โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว
35°41′12.86″N 139°46′23″E / 35.6869056°N 139.77306°E
แมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว | |
---|---|
วิวจากโรงแรมในย่านการเงินของโตเกียว | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ที่ตั้ง | 2-1-1 นิฮมบาชิมูโรมาจิ เขตชูโอ โตเกียว 103-8328 ประเทศญี่ปุ่น |
เปิดใช้งาน | ค.ศ. 2005 |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
สถาปนิก | เซซาร์ เปลลี[1] |
ข้อมูลอื่น | |
จำนวนห้อง | 178 ห้อง |
จำนวนร้านอาหาร | 10 ร้าน |
เว็บไซต์ | |
http://www.mandarinoriental.com/tokyo/ |
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว (ญี่ปุ่น: マンダリン・オリエンタル東京; อังกฤษ: Mandarin Oriental, Tokyo) เป็นโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ในนิฮมบาชิมิตสึอิทาวเวอร์ในย่านนิฮมบาชิของโตเกียว ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียวและตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โรงแรมแห่งนี้เปิดในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2005 บริหารงานโดยกลุ่มโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมมีห้องพักและห้องชุด 178 ห้อง รวมถึงร้านอาหารและบาร์สิบแห่ง ในบรรดาร้านอาหารนั้น เซนส์, ซิกเนเจอร์ และทาปาสโมเลคิวลาร์บาร์ ต่างก็ได้รับรางวัลดาวมิชลิน[2] นอกจากนี้ โรงแรมยังมีสปา ซึ่งใน ค.ศ. 2011 ผู้อ่านนิตยสารคอนเดนาสต์ทราเวลเลอร์ได้ยกให้เป็นหนึ่งในสปา 25 อันดับแรกของโลก[3]
ที่ตั้ง[แก้]
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว ตั้งอยู่ในย่านนิฮมบาชิอันเก่าแก่ของโตเกียว[4]
โรงแรม[แก้]
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว ตั้งอยู่บนเก้าชั้นบนสุดของนิฮมบาชิมิตสึอิทาวเวอร์ ห้องพักจำนวน 178 ห้องของโรงแรมกระจายอยู่ทั่วชั้นที่ 30 ถึง 36 ของอาคาร ส่วนสปาที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว รวมถึงร้านอาหารและบาร์หลายแห่งของโรงแรมตั้งอยู่บนชั้น 37 และ 38 ของอาคาร แนวคิดการออกแบบที่ตั้งใจมากจะควบคุมรูปลักษณ์ และให้ความรู้สึกเหมือนโรงแรมที่มีสุนทรียภาพในธีมของไม้และน้ำ[5] ด้วยเหตุนี้ “โรงแรมจึงได้รับการมองว่าเป็นต้นไม้ต้นเดียวขนาดใหญ่ที่มีชีวิต โดยมีห้องพักเป็นกิ่งก้าน”[6]
โรงแรมมีสปา ตลอดจนร้านอาหารและบาร์จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงร้านอาหารระดับดาวมิชลินสามแห่ง นอกจากนี้ โรงแรมยังมีห้องบอลรูมขนาดใหญ่, ห้องจัดเลี้ยงสี่ห้อง และห้องประชุมหกห้อง อีกทั้งมีแซงชัวรีชาเปลที่แมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว เช่นกัน
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว ได้รับรางวัลเพชรหกดาวจากสถาบันผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมแบบครบวงจรใน ค.ศ. 2011 และเป็นตัวเลือกสำหรับ "โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก" ของนิตยสารอินสทิยูชันแนลอินเวสเตอร์ใน ค.ศ. 2010[7]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Mandarin Oriental, Tokyo - A Historic Location". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16./
- ↑ "Restaurants And Bars At Mandarin Oriental, Tokyo". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16./
- ↑ "The Spa At Mandarin Oriental, Tokyo". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16./
- ↑ "The Mandarin Oriental, Tokyo - A Historic Location". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16./
- ↑ "The Design Concept And Materials Of Mandarin Oriental, Tokyo". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-18. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16./
- ↑ "Guestrooms At Mandarin Oriental, Tokyo". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-18. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16./
- ↑ "Mandarin Oriental, Tokyo Attains #1 Ranking In Institutional Investor's 2010 World's Best Hotels". Mandarin Oriental Hotel Group. 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-06-16.[ลิงก์เสีย]/
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว