ดาวเวียง บุตรนาโค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ดาวเวียง บุตรนาโค
ชื่อท้องถิ่น
ດາວວຽງ ບຸດນາໂຄ
เกิด3 สิงหาคม พ.ศ. 2497
แขวงจำปาศักดิ์, ราชอาณาจักรลาว
เสียชีวิต6 มีนาคม พ.ศ. 2562 (64 ปี)
ประเทศลาว
อาชีพ
ภาษาภาษาลาว
สัญชาติลาว
ผลงานที่สำคัญ
  • สาวศรีเมือง
  • สาวดงโดก
  • โดยสารสายใต้
  • สาวตะเกียงน้อย
  • น้ำตาลูกผู้ชาย
รางวัลสำคัญศิลปินดีเด่นแห่งชาติลาว
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลง
ช่วงปีพ.ศ. 2528 – พ.ศ. 2562

ดาวเวียง บุตรนาโค (ลาว: ດາວວຽງ ບຸດນາໂຄ; 3 สิงหาคม พ.ศ. 2497 – 6 มีนาคม พ.ศ. 2562) เป็นนักเขียน กวี และนักแต่งเพลงลูกทุ่งลาวอันโด่งดัง และยังเป็นศิลปินแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกด้วย[1][2]

ประวัติ[แก้]

เขาเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2497 ที่เมืองโขง แขวงจำปาศักดิ์ เป็นบุตรของนายเหงี่ยม แสงราตรี และนางคำปั้น ศรีอักษร มีพี่น้องร่วมกัน 11 คน

การทำงาน[แก้]

ก่อนเข้าสู่วงการดนตรี[แก้]

เขาเริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ ศึกษาใหม่ และยังเป็นนักเขียนอีกด้วย โดยชีวิตการเป็นนักเขียนของเขาก็ไม่ราบรื่น จนเขาเริ่มเข้าสู่วงการดนตรีโดยการเป็นนักแต่งเพลงแนวลูกทุ่งและเพื่อชีวิต โดยเริ่มแต่งเพลงให้กับวงเดอะแซฟไฟร์ วงดนตรีร็อกสัญชาติลาว[3]

เข้าสู่วงการดนตรี[แก้]

จนกระทั่งวงดนตรีลูกทุ่งลาวหนุ่มโกสิน กำลังออกอัลบั้มชุดที่ 2 ดาวเวียงจึงเสนอตัวประพันธ์เพลงให้กับวงอีกด้วย[3] หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็เริ่มประพันธ์เพลงลูกทุ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมาและสร้างนักร้องลาวที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก อาทิ กิ มรกต, บุญเกิด หนูห่วง, กิดาวเพชร หนูห่วง, แดง ดวงเดือน, ไชโย โคตะมี ฯลฯ โดยตัวอย่างผลงานการประพันธ์เพลงของเขาที่ทำให้ศิลปินเหล่านี้มีชื่อเสียงได้แก่ สาวดงโดก, สาวตะเกียวน้อย, สาวศรีเมือง, หญิงคนนั้นแม่นไผ, ผู้ชายปลายแถว,กำแพงเงิน, น้ำตาลูกผู้ชาย, โดยสารสายใต้ ฯลฯ บางครั้งดาวเวียงถูกเรียกว่าเป็น ครูสลาเมืองลาว[3]

อิทธิพลต่อประเทศไทย[แก้]

ในปี พ.ศ. 2542 จินตหรา พูนลาภได้ออกผลงานเพลง น้ำตาสาววาริน ประพันธ์เนื้อร้องโดยคมเพชร พรเจริญ ซึ่งทำนองนั้นเค้าโครงมาจากเพลง สาวศรีเมือง อันเป็นผลงานการประพันธ์ของเขา[3]

ในปี พ.ศ. 2544 สลา คุณวุฒิได้นำผลงานเพลงที่มาจากการประพันธ์ของเขามาอยู่ในอัลบั้มพิเศษ รวมเพลงดังสองฝั่งโขง ขับร้องโดยไมค์ ภิรมย์พร[3]

ในปี พ.ศ. 2545 เขาได้ประพันธ์เพลง แก้มแดงแรงใจ เพื่อให้อรทัย ดาบคำ นำไปขับร้องซึ่งเพลงดังกล่าวอยู่ในอัลบั้ม ดอกหญ้าในป่าปูน อันเป็นผลงานเพลงชุดแรกของอรทัย[3][4]

ยุติบทบาทนักแต่งเพลง[แก้]

ในช่วง พ.ศ. 2551 วงการเพลงลูกทุ่งลาวเริ่มมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เริ่มมีดนตรีที่ทันสมัยและเพลงลูกทุ่งอีสานของฝั่งไทยเริ่มมาเป็นที่นิยมในลาวมากขึ้น ดาวเวียงจึงยุติบทบาทนักแต่งเพลงลูกทุ่งลาวไปในที่สุด[3] แต่ยังคงเขียนเรื่องสั้นและกวีต่อไป

ลาลับ[แก้]

เขาเสียชีวิตในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562 ด้วยโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง[5] รวมอายุได้ 64 ปี[3][6]

อ้างอิง[แก้]

  1. อาลัย “ดาวเวียง บุดนาโค” นักเขียนศิลปินแห่งชาติลาว[ลิงก์เสีย]
  2. "ຜົນງານ ຈາກປາຍປາກກາ ຂອງ ສິນລະປິນດີເດັ່ນສາຂາວັນນະກຳ ດາວວຽງ ບຸດນາໂຄ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-21. สืบค้นเมื่อ 2020-07-30.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 3.6 3.7 สิ้นครูเพลงลาว"ดาวเวียง บุดนาโค"ตำนาน "เพลงดังสองฝั่งโขง"
  4. "ต่าย อรทัย สูญเสียครูเพลงในดวงใจ อาลัยด้วยประโยคสุดซึ้ง!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-07-30.
  5. ลาวสูญเสีย ‘ดาวเวียง’ ศิลปินแห่งชาติ นักเขียน-กวี ครูเพลงชื่อดัง
  6. "ຊ໋ອກວົງການວັນນະກຳລາວເປັນຢ່າງຍິ່ງ ທີ່ໄດ້ສູນເສຍ ອາຈານ ດາວວຽງ ບຸດນາໂຄ ສີລະປິນ ນັກປະພັນດີເດັ່ນ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-30. สืบค้นเมื่อ 2020-07-30.