โดโลเรส โอริออร์แดน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก โดโลเรส โอ’ริออร์แดน)
โดโลเรส โอริออร์แดน
โอริออร์แดน ขณะแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับวงเดอะ แครนเบอร์รีส์, 13 มีนาคม 2010
เกิดโดโลเรส แมรี ไอลีน โอริออร์แดน[1]
6 กันยายน ค.ศ. 1971(1971-09-06)
บัลลีบริกเคน มณฑลลิเมอริก
สาธารณรัฐไอร์แลนด์
เสียชีวิต15 มกราคม ค.ศ. 2018(2018-01-15) (46 ปี)
เมย์แฟร์, ลอนดอน
ประเทศอังกฤษ
สาเหตุเสียชีวิตอุบัติเหตุจากการจมน้ำ
(เนื่องจากภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ)
สุสานสุสาน Caherelly
เฮอร์เบิทส์ทาวน์, ลิมริก[2]
อาชีพ
คู่สมรสดอน เบอร์ตัน
(สมรส 1994; หย่า 2014)
บุตร3
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลง
เครื่องดนตรี
ช่วงปี1989–2018
ค่ายเพลง
  • Sanctuary Records
  • Cooking Vinyl
ลายมือชื่อ


โดโลเรส แมรี ไอลีน โอริออร์แดน (อังกฤษ: Dolores Mary Eileen O'Riordan; 6 กันยายน ค.ศ. 1971 – 15 มกราคม ค.ศ. 2018)[3] เป็นนักร้อง, นักดนตรีและนักแต่งเพลงชาวไอริช โดยเป็นอดีตนักร้องนำของวงเดอะ แครนเบอร์รีส์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 จนถึงช่วงหยุดพักวงในปี ค.ศ. 2003 ก่อนจะกลับมารวมวงกันอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 2018[4]

ช่วงที่เดอะ แครนเบอร์รีส์ หยุดพักวง โดโลเรส โอริออร์แดน ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเธอชื่อว่า Are You Listening? ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 ตามมาด้วยอัลบั้ม No Baggage ในปี ค.ศ. 2009 โดยเธอจัดเป็นนักร้องหญิงที่มีโทนเสียงเมซโซ-โซปราโน (Mezzo-soprano)[5] นอกจากนี้ในปี ค.ศ. 2014 เธอยังเป็นหนึ่งในโค้ชของรายการเดอะ วอยซ์ (ไอร์แลนด์) และได้ร่วมกับแอนดี รูร์ก มือเบสวงเดอะสมิทส์ , โอเล โกเรตสกี จากวงเจ็ทแล็ค ตั้งวงดนตรีแนวออลเทอร์นาทิฟ ร็อก ชื่อว่า D.A.R.K. โดยมีผลงานอัลบั้ม Science Agrees ออกวางจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016

ในปี 2018 โดโลเรส โอริออร์แดน เสียชีวิตที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีการเปิดเผยสาเหตุในการเสียชีวิตว่ามาจากอุบัติเหตุจากการจมน้ำเนื่องจากภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ

ประวัติ[แก้]

ปี 1971-1989: วัยเด็ก[แก้]

โดโลเรส โอริออร์แดน เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1971 ที่บัลลีบริกเคน มณฑลลิเมอริก จังหวัดมุนสเตอร์ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เป็นบุตรสาวสาวคนสุดท้องจากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 9 คน (ในจำนวนนี้มี 2 คนที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก)

โดยพ่อของเธอ เทเรนซ์ แพททริก โอริออร์แดน (1937–2011)[6]เคยเป็นผู้ใช้แรงงานในไร่เกษตรกรรมแต่ภายหลังต้องออกจากงานเนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนตร์ ส่วนแม่ของเธอ ไอลีน เป็นพนักงานขายอาหารในโรงเรียน โดยเธอเข้ารับการศึกษาที่ลอเรล ฮิลล์ ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วนโรมันคาทอลิก

ปี 1989-2003: The Cranberries[แก้]

ในปี 1990 โอริออร์แดนไปร่วมคัดตัวและเป็นผู้ชนะในการคว้าตำแหน่งนักร้องนำของวงดนตรีที่มีชื่อว่า The Cranberry Saw Us (ภายหลัง เปลี่ยนชื่อเป็น The Cranberries)

ทางวงออกอัลบัมมาห้าชุด Everybody Else Is Doing It, So Why Can't We? (1993), No Need to Argue (1994), To the Faithful Departed (1996), Bury the Hatchet (1999) และ Wake Up and Smell the Coffee (2001) ส่วนอัลบัมรวมเพลงฮิต Stars - The Best of 1992 - 2002 ออกวางตลาดในปี 2002 ก่อนที่พวกเขาจะแยกวงกันไป

โอริออร์แดนนั้นเป็นที่จดจำจากการที่เธอเปลี่ยนทรงผมอยู่เสมอ ตั้งแต่ผมยาวประบ่าไปเป็นผมสั้นกุด และเปลี่ยนสีสันอยู่บ่อยครั้ง แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเธอคือฝีมือในการแต่งเพลงและเอกลักษณ์ในการร้องเพลงที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งรูปแบบการร้องเพลงของเธอนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก (โดยเฉพาะจากเพลง Zombie)

2003-2008: ศิลปินเดี่ยว[แก้]

ในปี 2003 โอ’ริออร์แดนควรจะมีส่วนร่วมในซาวน์ดแทร็กเรื่อง Spider-Man 2 ในเพลง "Black Widow" แต่เพลงนี้ถูกตัดออกไปจากในหนัง ตอนนี้ เพลงนี้จึงถูกนำมารวมไว้ในอัลบัมเดี่ยว "Are You Listening"

ในปี 2004 โอ’ริออร์แดนไปร่วมงานกับนักร้องชาวอิตาเลียน ซักเชโร ในอัลบัม Zu & Co. ในเพลง "Pure Love" อัลบัมนี้รวมศิลปินชั้นนำไว้มากมาย อาทิเช่น สติง, เชอรีล โครว์, ลูเชียโน พาวารอตติ, ไมเคิล โบลตัน และอีริค แคลปตัน ปีเดียวกันนั้น เธอร่วมงานกับนักประพันธ์ แองเจโล บาดาลาเมนติ ในซาวน์ดแทร็ก Evilenko โดยที่เธอร้องให้ในหลายๆ เพลง รวมทั้งเพลงธีมของหนัง "Angels Go The Heaven"

ในปี 2005 เธอไปเป็นนักร้องรับเชิญในอัลบัม Tripomatic Fairytales 3003 ของ Jam & Spoon โดยร้องในเพลง "Mirror Lover"

โอ’ริออร์แดนยังไปแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ตลก Click ของอดัม แซนด์เลอร์ ที่ออกฉายตอนกลางปี 2006 โดยที่เธออยู่ในฉากที่เธอร้องเพลง “Linger” ของเธอเองในเวอร์ชันที่ช้าและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

อัลบัมเดี่ยวชุดแรกของเธอออกวางตลาดในเดือนพฤษภาคม 2007 โดยมี "Ordinary Day" ตัดเป็นซิงเกิลแรก

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

6 กันยายน 1971: โดโลเรส โอริออร์แดน เกิดที่บัลลีบริกเคน มณฑลลิเมอริก ประเทศไอร์แลนด์ เป็นน้องคนเล็กในทั้งหมดเจ็ดคน 1990: โดโลเรส โอ’ริออร์แดน เข้าร่วมวง the Cranberry Saw Us

18 กรกฎาคม 1994: โอ’ริออร์แดนแต่งงานกับ ดอน เบอร์ตัน อดีตผู้จัดการทัวร์ของ ดูแรนดูแรน ลูกคนแรก เทย์เลอร์ เกิดเมื่อ 23 พฤศจิกายน 1997 ในช่วงพักระหว่างอัลบัม To the Faithful Departed และ Bury the Hatchet ลูกคนที่สอง มอลลี เกิดเมื่อ 27 มกราคม 2001 (ตรงกับวันเกิดของสามีเธอโดยบังเอิญ)

10 เมษายน 2005 โดโลเรส โอ’ริออร์แดน ให้กำเนิดลูกสาว ดาโกตา เรน ปัจจุบัน เธอใช้ชีวิตอยู่ในฮาวธ์, ดับลิน และยังมีกระท่อมอยู่ในออนตาริโอ แคนาดา และบ้านพักตากอากาศในเบนิสซา ประเทศสเปน เธอยังเป็นเจ้าของฟาร์มขนาด 150 เอเคอร์ ที่มีชื่อว่า Riversfield Stud ตั้งอยู่ในคิลมัลล็อก, ไลม์ริก ซึ่งเธอเป็นเจ้าของมาตั้งแต่ปี 1998 และตั้งใจที่จะสร้างบ้านและคอกม้าขึ้นที่นั่นด้วย

เสียชีวิต[แก้]

15 มกราคม 2018 โดโลเรส โอริออร์แดน เสียชีวิตในห้องพักโรงแรมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างการเดินทางไปบันทึกเสียงผลงานเพลง[7][8] โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้นยังไม่มีการเปิดเผย[9]

อ้างอิง[แก้]

  1. Sullivan, Caroline (16 January 2018). "Dolores O'Riordan obituary". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 24 January 2018.
  2. Nick, Reilly (23 January 2018). "Dolores O'Riordan has been laid to rest in Ireland". NME. สืบค้นเมื่อ 23 January 2018.
  3. Brown, Marisa. "Dolores O'Riordan Biography". AllMusic. สืบค้นเมื่อ 21 January 2018.
  4. Bray, Allison (23 February 2012). "Why it's all smelling of 'Roses' for the Cranberries". Irish Independent.
  5. Roberts, Lauren. "Singing Lessons Carrum Bayside". Vocal studio. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-23. สืบค้นเมื่อ 15 June 2015.
  6. Egan, Berry (27 November 2011). "Terence O'Riordan, father of Cranberries singer, dies". The Irish Independent. Independent News & Media. สืบค้นเมื่อ 4 September 2018.
  7. "Dolores O'Riordan suddenly dies in London". RTE news. 15 January 2018. สืบค้นเมื่อ 15 January 2018.
  8. Beaumont-Thomas, Ben (15 January 2018). "Cranberries singer Dolores O'Riordan dies aged 46". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 15 January 2018.
  9. Hosford, Paul (15 January 2018). "Cranberries singer Dolores O'Riordan dies aged 46". The Journal. สืบค้นเมื่อ 15 January 2018.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]