ชัยยงค์ สัจจิพานนท์
หน้าตา
ชัยยงค์ สัจจิพานนท์ | |
---|---|
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 14 กันยายน พ.ศ. 2496 กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย |
เชื้อชาติ | ไทย |
ศิษย์เก่า | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
วิชาชีพ | นักการทูต |
ดร. ชัยยงค์ สัจจิพานนท์ (เกิด 14 กันยายน พ.ศ. 2496)[1] เป็นนักการทูตชาวไทยเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, อิตาลี, อินโดนีเซีย และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]ชัยยงค์ สัจจิพานนท์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้[2]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
[แก้]- พ.ศ. 2552 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[3]
- พ.ศ. 2547 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[4]
- พ.ศ. 2543 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[5]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
[แก้]- อินโดนีเซีย :
- พ.ศ. 2549 – เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ชั้นที่ 1 อธิปุรณา[2][6]
- นครรัฐวาติกัน :
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องอิสริยาภรณ์นักบุญเกรกอรีมหาราช ชั้นที่ 1[2]
- เกาหลีใต้ :
- พ.ศ. 2557 – เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งการทูต ชั้นที่ 1 เหรียญกวางฮวา[2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Curriculum Vitae of H.E. Dr. Chaiyong SATJIPANON". United Nations. 23 November 2005. p. 14. สืบค้นเมื่อ 26 May 2012.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 ประวัตินายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ดร.ชัยยงค์ สัจจิพานนท์
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๒, เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๔, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๑๗, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๒๑๔, ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๙ ข หน้า ๓, ๓ เมษายน ๒๕๔๙