ข้ามไปเนื้อหา

ชู จี-ฮุน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชู จี-ฮุน
ชู จี-ฮุนในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018
เกิด (1982-05-16) 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1982 (42 ปี)
โซล เกาหลีใต้
การศึกษามหาวิทยาลัยคย็องกี
อาชีพนักแสดง นายแบบ
ปีปฏิบัติงาน2003 – ปัจจุบัน
ตัวแทนคีย์อีสต์ (เกาหลีใต้)
ยูนิเวอร์ซัล ดี (ญี่ปุ่น)
ส่วนสูง1.87 m (6 ft 1 12 in)
ชื่อเกาหลี
ฮันกึล
อาร์อาร์Ju Ji-hun
เอ็มอาร์Chu Chihun

ชู จี-ฮุน (เกาหลี: 주지훈; เกิด 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1982) เป็นนักแสดงและนายแบบชาวเกาหลีใต้[1][2] เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อปี ค.ศ. 2003 ในฐานะนายแบบกางเกงยีนส์ลีวายส์ และผลิตภัณฑ์กีฬารีบอค ได้รับความนิยมจากผลงานการแสดงเรื่องแรกในบทบาท "องค์ชายลีชิน" จากละครเรื่อง เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา เมื่อปี ค.ศ. 2006 แสดงร่วมกับ ยุน อึนเฮ นักแสดงหญิงดาวรุ่งที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้น และได้รับความนิยมในละครอีกหลายเรื่อง เช่น ทีมหมอใจเพชร (2013), หน้ากากหัวใจ (2015) และผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด (2019) รวมไปถึงในวงการภาพยนตร์ อาทิเช่น ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า ทั้งสองภาค (2017–2018) และ The Spy Gone North (2018) ที่กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลายในเกาหลีใต้[3]

ชีวิตและการงาน

[แก้]

2006–2008: เริ่มต้นอาชีพนักแสดง และประสบความสำเร็จ

[แก้]

ในปี ค.ศ. 2006 ชู จี-ฮุนก้าวเข้าสู่อาชีพนักแสดง จากการรับบท "องค์ชายรัชทายาทลีชิน" ในละครโรแมนติกคอมเมดี เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำลายสถิติเรตติ้งละครโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ด้วยค่าผู้ชมสูงถึง 28.3% ส่งผลให้เกิดความนิยมละครโทรทัศน์รวมถึงศิลปินเกาหลีทั่วทั้งทวีปเอเชีย[4][5] นอกจากนี้ยังส่งผลให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลของสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ร่วมกับยุน อึนเฮ จากละครโทรทัศน์เรื่องเดียวกันนั้นเองในช่วงปลายปี

เดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 ชู จี-ฮุน แสดงละครโทรทัศน์เรื่อง คำพิพากษาซาตาน ร่วมกับนักแสดงมากฝีมืออย่าง ออม แท-อุง และชิน มิน-อา[6] ในเดือนเดียวกันนั้นเอง เขาได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งชายยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จากงานประกาศผลรางวัลละครโทรทัศน์แห่งเอเชียครั้งที่ 1 จากผลงานเรื่อง เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา และคำพิพากษาซาตาน[7]

เขาร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตในบทบาท คิม จิน-ฮยอก จากเรื่อง หล่อ หรู ร้าย รัก (Antique) ในปี ค.ศ. 2008[8] ภายหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเชิญให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 59[9] และในปีเดียวกัน เขาได้กลับมาร่วมงานกับชิน มิน-อา อีกครั้ง ในภาพยนตร์โรแมนติก ปรุงหัวใจ สูตรเจ้าชายเย็นชา (The Naked Kitchen)[10]

2009–2011: ข่าวอื้อฉาว และการรับใช้ชาติ

[แก้]

เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 2009 เขาถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันเสพยาเสพติด พร้อมกับกลุ่มเพื่อนอีก 15 คน กลายเป็นประเด็นข่าวดังในวงการอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงของเกาหลีใต้และระดับเอเชีย ภายหลังเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2009 เขาได้สารภาพต่อศาลว่าใช้สารเสพติด เคตามีน จริง[11] และศาลได้ตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลาหกเดือน รอลงอาญา 1 ปี บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมอีก 120 ชั่วโมง และต้องจ่ายค่าปรับอีก 360,000 วอน

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 เขาได้เข้าร่วมรับราชการทหาร หลังจากครบกำหนดเวลาเข้ากรมรับใช้ชาติพอดี ด้วยการฝึกขั้นพื้นฐานเป็นเวลาห้าสัปดาห์ ตามด้วยการปฏิบัติหน้าที่กับกองกำลังสำรอง[12][13] ในช่วงเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน เขาได้ร่วมงานกับอี จุน-กี แสดงละครเพลงรำลึกถึงวันครบรอบ 60 ปีสงครามเกาหลี ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของกระทรวงกลาโหมและสมาคมโรงละครดนตรีแห่งเกาหลี จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 21–29 สิงหาคม ค.ศ. 2010 ณ โรงละครแห่งชาติ[14][15] และในที่สุด เขาได้ปลดประจำการทหารเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011[16][17]

2012–2016: กลับเข้าร่วมงานแสดงอีกครั้ง

[แก้]

ในช่วงเดือนมกราคม ค.ศ. 2011 ก่อนการปลดประจำการทหาร เขาตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมกับ คีย์อีสต์[18]

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 เขาได้กลับมาร่วมแสดงอีกครั้งในผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สามอย่าง ข้า(น้อย)นี่แหละราชา (I Am the King)[19] รวมถึงผลงานละครโทรทัศน์ เบญจดรรชนี ดนตรีแห่งรัก (Five Fingers)[20][21] ในปีเดียวกัน ปีต่อมา เขามีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่องทั้งภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ อาทิ ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี Marriage Blue และการกลับมาเล่นซีรีส์ให้กับเอ็มบีซี อีกครั้งในรอบ 7 ปีอย่าง ทีมหมอใจเพชร (Medical Top Team)[22]

ปี ค.ศ. 2014 เขามีผลงานภาพยนตร์ต่างประเทศเป็นเรื่องแรก คือเรื่อง Love Suspicion ภาพยนตร์โรแมนติกระทึกขวัญสัญชาติจีน[23] ก่อนจะมาร่วมแสดงกับ จี ซ็อง และอี กวัง-ซู ในภาพยนตร์ Confession ช่วงกลางปีเดียวกัน[24]

ปี ค.ศ. 2015 เขาได้กลับมาร่วมงานกับ มิน คยู-ด็อง ผู้กำกับจากภาพยนตร์ที่เขาเคยร่วมแสดง ในภาพยนตร์พีเรียดย้อนยุค The Treacherous[25] ในปีเดียวกัน เขายังมีผลงานละครโทรทัศน์อีกเรื่องอย่าง หน้ากากหัวใจ (Mask) แสดงร่วมกับ ซูเอ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอสบีเอส[26] ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากซีรีส์ความยาวขนาดกลาง งาน SBS Drama Awards 2015 ไปครอบครอง

ปี ค.ศ. 2016 เขาได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ทริลเลอร์อย่าง เมืองคนชั่ว (แล้วเราจะกลัวใคร) (Asura: The City of Madness) ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำไปฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต ครั้งที่ 41[27] ทั้งนี้ เขายังได้รับรางวัลนักแสดงภาพยนตร์ยอดนิยม จากงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติของเกาหลีใต้ จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนั้นเอง[28] และถูกเสนอชื่อถึงสองครั้งในสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม

2017–ปัจจุบัน: คิวทองกับผลงานภาพยนตร์

[แก้]

ในปี ค.ศ. 2017 – ค.ศ. 2018 ชู จี-ฮุน ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีใต้ฟอร์มยักษ์อย่าง ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า ทั้งสองภาค[29][30] รับบทเป็นยมทูต แฮ วอน-มัก โดยภาพยนตร์ทั้งสองภาคนี้ กวาดรายได้อย่างถล่มทลายในเกาหลีใต้ ภาคแรกสามารถทำรายได้สูงถึง 108.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ทำรายได้สูงเป็นอันดับ 3 ในเกาหลีใต้ ขณะที่ภาคสอง ซึ่งเข้าฉายในปีถัดมา ยังคงทำรายได้สูงอยู่ที่ 92.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ทำรายได้สูงเป็นอันดับ 10 ในเกาหลีใต้[31]

ปี ค.ศ. 2018 เขายังคงมีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น The Spy Gone North[32][33] และ Dark Figure of Crime[34][35] ส่งผลให้เขาชนะรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง The Spy Gone North และถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Dark Figure of Crime ในงานประกาศผลรางวัล Blue Dragon Awards อีกด้วย[36]

ปี ค.ศ. 2019 เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทผลิตภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง เน็ตฟลิกซ์ กับผลงานซีรีส์เรื่อง ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด (Kingdom) ซึ่งออกอากาศไปยังผู้ชมทั่วโลก[37][38] และได้กลับมาร่วมแสดงนำบนหน้าจอโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 4 ปี กับผลงานเรื่อง Item ออกอากาศทางเอ็มบีซี[39]

ผลงานการแสดง

[แก้]

ภาพยนตร์

[แก้]
ปี เรื่อง บทบาท
2008 หล่อ หรู ร้าย รัก (Antique) คิม จิน-ฮยอก
2009 ปรุงหัวใจ สูตรเจ้าชายเย็นชา (The Naked Kitchen) พัก ดู-เร
2012 ข้า(น้อย)นี่แหละราชา (I Am the King) เจ้าชายชุง นย็อง / ทอก-ชิล
2013 Marriage Blue คยัง-ซู
2014 Love Suspicion คัง-ฮาน
Confession อิน-ชุล
2015 The Treacherous อิม ซุง-แจ
2016 เมืองคนชั่ว (แล้วเราจะกลัวใคร) (Asura: The City of Madness) มุน ซัน-โม
2017 ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า (Along with the Gods: The Two Worlds) แฮ วอน-มัก
2018 ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า 2 (Along with the Gods: The Last 49 Days)
The Spy Gone North ผู้จัดการจอง
Dark Figure of Crime คัง แท-โอ

ละครโทรทัศน์

[แก้]
ปี เรื่อง บทบาท สถานีออกอากาศ
2006 เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา (Princess Hours) องค์รัชทายาทลีชิน เอ็มบีซี
2007 คำพิพากษาซาตาน (The Devil) โอ ซึง-ฮา เคบีเอส
2012 เบญจดรรชนี ดนตรีแห่งรัก (Five Fingers) ยู จี-โฮ เอสบีเอส
2013 ทีมหมอใจเพชร (Medical Top Team) ฮัน ซึง-แจ เอ็มบีซี
2015 หน้ากากหัวใจ (Mask) ชเว มิน-วู เอสบีเอส
2019 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด (Kingdom) : ซีซั่น 1 องค์รัชทายาทลีชาง เน็ตฟลิกซ์
Item คัง-กอน เอ็มบีซี
2020 เกมกฎหมาย (Hyena) ยุน ฮี-แจ เอสบีเอส และเน็ตฟลิกซ์
ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด (Kingdom) : ซีซั่น 2 องค์รัชทายาทลีชาง เน็ตฟลิกซ์

มิวสิกวิดีโอ

[แก้]
ปี เรื่อง ศิลปิน อ้างอิง
2012 "처연" Lowdown 30
2014 "Fxxk U" Gain feat. Bumkey [40]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Joo Ji-hoon (주지훈, Korean actor) @HanCinema". HanCinema. สืบค้นเมื่อ 9 November 2018.
  2. "주지훈 :: 네이버 인물검색". Naver. สืบค้นเมื่อ 9 November 2018.
  3. "[INTERVIEW] Ju Ji-hoon - chameleonic actor". The Korea Times. 19 September 2018.
  4. "An interview of Joo Ji-hoon from Princess Hours". MBC Global Media. 14 February 2008.
  5. "China Crowns Joo Ji-hoon 5th Most Handsome Male". The Chosun Ilbo. 24 December 2008.
  6. "'마왕' 세 주인공 신민아·엄태웅·주지훈, 신비로운 자태". The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). 5 March 2007.
  7. "Ju Ji-hoon Selected New Asian Star of 2007". KBS Global. 13 March 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-08. สืบค้นเมื่อ 2013-06-15.
  8. "Pretty boys serve up a musical dramedy". Korea JoongAng Daily. 3 April 2009.
  9. "6 Korean Films to Screen at Berlin Festival". The Chosun Ilbo. 30 January 2009. สืบค้นเมื่อ 2012-11-28.
  10. "'Kitchen' Offers Tasteful Romance". The Korea Times. 5 February 2009 – โดยทาง Hancinema.
  11. "Movie Star Booked on Drug Charges". The Chosun Ilbo. 28 April 2009. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  12. Kang, Seung-hun (14 January 2010). "Joo Ji-hoon to enter military next month". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-08. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  13. Yun, Tae-hui (2 February 2010). "Actor Joo Ji-hoon enters military". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  14. Jang, Kyung-Jin (3 August 2010). "Lee Jun-ki says "depressed about Joo Ji-hoon turning first private today" (2)". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-08. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  15. Lee, Jin-hyuk (3 August 2010). "Joo Ji-hoon attends Voyage of Life press conference". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-08. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  16. Hong, Lucia (11 November 2011). "Ju Ji-hoon to be discharged from military next week". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-08. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  17. "Actor Joo Ji-hoon salutes his fans after completing his mandatory military service in Seoul on Monday". The Chosun Ilbo. 22 November 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  18. Kim, Heidi (5 January 2011). "Actor Joo Ji-hoon signs with Bae Yong-joon agency". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-08. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  19. Lee, Jin-ho (21 July 2012). "Joo Ji Hoon Says He'll Dress Up Like a Servant If I Am the King Succeeds". enewsWorld. CJ E&M. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-10. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  20. Ho, Stewart (13 June 2012). "Joo Ji Hoon to Make Drama Comeback in Five Years; First Since His Drug Scandal". enewsWorld. CJ E&M. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2012. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
  21. Yoon, Hee-seong; Suk, Monica (13 June 2012). "Ju Ji-hoon to return to the small screen, says he is reflecting on himself". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.[ลิงก์เสีย]
  22. Hong, Grace Danbi (26 July 2013). "Ju Ji Hoon Returns to MBC After 7 Years for Medical Top Team". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 July 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-07-26.
  23. "JU Ji-hoon to Make Debut in China". Korean Film Biz Zone. 14 May 2013.
  24. Conran, Pierce (16 December 2013). "JU Ji-hoon, JI Sung and LEE Kwang-soo Team Up for New Film". Korean Film Biz Zone. สืบค้นเมื่อ 2014-05-30.
  25. "Ju Ji-hoon gambles on 'Treacherous'". Korea JoongAng Daily. 19 May 2015.
  26. Ha, Soo-jung (10 March 2015). "Joo Ji Hoon and Soo Ae Confirmed to Return to TV with Mask". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-12.
  27. Lowe, Justin (14 October 2016). "Jung Woo-sung and Hwang Jung-min star in Kim Sung-soo's South Korean gangland saga". The Hollywood Reporter.
  28. "Actors Gong Hyo-jin, Cho Jung-seok, Cho Jin-woong win top star award". Yonhap News Agency. 29 December 2016.
  29. "ALONG WITH THE GODS Filming Ends, Release Pushed to December". Korean Film Biz Zone. 27 March 2017.
  30. "Will 'Along with the Gods' create a second box office smash?". The Korea Herald. 6 July 2018.
  31. "(Yonhap Interview) Actor Ju Ji-hoon: Shooting two films simultaneously was tough but memorable". Yonhap News Agency. 27 July 2018.
  32. "HWANG Jung-min Infiltrates YOON Jong-bin's DUKE". Korean Film Biz Zone. 6 January 2017. North Korea Thriller Co-Stars LEE Sung-min, CHO Jin-woong & JU Ji-hoon
  33. "HWANG Jung-min Wraps NK Action-Drama BLACK VENUS". Korean Film Biz Zone. 3 August 2017.
  34. "KIM Yun-seok and JU Ji-hoon Face Off in MURDER OF MAN OR WOMAN". Korean Film Biz Zone. 1 September 2017.
  35. "Ju Ji-hoon becomes killer in real story-based 'Dark Figure of Crime'". The Korea Times. 28 August 2018.
  36. "Ju Ji-hoon throws himself into his latest character: The 'Dark Figure of Crime' actor found a new challenge: Busan dialect". Korea JoongAng Daily. 21 September 2018.
  37. "Joo Ji-hoon to star in "Kingdom" with Bae Doona". Hancinema. 22 October 2017.
  38. "Netflix's new Korean original 'Kingdom' brings zombie to Joseon Dynasty". Kpop Herald. 21 January 2019.
  39. "Ju Ji-hoon to return to small screen". Kpop Herald. 10 September 2018.
  40. "Joo Ji-hoon joins Ga-in music video". Korea JoongAng Daily. 28 January 2014.