ข้ามไปเนื้อหา

นิวออร์เดอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก New Order (band))
นิวออร์เดอร์
นิวออร์เดอร์ 2012
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดแมนเชสเตอร์, อังกฤษ
แนวเพลงซินธ์ป็อป, แดนซ์ร็อก,
โพสต์พังก์, นิวเวฟ,
ออลเทอร์นาทิฟแดนซ์, อิเล็กโทรนิกา
ช่วงปี1980–1993, 1998-2007, 2011-ปัจจุบัน
ค่ายเพลงFactory, London, Qwest,
Warner Bros., Reprise, Mute
สมาชิกBernard Sumner
Stephen Morris
Gillian Gilbert
Phil Cunningham
Tom Chapman
อดีตสมาชิกPeter Hook

นิวออร์เดอร์ (อังกฤษ: New Order) เป็นวงดนตรีร็อกจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1980 หลังการเสียชีวิตของเอียน เคอร์ติส นักร้องนำวงจอยดิวิชัน โดยสมาชิกที่เหลือ 3 คน ได้แก่ เบอร์นาร์ด ซัมเนอร์, สตีเฟน มอร์ริสและปีเตอร์ ฮุก ตั้งวงดนตรีนี้ขึ้นร่วมกับกิลเลียน กิลเบิร์ตในตำแหน่งมือคีย์บอร์ด

ประวัติ

[แก้]

ปีเตอร์ ฮุกและเบอร์นาร์ด ซัมเนอร์ร่วมกันก่อตั้งวงจอยดิวิชัน วงดนตรีแนวโพสต์พังก์ที่มีเพลงดังอย่าง "Love Will Tear Us Apart" หลังจากเอียน เคอร์ติส นักร้องนำของวงฆ่าตัวตายในปี 1980 ฮุกและซัมเนอร์ได้ชักชวนมือกลองของวงคือ สตีเฟน มอร์ริสและกิลเลียน กิลเบิร์ต สมาชิกใหม่ในตำแหน่งมือคีย์บอร์ดตั้งวงนิวออร์เดอร์ขึ้น

ในเดือนมีนาคม 1981 นิวออร์เดอร์ออกซิงเกิลแรก "Ceremony" ซึ่งเดิมทีเป็นงานที่แต่งไว้ตั้งแต่ทำวงจอยดิวิชัน หลังจากนั้นไม่กี่เดือน วงก็ออกอัลบั้มแรก Movement ที่มีแนวเพลงคล้าย ๆ กับสมัยจอยดิวิชัน หลังจากนั้นได้ออกซิงเกิลใหม่คือ "Everything's Gone Green"

ซิงเกิล "Temptation" ในปี 1982 ก็ออกมาในแนวเดียวกันและได้รับความนิยมจากผู้ที่ชอบเที่ยวคลับ หลังจากนั้นนิวออร์เดอร์ก็หยุดพักไป 1 ปีและกลับมาอีกครั้งในปี 1983 ด้วยเพลงอย่าง "Blue Monday" ซึ่งเป็นซิงเกิล 12 นิ้ว ที่มียอดขายกว่า 3 ล้านแผ่นทั่วโลก ในปีเดียวกันพวกเขาออกอัลบั้มที่ 2 Power, Corruption and Lies และออกอัลบั้มที่ 3 Low-Life ในปี 1985

ปี 1986 วงออกอัลบั้มที่ 4 Brotherhood พร้อมซิงเกิล "Bizarre Love Triangle" ที่เจาะตลาดเพลงป็อปได้สำเร็จ ปีถัดมา นิวออร์เดอร์ออกอัลบั้มรวมเพลง Substance งานชุดนี้ทำให้นิวออร์เดอร์เป็นที่รู้จักทั่วไป โดยติดท็อป 40 ของอันดับประเภทอัลบั้มด้วย มีเพลงใหม่ในอัลบั้มที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลด้วยคือ "True Faith" ซึ่งขึ้นถึงอันดับ 32 ในตารางเพลงบิลบอร์ดของอเมริกา ส่วนซิงเกิล "Blue Monday" ถูกนำมารีมิกซ์และออกจำหน่ายใหม่อีกครั้งในชื่อ "Blue Monday 1988" ส่วนในปี 1989 นิวออร์เดอร์ออกอัลบั้มที่ 5 Technique ซึ่งเน้นแนวดนตรีแดนซ์

นิวออร์เดอร์ได้บันทึกเสียงเพลงธีมประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกให้ประเทศอังกฤษในปี 1990 คือ "World In Motion" (ซึ่งต่อมาในปี 2002 เพลงนี้ก็ถูกตัดเป็นซิงเกิลขายใหม่)

หลังจากความนิยมเริ่มถดถอยในยุค 90 สมาชิกหลายคนไปประสบความสำเร็จกับโปรเจกต์ส่วนตัว ซัมเนอร์ร่วมกับจอห์นนี มาร์ อดีตมือกีตาร์วง The Smiths ตั้งวงชื่อ Electronic ขณะที่ฮุกไปได้ดีกับโปรเจกต์อย่าง Revenge และ Monaco ขณะที่สองสมาชิกที่เหลือของวงก็ไปตั้งวงเฉพาะกิจอย่าง The Other Two ในปี 1993 วงออกอัลบั้มชุดที่ 6 Republic ที่เกือบจะติดท็อป 10 ในอเมริกา ก่อนจะแยกวง

นิวออร์เดอร์กลับมาอีกครั้งในปี 1998 และออกอัลบั้มที่ 7 Get Ready ในปี 2001 และอัลบั้มที่ 8 Waiting for the Siren's Call เมื่อปี 2005 ที่เข้าอันดับ 5 ในชาร์ตของอังกฤษ ในปี 2007 ฮุกเผยแพร่ข้อความในมายสเปซของเขาว่านิวออร์เดอร์ได้แยกวงอีกครั้ง[1] ด้านซัมเนอร์ได้ก่อตั้งวงใหม่คือวง Bad Lieutenant และออกซิงเกิลแรก "Sink Or Swim" ในปีเดียวกัน

ในปี 2011 นิวออร์เดอร์กลับมารวมวงอีกครั้ง โดยได้ทอม แชปแมนมาเป็นมือเบสแทนฮุก[2] ในปี 2013 พวกเขาออกอัลบั้มที่ 9 และอัลบั้มรวมเพลงชื่อ Lost Sirens ต่อมาในปี 2015 นิวออร์เดอร์ออกอัลบั้มที่ 10 คือ Music Complete

ผลงาน

[แก้]
  • 1981 - Movement
  • 1983 - Power, Corruption & Lies
  • 1985 - Low-Life
  • 1986 - Brotherhood
  • 1989 - Technique
  • 1993 - Republic
  • 2001 - Get Ready
  • 2005 - Waiting for the Sirens' Call
  • 2013 - Lost Sirens
  • 2015 - Music Complete

อ้างอิง

[แก้]
  1. "New Order has split up, bassist Peter Hook claims". The Guardian. 10 May 2007. สืบค้นเมื่อ 23 April 2017.
  2. "New Order reunite without Peter Hook". The Guardian. 6 September 2011. สืบค้นเมื่อ 23 April 2017.