลังความมั่นคงของทาจิกิสถานอีกด้วย[28]: 13, 84–87 

โครงสร้าง

[แก้]

กองบัญชาการตำรวจติดอาวุธประชาชนเป็นหน่วยงานหลักที่ควบคุมและสั่งการและบริหารหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหมด รวมถึงให้คำแนะนำแก่หน่วยงานต่าง ๆ ตตป. มีผู้บัญชาการ กรรมาธิการการเมือง และรองผู้บัญชาการและรองผู้กรรมาธิการการเมืองอีกหลายคน[22] ตตป. ยังมีแผนกที่รับผิดชอบเรื่องการขนส่งและการเมืองและแผนกเฉพาะทางอีกหลายแผนก

หลังการปรับโครงสร้างใหม่ ตำรวจติดอาวุธประชาชนประกอบด้วยกองกำลังอาณาเขต กองกำลังเคลื่อนที่ และหน่วยยามฝั่งเป็นหลัก[31]

กองบัญชาการตำรวจติดอาวุธประชาชน จัดอยู่ในระดับการบังคับบัญชายุทธบริเวณ ประกอบด้วย 5 ฝ่ายที่อยู่ภายใต้กองบัญชาการโดยตรง:[21]: 10, 32 

  • ฝ่ายเสนาธิการ (ระดับรองผู้บัญชาการยุทธบริเวณ)
    • สำนักฝึกอบรม (ระดับหัวหน้ากองพล)
    • สำนักข่าวกรอง (ระดับหัวหน้ากองพล) นำโดยจาง เสี่ยวฉี
  • ฝ่ายงานการเมือง (ระดับรองผู้บัญชาการยุทธบริเวณ): นำโดยพลโท เกา เว่ย์[32]
    • สำนักงานโฆษณาชวนเชื่อ (ระดับหัวหน้ากองพล)
    • สำนักงานบุคลากรทหารและพลเรือน (ระดับรองผู้บัญชาการยุทธบริเวณ)
  • ฝ่ายโลจิสติกส์ (ระดับหัวหน้ากองพล)
  • ฝ่ายยุทโธปกรณ์ (ระดับหัวหน้ากองพล)

เนื่องจากเป็นหน่วยบัญชาการยุทธบริเวณ ตำรวจติดอาวุธประชาชนจึงมีนายพลเป็นผู้นำ[33]

การศึกษา

[แก้]

ตำรวจติดอาวุธประชาชนมีสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง ซึ่งอาจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักฝึกอบรมของฝ่ายเสนาธิการ[21]: 32 [33]

  • โรงเรียนตำรวจติดอาวุธประชาชน (ระดับหัวหน้าเหล่า นำโดยพลตรี)
  • มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ตำรวจติดอาวุธประชาชน (ระดับหัวหน้าเหล่า นำโดยพลตรี)
  • โรงเรียนการบังคับบัญชาตำรวจติดอาวุธประชาชน (ระดับหัวหน้าเหล่า นำโดยพลตรี)
  • โรงเรียนการขนส่งตำรวจติดอาวุธประชาชน (ระดับหัวหน้าเหล่า นำโดยพลตรี)
  • โรงเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธประชาชน (ระดับรองหัวหน้าเหล่า นำโดยพลตรี)
  • โรงเรียนตำรวจพิเศษตำรวจติดอาวุธประชาชน (ระดับรองหัวหน้าเหล่า นำโดยพลตรี)

ตำรวจใหม่ของกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนนั้นได้รับการดึงมาจากกลุ่มทหารเกณฑ์ทั่วไป แต่พวกเขาได้รับการฝึกอบรมจากหน่วยฝึกขึ้นพื้นฐานของกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน[34]: 28 

ตามที่จื่อ หยาง กล่าวไว้ สภาพของระบบการศึกษาและการฝึกอบรม ณ ค.ศ. 2016 ประสบปัญหาหลายอย่างซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพการศึกษา[35]

โรงเรียนตำรวจติดอาวุธประชาชน

[แก้]

โรงเรียนตำรวจติดอาวุธประชาชนมีหน้าที่ให้การศึกษาและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่มอบหมายให้กับตำรวจติดอาวุธประชาชน รวมถึงการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001[36] ตั้งอยู่ในหลางฝาง มณฑลเหอเป่ย์ เริ่มรับสมัครนักเรียนนายร้อยใน ค.ศ.1984 เริ่มออกปริญญาตรีตั้งแต่ ค.ศ. 1997 ได้รับอนุญาตให้ออกปริญญาโทใน ค.ศ. 2003 ตามแหล่งข้อมูลใน ค.ศ. 2019 อยู่ภายใต้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ[36] โรงเรียน ตตป. เป็นหน่วยบัญชาการระดับหัวหน้าเหล่า ดังนั้นจึงมีพลตรีเป็นผู้นำ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ[21]: 32 [33] ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันทุกคนจะได้รับยศร้อยโทใน ตตป. (เทียบเท่ากับยศร้อยตรีสำหรับผู้ที่ได้รับหน้าที่ในหน่วยยามฝั่ง)

โรงเรียนการขนส่งตำรวจติดอาวุธประชาชน

[แก้]

โรงเรียนการขนส่งตำรวจติดอาวุธประชาชนเป็นหน่วยฝึกอบรมที่มุ่งฝึกอบรมบุคลากรตำรวจติดอาวุธประชาชนในการจัดการด้านโลจิสติกส์ ตามข้อมูลของ Unit Tracker มหาวิทยาลัยได้รวมวิชาต่าง ๆ ไว้ เช่น เศรษฐศาสตร์ประยุกต์ โลจิสติกส์ทหารและกึ่งทหาร รวมถึงวิศวกรรมศาสตร์[37] เป็นหน่วยบัญชาการหัวหน้าเหล่า ดังนั้นจึงมีพลตรีเป็นผู้อำนวยการ[21]: 32 [33]

องค์กรเคลื่อนที่

[แก้]

องค์กรเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปใน ค.ศ. 2018 ประกอบด้วยสององค์กรขนาดใหญ่ที่มีหน้าที่ให้การสนับสนุนแก่พื้นที่ทั่วประเทศ หากมีความจำเป็น[21]: 12–13 

กองเคลื่อนที่ (จีน: 机动总队; พินอิน: Jīdòng Zǒngduì) ทั้งสองนี้มีโครงสร้างคล้ายกันและถือเป็นระดับหัวหน้ากองพล (จีน: 正军级; พินอิน: Zhèngjūnjí) สูงกว่าหน่วยระดับมณฑลอื่น ๆ ทั้งหมดยกเว้นหน่วยบัญชาการซินเจียงและปักกิ่งหนึ่งระดับ กำลังของกองเคลื่อนที่ส่วนใหญ่มาจากกองพล ตตป. ทั้ง 14 กอง[21]: 13  แต่ละกองเคลื่อนที่มีเสนาธิการ ฝ่ายงานการเมือง และฝ่ายสอบวินัยในระดับรองหัวหน้ากองพล[21]: 32 

กองเคลื่อนที่ เช่นเดียวกับ 14 กองพลก่อนหน้า มีหน้าที่หลักในการจัดการกับการก่อการร้าย อาชญากรรมรุนแรง จลาจล และภัยคุกคามต่อความมั่นคงสาธารณะ[13]: 233 

เนื่องจากเป็นหน่วยรบระดับหัวหน้ากองพล กองเคลื่อนที่จึงนำโดยพลตรี[33]

กองเคลื่อนที่ที่ 1

[แก้]

มีฐานอยู่ในฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย์ ทางใต้ของปักกิ่ง ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของจีน รวมถึงปักกิ่ง[38] ประกอบด้วย:[21]: 14 

กองเคลื่อนที่ที่ 2

[แก้]

มีฐานอยู่ในฝูโจว และมีหน่วยกระจุกตัวอยู่ในฝูเจี้ยนและมณฑลโดยรอบตามแนวชายฝั่ง ครอบคลุมพื้นที่จีนตะวันออกและตอนใต้[21]: 13  ประกอบด้วย:[21]: 14 

ผู้บัญชาการคนปัจจุบันคือพลตรี เฉิน หงอู่ ขณะที่กรรมาธิการการเมืองคือพลตรี หยาง เจิ้งกั๋ว

กองกำลังภายใน

[แก้]

กองกำลังชายแดน

[แก้]

หน่วยยามฝั่ง

[แก้]

หน่วยตำรวจพิเศษ

[แก้]

การสื่อสาร

[แก้]

ยุทธภัณฑ์

[แก้]

ชั้นยศและเครื่องอิสริยาภรณ์ 

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "武警部队徽将于8月1日启用". People's Liberation Army Daily Press. Ministry of National Defense of the People's Republic of China. 2021-07-29. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-07-29. สืบค้นเมื่อ 2021-07-29.
  2. China Military Web. "解放军军旗、军徽和武警部队旗、徽简史". People's Liberation Army Daily Press. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-27. สืบค้นเมื่อ 2021-07-31 – โดยทาง QQ.com.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 Sun, Ivan Y.; Wu, Yuning (December 2009). "The Role of the People's Armed Police in Chinese Policing". Asian Journal of Criminology (ภาษาอังกฤษ). 4 (2): 107–128. doi:10.1007/s11417-008-9059-y. ISSN 1871-0131. S2CID 143891785.
  4. 4.0 4.1 "Top legislature passes armed police law". China Daily. 2009-08-27. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-08-31. สืบค้นเมื่อ 2019-10-04.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 Blasko, Dennis J. (2006). The Chinese Army today : tradition and transformation for the 21st century (2nd ed.). London: Routledge. ISBN 0415770025. OCLC 68694731.
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 6.6 6.7 Xia, Mingxing; Zhang, Ning; Zhu, Xiongnan (16 August 2017). "毛泽东关心武警部队早期建设纪事" [Mao Zedong cares about the early construction of the armed police force]. People's Daily Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 December 2017. สืบค้นเมื่อ 23 June 2019.
  7. Bao Xiaoyan and Zhang Tingyu: "Comparison of the Leadership System of the Armed Police Force and the French Gendarmerie", in "Journal of the Armed Police Command Academy" 2010, Issue 5
  8. Xia Yong, Gendarmerie as a Law Enforcement Force: Type Comparison and Enlightenment, "Rules of Law Research", 2016, Issue 3, page 110
  9. Shambaugh, David L. (2002). Modernizing China's military : progress, problems, and prospects. Berkeley: University of California Press. pp. 170. ISBN 0520225074. OCLC 49225216.
  10. Chu, Fang. (1998). Gun barrel politics : party--army relations in Mao's China. Boulder, CO: Westview Press. pp. 40–41. ISBN 081333456X. OCLC 38286530.
  11. Army, United States Department of the (1960). Handbook on the Chinese Communist Army (ภาษาอังกฤษ). Washington: The Department. pp. 43–44. สืบค้นเมื่อ 2 November 2019.
  12. 张, 海华 (29 December 2017). "武警部队历史沿革 - 中国军网". 中国军网. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-29. สืบค้นเมื่อ 1 February 2023.
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 13.5 Guo, Xuezhi (2012). China's security state : philosophy, evolution, and politics. Cambridge: Cambridge University Press, Aug. ISBN 9781107688841. OCLC 874118926.
  14. 14.0 14.1 Eckholm, Erik (28 March 1999). "A Secretive Army Grows to Maintain Order in China". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2020. สืบค้นเมื่อ 25 June 2019.
  15. "China's Coast Guard is Now a Military Police Unit". The Maritime Executive (ภาษาอังกฤษ). 2018-03-21. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-15. สืบค้นเมื่อ 2019-10-04.
  16. Zhao, Lei (28 December 2017). "Command of Armed Police Force to be unified - Chinadaily.com.cn". China Daily. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2018. สืบค้นเมื่อ 26 January 2018.
  17. Zhou, Viola (28 December 2017). "Why China's armed police will only take orders from Xi's army elite". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 January 2018. สืบค้นเมื่อ 26 January 2018.
  18. "国防部新闻发言人吴谦就武警部队旗寓意答问". Ministry of National Defense of the People's Republic of China. 2018-01-10. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-04. สืบค้นเมื่อ 2018-01-10.
  19. Zi, Yang (22 March 2018). "Party plan for reform unveiled - China Daily". ECNS.cn. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2018. สืบค้นเมื่อ 21 March 2018.
  20. 20.0 20.1 Ni, Wei (2018-04-06). "武警改革的出与进:八大警种瘦身健体" [The Coming and Going of the PAP Reform: Eight Corps Slimming Down]. The Beijing News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-19. สืบค้นเมื่อ 2018-06-19.
  21. 21.00 21.01 21.02 21.03 21.04 21.05 21.06 21.07 21.08 21.09 21.10 21.11 21.12 Wuthnow, Joel (16 April 2019). China's Other Army: The People's Armed Police in an Era of Reform (PDF). Washington: Institute for National Strategic Studies. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 July 2020. สืบค้นเมื่อ 3 October 2019.
  22. 22.0 22.1 22.2 Information Office of the State Council (2006). "V. People's Armed Police Force". China's National Defense In 2006. Beijing. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2015. สืบค้นเมื่อ 22 September 2015.
  23. Lu Gengsong, China's Armed Police and Nationalization of the Police Force, Beijing Spring, September 2006
  24. "People's Armed Police Law". NPC Observer (ภาษาอังกฤษ). 17 April 2020. สืบค้นเมื่อ 18 April 2020.
  25. Wines, Michael (2009-08-27). "China Approves Law Governing Armed Police Force". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-07. สืบค้นเมื่อ 2019-10-04.
  26. "Armed Police Force". Ministry of National Defense. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 September 2015. สืบค้นเมื่อ 22 September 2015.
  27. Chatterji, Manas (2013). Cooperation for a peaceful and sustainable world. Bingley, U.K.: Emerald. p. 70. ISBN 9781781906569. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 November 2023. สืบค้นเมื่อ 2 September 2021.
  28. 28.0 28.1 28.2 28.3 28.4 Rolland, Nadège (edited by); van der Kley, Dirk; Rolland, Nadège; Duchâtel, Mathieu; Chase, Michael S.; Gunness, Kristen; Xue, Guifang (Julia); Pantucci, Raffaello; Arduino, Alessandro (September 2019). securing the belt and road initiativeChina's Evolving Military Engagement Along the Silk Roads (PDF) (ภาษาอังกฤษ). The National Bureau of Asian Research. pp. 13, 14–15, 65, 84–87. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 1 July 2020. สืบค้นเมื่อ 28 April 2020. {{cite book}}: |first1= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  29. Heath, Timothy R. (2018). China's Pursuit of Overseas Security (PDF). Santa Monica, California: RAND Corporation. p. 26. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2019. สืบค้นเมื่อ 16 October 2019.
  30. Umarov, Temur (30 March 2020). "China Looms Large in Central Asia". Carnegie Moscow Center (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 May 2020. สืบค้นเมื่อ 28 April 2020.
  31. "White paper gives overview of reshuffled armed forces - Xinhua | English.news.cn". www.xinhuanet.com. Xinhua. 24 July 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2019. สืบค้นเมื่อ 4 October 2019.
  32. Liu Zhen (15 December 2019). "China's armed police sees leadership overhaul under reform process". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). Beijing. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2020. สืบค้นเมื่อ 6 April 2020.
  33. 33.0 33.1 33.2 33.3 33.4 Allen, Kenneth (30 January 2017). "China Announces Reform of Military Ranks". Jamestown. The Jamestown Foundation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 October 2019. สืบค้นเมื่อ 13 October 2019.
  34. Blasko, Dennis J. (2012). Chinese Army today : tradition and transformation for the 21st century (2nd ed.). New York, NY: Routledge. p. 28. ISBN 9780415783217. สืบค้นเมื่อ 9 October 2019.
  35. Zi, Yang (24 March 2016). "The Chinese People's Armed Police in a Time of Armed Forces Restructuring". China Brief. The Jamestown Foundation. 16 (6). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 October 2019. สืบค้นเมื่อ 16 October 2019.
  36. 36.0 36.1 "International Law Enforcement Training Programme, MPS". www.lecamps.org.cn. 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 December 2019. สืบค้นเมื่อ 13 December 2019.
  37. "Logistics University of the People's Armed Police Force". Chinese Defence Universities Tracker (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). 7 December 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2019. สืบค้นเมื่อ 8 December 2019.
  38. Boyd, Henry; Nouwens, Meia (21 June 2019). "China's People's Armed Police: reorganized and refocused". www.iiss.org. International Institute for Strategic Studies. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 September 2019. สืบค้นเมื่อ 3 October 2019.


อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/> ที่สอดคล้องกัน