แอนน์แห่งกลอสเตอร์ เคาน์เตสแห่งสตาฟฟอร์ด
แอนน์แห่งกลอสเตอร์ เคาน์เตสแห่งสตาฟฟอร์ด (อังกฤษ: Anne of Gloucester, Countess of Stafford) เป็นธิดาคนโตของธอมัสแห่งวูดสต็อก ดยุคแห่งกลอสเตอร์กับเอเลนอร์แห่งโบฮัน
วัยเยาว์
[แก้]แอนน์แห่งกลอสเตอร์อาจเกิดที่ปราสาทเพลชีประมาณ ค.ศ. 1382 โดยเป็นธิดาของธอมัสแห่งวูดสต็อก ดยุคที่ 1 แห่งกลอสเตอร์กับเอเลนอร์ เดอ โบฮัน บิดาของแอนน์เป็นพระราชโอรสคนสุดท้ายของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 กับพระราชินีฟิลิปปาแห่งแอโน แอนน์จึงเป็นลูกพี่ลูกน้องชั้นที่หนึ่งของกษัตริย์อังกฤษในเวลาต่อมาสองคน คือ พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรชายของเอ็ดเวิร์ดเจ้าชายดำ พระราชโอรสคนโตของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 และพระเจ้าเฮนรีที่ 4 ซึ่งเป็นบุตรชายของจอห์นแห่งกอนท์ พระราชโอรสอีกคนของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 อีกทั้งแมรี เดอ โบฮัน พระมเหสีของพระเจ้าเฮนรีที่ 4 ยังเป็นทายาทของเอิร์ลแห่งเฮริฟอร์ดร่วมกับมารดาของแอนน์
ในช่วงที่แอนน์ยังอยู่ในวัยเด็กได้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นเมื่อในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1380 บิดาของแอนน์ได้ตั้งตนเป็นปรปักษ์กับการปกครองอันกดขี่ข่มเหงของพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 กับเหล่าคนโปรดที่กษัตริย์ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ในฐานะผู้นำของคณะขุนนางผู้อุทธรณ์ เขามีส่วนในการจับกุมเหล่าคนโปรดของพระเจ้าริชาร์ดและจำกัดพระราชอำนาจของกษัตริย์
การสมรสครั้งแรกและครั้งที่สอง
[แก้]พิธีสมรสครั้งแรกของแอนน์ถูกจัดขึ้นที่ปราสาทเพลชีในช่วงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1391 ขณะมีอายุได้ 8 หรือ 9 ปี แอนน์ถูกจับสมรสกับธอมัส สตาฟฟอร์ด เอิร์ลที่ 3 แห่งสตาฟฟอร์ดซึ่งแก่กว่าเธอ 15 ปี ธอมัสถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 1392 ก่อนที่การสมรสจะถูกทำให้สมบูรณ์ ตั้งแต่ก่อนธอมัสตายได้มีการเตรียมการไว้แล้วว่าจะให้แอนน์สมรสใหม่กับวิลเลียมหรือเอ็ดมันด์ น้องชายคนใดคนหนึ่งของธอมัสซึ่งทั้งคู่ต่างอยู่ในการอุปถัมป์ของบิดาของแอนน์ แต่ต่อมาวิลเลียมที่เป็นคนพี่ได้ถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 1395 ด้วยอายุ 19 ปี แอนน์จึงสมรสกับเอ็ดมันด์ที่ขึ้นเป็นเอิร์ลที่ 5 แห่งสตาฟฟอร์ด ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน คือ
- ฮัมฟรีย์ สตาฟฟอร์ด ดยุคที่ 1 แห่งบักกิงแฮม (เกิด ค.ศ. 1402) สมรสกับแอนน์ ลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นบุตรสาวของราล์ฟ เนวิลล์ เอิร์ลที่ 1 แห่งเวสต์มอร์แลนด์กับโจน โบฟอร์ท เคาน์เตสแห่งเวสต์มอร์แลนด์ ธิดาของจอห์นแห่งกอนท์ ดยุคที่ 1 แห่งแลงคัสเตอร์ เมื่อสงครามดอกกุหลาบอุบัติขึ้นเขาอยู่ฝ่ายที่ภักดีต่อพระเจ้าเฮนรีที่ 6 และถูกสังหารในยุทธการที่นอร์แธมป์ตัน (ค.ศ. 1460) ฮัมฟรีย์เป็นบิดาของเฮนรี สตาฟฟอร์ดที่ต่อมาสมรสกับมาร์กาเร็ต โบฟอร์ท มารดาของพระเจ้าเฮนรีที่ 7
- แอนน์ สตาฟฟอร์ด เคาน์เตสแห่งมาร์ช (เกิด ค.ศ. 1408) สมรสครั้งแรกกับเอ็ดมันด์ มอร์ติเมอร์ เอิร์ลที่ 5 แห่งมาร์ชซึ่งเป็นเหลนของไลโอเนลแห่งแอนท์เวิร์ป ดยุคที่ 1 แห่งแคลเรนซ์ และสมรสครั้งที่สองกับจอห์น ฮอลแลนด์ ดยุคที่ 3 แห่งเอ็กซิเตอร์ซึ่งเป็นหลานของจอห์นแห่งกอนท์ ดยุคที่ 1 แห่งแลงคัสเตอร์ ทั้งเอ็ดมันด์และจอห์นต่างเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ
- ฟิลิปปา เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย
หลังสมรสได้หนึ่งปี แอนน์ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหม่เมื่อบิดาของเธอถูกกษัตริย์จับกุมตัวขณะกลับมารักษาตัวจากอาการป่วยที่ปราสาทเพรชีในเอสเซ็กซ์ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของครอบครัว ธอมัสถูกย้ายตัวไปคุมขังที่กาแลเพื่อรอการไต่สวนคดี โดยมีเอิร์ลแห่งนอร์ติงแฮมเป็นผู้ดูแล ข่าวการสิ้นพระชนม์ของธอมัสถูกรายงานในเดือนกันยายนของปีนั้น การไต่สวนคดีในเวลาต่อมาให้ข้อสรุปว่าธอมัส ดยุคแห่งกลอสเตอร์ถูกฆาตกรรม ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดเหตุขึ้นในคืนวันที่ 8 กันยายน โดยถูกกดหน้าจนขาดอากาศหายใจตาย
มีการประกาศว่าดยุคเป็นกบฏ ดินแดนกับทรัพย์สินที่ดินของเขาจึงถูกยึดเข้าราชบัลลังก์ ฮัมฟรีย์ พี่ชายคนเดียวของแอนน์ตกอยู่ในการอุปถัมภ์ของพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 และอยู่กับกษัตริย์ในไอร์แลนด์ในช่วงที่เฮนรี โบลิงโบรกบุกอังกฤษจนได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 4 ในอีกสองปีต่อมา กษัตริย์คนใหม่สั่งให้นำตัวฮัมฟรีย์กลับมาอังกฤษ แต่เขาเสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับบ้านเกิดในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1399 ด้วยอายุ 18 ปี
ชีวิตของแอนน์ประสบกับความสูญเสียอีกสองครั้งเมื่อเอเลนอร์ เดอ โบฮัน มารดาของแอนน์ถึงแก่กรรมในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1399 นักพงศาวดารวอลซิงแฮมกล่าวว่าเธอเสียชีวิตจากการตรอมใจหลังสูญเสียสามีและลูกชายคนเดียว โจน น้องสาวที่ยังไม่ได้สมรสของแอนน์ถึงแก่กรรมในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1400 ส่วนอิซาเบล พี่น้องคนเดียวที่เหลือได้บวชเป็นชีในวันครบรอบวันเกิดปีที่ 16 ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1402 แอนน์กลายเป็นทายาทหญิงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในราชอาณาจักร ตั้งแต่ ค.ศ. 1399 เป็นต้นมาเธอได้กลายเป็นเคาน์เตสแห่งบักกิงแฮม เฮริฟอร์ด และนอร์แธมตัน และได้รับแต่งตั้งเป็นเลดีแห่งการ์เตอร์ใน ค.ศ. 1405
แอนน์เป็นม่ายครั้งที่สองในวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1403 เมื่อเอ็ดมันด์ถูกสังหารระหว่างต่อสู้ให้กษัตริย์ในยุทธการที่ชรูว์ส์บี แอนน์ที่พึ่งอายุ 20 ปีถูกทิ้งให้อยู่กับลูกน้อยสองคนและเบี้ยหวัดสำหรับภรรยาม่ายเป็นจำนวนเงิน 1,500 ปอนด์ต่อปี ทว่าทรัพย์สินที่ดินที่เธอได้เป็นมรดกจากสามีครอบคลุมพื้นที่ของรัฐชายแดนเวลส์ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
การสมรสครั้งที่สาม
[แก้]การรักษาทรัพย์สินที่ดินที่แอนน์ได้เป็นมรดกจากสามีทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 4 ขัดแย้งกับเอาไวน์ กลินดูร์และชาวเวลส์ เซอร์กีโยม บูชิเยร์ เคานต์แห่งยูถูกส่งมาคุ้มกันแอนน์และทรัพย์สินที่ดินของเธอจากการโจมตีของชาวเวลส์ แอนน์ได้ตัดสินใจฝากอนาคตไว้ในมือของบูชิเยร์และสมรสกับเขาอย่างลับ ๆ ในช่วงเวลาก่อนหน้าวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1405
การสมรสนี้สร้างความไม่พอใจแก่กษัตริย์ สองสามีภรรยาถูกปรับเป็นเงินก้อนโต ทว่าบูชิเยร์น่าจะเป็นคนที่มีดีพอตัว เขาเป็นทหารฝีมือดีและนักปกครองที่เก่งกาจ ทั้งยังจงรักภักดีต่อกษัตริย์ราชวงศ์แลงคัสเตอร์ ทำให้สองสามีภรรยาได้รับพระราชทานอภัยโทษภายในเวลาไม่นาน
ในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 5 เซอร์กีโยม บูชิเยร์ยังคงรับใช้กษัตริย์ได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการต่อสู้ที่อาแซ็งกูร์ในปี ค.ศ. 1415 ที่ทำให้เขาได้รับแต่งตั้งเป็นตำรวจพระราชวังประจำหอคอยแห่งลอนดอน ทั้งยังมีส่วนทำให้การจับกุมตัวนักโทษฝรั่งเศสคนสำคัญๆ ได้ในการสู้รบ ในจดหมายแอนน์ได้เขียนถึงเขาด้วยความภาคภูมิในว่าเป็น "สามีที่องอาจกล้าหาญ ฉลาด และเก่งการบริหารบ้านเมือง"
ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันหลายคนภายในเวลาไม่นาน แอนน์ได้ผลักดันเรื่องหน้าที่การงานและจัดแจงเรื่องการสมรสให้แก่ลูกๆ ของเธอกับกีโยมทุกคน ได้แก่
- เฮนรี บูชิเยร์ เอิร์ลที่ 1 แห่งเอสเซ็กซ์ (เกิด ค.ศ. 1406) สมรสกับอิซาเบลแห่งเคมบริดจ์ บุตรสาวของริชาร์ดแห่งโคนิสเบิร์ก โดยเธอเป็นพี่สาวของริชาร์ด แพลนแทเจเนต ดยุคที่ 3 แห่งยอร์ก เฮนรีเป็นผู้สนับสนุนฝ่ายยอร์กในยุทธการที่เซนต์ออลบันส์ครั้งที่ 2 และยุทธการที่ทาวตัน เขาถึงแก่กรรมในเดือนเมษายน ค.ศ. 1483
- ธอมัส บูชิเยร์ (เกิด ค.ศ. 1413) ถูกส่งตัวไปบวชที่อ็อกซ์ฟอร์ด เขาได้ขึ้นเป็นอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรีในปี ค.ศ. 1454 และได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลในปี ค.ศ. 1467 แม้จะเป็นผู้สนับสนุนและเป็นเสนาบดีให้พระเจ้าเฮนรีที่ 6 เป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เป็นผู้เขียนจดหมายถึงสมเด็จพระสันตะปาปาเพื่อขอให้เลื่อนขั้นให้เขาเป็นพระคาร์ดินัล ขณะดำรงตำแหน่งอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรี ธอมัสได้เป็นผู้สวมมงกุฎให้แก่กษัตริย์สองคน คือ พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 และพระเจ้าเฮนรีที่ 7 เขาถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1486
- วิลเลียม บูชิเยร์ (เกิด ค.ศ. 1415) เป็นบารอนฟิตซ์วารีนโดยสิทธิ์ของภรรยา
- จอห์น บูชิเยร์ (เกิด ค.ศ. 1415) เป็นบารอนเบอร์เนอร์ส์หลังสมรสกับมาร์เกอรี เบอร์เนอร์ส์ และได้เป็นตำรวจพระราชวังประจำปราสาทวินด์เซอร์ในคริสต์ทศวรรษ 1460
- เอเลนอร์ บูชิเยร์ ดัชเชสแห่งนอร์ฟอล์ก (เกิด ค.ศ. 1417) สมรสกับจอห์น เดอ มาวบราย ดยุคที่ 3 แห่งนอร์ฟอล์ก มีบุตรชายคือจอห์น ดยุคที่ 4 แห่งนอร์ฟอล์ก
แม้จะอยู่คนละฝั่งทางการเมือง แต่ฮัมฟรีย์ สตาฟฟอร์ด บุตรชายคนโตของแอนน์ยังคงสนิทสนมกับมารดาและพี่น้องต่างบิดาสายบูชิเยร์
แอนน์เป็นม่ายครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายเมื่อกีโยมถึงแก่กรรมที่ทรัวในปี ค.ศ. 1420 แม้จะยังอายุไม่ถึง 40 ปี แต่แอนน์ไม่ได้สมรสใหม่ เธอถึงแก่กรรมในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1438 ขณะอายุได้ 55 ปี